ตอนที่ 1353 เดินเล่นหนึ่งวันในสุสาน (7) ตอนที่ 1354 เดินเล่นหนึ่งวันในสุสาน (8)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1353 เดินเล่นหนึ่งวันในสุสาน (7) / ตอนที่ 1354 เดินเล่นหนึ่งวันในสุสาน (8)
ตอนที่ 1353 เดินเล่นหนึ่งวันในสุสาน (7)

ครั้งนี้จวินอู๋เสียได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าความสามารถในการเก็บของของหนูนรกนั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน สมบัติทั้งห้องถูกหนูนรกกลืนเข้าไปจนหมดเกลี้ยงในเวลาสิบนาที

เมื่อห้องว่างแล้ว เด็กหญิงก็ถือถังน้ำเข้าไปทำความสะอาด ทำทุกอย่างซ้ำแบบที่นางทำในห้องก่อนหน้านี้

แต่ครั้งนี้เด็กหญิงมี ‘เจ้าแมวดำตัวน้อย’ อยู่ข้างๆ ด้วย

จวินอู๋เสียแค่นั่งมองเด็กหญิงยุ่งกับงานอยู่เงียบๆ นางตั้งใจจะเข้าไปในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิให้ไกลขึ้นเพื่อทำความเข้าใจว่าสถานการณ์ข้างในเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้นางโดนเด็กหญิงที่อ้างว่าเป็นคนของเผ่าวิญญาณเจอตัวเข้าแล้ว แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่คิดทำร้ายนาง แต่จวินอู๋เสียก็ไม่อยากไปคว่ำข้อสันนิษฐานของนาง จึงเล่นไปตามน้ำขณะที่คอยเฝ้าสังเกตความลับในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิอยู่ข้างๆ เด็กหญิง

สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมีขนาดใหญ่มากจนน่าตกใจ ต่อจากทางเดินเสาหินก็คือห้องโถงใหญ่ห้องแล้วห้องเล่าที่เต็มไปด้วยสมบัติมากมายไม่รู้จบ หลังจากผ่านห้องโถงก็เป็นทางเดินยาวอีกทางหนึ่ง และตามทางเดินก็มีห้องโถงใหญ่อื่นๆ อีกหลายสิบห้องที่เต็มไปด้วยสมบัติมากมาย

เด็กหญิงเดินไปทำความสะอาดทุกห้องอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำงานสุดน่าเบื่อเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

บางครั้งนางก็ฮัมเพลง บางครั้งก็พูดคุยกับหนูนรก และยังมีบางครั้งที่นางพยายามจะเล่าเรื่องต่างๆ ให้เจ้าแมวดำที่นางเพิ่ง ‘เก็บมา’ ฟัง

น่าเสียดายที่ไม่นานเด็กหญิงก็พบว่า นิสัยของภูติแมวดำตัวนั้นเงียบเสียยิ่งกว่าหนูนรกอีก ไม่ว่านางจะพูดอะไร เจ้าแมวดำก็นิ่งฟังเงียบๆ ไม่ตอบสนองอะไรเลย

หลังจากผ่านไปหลายชั่วยาม ในที่สุดเด็กหญิงก็ทำความสะอาดห้องโถงทั้งหมดที่เชื่อมกับทางเดินนี้เสร็จ นางถึงได้ยอมพักเสียที เด็กหญิงนั่งลงบนภูเขาทองคำหน้าตาเฉย ราวกับสิ่งที่นางนั่งทับอยู่นั้นไม่ต่างจากก้อนกรวดธรรมดาทั่วไป

พอว่างแล้ว ความสนใจของเด็กหญิงก็ถูกดึงกลับมาที่จวินอู๋เสีย

“เจ้ามาจากข้างนอกนี่ อย่างนั้นตอนนี้ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง ดอกไม้ยังบานอยู่หรือเปล่า ข้าไม่ได้ออกจากที่นี่มานานมากแล้ว ไม่รู้แล้วว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร” เด็กหญิงพูดพึมพำกับตัวเอง แต่ดูเหมือนว่านางกำลังคุยกับจวินอู๋เสีย

