เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว ฮองเฮาก็ไม่อาจต้านทานคลื่นใหญ่ที่ก่อตัวในใจ
หากมีโอรสสักคนคงขจัดความกังวลนี้ได้
ในวินาทีนั้น นางห้ามตัวเองไม่ให้คิดถึงเจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตรไม่ได้ ก่อนจะขบขันกับความคิดไร้สาระของตัวเอง
ไม่ว่าเจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตรจะศักดิ์สิทธิ์เพียงใด นางที่อายุปูนนี้แล้วจะได้ตั้งครรภ์ได้อย่างไร
หลังจากที่นางคลอดฝูชิง ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีบุตรอีกเลย นางอดคิดไม่ได้ว่าร่างกายของนางอาจมีความผิดปกติบางอย่าง เนื่องจากฝ่าบาทเป็นคนเคร่งครัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ว่าในวังหลังจะมีสตรีงามเยาว์วัยมากมายเพียงใด แต่อย่างน้อยทุกวันที่หนึ่งและวันที่สิบห้า เขาจะมาพักอยู่กับนาง
เดิมทีก็มีกิจระหว่างสามีภรรยาไม่ต่างจากคู่อื่นๆ แต่จวบจนบัดนี้มีเพียงการนอนหลับพักผ่อนเท่านั้น
เมื่อฮองเฮาหวนคิดช่วงเวลาหลายปีที่ใช้ชีวิตอยู่กับจิ่งหมิงฮ่องเต้แล้ว มิใช่ว่านางไม่เสียดาย
ฝ่าบาททรงรักนางยิ่งนัก แต่นางกลับมีแค่ฝูชิง…บางที นี่คงเป็นชะตาชีวิตของนาง
หัวใจของฮองเฮาเย็นเยียบ
ในเมื่อนางคลอดเองไม่ได้ แล้วจะมีโอรสได้อย่างไร คิดว่าบูชาเจ้าแม่กวนอิมแล้ว จะมีโอรสตกมาจากสวรรค์อย่างนั้นหรือ
ตกลงมาจากสวรรค์… ฮองเฮาชะงักงัน ราวกับว่าฉุกคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ใจของนางเต้นระรัว
แล้วทำไมโอรสจะตกลงมาจากสวรรค์ไม่ได้!
ในเมื่อนางไม่มีบุตร เหตุใดนางถึงไม่รับองค์ชายสักคนมาเป็นโอรสของนางเอง
ไม่เลวเลยทีเดียว ความคิดนี้แม้แต่ไทเฮาก็ค้านไม่ได้ เพราะไทเฮาก็เคยทำแบบเดียวกัน
ฝ่าบาทคือบุตรบุญธรรมที่ไทเฮาอุปถัมภ์ และทำให้องค์ชายธรรมดาองค์หนึ่งได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร
ครั้นเกิดความคิดเช่นนี้ก็ไม่มีสิ่งใดยับยั้งนางได้อีกต่อไป อาจกล่าวได้ว่าบทสนทนาของข้าหลวงสองคนนั้นที่นางบังเอิญได้ยินในวันนี้ทำให้ความคิดของนางกระจ่างชัดขึ้นทันตา
เดิมทีฮองเฮาถูกมองว่าเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตสงบเงียบ เป็นคนดีไม่แก่งแย่งกับผู้ใด แต่ในความจริงแล้ว สาเหตุที่นางไม่แก่งแย่งกับผู้ใดเป็นเพราะนางขาดคุณสมบัติในการทำเช่นนั้น แต่เมื่อนางตกลงใจได้แล้ว เรื่องราวหลังจากนี้คงต่างไปจากเดิม
ในวันนั้นเอง หอพระขนาดเล็กก็ถูกจัดขึ้นในตำหนักคุนหนิง เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตร
สองสามวันมานี้จิ่งหมิงฮ่องเตรู้สึกผิดต่อฮองเฮา เขาจึงมาที่ตำหนักคุนหนิงถี่กว่าปกติ
“ฮองเฮาล่ะ” เมื่อจิ่งหมิงฮ่องเต้จัดการกิจที่คั่งค้างจากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาแล้ว เขาก็รี่มาที่ตำหนักคุนหนิงทันที แต่เมื่อกวาดตาดูรอบๆ กลับไม่พบฮองเฮา จึงหันไปถามนางในในตำหนัก
นางในรีบตอบ “กราบทูลฝ่าบาท เหนียงเหนียงกำลังไหว้พระอยู่เพคะ”
“ไหว้พระ?” จิ่งหมิงฮ่องเต้ตะลึงงัน “ฮองเฮาไหว้พระที่ไหน แล้วไหว้พระอะไร”
