ตอนที่ 1343 ไม่ได้รับเชิญ (1) ตอนที่ 1344 ไม่ได้รับเชิญ (2)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1343 ไม่ได้รับเชิญ (1) / ตอนที่ 1344 ไม่ได้รับเชิญ (2)
ตอนที่ 1343 ไม่ได้รับเชิญ (1)

เสียงที่แผ่วเบาและไร้เรี่ยวแรงดังก้องอยู่ในสุสาน ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกเย็นวาบ เจ้าแมวดำกลัวจัดจนเป็นลมไปทันที มันหล่นลงจากไหล่ของจวินอู๋เสีย โชคดีที่จวินอู๋เสียไวพอจึงรับมันเอาไว้ได้ทัน

เมื่อเห็นแมวดำหมดสติไปในอ้อมแขนของนาง จวินอู๋เสียก็หมดคำพูด

ตัวมันเองก็เป็นวิญญาณ แต่ดันกลัวจนเป็นลมกับแค่เสียงร้องจี๊ดเบาๆ น่าขายหน้าชะมัด

จากนั้นอิงซู่ก็พุ่งกลับมาผ่านทางเดินที่มีแสงสลัวๆ ราวสายฟ้าสีแดงอีกครั้ง

เมื่อเขามายืนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย อิงซู่ก็ถือบางสิ่งที่ไม่สามารถระบุได้เอาไว้ในมือ

“ก็แค่เจ้าตัวเล็ก ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย” อิงซู่พูดพลางเลิกคิ้วเมื่อเห็นเจ้าแมวดำเป็นลมไปเพราะความกลัว พร้อมกับเขย่าเจ้าตัวที่อยู่ในมือเขา

เสียงร้องแปลกๆ ดังขึ้นอีกครั้ง

“จี๊ด…จี๊ด…”

อิงซู่ถือสิ่งมีชีวิตขนฟูเอาไว้ในมือ ร่างของเจ้าตัวเล็กขนฟูเป็นสีของข้าวสาลีสุกปนด้วยสีทอง ขนาดของมันใหญ่พอๆ กับฝ่ามือ

เจ้าก้อนขนสีข้าวสาลีที่ถูกจับเอาไว้ในมือของอิงซู่ตัวสั่นไม่หยุด

จวินอู๋เสียมองเจ้าก้อนขนนั้น แล้วมุมปากของนางก็กระตุก

ไม่ว่าจะมองอย่างไร เจ้าตัวเล็กขนฟูก็ดูไม่มีพิษมีภัยเลยสักนิด เจ้าแมวดำเป็นลมเพราะกลัวไปเอง นี่มันช่าง…

“นั่นตัวอะไรน่ะ” ดอกบัวขาวน้อยถามพลางกะพริบตาด้วยความสงสัย เขาอยากรู้เกี่ยวกับเจ้าก้อนขนตัวนั้นมาก ในเรื่องความกล้าหาญแล้ว ดอกบัวขาวน้อยขี้ขลาดกว่าเจ้าแมวดำหลายเท่า แต่เนื่องจากตัวเขาเป็นร่างวิญญาณ เขาจึงไม่กลัว ‘ผี’! ในฐานะที่เป็นภูติวิญญาณ ‘ผี’ ก็เหมือนกับเขา เขาจึงไม่คิดว่าจะมีอะไรให้เขาต้องกลัว

“มันเป็นผีหรือเปล่า” ดอกบัวขาวน้อยถามขณะจิ้มเจ้าก้อนขน พอโดนจิ้ม เจ้าก้อนขนก็ตัวสั่นทันที เสียงร้องจี๊ดอย่างน่าสงสารดังขึ้นอีกครั้ง

“น่าจะเป็นภูติวิญญาณ” อิงซู่พูดขณะเอาเจ้าก้อนขนวางบนฝ่ามือแล้วโยนขึ้นไปในอากาศ

เมื่อมันพบว่าตัวเองกำลังลอยอยู่กลางอากาศ เจ้าก้อนขนก็ตกใจและยืดตัวออกทันที!