“ข้าออกไปข้างนอกคราวที่แล้ว ก็เพราะพาคนออกไป แต่…ถ้าพี่ชายรู้เข้า เขาจะต้องโกรธอีกแน่” เด็กหญิงพูดพลางแลบลิ้นออกมา ดูเขินอายเล็กน้อย “แต่นั่นเป็นคนดีใช่หรือไม่เล่า เขาไม่มีกำลังต่อต้านแล้ว”

คำบ่นเรื่อยเปื่อยที่สับสนของนางทำให้คำพูดของนางฟังดูแปลกๆ

แต่จวินอู๋เสียก็เข้าใจ

ถ้านางเดาไม่ผิด ‘คนดี’ ที่เด็กหญิงพูดถึงก็น่าจะเป็นเวินอวี่

ดูท่าทางแล้ว เวินอวี่คงถูกพาออกมาจากผาสุดขอบฟ้าโดยเด็กหญิงที่ใสซื่อคนนี้ หยกสงบวิญญาณก็น่าจะเป็นสิ่งที่หนูนรกคายออกมาจากปากมัน

แต่…

ในฐานะผู้พิทักษ์สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ การมีนิสัยที่อ่อนโยนและใสซื่อเช่นนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมแล้วจริงๆ หรือ

จวินอู๋เสียมองเด็กหญิงผู้ใสซื่อบริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติ นางไม่คิดว่านิสัยของเด็กหญิงคนนี้จะทำให้นางเป็นผู้พิทักษ์สุสานที่ดี แต่นางก็สังเกตเห็นว่าเด็กหญิงได้พูดถึง ‘พี่ชาย’

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดินี้ เด็กหญิงไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว

พี่ชายของนางก็อาจจะอยู่ที่นี่ด้วย!

พอคิดได้เช่นนั้น จวินอู๋เสียก็ยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นมาแตะที่เข่าของเด็กหญิงเบาๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหญิงได้รับการตอบสนองจากเจ้าแมวดำ แม้ว่ามันจะเป็นแค่สัมผัสเบาๆ แต่มันก็เพียงพอจะทำให้นางยิ้มออกมาอย่างสดใส แต่หน้ากากโลหะครึ่งหน้าที่นางสวมอยู่นั้นปกปิดรอยยิ้มที่จริงใจและไร้เดียงสาของนางไปตั้งครึ่ง

ตอนที่ 1354 เดินเล่นหนึ่งวันในสุสาน (8)

“เจ้าไม่ต้องกลัว พี่ชายข้าไม่ทำร้ายวิญญาณหรอก” เด็กหญิงคิดว่าเจ้าแมวดำกลัว จึงรีบปลอบมัน

จวินอู๋เสียหันไปมองรอบๆ เหมือนจะถามเด็กหญิงว่า พี่ชายของนางอยู่ที่ไหน

รอยยิ้มของเด็กหญิงชะงักไป มีความโดดเดี่ยวแฝงอยู่ในแววตาของนาง

“ข้ามองไม่เห็นเขาหรอก เขาเองก็มองไม่เห็นข้า แต่ข้ารู้ว่าเขาอยู่ที่นี่…พี่ชายอยู่กับข้าเสมอ แม้ว่าเราจะคุยกันไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก”

จวินอู๋เสียไม่เข้าใจสิ่งนางได้ยินเลย

“ไม่เป็นไรจริงๆ ข้ามีเจ้าจี๊ดอยู่กับข้านี่ และยังมีวิญญาณอื่นๆ มาบ่อยๆ ด้วย แต่เจ้านายของพวกมันถูกพี่ชายฆ่าหมด พวกมันเลยอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน แม้ว่าข้าจะอยากให้พวกมันอยู่คุยด้วย” เด็กหญิงกัดริมฝีปาก ทันใดนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นมองเจ้าแมวดำ

