ตอนที่ 1345 ไม่ได้รับเชิญ (3) / ตอนที่ 1346 ไม่ได้รับเชิญ (4)
ตอนที่ 1345 ไม่ได้รับเชิญ (3)
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเผ่าวิญญาณถึงถูกทำลาย ก็ภูติวิญญาณของพวกเขาอ่อนแอแบบนี้ไง!
ความสามารถในการโจมตีของมันยังสู้ดอกบัวขาวน้อยไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“มันเป็นลมเพราะตกใจกลัวหรือ” ดอกบัวขาวน้อยถามพลางกะพริบตาปริบๆ สีหน้าไร้เดียงสามาก
อิงซู่หัวเราะเบาๆ เขาไม่กล้าแกล้งจวินอู๋เสียแล้ว แต่…
“มันเป็นลม แต่เจ้ารักษาได้ไม่ใช่หรือ มาๆ เอาเจ้าตัวเล็กไปดูสิว่ามันจะฟื้นหรือเปล่า” ขณะที่พูด อิงซู่ก็ดึงเอี๊ยมของดอกบัวขาวน้อยแล้วหย่อนหนูแฮมสเตอร์ที่หมดสติลงไปข้างใน
เจ้าก้อนขนนุ่มนิ่มเลื่อนลงมาตามร่างกายของเขา เด็กน้อยหน้าซีดขาวทันที เขากระโดดไปมาพร้อมกับโบกแขนขา ร้องโวยวายเสียงดังพร้อมน้ำตา
จวินอู๋เสียรู้สึกปวดหัวขึ้นมา นางจ้องอิงซู่ที่กำลังยิ้มอย่างชั่วร้าย จากนั้นก็ดึงเอาขวดเหล้าออกมาจากถุงเอกภพ คว้าตัวดอกบัวขาวน้อย แล้วกรอกเหล้าเข้าปากเขาที่กำลังแหกปากโวยวายเสียงดัง
อิงซู่หน้าเครียดทันที…
หลังจากต่อสู้ประมาณสิบนาที อิงซู่ก็ถูกบัวหิมะมัวเมากดติดกับกำแพงและเจอกับการทุบตีที่โหดร้ายก่อนที่จะจบลงในที่สุด
“เราจะทำอย่างไรกับหนูแฮมสเตอร์ตัวนี้ดี” บัวหิมะมัวเมาถามด้วยรอยยิ้มหยิ่งยโส เขาหยิบหนูแฮมสเตอร์ที่หดตัวกลับไปเป็นลูกบอลขึ้นมาถามจวินอู๋เสีย
“ถ้าเป็นภูติวิญญาณ ก็แสดงว่ามีคนอยู่ที่นี่แน่นอน” จวินอู๋เสียสูดหายใจเข้าลึกๆ ความสับสนวุ่นวายไร้สาระก่อนหน้านี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เรื่องที่หนูแฮมสเตอร์ปรากฏตัวที่นี่ก็แทบจะเป็นการยืนยันสิ่งที่นางเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้ ในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ…มีคนอยู่!
และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นคนจากเผ่าที่เกือบสูญพันธุ์ในสามโลกชั้นกลาง เผ่าวิญญาณ
“ทำไมเราไม่ฆ่าเจ้าตัวเล็กนี่ก่อน แล้วพอเจอเจ้าของมัน เราค่อย…” บัวหิมะมัวเมาทำท่าปาดคอตัวเอง นั่นทำให้เจ้าก้อนขนตัวสั่นหนักขึ้น มันรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงรังสีอำมหิตที่รุนแรงจากบัวหิมะมัวเมา มันไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะขดตัวเป็นลูกบอลอีกแล้ว ได้แต่นอนแผ่ ขาทั้งสี่กางออก มันมองจวินอู๋เสียที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรเลยสักคำด้วยความสิ้นหวัง
จวินอู๋เสียมองไปที่เจ้าก้อนขนตัวน้อย และทันใดนั้นก็คิดถึงสิ่งมีชีวิตในโรงพยาบาลสัตว์ที่มีหนูแฮมสเตอร์วิ่งไปรอบๆ กรงของพวกมันและขออาหารด้วยท่าทางที่น่ารัก นั่นทำให้นางหมดความตั้งใจที่จะฆ่าไปเลย
