ตอนที่ 664 ป้ายหยก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 664 ป้ายหยก

“เราควรทำเช่นไรกับหลี่หมิงรุ่ยผู้นี้ดีขอรับคุณหนูใหญ่” หลูผิงขมวดคิ้วแน่น เขารู้สึกว่าหลี่หมิงรุ่ยผู้นี้ฉลาดมากเกินไป

ไป๋ชิงเหยียนเอนกายพิงหมอนอิง มองไปทางหลูผิง “ยังไม่ต้องสนใจเขา ลำบากลุงผิงแล้ว ท่านเหนื่อยมาทั้งวันรีบกลับไปพักผ่อนเถิด”

ให้คนนำจดหมายมามอบให้ที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว หากนางอยากรู้ว่าผู้ใดเป็นคนส่งจดหมายมาและมีจุดประสงค์อันใด นางย่อมต้องส่งคนไปสืบที่หอเยี่ยนเชวี่ยและต้องพบเบาะแสของหลิ่วรั่วฟูแน่นอน

ทว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป้าหมายของหลี่หมิงรุ่ย หลี่หมิงรุ่ยต้องการบอกนางว่าเขาเป็นมีหนทางและวิธีการเป็นของตัวเอง อีกทั้งเป็นคนมีความสามารถด้วย

ในเมื่อไป๋ชิงเหยียนกุมความลับของตระกูลหลี่ไว้ในมือ เช่นนั้นหากหลี่หมิงรุ่ยไม่เป็นมิตรกับนางก็ต้องเป็นศัตรูกับนางเท่านั้น

หากต้องการเป็นศัตรู เขาสามารถลอบลงมือจัดการกับนางอย่างลับๆ ได้ เหตุใดต้องขอพบนางเช่นนี้

เขาคงอยากเข้าร่วมกับนางกระมัง

ในสายตาของไป๋ชิงเหยียนหลี่หมิงรุ่ยเป็นคนฉลาด ทว่า เขาเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวมากเกินไป หากเปรียบเทียบกันแล้ว หลิ่วรั่วฟูที่มักจะหาเรื่องให้นางรำคาญใจซึ่งๆ หน้าน่าเชื่อถือว่าหลี่หมิงรุ่ยมากนัก

โรงครัวเล็ก

ชุนเถากำลังใช้พัดลายผีเสื้อพัดไปที่ถ้วยชาของไป๋ชิงเหยียน ยาร้อนมากเกินไป ไป๋ชิงเหยียนยังทานไม่ได้

เมื่อชุนเถาลองจนรู้สึกว่าอุณหภูมิได้ที่ได้ หญิงสาวจึงวางถ้วยยาลงในถาดอาหารสีดำสี่เหลี่ยม ขณะเตรียมนำเข้าไปให้ไป๋ชิงเหยียนในห้องก็เห็นหลูผิงเดินออกมาพอดี “องครักษ์หลู…”

หลูผิงมองไปที่ยาที่ชุนเถาถืออยู่ในถือ “ลำบากแม่นางชุนเถาแล้ว”

ชุนเถาเบี่ยงกายหลบ มองส่งหลูผิงเดินจากไปจากเรือนชิงฮุย จากนั้นจึงแหวกม่านเข้าไปด้านใน ส่งยาให้ไป๋ชิงเหยียน “ท่านหมอหงกล่าวว่าให้ทานยาบำรุงเลือดก่อนนอนเจ้าค่ะ ทว่า หากให้คุณหนูใหญ่ดื่มเช่นนี้ทุกวันคงไม่สะดวกเท่าใด เมื่อกลับไปถึงซั่วหยาง ท่านหมอหงจะสอนอิ๋นซวงปรุงยาเม็ด เช่นนี้ภายหน้าคุณหนูใหญ่จะได้ทานยาเม็ดแทน สะดวกกว่าเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนดื่มยาจนชินแล้ว หญิงสาวยกถ้วยยาขึ้นดื่มจนหมดเกลี้ยง ชุนเถารีบยื่นน้ำล้างปากให้ เมื่อไป๋ชิงเหยียนล้างปาก ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปากเสร็จ ชุนเถารีบส่งผลไม้อบแห้งให้ไป๋ชิงเหยียนอมแก้ขม

“ช่วงนี้อิ๋นซวงปรับตัวอยู่กับท่านหมอหงได้แล้วหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถามชุนเถา

