ตอนที่ 1369 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (7) / ตอนที่ 1370 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (8)
ตอนที่ 1369 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (7)
เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของเขายังคงอยู่ ขนาดพวกวัยรุ่นนอกคอกพวกนี้ก็ยังเคารพยำเกรงอดีตจักรพรรดิคนนี้เช่นกัน
จวินอู๋เสียมองท่าทางเคร่งเครียดของพวกเฉียวฉู่ แล้วเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เย่าด้วยแววตายิ้มๆ
จวินอู๋เย่ามองสบตาจวินอู๋เสีย แล้วรอยยิ้มของเขาก็จางหายไปเล็กน้อย ดวงตาของนางทำให้เขารู้สึกว่าเขาถูกมองออกแล้ว
“นั่นคือโลงศพของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิหรือ” จวินอู๋เสียหันกลับไป ไม่ได้มองจวินอู๋เย่าอีก แต่กลับมองไปที่เยี่ยกูซึ่งสะกดกลั้นตัวเองอยู่นานแล้ว
เยี่ยกูมองจวินอู๋เสีย เขาอยากรู้มากเกี่ยวกับตัวตนของจวินอู๋เสีย แต่เพราะมีจวินอู๋เย่าอยู่ เขาจึงไม่กล้าถามนางตรงๆ ตอนนี้จวินอู๋เสียกำลังถามคำถามกับเขาโดยตรง เขาไม่อาจทำอะไรได้นอกจากพยักหน้าตอบ
“ร่างของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิอยู่ในนั้นด้วยหรือเปล่า” จวินอู๋เสียถามต่อทันที
เยี่ยกูชะงัก ดวงตามีแววประหลาดใจ
เยี่ยซาและเยี่ยเม่ยที่อยู่ข้างๆ ตกใจกับคำถามของจวินอู๋เสียจนเหงื่อแตกพลั่ก
ทำไมจู่ๆ คุณหนูใหญ่ถึงถามแบบนั้น หรือว่านางจะค้นพบอะไรเข้าแล้ว
ทั้งสองคนออกจากดินแดนเทพมารมาพร้อมกับจวินอู๋เย่า และก็ไม่ได้กลับไปตั้งแต่นั้น พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเลยจนกระทั่งได้ยินจากพวกจวินอู๋เสีย พวกเขาไม่รู้ว่าพี่น้องของพวกเขาที่ดินแดนเทพมารคิดว่านายท่านเสียชีวิตไปแล้ว และไม่รู้เลยว่าพวกเขาได้สร้างสุสานให้กับนายท่านด้วย
พวกเขารู้แค่ว่านายท่านยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นจะไปมี ‘ร่าง’ ของเขาอยู่ในโลงศพได้อย่างไร!
คุณหนูใหญ่ต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ถึงได้พยายามขุดข้อมูลเพิ่มเติมจากเยี่ยกู
ทั้งสองคนพากันตื่นตระหนก และทำได้แค่แอบหยิกที่เอวด้านหลังของเยี่ยกู แม้ว่าจะไม่เจ็บ แต่อย่างน้อยก็ช่วยส่งข้อความถึงเขาได้
เยี่ยกูเข้าใจทันที เขาขมวดคิ้วพูดว่า “แน่นอนสิ จะเป็นใครได้อีกเล่า!”
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง ไม่ใช่นางคิดมากเกินไป แต่เหตุการณ์บางอย่างมันค่อยๆ เชื่อมโยงปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ก่อเกิดเป็นรูปเป็นร่างที่คลุมเครืออยู่ในหัวนาง ถึงจะเป็นการเดาที่ใจกล้าบ้าบิ่นไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีที่มาที่ไป
จวินอู๋เย่าคือใคร…
จวินอู๋เสียไม่ได้อยากจะสืบสาวเรื่องในอดีต แต่หลังจากเข้าใจความรู้สึกของหัวใจตัวเองแล้ว นางก็อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเขา และรู้จักเขาให้มากขึ้น
ถ้าตัวตนของเขาคือคนอื่น ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นอย่างที่นางเดาเอาไว้ อย่างนั้นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความจริงนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ธรรมดาแล้ว
เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมีอำนาจมากขนาดไหน เขาตายได้อย่างไร
จวินอู๋เย่าแข็งแกร่งมากขนาดไหน ทำไมเขาถึงติดอยู่ในถ้ำนั้นได้
จวินอู๋เย่าแอบไปจัดการกับเรื่องอะไรตลอดเวลาที่ผ่านมา
ถ้าเขาคือเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิจริงๆ แล้วใครเป็นคนขังเขาเอาไว้ในถ้ำแห่งนั้น ในโลกนี้จะมีใครที่สามารถโค่นเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิของดินแดนเทพมารได้!
จวินอู๋เสียจำเป็นต้องรู้เรื่องทั้งหมดนี้ นางไม่สนว่าตัวจริงของจวินอู๋เย่าจะยิ่งใหญ่หรือไม่ ที่นางอยากรู้ก็คืออันตรายที่เขากำลังเผชิญอยู่มาจากไหน
“ข้าอยากเปิดโลงศพ” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็พูดขึ้น
ประโยคเดียวนี้ทำให้ทุกคนในห้องโถงอ้าปากค้างด้วยความตกใจ!
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยมองไปที่จวินอู๋เสียอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในใจเกิดลางสังหรณ์ร้ายขึ้นมาทันที
จบกัน!
คุณหนูใหญ่รู้แล้ว!
เฉียวฉู่และคนอื่นๆ ที่ยังคารวะเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิกันอยู่ ก็เบิกตาโตอ้าปากค้างมองไปทางจวินอู๋เสีย
“ข้า…หูฝาดไปหรือเปล่า น้องเสีย…นาง…นางอยากเปิดโลงศพของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ” เฉียวฉู่พูดตะกุกตะกัก ใบหน้าเริ่มกระตุกโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นเป็นเรื่องตลก หรือว่าเขาหูฝาด
ตอนที่ 1370 สมบัติจ๋า เรามาแล้ว! (8)
ฟ่านจัวก็ตกใจเช่นกัน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงได้สนใจโลงศพของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิขึ้นมา
พูดตามตรง พวกเขาทุกคนแค่อยากได้พลังที่แข็งแกร่ง แต่ไม่อยากรบกวนการพักผ่อนชั่วนิรันดร์ของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ดังนั้นการเปิดโลงศพ…จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ
เยี่ยกูอ้าปากค้าง มองเด็กสาวผู้งดงามที่เอ่ยคำพูดน่าตกใจออกมา ทั้งร่างเขาแข็งทื่อไปทันที
เด็กสาวคนนี้เป็นใคร ถึงได้กล้าขอให้เปิดโลงศพของนายท่าน
หลังจากจวินอู๋เสียพูดคำพวกนั้นออกมา นางก็หันหลังกลับและเดินไปหาจวินอู๋เย่าที่อยู่ห่างจากนางเพียงไม่กี่ก้าว
“ท่านจะช่วยข้าหรือไม่” จวินอู๋เสียจ้องมองจวินอู๋เย่าโดยไม่ละสายตา
จวินอู๋เย่ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “ถ้าเจ้าสนใจ อย่างนั้นเราก็เปิดกัน”
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว
นายท่าน! พูดง่ายไปแล้วขอรับ!
ท่านไม่รู้หรือขอรับว่าตัวท่านยังยืนสบายดีอยู่ตรงนี้ เพราะอย่างนั้นในโลงก็ต้องว่างเปล่า! คุณหนูใหญ่พยายามจะหาคำตอบเรื่องตัวจริงของท่าน! คุณหนูใหญ่สงสัยแล้วว่าท่านคือเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ท่านจะไม่หาทางจัดการหน่อยหรือขอรับ!
นี่ไม่ใช่เวลาจะมาเอาใจสาวแบบไม่มีขอบเขตนะขอรับ!
