War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2019
ตอนที่ 2,019 : เบื้องหลังเวินเยี่ยน!
หลังออกจากจัตุรัสกลางแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เหินร่างออกจากเกาะหลักทันที
เพราะเป้าหมายในการมาเกาะหลักของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ของเขาลุล่วงแล้ว
‘อีก 10 วันค่อยกลับไปดูใบจ้างงานที่วังชินหั่วอีกครั้ง’
หลังออกจากเกาะหลัก ต้วนหลิงเทียนก็วาดแผนไว้ในใจ
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขากำลังจะได้รับโอกาสในการเข้าไปทำงานที่หอคุมกฏ ใจต้วนหลิงเทียนก็ตื่นเต้นยินดีไม่น้อย เพราะนั่นหมายถึงเขามีโอกาสเข้าใกล้เค่อเอ๋อแม่ลูกไปอีกก้าว
พอคิดถึงเค่อเอ๋อกับลูกสาวขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็อดคิดไปไม่ได้ว่าก่านหรูเยี่ยนพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อใช่ถูกขังไว้กับเค่อเอ๋อแม่ลูกดว้ยหรือไม่?
เพราะเห็นว่าก่านหรูเยี่ยนพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อ ก็ถูกหอคุมกฏจับขังไว้เพราะนางปกป้องเค่อเอ๋อเช่นกัน
อย่างไรก็ตามแม้ต้วนหลิงเทียนจะรู้ความจริงแล้ว แม้เขาจะไม่ได้เกลียดก่านหรูเยี่ยนอีกต่อไป แต่เขาไม่คิดจะขอบคุณนางแต่อย่างใด
เพราะในสายตาของเขา หากก่านหรูเยี่ยนไม่พาตัวเค่อเอ๋อไปแต่แรก เขาคงไม่ต้องพลัดพรากจากเค่อเอ๋อแบบนี้
และลูกสาวของเขากับเค๋อเอ๋อ ก็คงไม่ได้เติบโตมาโดยไม่ได้เห็นหน้า ‘พ่อ’ แบบนี้
พอคิดถึงลูกเมียขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกปวดใจนัก
‘เค่อเอ๋อ…เจ้ารู้หรือไม่ว่านังสารเลวที่ทำให้เจ้ากับลูกต้องถูกจับขังในหอคุมกฏถูกข้าสั่งสอนบทเรียนไปแล้ว…น่าเสียดายที่นางระวังตัวเกินไป ไม่กล้าตอบรับคำท้าประลองเป็นตายกับข้า! หาไม่แล้วนังสารเล่วนั่นได้ตายแน่!!’
เรื่องราวในวันนี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนเสียดายอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ตามจากเรื่องราววันนี้ทำให้เขารู้อย่างหนึ่ง…เวินเยี่ยนนับเป็นคนที่ยืดได้หดได้!
คนเช่นนี้ หากมีโอกาสต้องรีบกำจัดทิ้งให้ได้โดยเร็วที่สุด!
หากปล่อยไว้ ไม่ช้าก็เร็วย่อมกลายเป็นหายนะ!
‘แต่ตอนนี้คิดฆ่านังสารเลวนั่นในลัทธิบูชาไฟคงไม่ใช่เรื่องง่าย…โดยเฉพาะหลังจากที่นางได้เห็นว่าข้าทำอะไรได้’
ต้วนหลิงเทียนรู้เรื่องนี้ดี
‘หวังว่าวันหน้าข้าจะหาโอกาสฆ่านางนอกลัทธิบูชาไฟได้’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวอย่างลับๆ
‘ถึงแม้จะไม่อยากแต่ก็ต้องยอมรับจริงๆ พลังฝีมือของนังสารเลวเวินเยี่ยนนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ! ไม่นาแปลกใจเลยที่นางสามารถรรั้งอยู่ในอันดับ 9 ของทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริงได้…พลังของนางเหนือกว่าเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนทั่วไปไม่น้อย’
วันนี้แม้ต้วนหลิงเทียนจะปัดกระบี่ร้อยอาคมเซียนของเวินเยี่ยนให้หลุดมือได้ทั้งๆที่นางเร่งเร้าสภาวะจู่โจมออกมาถึงขีดสุด กระทั่งฟันแขนของนางจนบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตามทั้งหมดเพราะเขาใช้กระบี่นิลสวรรค์
หากไม่ใช้กระบี่นิลสวรรค์ ต้วนหลิงเทียนลองถามตัวเองดูแล้วก็ตอบได้ทันที…ว่าเขาไม่ใช่คู่มือของนาง!