“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ อิ๋นซวงเรียนรู้จากท่านหมอหงได้หลายสิ่งแล้ว ท่านหมอหงชมว่าอิ๋นซวงฉลาด เรียนรู้เร็วเจ้าค่ะ นางได้ของกินจากท่านหมอหงจนอยากนำมาแบ่งคุณหนูใหญ่อยู่หลายครั้ง ทว่า ถูกพวกข้าห้ามไว้เสียก่อนเจ้าค่ะ พวกข้าไม่ได้บอกอิ๋นซวงเรื่องที่คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บ กลัวว่านางจะเป็นห่วงเจ้าค่ะ”

ตอนเด็กๆ อิ๋นซงคงอดอยากจนเข็ดแล้ว นางหวงของกินมาก ทว่า นางมักนำของกินมาแบ่งให้คุณหนูใหญ่ทานเสมอ เห็นได้ชัดว่าอิ๋นซวงจงรักภักดีต่อคุณหนูใหญ่มากเพียงใด

แม้เด็กสาวจะมีนิสัยเหมือนเด็ก ทว่า เป็นคนที่จงรักภักดีมาก

“ช่วงนี้อิ๋นซวงกินอิ่มนอนหลับ รูปร่างอวบขึ้นไม่น้อย น่ารักมากเจ้าค่ะ” ชุนเถาถือถาดอาหารสี่เหลี่ยมสีดำไว้ในมือ เมื่อนึกถึงแก้มป่องๆ ของอิ๋นซวง ใบหน้าของชุนเถาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ไป๋ชิงเหยียนนึกขึ้นได้ว่าอิ๋นซวงและเสี่ยวซื่อต่างชอบทานของหวาน จึงหันไปกล่าวกับชุนเถา “ซานจาเคลือบน้ำผึ้งที่โรงครัวทำรสชาติไม่เลวเลย พรุ่งนี้เจ้านำไปให้อิ๋นซวงสักจาน หากอิ๋นซวงชอบ ตอนกลับไปซั่วหยางพาแม่ครัวที่ทำซานจาเป็นกลับไปซั่วหยางกับเราด้วย”

“เจ้าค่ะ!” ชุนเถารับคำยิ้มๆ “พรุ่งนี้ข้าจะเอาไปให้แต่เช้า จะเอาลูกกวาดไปฝากนางอีกกล่องด้วยเจ้าค่ะ”

“อย่าให้มากนัก ทานมากทำให้ฟันผุได้ แบ่งไปนิดเดียวพอ นางทานหมดแล้วค่อยเอาไปให้นางใหม่”

สิ้นเสียงของไป๋ชิงเหยียน ด้านนอกรายงานว่าหลูผิงกลับมาอีกครั้ง

ไป๋ชิงเหยียนใช้มือข้างเดียวยันกายขึ้น ขยับไปนั่งพิงหมอนอิง สั่งให้ชุนเถาเชิญหลูผิงเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ไม่นาน หลูผิงเดินเข้ามาด้านในอย่างรีบร้อน เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น ชูป้ายหยกแผ่นหนึ่งขึ้นสูงด้วยมือทั้งสองข้างที่สั่นเทา ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย “คุณหนูใหญ่!”

เมื่อไป๋ชิงเหยียนเห็นป้ายหยกแผ่นนั้นก็ผุดลุกขึ้นอย่างตกใจจนกระชากโดนบาดแผลของตัวเอง หญิงสาวเจ็บหน้าอกราวกับถูกคนฉีกออกเป็นชิ้นๆ

“คุณหนูใหญ่…” น้ำเสียงของหลูผิงสั่นเทา “คือนายท่านสี่ขอรับ…”

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเลิกผ้าห่มออก ชุนเถารีบเข้าไปช่วยประคองไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนกัดฟันแน่น เลือดพุ่งพล่านไปถึงสมอง รีบคว้าป้ายหยกมาพิจารณาอย่างละเอียดใต้แสงไฟ ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่จนไป๋ชิงเหยียนหน้ามืดไปชั่วขณะ “ได้มาจากที่ได้”

ท่านอาสี่ยังมีชีวิตอยู่ใช่หรือไม่…

ท่านอาสี่ทราบว่านางได้รับบาดเจ็บจนเกือบเป็นอันตรายถึงชีวิต ท่านจึงกลับมาใช่หรือไม่!

สมองของไป๋ชิงเหยียนประมวลผลอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้าใส่ ขอบตาของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าวขึ้นทันที น้ำเสียงร้อนรนขึ้นกว่าเดิม “ได้มาจากที่ใด เจ้าไปได้มาจากที่ใดกัน!”