นางในเอ่ยตอบเร็วรี่ “เหนียงเหนียงทรงมีรับสั่งให้จัดหอพระในตำหนักเพคะ พระที่พระนางไหว้เห็นว่าจะเป็น…เจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตรเพคะ…”
จิ่งหมิงฮ่องเต้คิดว่าตนเองได้ยินพลาดไปจึงหันไปสั่งนางในผู้นั้น “พาข้าไปหาฮองเฮา”
นางในค้อมตัวก่อนจะเดินนำไปและมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าหอพระเล็ก
หอพระนั้นตั้งอยู่ในตำหนักด้านข้าง บริเวณนั้นสงัดเงียบไร้คนพลุกพล่าน
จิ่งหมิงฮ่องเต้หยุดยืนที่หน้าประตู สูดดมกลิ่นไม้จันทน์หอมจางๆ ที่พุ่งเข้าที่ฆานประสาท
เขายังไม่เดินเข้าไป เพียงแต่ยืนรออยู่ด้านนอก
ผ่านไปราวหนึ่งเค่อ ฮองเฮาก็เดินออกมา ครั้นเห็นจิ่งหมิงฮ่องเต้ นางก็ตกใจและรีบถวายความเคารพ
จิ่งหมิงฮ่องเต้เอื้อมมือไปพยุงร่างของฮองเฮาพลางถามอย่างใคร่รู้ “ข้าได้ยินจากนางในว่าเจ้ากำลังไหว้พระงั้นหรือ”
“เพคะ”
“แล้วบูชาพระโพธิสัตว์องค์ใดอยู่ล่ะ” แม้จะทราบคำตอบจากนางในแล้ว แต่จิ่งหมิงฮ่องเต้ยังไม่เชื่อ
ฮองเฮาสารภาพ “พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตรเพคะ”
แค่กๆ… อาการไอทำให้จิ่งหมิงฮ่องเต้น้ำตาไหล ผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะดีขึ้น “ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าเจ้าจะไม่ไหว้มิใช่หรือ เหตุใดถึงเปลี่ยนใจ”
ฮองเฮาหลุบตาก่อนที่ใบหน้าจะแดงระเรื่อ “หม่อมฉันคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าฝ่าบาทตรัสมีเหตุผลเพคะ หากบูชาพระโพธิสัตว์ แม้จะขอเรื่องอื่นไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะขอบุตรได้เพคะ…”
แค่กๆๆ! จิ่งหมิงฮ่องเต้ไอหนักจนเกือบสำลัก
เขาไม่ได้หมายความว่าให้ฮองเฮาอธิษฐานขอลูก ทั้งคู่ก็อายุปูนนี้แล้ว ต่อให้ฮองเฮาจะมีความตั้งใจเพียงใด แต่เขาก็ไร้ความสามารถอยู่ดี…
ไม่ได้ จะปล่อยให้ฮองเฮาฝันกลางวันเช่นนี้คงไม่ได้
“ฮองเฮา ข้าว่าเจ้าขอเรื่องอื่นจะดีกว่า ข้าว่าการขอลูกจะสร้างความลำบากให้พระโพธิสัตว์เกินไปจริงไหม”
สีหน้าของฮองเฮาหม่นลง “ฝ่าบาทหมายความว่าถึงอย่างไรหม่อมฉันก็ให้ประสูติโอรสไม่ได้ใช่หรือไม่เพคะ”
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ ขนตาของฮองเฮาก็สั่นระริก และตามมาด้วยน้ำตาหยดใส
จิ่งหมิงฮ่องเต้งงเป็นไก่ตาแตก
ร้องไห้ขี้แยเช่นนี้ ไม่เหมือนฮองเฮาเลยสักนิด
แต่เมื่อฉุกคิดเรื่องที่เกิดขึ้นกับองค์หญิงฝูชิง ความรู้สึกผิดก็ทวียิ่งขึ้น ฮองเฮาคงปวดใจเรื่องฝูชิงน่าดู ฉะนั้นเขาไม่ควรกระตุ้นอารมณ์ของนาง
ในฐานะฮ่องเต้ เขามีประสบการณ์เอาใจสตรีไม่มากนัก จิ่งหมิงฮ่องเต้จึงทำได้เพียงกล่าวว่า “ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น หากฮองเฮาอยากบูชาเจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตรก็บูชาไปเถิด ไม่แน่หากเจ้าศรัทธามากพอ สิ่งที่เจ้าปรารถนาอาจเป็นจริงก็ได้”
ฮองเฮาหยุดร้องไห้ และใช้ผ้าเช็ดหน้าซับที่บริเวณหางตาก่อนจะผุดยิ้ม “หม่อมฉันก็คิดเช่นนั้นเพคะ”