ด้วยสภาวะกระบี่ที่ทะลวงแทงมาอย่างเกรี้ยวกราดนั่นของเวินเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนสามารถตระหนักได้ทันที พลังทำลายนั่นไม่ใช่อะไรที่เซียนสวรรค์ 2เปลี่ยนทั่วไปจะมีได้!
‘โชคดีที่เมื่อครู่ไม่มีอาวุโสเพลิงเงินอยู่…ไม่งั้นก็คงไม่สะดวกที่ข้าจะใช้กระบี่นิลสวรรค์’
คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดีอยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้หลังเขาเลือกออกจากวังชินหั่ว เขาก็เร่งติดต่อผู้เฒ่าหั่วในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ เพื่อขอแรงผู้เฒ่าหั่วให้ช่วยตรวจสอบดูว่ามีอาวุโสเพลิงเงินซุ่มจับตาดูอยู่หรือไม่
หากมี เขาจะรีบเหินร่างจากไปให้พ้นระยะโดยเร็วที่สุด
หากไม่มีเขาก็ไม่ต้องกังวลอะไร
เพราะเหล่าศิษย์ชั้นยอดในที่เกิดเหตุ รวมถึงอาวุโสเพลิงทองแดงเหล่านั้น ย่อมไม่อาจจับร่องรอยกระบี่นิลสวรรค์ที่ผสานกับพลังลึกล้ำจากขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่ ‘กระบี่อยู่ที่ใจ’ ของเขาได้
ก่อนที่เขาจะลงมือ ก็ได้รับการยืนยันจากผู้เฒ่าหั่วแล้ว ว่าไม่มีอาวุโสเพลิงเงินซุ่มจับตาดูอยู่
เช่นนั้นเขาจึงสามารถใช้กระบี่นิลสวรรค์ได้อย่างไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ทำลายกระบวนแทงอันเกรี้ยวกราดทั้งปัดกระบี่ร้อยอาคมเซียนของเวินเยี่ยนได้อย่างง่ายดาย ยังสามารถฟันแขนนางให้เจ็บหนักได้อย่างไม่ลำบาก
หลังจากนั้นด้วยแรงกดดันจากการเพาะสร้างสภาวะพลังอันเหนือชั้นกว่า เขาย่อมสะกดข่มเวินเยี่ยนไว้ทุกทางจนนางไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้เขา
‘ตลอด 10 วันหลางจากนี้ พยายามยกระดับความสำเร็จของเวทย์พลังดีกว่า’
ไม่นานนัก ต้วนหลิงเทียนก็เหินร่างกลับมาถึงคฤหาสน์ที่พักบนเกาะลอยส่วนตัวของเขา
เมื่อมาถึงห้องบ่มเพาะแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เอาเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติออกมาวางตั้งไว้อย่างดี ก่อนที่จะวูบร่างเข้าไป หมายทำความเข้าใจเวทย์พลังทั้งหลายให้ลึกซึ้งถ่องแท้จนมีความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้เขาจะใช้งานเวทย์พลังทั้งหลายได้แล้ว แต่เขาก็ยังไม่มีเวลาทำความเข้าใจพวกมันให้ลึกซึ้งถ่องแท้
ยังคงมีพื้นที่มากมายให้เขาก้าวหน้า…
และเมื่อเวทย์พลังทั้งหลายบรรลุขั้นตอนความสำเร็จที่สูงขึ้น ย่อมหนุนเสริมพลังฝีมือเขาให้สูงขึ้นอย่างมหาศาล
ภายนอก 10 วัน กาลเวลาในชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติย่อมเป็น 100 วัน
ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงมีเวลาทำความเข้าใจเวทย์พลังทั้งหลายพอสมควร
และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้รู้เลย
ว่าเรื่องที่เขาตบเวินเยี่ยนจนหน้าหันไปหลายครั้งหลายครา จนทำให้นางอับอายขายหน้าถึงที่สุด ได้กวาดผ่านไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟดั่งใต้ฝุ่นลูกใหญ่
เหล่าศิษย์ชั้นยอด ศิษย์ที่แท้จริงรวมถึงอาวุโสทั้งหลายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด
เวินเยี่ยนเป็นใคร?