“คุณหนูใหญ่!” หลูผิงรีบเข้าประคองร่างที่โซเซไปมาของไป๋ชิงเหยียนโดยไม่มีเวลาคำนึงถึงมารยาท “คุณหนูใหญ่ ผู้คุมคุกส่งมาให้ขอรับ เขากล่าวว่าแม่ทัพหวังเจียงไห่แห่งกองทัพหนานตูที่ได้รับบาดเจ็บวานให้เขาส่งของสิ่งนี้มายังจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เดิมทีเขาไม่อยากนำมา ทว่า แม่ทัพหวังเจียงไห่กล่าวว่านี่คือของของนายท่านสี่แห่งตระกูลไป๋ ดังนั้นผู้คุมคุกจึงนำมาให้เราขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนกำป้ายหยกแน่น น้ำตาเอ่อล้นอยู่ที่ขอบตา หญิงสาวเอ่ยถามเสียงรอดไรฟัน “ฝากข้อความใดมาหรือไม่”

หลูผิงมองไป๋ชิงเหยียนด้วยสีหน้าจริงจัง “หวังเจียงไห่กล่าวว่าต้องการพบคุณหนูใหญ่ขอรับ”

“เตรียมรถ!” ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทีท่าลังเลแม้แต่น้อย

“คุณหนูใหญ่!” ชุนเถาอุทานด้วยความตกใจ “ร่างกายของคุณหนูใหญ่เป็นเช่นนี้จะออกไปด้านนอกได้อย่างไรเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนกำป้ายหยกที่อยู่ในมือแน่น หวังเจียงไห่ให้คนนำป้ายหยกมามอบให้นาง กล่าวว่าต้องการพบหน้านาง นางจำเป็นต้องไป ในเมื่อเขามีป้ายหยกของท่านอาสี่อยู่ แสดงว่าเขาต้องมีข่าวคราวของท่าน

ท่านปู่มีบุตรชายห้าคน บุตรสาวหนึ่งคน ทุกคนมีป้ายหยกเช่นนี้คนละแผ่น ต่างพกตัวตัวไม่เคยห่าง

ท่านอาสองมอบป้ายหยกแผ่นนั้นให้ไป๋ชิงเสวียนกับมารดาของเขาแทนคำสัญญาของท่านอาสอง

หวังเจียงไห่มีป้ายหยกของท่านอาสี่ ไม่ว่าจะเป็นเพราะท่านอาสี่เคยให้คำสัญญาอันใดไว้กับหวังเจียงไห่หรือเพราะหวังเจียงไห่มีข่าวคราวของท่านอาสี่ ไป๋ชิงเหยียนก็ต้องไปพบเขาสักครั้ง

หญิงสาวพยายามควบคุมสติของตัวเอง ก้มดูป้ายหยกในมือนิ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แววตาของหญิงสาวสงบเยือกเย็น กล่าวสั่งงานอย่างไม่รีบร้อน “ลุงผิงไปกับข้า เมื่อข้าและลุงผิงจากไปแล้ว ชุนเถาจงไปบอกเสี่ยวซื่อว่าให้นางไปพบองค์รัชทายาทที่จวนหลังจากธูปหมดดอกหนึ่ง ทูลองค์รัชทายาทว่าหวังเจียงไห่ให้ผู้คุมคุกนำป้ายหยกประจำตัวของท่านอาสี่มาให้ข้าที่จวนไป๋เพื่อนัดข้าออกไปพบ เสี่ยวซื่อห้ามข้าไว้ไม่ได้ ข้ายืนกรานจะไปพบหน้าหวังเจียงไห่ในคุกโดยไม่สนร่างกายของตัวเอง เสี่ยวซื่อจนปัญญาจึงได้แต่ไปทูลให้องค์รัชทายาททราบ”

เมื่อเรื่องจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนจะถือโอกาสนี้ทำให้องค์รัชทายาทได้เห็นว่าไป๋จิ่นจื้อจงรักภักดีต่อเขา หากวันหน้าไป๋จิ่นจื้อไปยังค่ายผิงอัน องค์รัชทายาทจะได้ช่วยดูแลนางให้มากขึ้น

ที่สำคัญบอกเรื่องนี้กับองค์รัชทายาทก่อนดีกว่าปล่อยให้เขาสืบรู้ทีหลังแล้วเริ่มระแวงในตัวนางอีกครั้ง

“เปลี่ยนชุด…” ไป๋ชิงเหยียนกุมบาดแผลที่หน้าอก “ลุงผิงไปเตรียมรถม้า!”

หลูผิงรับคำแล้วเดินจากไปเตรียมรถม้าอย่างรวดเร็ว

ชุนเถารู้ดีว่าเมื่อไป๋ชิงเหยียนตัดสินใจไปแล้ว หญิงสาวไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือเรื่องของนายท่านสี่ ชุนเถาจึงทำได้เพียงช่วยเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้ไป๋ชิงเหยียน