แม้ว่าเยี่ยซากับเยี่ยเม่ยจะกังวลจนแทบบ้าแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนคำพูดที่จวินอู๋เย่าพูดออกมาแล้วได้
จวินอู๋เสียเพียงแค่มองอย่างเงียบๆ ไปที่จวินอู๋เย่าซึ่งยังคงยิ้มมุมปากอยู่ มองเข้าไปในดวงตาของเขาที่มีประกายรื่นเริงที่คุ้นเคย
“น้อง…น้องเสีย…เจ้าอยากเปิดโลงศพจริงๆ หรือ” เฉียวฉู่ถามเสียงสั่น
“ข้าเกรงว่ามันจะไม่เหมาะนะ เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ…เสียชีวิตมาหลายปีแล้ว การที่พวกเรามาที่นี่เพื่อขโมยสมบัติของเขาที่ถูกฝังไว้ในสุสานของเขาก็ถือเป็นการดูหมิ่นอย่างมากแล้ว ถ้าเรายังจะรบกวนการพักผ่อนอันสงบสุขของเขาอีก…” เฉียวฉู่พยายามเกลี้ยกล่อมอย่างเต็มที่ เขาไม่เข้าใจเลยว่าจวินอู๋เสียไปเอาความคิดบ้าๆ นี้มาจากไหน
ตลอดการเดินทางมาที่นี่ เขาไม่เคยได้ยินนางพูดถึงความคิดแบบนี้เลยสักครั้ง
จวินอู๋เสียลดสายตาลงต่ำเล็กน้อย นางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ข้าล้อเล่นน่ะ”
“หา” เฉียวฉู่ยืนแข็งค้างทันที
เขาไม่เคยเห็นจวินอู๋เสียล้อเล่นอะไรมาก่อน พอทำเป็นครั้งแรกก็เล่นเรื่องใหญ่ขนาดนี้เลย เล่นเอาพวกเขากลัวแทบตาย
พอจวินอู๋เสียเปลี่ยนคำพูดอย่างกะทันหัน เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“แค่ล้อเล่นอย่างนั้นหรือ” แต่จวินอู๋เย่าเฝ้ามองจวินอู๋เสียอยู่อย่างใกล้ชิด เขาจับได้ว่าสาวน้อยดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างแล้ว แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามี ‘ร่างของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ’ อีกร่างอยู่ในโลงศพหรือเปล่า และถ้าโลงศพถูกเปิดออกและพบว่ามันว่างเปล่า จวินอู๋เสียก็จะสามารถยืนยันการคาดเดาของตัวเองได้
แต่…
ทำไมเด็กน้อยถึงเปลี่ยนใจ
ดูเหมือนว่าจวินอู๋เสียจะไม่สืบสาวเรื่องนั้นต่อแล้ว นางมองไปที่ของวิเศษที่วางอยู่บนชั้นวางโครงกระดูก ท่าทางสงบนิ่งและสุขุมของนางดูเหมือนคำพูดเมื่อสักครู่เป็นเพียงการล้อเล่นจริงๆ
ขณะที่นางเดินไปที่หน้าชั้นวางโครงกระดูก เจ้าแมวดำที่นอนอยู่ไหล่ของจวินอู๋เสียก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนว่า
“เจ้านายเจออะไรเข้าหรือ” มันรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ ของจวินอู๋เสีย และเมื่อครู่นี้มันก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของจวินอู๋เสีย
“มันจะแตกต่างกันตรงไหน” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็ถามขึ้น
เจ้าแมวดำชะงักไป
ตอนนั้นจวินอู๋เสียอยากรู้ตัวตนของจวินอู๋เย่าจริงๆ ว่าจะเป็นอย่างที่นางเดาเอาไว้หรือเปล่า แต่พอนางถามเขาว่าเขาจะยอมช่วยนางหรือไม่ ท่าทางที่เด็ดเดี่ยวและหนักแน่นของเขาทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกว่า…
การพิสูจน์ความจริงของนางไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย
เขาเป็นใคร หรือเคยเป็นใครมาก่อน ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป
สำหรับนาง เขาก็คือจวินอู๋เย่า
เป็นจวินอู๋เย่าหนึ่งเดียวไม่มีสอง ‘จวินอู๋เย่า’ คนที่คอยปกป้องและคอยชี้แนะให้นางอยู่เสมอ!