นั่นคืออันดับที่ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริง!1 ใน 2 ศิษย์ที่แท้จริงสตรีที่โดดเด่นที่สุดของลัทธิบูชาไฟ!!
นอกจากพลังฝีมือส่วนตัวจะไม่ใช่ชั่วแล้ว นางยังมีอาจารย์เป็นถึง อาวุโสเพลิงทองคนหนึ่ง!
ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะปรากฏตัว ชื่อเสียงของเวินเยี่ยนก็เลื่องลือไปทั่วลัทธิบูชาไฟเนิ่นนานแล้ว
เรียกว่าในลัทธิบูชาไฟ แทบไม่มีใครไม่รู้จักนาง
สำหรับต้วนหลิงเทียนนั้น เป็นเพียงศิษย์ใหม่ที่พึ่งเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟได้ไม่นานเท่านั้น
ในเวลาไม่ถึง 1 ปี ก็สามารถผงาดขึ้นมามีชื่อเสียงไปทั่วแท่นบูชาเต่าทมิฬ กระทั่งยังเลื่องลือไปทั่วแท่นบูชาจตุรลักษณ์ จนในที่สุดก็สามารถเข้าร่วมดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในฐานะศิษย์ชั้นยอดได้สำเร็จ
และกระทั่งภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี ชื่อต้วนหลิงเทียนก็แพร่กระจายไปทั่วลัทธิบูชาไฟ
ตั้งแต่วันแรกที่เข้าร่วมกับแท่นบูชาเต่าทมิฬ ก็มีเรื่องราวบาดหมางกับอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬอย่างหลี่อันเป็นชนักปักหลัง…และเรื่องการแข็งข้อต่อต้านหลี่อันนี้ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนมีชื่อเสียงไม่น้อย
จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว การสังหารศิษย์ที่แท้จริงอย่าง หยางเหวิน ในการประลองเป็นตาย ก็ทำให้ผู้คนต้องมองต้วนหลิงเทียนใหม่อีกครั้ง
“เฮ่! พวกเจ้ารู้เรื่องนี้แล้วรึยัง เมื่อเช้าศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยน อันดับ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริง ถูกต้วนหลิงเทียนตบจนหน้าหันที่จัตุรัสกลาง!”
“ต้วนหลิงเทียนที่ฆ่าหยางเหวินไปเมื่อเดือนก่อนน่ะหรือ ไฉนอยู่ๆมันถึงได้กล้าหาญขนาดนั้นเล่า แล้วนี่สุดท้ายมันเป็นเช่นไรบ้าง ใช่มันถูกศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนทุบตีเจียนตายหรือไม่?”
“เหอะๆ…เรื่องนี้เจ้าต้องไม่คิดไม่ฝันแน่! เชื่อหรือไม่แต่ต้นจนจบศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนไม่กล้าหืออืออะไร!เรียกว่ายืนนิ่งให้ต้วนหลิงเทียนตบซ้ายตบขวาสนุกมือเลยล่ะ!!”
“เหลวไหล! เจ้าล้อข้าเล่นรึไง!? อย่างไรศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนก็เป็นยอดฝีมืออันดับ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือ…เป็นไปได้อย่างไรที่นางจะยอมทนรับความอัปยศอดสู ยืนนิ่งให้ต้วนหลิงเทียนตบได้?”