ในที่สุดจวินอู๋เสียก็สามารถมองเห็นเจ้าก้อนขนได้ชัดๆ เสียทีว่ามันคือตัวอะไร

“หนูแฮมสเตอร์หรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เมื่อมองไปที่สิ่งมีชีวิตที่ตกลงมาบนฝ่ามือของอิงซู่ ขาเล็กๆ ทั้งสี่ข้างของมันกางออก มันตัวสั่นอย่างเงียบๆ จวินอู๋เสียเริ่มสงสัยว่าตัวเองเห็นภาพหลอนหรือเปล่า

เจ้าก้อนขนที่กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้วคือหนูแฮมสเตอร์เหมือนกับหนูที่นางที่เคยดูแลในร้านขายสัตว์เลี้ยงเมื่อชาติก่อนอย่างนั้นหรือ

มันมีขนาดใหญ่กว่าหนูแฮมสเตอร์ทั่วไป แต่ก็เล็กกว่าหนูแกสบี้หลายเท่า

“หนูแฮมสเตอร์ คืออะไรหรือขอรับ” ดอกบัวขาวน้อยถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียอย่างสงสัย ดวงตากลมโตของเขาเต็มไปด้วยคำถาม

อิงซู่ใช้นิ้วจิ้มหนูแฮมสเตอร์ที่กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมด แล้วพูดว่า “นี่น่าจะเป็นภูติประเภทหนูนรก มันคือภูติวิญญาณชนิดหนึ่งเหมือนกัน แต่ภูติประเภทนี้ไม่ได้ปรากฏตัวมานานแล้ว ในโลกภูติวิญญาณมันก็ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นมันที่นี่ ว่ากันว่าภูติประเภทหนูนรกจะจับคู่กับคนที่มาจากเผ่าพันธุ์พิเศษเท่านั้น แต่คนเผ่าพันธุ์นั้นก็ใกล้จะสูญพันธุ์แล้วเหมือนกัน หนูนรกพวกนี้ก็เลยหายไปพร้อมกับพวกเขาด้วย”

“เผ่าพันธุ์พิเศษหรือ” จวินอู๋เสียถามพลางมองไปที่อิงซู่ อาจจะเป็นเพราะโดนจวินอู๋เย่าข่มขู่เอาก่อนหน้านี้ ตอนนี้อิงซู่จึงดูเหมือนจะประพฤติตัวดีขึ้นแล้ว

อิงซู่พยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เหมือนกับฮวาเหยาที่มาจากเผ่าเคลื่อนกระดูก คนจากเผ่านั้นมักจะจับคู่กับภูติที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระดูก ขณะที่คนจากเผ่าวิญญาณก็มักจะจับคู่กับภูติประเภทจิตวิญญาณ”

ตอนที่ 1344 ไม่ได้รับเชิญ (2)

สาเหตุที่ภูติวิญญาณจะเชื่อมโยงกับคนนั้นได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว สถานการณ์นี้อาจจะไม่ชัดเจนนักในสามโลกเบื้องล่าง แต่ในสามโลกชั้นกลางนั้นมักจะเห็นกรณีแบบนี้บ่อยๆ

นอกเหนือจากการจำแนกตามภูมิภาคต่างๆ แล้ว สามโลกชั้นกลางยังมีคนจากเผ่าพันธุ์พิเศษ เช่น เผ่าเคลื่อนกระดูก และเผ่าวิญญาณอีกด้วย

คนจากเผ่าเคลื่อนกระดูกจะมีพรสวรรค์แต่กำเนิดในการใช้อาวุธและสิ่งประดิษฐ์จากกระดูก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ต้องการของผู้มีอำนาจมาก พรสวรรค์เช่นนี้เป็นข้อได้เปรียบที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ สำหรับคนของเผ่าวิญญาณนั้น พวกเขาเป็นเผ่าชั้นสูงท่ามกลางเผ่าต่างๆ

มีข่าวลือว่าเผ่าวิญญาณนั้นมีความรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับวิญญาณ และยังสามารถสร้างวิญญาณและฟื้นฟูวิญญาณได้

ความสามารถฟื้นฟูวิญญาณนั้นคล้ายกับทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณของกู้หลีเชิง แต่ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณทำได้โดยการเปลี่ยนสภาพพลังวิญญาณและใช้มันซ่อมแซมฟื้นฟูร่างวิญญาณ แม้ว่าทักษะนี้จะพัฒนาขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ คนของเผ่าวิญญาณนั้นเกิดมาพร้อมความสามารถแต่กำเนิดในการสื่อสารกับวิญญาณและมีประสาทสัมผัสที่ไวมากพอจะรับรู้สิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกภายในวิญญาณนั้น