ถ้ามันเป็นศัตรูที่เป็นอันตราย นางก็คงไม่ลังเลแม้แต่น้อย แต่กับเจ้าก้อนขนที่ไร้ทางสู้แบบนี้ นางไม่มีความคิดที่จะฆ่ามันเลย เพราะการทำแบบนั้นจะทำให้นางรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนบ้าที่ทำร้ายสัตว์
“ปล่อยมันไป” จวินอู๋เสียพูดอย่างเด็ดขาด
“อะไร ปล่อยมันไปหรือ” บัวหิมะมัวเมารู้สึกประหลาดใจที่จวินอู๋เสียตัดสินใจเช่นนี้
จวินอู๋เสียพูดว่า “เราไม่มีความบาดหมางกับดินแดนเทพมาร แถมการมาที่นี่เพื่อปล้นสมบัติจากเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิของพวกเขาก็ถือเป็นการดูหมิ่นพวกเขาอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้ข้าไม่อยากจะขัดแย้งกับคนจากดินแดนเทพมารเพิ่มอีก ยิ่งไปกว่านั้น…มันก็ไร้เดียงสาออก แต่ถ้าเราต้องสู้กับคนจากดินแดนเทพมารในภายหลัง มันก็จะกลายเป็นศัตรู แต่ข้าไม่อยากทำร้ายมันตอนนี้”
จวินอู๋เสียมีความประทับใจที่ดีต่อดินแดนเทพมาร ถ้าไม่ใช่เพื่อความอยู่รอดของพวกเขาเอง นางก็คงไม่เลือกที่จะปล้นสมบัติของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ
เมื่อเทียบกับสิบสองตำหนัก คนจากดินแดนเทพมารควรค่าให้นางเคารพมากกว่าเยอะ
และ…
นางไม่คิดว่าการปล่อย “หนูแฮมสเตอร์” ตัวเล็กๆ จะทำให้พวกเขามีอันตรายเพิ่มขึ้นมาได้ ถ้าพวกเขาจะต้องสู้กันจริงๆ นางก็แค่ผลักเจ้าแมวดำไปข้างหน้า แล้วเจ้าหนูแฮมสเตอร์ก็จะกลายเป็นเจ้าก้อนขนกลมๆ ที่ไม่มีอันตรายอีกครั้ง
ด้วยคำสั่งที่หนักแน่นของจวินอู๋เสีย บัวหิมะมัวเมาจึงไม่มีทางปฏิเสธและทำได้แค่วางหนูแฮมสเตอร์ที่ตัวสั่นด้วยความกลัวลงบนพื้น
หนูแฮมสเตอร์ดูเหมือนจะรู้ว่าตอนนี้มันปลอดภัยแล้ว มันยื่นอุ้งเท้าเล็กๆ ออกวิ่งหนีห่างออกไปสองสามเมตรทันที
ตอนที่ 1346 ไม่ได้รับเชิญ (4)
เมื่อเจ้าหนูนรกวิ่งออกไป มันก็ไม่ได้จากไปในทันที แต่กลับยืนอยู่ตรงที่ที่มันคิดว่าปลอดภัย มันหยุดแล้วหันกลับมามองจวินอู๋เสียด้วยดวงตาสีดำเหมือนลูกปัดเล็กๆ ไม่มีใครรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่
ในขณะที่บัวหิมะมัวเมากำลังจะไล่มันไป หนูนรกตัวนั้นก็ยกเท้าหน้าเล็กๆ ของมันขึ้นและทำดุ๊กดิ๊กอะไรอยู่รอบปากของมันก่อนที่แก้มมันจะป่องออกมา
ทันใดนั้นลูกกลมเล็กๆ ก็ถูกพ่นออกมาปากของมัน มันถือลูกนั้นเอาไว้ด้วยอุ้งเท้าเล็กๆ ของมันก่อนจะวางลงบนพื้น จากนั้นก็มองไปที่จวินอู๋เสียอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับและหนีไปโดยไม่ลังเลอีก ร่างเล็กๆ ของมันหายไปภายใต้แสงไฟสลัวอย่างรวดเร็ว
“อะไรกันเล่านั่น” บัวหิมะมัวเมางงเล็กน้อยกับการกระทำของเจ้าตัวเล็ก
อิงซู่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมองไปที่บัวหิมะมัวเมาพลางพูดว่า “เจ้าไม่รู้กระทั่งการตอบแทนบุญคุณเชียวหรือ”
พูดจบอิงซู่ก็เดินไปหยิบลูกกลมที่เปื้อนน้ำลายหนูนรกขึ้นมา และนำมันมาตรงหน้าจวินอู๋เสีย