“เจ้าไม่เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อ ตอนแรกศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนก็คิดสั่งสอนต้วนหลิงเทียนแล้วเพราะอยู่ๆก็ถูกเจ้าต้วนหลิงเทียนนั่นตบหน้าในวังชินหั่ว แต่กระบวนท่านางกลับถูกทำลายได้ง่ายดาย! แถมต้วนหลิงเทียนนั่นมันปัดกระบี่ร้อยอาคมเซียนทิ้งราวตะเกียบ! ยังฟันแขนศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนแทบขาด!ทำให้ศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนรู้ได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนแข็งแกร่งกว่านางมาก จึงไม่กล้าลงมือตอบโต้อะไรอีกแม้แต่น้อย!”
“เป็นไปได้ยังไงกัน?! เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่นมีพลังฝีมือร้ายกายขนาดนั้นเลยเรอะ! นี่เจ้าแต่งเรื่องหลอกข้าอยู่รึเปล่า?”
“เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ? เช่นนั้นเจ้าก็ลองไปถามผู้อื่นดูเอาเถอะ…ตอนนั้นมีคนอยู่ในเหตุการณ์เป็นพัน!ทั้งหมดล้วนเห็นชัดว่าต้วนหลิงเทียนสยบศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนอย่างไร ล้วนตะลึงจนลืมหายใจไปเป็นแถบ!!”
“อะไรกัน เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่นฝีมือมันร้ายขนาดนั้นเลยหรอ?!”
…
วาจาทำนองเดียวกันนี้ กล่าวกันไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์
กระทั่งข่าวเรื่องราวของต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะดังไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ยังแพร่สะพัดไปถึงหูคนในแท่นบูชาจตุรลักษณ์อีกด้วย
ทันใดนั้นเรียกว่าแท่นบูชาจตุรลักษณ์ตกตะลึงกันยกใหญ่
“นี่มันพึ่งผ่านไปเดือนเดียวเองไม่ใช่รึไงหลังฆ่าศิษย์ที่แท้จริงอย่างหยางเหวิน ตอนนั้นพวกเราก็ตกใจกันแทบตาย…ตอนนี้ยังทุบตีศิษย์ที่แท้จริงอย่างเวินเยี่ยนจนไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้อีกหรือ?”
เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“ในฐานะศิษย์ที่แท้จริง ไหนเลยหยางเหวินจะเทียบกับเวินเยี่ยนได้ เจ้าอย่าได้ลืมไปว่าหยางเหวินนั่นมันไม่แม้แต่จะติด 100 อันดับในทำเนียบยอดฝีมือด้วยซ้ำ…ทว่าเวินเยี่ยนคนนี้เป็นถึงยอดฝีมือในอันดับที่ 9 ของทำเนียบยอดฝีมือ! นางนับเป็นสุดยอดฝีมือที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของศิษย์ที่แท้จริงทั้ง 170 คน…”
“แต่สุดยอดฝีมือเช่นนั้นยังสู้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้! ต้วนหลิงเทียนผู้นี้เป็นสัตว์ประหลาดหรือไร!?”
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าสัตว์ประหลาดเช่นนี้จะปรากฏตัวขึ้นในแท่นบูชาเต่าทมิฬ!”
…
ในบรรดาแท่นบูชาจตุรลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นแท่นบูชามังกรคราม นกไฟ พยัคฆ์ขาว ทุกคนล้วนตกใจกันไม่น้อย วาจาแฝงความยำเกรงดังขึ้นไปทั่ว
ทว่าในแท่นบูชาเต่าทมิฬเรื่องราวกลับเป็นอีกอย่างหนึ่ง
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนช่างเยี่ยมยุทธ์ยิ่ง! คราวนี้ถึงกับทุบตีเวินเยี่ยน อันดับ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริงได้! นับว่าศิษย์พี่ก่อเรื่องสะท้านฟ้าแล้วจริงๆ!!”
“ไม่ใช่ว่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนก็ก่อเรื่องสะท้านฟ้ามาตลอดหรือไง ข้าชินแล้วล่ะ…”
“จริง…ข้าก็ชินแล้วเช่นกัน”
…
ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทั้งหลาย ถูกวีรกรรมของต้วนหลิงเทียนทำให้ตื่นตระหนกตกใจกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เช่นนั้นพวกมันจึงเริ่มชินกันแล้ว
แต่แน่นอนว่ายังมีศิษย์แท่นบูชาไม่น้อยที่ยังคงตื่นเต้น คึกคักอักโข “ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน! ไม่ว่าจะไปที่ใดก็สุดยอดเสมอ! สักวันข้าต้องทำให้ได้สักครึ่งหนึ่งของท่าน!!”