เมื่อนานมาแล้ว เผ่าวิญญาณเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในสามโลกชั้นกลาง พวกเขาทรงพลังและลึกลับ แต่เผ่าวิญญาณมีอัตราการสืบพันธุ์ที่ต่ำมาก ไม่สามารถให้กำเนิดและเพิ่มจำนวนคนในเผ่าได้ คนในเผ่าจึงมีจำนวนอยู่น้อยนิด

“เจ้านายรู้หรือไม่ว่ามีตำหนักหวนจิตอยู่ในบรรดาสิบสองตำหนักด้วย” อิงซู่ถามขณะมองไปที่จวินอู๋เสีย

จวินอู๋เสียพยักหน้า นางไม่ได้แค่รู้เกี่ยวกับตำหนักหวนจิต แต่นางยังเคยสู้กับพวกเขาด้วย ยัยแก่ชวีซินรุ่ยจากเมืองพันอสูรก็มาจากตำหนักหวนจิตไม่ใช่หรือ

“จริงๆ แล้ว ตอนแรกนั้น สิบสองตำหนักถูกสร้างขึ้นโดยสมาชิกระดับสูงของเผ่าพันธุ์ต่างๆ พวกเขาก่อตั้งสิบสองตำหนักขึ้นเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนน้อยนิดของตัวเอง ว่าไปแล้วก็ค่อนข้างแปลก เผ่าที่มีพรสวรรค์พิเศษมักมีความสามารถในการสืบพันธุ์ต่ำ ทำให้เผ่าของพวกเขามีจำนวนคนน้อย เผ่าวิญญาณเป็นเผ่าที่มีคนน้อยที่สุด ในช่วงแรกนั้นหัวหน้าของเผ่าวิญญาณได้ก่อตั้งตำหนักหวนจิตขึ้น แต่เนื่องจากสิบสองตำหนักแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตำแหน่งของประมุขตำหนักต่างๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป การหลอกลวงและความไม่ไว้ใจก็เริ่มเกิดขึ้น ผู้ก่อตั้งถูกโค่นล้มด้วยเหตุผลมากมายและหลากหลายวิธีการ และก็กลายมาเป็นสิบสองตำหนักในทุกวันนี้”

อิงซู่หยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า “ตำหนักหวนจิตในตอนนี้ยังใช้สิ่งที่คนของเผ่าวิญญาณทิ้งเอาไว้ แต่น่าเสียดายยิ่งนัก นานมาแล้ว เผ่าวิญญาณพบกับหายนะและพวกเขาก็หายไปจากสามโลกชั้นกลางอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ดูเหมือนว่าภายในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิอาจจะมีคนที่เป็นเผ่าวิญญาณอยู่ แต่มันก็พูดยากนะ”

คนจากเผ่าวิญญาณ…

จวินอู๋เสียหรี่ตาลง

หนูแฮมสเตอร์ตัวจิ๋วที่กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้วนั้น ดูเหมือนจะเริ่มได้สติขึ้นมา เมื่อมันลืมตาขึ้นและเห็นตัวเองถูกล้อมโดยจวินอู๋เสียและดอกบัวขาวน้อย ดวงตาสีดำเหมือนลูกปัดของมันก็เต็มไปด้วยความกระวนกระวายและวิตกกังวล เมื่อมันหันไปเห็นเจ้าแมวดำในอ้อมแขนของจวินอู๋เสีย…

“จี๊ด!!!”

เสียงร้องแหลมสูงก็ดังขึ้น พร้อมกับที่เจ้าหนูแฮมสเตอร์ก็ล้มลงหมดสติ นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนมือของอิงซู่ กรงเล็บเล็กๆ ของมันสั่นเล็กน้อย

“…” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็รู้สึกว่าการที่นางดูถูกความกล้าของเจ้าแมวดำอาจเป็นความผิดพลาด หนูแฮมสเตอร์ที่กลัวจนเป็นลมแค่เพราะเห็นแมวดำหมดสตินี่ต่างหากที่ควรจะได้ครองมงกุฎผู้ขี้ขลาดตัวจริง!

“ภูติวิญญาณแบบนี้ใช้ประโยชน์ได้จริงหรือ” จวินอู๋เสียถามพลางเลิกคิ้ว ภูติวิญญาณที่ขี้ขลาดถึงขนาดนี้แทบไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง ไม่ว่ามันจะผูกพันธะกับคนแบบไหนก็ตาม