“ข้าหวังว่าเจ้านายของเจ้าจะไม่เข้ามาใกล้ที่นี่ ถ้าเขาบุกรุกเข้ามา เขาจะต้องตายแน่ๆ” ตอนที่พูด สายตาของนางดูจริงจังมาก

“แล้วพอเขาตาย เจ้าก็ต้องกลับไปที่โลกภูติวิญญาณ…” คำพูดของเด็กหญิงเปลี่ยนไปทันที สายตาของนางดูโดดเดี่ยวอีกครั้ง

“…” จวินอู๋เสียพบว่านางเริ่มเข้าใจแล้ว เด็กหญิงถูกปิดอยู่ในนี้มานานเกินไป เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่าง นางจึงสามารถพูดคุยเกี่ยวกับมันได้มากมาย

นี่อาจเป็นผลพวงจากการปิดปากมานานเกินไป และดูจากวิธีพูดที่ไม่ปะติดปะต่อของเด็กหญิง จวินอู๋เสียก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจนางอย่างมาก

ไม่ใช่เรื่องยากที่จะอนุมานจากคำพูดของเด็กหญิงว่าพี่ชายของนางคือผู้พิทักษ์ที่แท้จริงของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย

เพราะเป็นพี่น้องที่สนิทกันมากหรือ

แต่ทำไมพี่น้องถึงเจอกันไม่ได้

จวินอู๋เสียไม่สามารถหาข้อสรุปได้

ในขณะที่เด็กหญิง ‘บ่นไปเรื่อย’ กับเจ้าแมวดำ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังก้องสั่นสะเทือนไปทั้งห้องโถงที่พวกเขาอยู่!

สมบัติทั้งหมดที่กองอยู่ในห้องโถงสั่นสะเทือนด้วยเสียงกัมปนาทรุนแรง เกิดเสียงดังกรุ๊งกริ๊งไปทั่ว

ทันใดนั้น!

เสียงระเบิดดังก้องมาจากที่ไหนสักแห่งไม่ไกลจากพวกเขา

เด็กหญิงที่นั่งอยู่ลุกพรวดขึ้นทันที นางพยายามยืนให้มั่นคงบนพื้นที่สั่นสะเทือนอย่างหนัก!

“มีคนโจมตี…ศัตรู…พวกคนเลว…” เด็กหญิงมีสีหน้าตกใจ

ความประหลาดใจแวบผ่านดวงตาของจวินอู๋เสีย แต่นางไม่คิดว่าความโกลาหลวุ่นวายนี้จะมาจากศัตรู ถ้าสิ่งที่นางคิดถูกต้องละก็ มีเพียงคนเดียวที่สามารถสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้

ขณะที่จวินอู๋เสียกำลังคิดว่านางควรจะฉวยโอกาสนี้หนีไปดีหรือเปล่านั้น ก็เกิดภาพที่น่าตกใจขึ้นตรงหน้านาง!

ร่างของเด็กหญิงตัวเล็กถูกห่อหุ้มด้วยหมอกสีดำทั้งตัว เสียงโลหะแตกดังขึ้นจากบริเวณใบหน้าของนาง หน้ากากโลหะที่ปิดใบหน้าด้านซ้ายของเด็กหญิงแตกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนที่แตกไม่ได้หล่นลงพื้น แต่กลับไปรวมตัวใหม่ด้วยความเร็วที่น่าทึ่งตรงใบหน้าด้านขวาของเด็กหญิง!

สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ ใบหน้าครึ่งหนึ่งที่เผยให้เห็นนั้น ไม่ได้มีความอ่อนโยนนุ่มนวลของเด็กหญิงคนนั้นอีกต่อไป มันเป็นใบหน้าที่เหมือนกันทุกประการ แต่กลับรู้สึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เป็นสีหน้าท่าทางที่คมกริบดุดันของชายหนุ่ม!