ลูกกลมนั้นมีขนาดประมาณไข่นกกระทา สีขาวล้วน ดูเหมือนหยก บนพื้นผิวมีการแกะสลักลวดลายงดงาม ดูเหมือนอสรที่ขดอยู่รอบๆ ลูกทรงกลมนั้น หัวอสรที่อยู่ตรงกลางนั้นสลักไว้อย่างชัดเจน ตรงที่เป็นตาอสรมีจุดสีเขียวสองจุด
จวินอู๋เสียมองอสรที่แกะสลักบนลูกกลมนั้น แล้วรู้สึกว่ารูปลักษณ์ของอสรดูคุ้นมาก
นอกจากสีตาแล้ว มันดูเหมือนอสรพิษทมิฬที่จวินอู๋เย่าใช้อยู่เป็นประจำ
เสียแต่ว่าตัวหนึ่งขาว ตัวหนึ่งดำนี่สิ
“มีของแบบนั้นซ่อนอยู่ในปากหนูนรกหรือ ทำไมเมื่อสักครู่ข้าไม่เห็น” บัวหิมะมัวเมาถามด้วยความประหลาดใจ ลูกทรงกลมไม่ได้ใหญ่มากก็จริง แต่สำหรับหนูตัวเท่าฝ่ามือ มันก็ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ถ้าหนูนรกซ่อนมันไว้ในปาก ตอนที่เขาถือเจ้าหนูนรกนั่นเมื่อสักครู่ เขาก็ต้องเห็นแล้วสิ
“หนูนรกอ่อนแอในเรื่องการโจมตี แต่ปากของมันเป็นพื้นที่มิติที่ดีที่สุด เหมือนกับถุงเอกภพนั่นแหละ อย่ามองว่าหนูนรกตัวเล็กนิดเดียว ถ้าพวกมันมีพลังมากพอ พวกมันจะสามารถกลืนทองและเงินได้มากเป็นภูเขาเลย เผ่าวิญญาณมักจะใช้หนูนรกเป็นที่เก็บของ และไม่จำเป็นต้องกังวลว่าของจะถูกขโมยหรือถูกยึดไปด้วย พวกมันสามารถสามารถกลืนสิ่งของได้ไม่จำกัดจำนวน และก็เก็บของเอาไว้อย่างดีเลย” อิงซู่พูดพร้อมกับมองไปที่บัวหิมะมัวเมา สีหน้าของเขาเหมือนจะบอกว่า “เจ้ามันโง่เขลาสิ้นดี”
สายตาของอิงซู่ทำให้บัวหิมะมัวเมาเกือบจะถกแขนเสื้อขึ้นและต่อยกับเขาอีกรอบ
“แต่ดูท่าทางแล้ว มันก็ไม่ได้แย่เกินไปนัก เจ้าหนูนรกนั่นดูเหมือนไม่ได้คิดร้ายอะไรกับเจ้านาย คิดว่ามันคงจะไม่ไปฟ้องเจ้านายมันเล่านะ” อิงซู่พูดยิ้มๆ
จวินอู๋เสียเอาลูกกลมที่สลักรูปอสรขึ้นมาส่องดูเพื่อศึกษาอย่างละเอียด และทันใดนั้นความคิดแปลกๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวนาง
ตอนที่เวินอวี่บังเอิญเข้าไปในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิก่อนหน้านี้ สถานการณ์ของเขาก็เหมือนกับนาง ตรงที่เขาล้มมีประตูกลอยู่ข้างใต้ พอเขาไปโดนสวิตช์ก็ตกลงมาในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ
และหยกสงบวิญญาณนั่นก็ได้มาจากหนูนรกตัวเดียวกันนี้เอง
ถ้าหากเป็นไปตามนี้ จวินอู๋เสียก็ค่อนข้างแน่ใจว่าคนที่พาเวินอวี่ออกจากผาสุดขอบฟ้าก็คือเจ้านายของหนูนรกตัวนี้!
คนผู้นั้นไม่ได้ทำร้ายเวินอวี่ แต่กลับพาเขาออกไปข้างนอกแทน ดูแล้ว ท่าทางนิสัยใจคอของคนคนนั้นจะไม่ได้โหดร้ายเกินไป
ด้วยความคิดนั้น จวินอู๋เสียจึงเก็บลูกกลมนั้นและเดินต่อไป
หลังจากเดินไปได้พักใหญ่ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงทางแยกที่แยกออกเป็นสองทาง ทางหนึ่งนำไปสู่อีกทางเดินที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งมีคานและเสาอยู่เป็นระยะ ส่วนทางที่สองเป็นประตูหินขนาดมหึมา!