“สมแล้วที่เป็นแบบอย่างและเป้าหมายในชีวิตของข้า! ศิษย์พี่ช่างสุดยอดยิ่ง!!”
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนของพวกเราก่อเรื่องสะท้านฟ้าอีกแล้ว! ข้าจะคอยดูว่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจะทำอะไรให้เราประหลาดใจอีก!!”
…
ในขณะเดียวกันกับที่เหล่าศิษย์กำลังฮือฮากันถึงเรื่องนี้ ด้านอาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬที่เคยเกี่ยวข้องกับต้วนหลิงเทียนก็ได้รับทราบเรื่องเช่นกัน และพวกมันเองก็ตกใจไม่น้อย
แต่เป็นธรรมดาที่พวกมันจะกังวลใจไปด้วยพร้อมๆกัน
“เวินเยี่ยนนั่นอย่างไรนางก็เป็นศิษย์ส่วนตัวของจ้าวแท่นบูชามังกรคราม…นอกจากเวินเยี่ยนแล้วจ้าวแท่นบูชามังกรครามยังมีศิษย์ส่วนตัวอีก 2 คน…”
“แถมศิษย์เอกของจ้าวแท่นบูชามังกรครามผู้นั้น ก็บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนเข้าไปแล้ว! ยังรั้งอันดับที่ 2 ในทำเนียบยอดฝีมือมาตั้งหลายปี…”
“หากมันล่วงรู้ว่าศิษย์น้องหญิงคนเดียวของมันถูกรังแกถึงขนาดนี้ มันไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่…”
…
เมื่อเหล่าอาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬคิดถึงศิษย์ส่วนตัวของจ้าวแท่นบูชามังกรครามขึ้นมา พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็นแทนต้วนหลิงเทียน
และในขณะเดียวกันนั้น
ท่ามกลางหมู่เกาะลอยอันเป็นที่พักส่วนตัวของเหล่าศิษย์ที่แท้จริงและอาวุโสเพลิงทองแดง หลิวอวิ๋น ที่พึ่งออกจากคฤหาสน์ หลังเหินร่างไปถึงจัตุรัสกลางของเกาะหลักไม่ทันไร มันก็ได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเหล่าศิษย์ชั้นยอดล้วนพากันพูดถึงแต่เรื่องดังกล่าว…
ครืน!
ทันใดนั้นสีหน้าของหลิวอวิ๋นแปรเปลี่ยนไปเป็นหนักอึ้ง!
“ศิษย์น้องหลิงเทียน…ครั้งนี้เจ้าวู่วามเกินไปแล้ว!”
ครู่ต่อมาสองตาของหลิวอวิ๋นก็ฉายความวิตกกังวลออกชัด มันเร่งเหินร่างย้อนกลับไปยังหมู่เกาะที่พัก มุ่งหน้าไปหาเกาะส่วนตัวของต้วนหลิงเทียนอย่างรีบร้อน
“ศิษย์น้องหลิงเทียน!”
เมื่อบรรลุถึงน่านฟ้าเหนือคฤหาสน์ของต้วนหลิงเทียน หลิวอวิ๋นกล่าวเรียกหาต้วนหลิงเทียนทันที
ต้วนหลิงเทียนที่พยายามทำความเข้าใจเวทย์พลังทั้ง 4 ให้ลึกซึ้งในชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ก็ได้รับการแจ้งเตือนจากผู้เฒ่าหั่วว่ามีคนมาเรียกหาเขา
ครู่ต่อมาเขาก็วูบร่างออกจากเจดีย์หลิงหลง 7สมบัติ หยุดพักการทำความเข้าใจไว้ชั่วคราว
“ศิษย์พี่หลิวอวิ๋น?”
เมื่อออกมาจากคฤหาสน์ ต้วนหลิงเทียนก็สังเกตเห็นหลิวอวิ๋นที่ลอยร่างอยู่บนฟ้าอย่างรวดเร็ว