จิ่งหมิงฮ่องเต้ไม่อาจทนอยู่ที่ตำหนักคุนหนิงได้อีกต่อไปแล้ว จึงพยายามคิดหาข้ออ้าง
หลายวันหลังจากนั้น จิ่งหมิงฮ่องเต้ก็แทบไม่มาเหยียบที่ตำหนักคุนหนิงอีกเลย จนกระทั่งฮองเฮาส่งคนไปเชิญ
แน่นอนว่าจิ่งหมิงฮ่องเต้ไม่อาจปฏิเสธคำเชิญของฮองเฮา เขาพยายามคิดว่านี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว อารมณ์ของฮองเฮาคงสงบลงแล้วถึงได้เสด็จมาตามคำขอ
แต่ฮองเฮายังคงขลุกตัวอยู่ในหอพระเล็ก
จิ่งหมิงฮ่องเต้รออย่างอารมณ์ดี ไม่นานนัก ฮองเฮาก็ออกมา
ฮ่องเต้และฮองเฮานั่งลงแล้วจึงมีข้าหลวงนำสำรับน้ำชาเข้ามาถวาย
“ฝ่าบาท พบคนร้ายที่ทำร้ายฝูชิงบ้างไหมเพคะ”
จิ่งหมิงฮ่องเต้ผงะไปในทันใด เขาเพียงแต่ยกมือลูบจมูกแผ่วเบา
ฮองเฮานี่ช่างพูดไม่เป็นเลยจริงๆ หากมีความคืบหน้า เขาก็คงบอกไปตั้งนานแล้ว มิฉะนั้นแล้วตั้งแต่เห็นน้ำตาฮองเฮาคราวนั้น เขาจะหลบหน้านางแบบนี้หรือ
ครั้นจะว่าไปแล้ว เขาก็รู้สึกผิดต่อนาง
ภายใต้บรรยากาศอึมครึม จิ่งหมิงฮ่องเต้พยายามส่งยิ้มจืดเจื่อน “ยังอยู่ในขั้นตอนสืบหาความจริง ฮองเฮาอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย”
ฮองเฮาถอนหายใจแผ่วเบา “หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับหม่อมฉัน หม่อมฉันจะไม่เร่งเร้าพระองค์เลยเพคะ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับฝูชิง หลายวันมานี้ ยามที่หม่อมฉันหลับตาคราใด ภาพเหตุการณ์ในคืนเทศกาลซั่งหยวนก็ย้อนกลับมาทุกที หม่อมฉันไม่อาจข่มตาหลับได้เลยเพคะ…”
กลิ่นไม้จันทน์หอมจางๆ บนตัวฮองเฮาทำให้จิ่งหมิงฮ่องเต้คลายกังวล “หากเจ้ารู้สึกไม่สบายใจ ก็ลองสวดมนต์ภาวนาอย่างสะใภ้เจ็ดดูซิ”
พวกสตรีส่วนมากที่ไหว้พระโพธิสัตว์ จิตใจก็จะสงบลง
ในขณะที่จิ่งหมิงฮ่องเต้คิด เขาเห็นท่าทีลังเลของฮองเฮา
“เป็นอะไรไปหรือ”
ฮองเฮาหลุบตาลงมองปลายเล็บโค้งมนของนางพลางเอ่ยแผ่วเบา “หม่อมฉันไม่ปิดบังฝ่าบาทเลยนะเพคะ เมื่อคืนหม่อมฉันฝันเพคะ…”
หนังตาของจิ่งหมิงฮ่องเต้กระตุกวูบ ใจคิดอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น
เมื่อเห็นจิ่งหมิงฮ่องเต้มิได้ตอบสนอง ฮองเฮาก็เปรยตาขึ้นมามอง
จิ่งหมิงฮ่องเต้ทำได้เพียงเอ่ยถาม “ฮองเฮาฝันอะไรงั้นหรือ”
ฮองเฮาคลี่ยิ้ม “จะว่าไปแล้วก็น่าแปลกเพคะ เมื่อคืนพระโพธิสัตว์กวนอิมมาเข้าฝันหม่อมฉันพร้อมกับกล่าวเตือนสติหม่อมฉันเพคะ”
“เตือนสติ?”
“ใช่เพคะ บางทีอาจเป็นเพราะเห็นใจที่หม่อมฉันไม่มีโอรส เจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตรจึงกล่าวว่าการอุปถัมภ์บุตรสักคนมิใช่เรื่องเลวร้าย ฉะนั้นแล้วให้หม่อมฉันรับเด็กชายสักคนมาอุปถัมภ์เพคะ”
จิ่งหมิงฮ่องเต้งุนงงหลงทิศอยู่พักหนึ่ง ครั้นได้สติแล้วจึงเอ่ยว่า “ฮองเฮา เจ้าหมายความว่า…”
ฮองเฮายิ้มสุภาพ “เจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตรมาปรากฏกาย อีกทั้งยังช่วยชี้ทางสว่างให้หม่อมฉัน ฝ่าบาท หากหม่อมฉันจะรับอุปถัมภ์องค์ชายสักคนมาไว้อยู่ในการดูแลของหม่อมฉัน ฝ่าบาททรงมีความเห็นเช่นไรเพคะ”
จิ่งหมิงฮ่องเต้ “…”
เมื่อไม่กี่วันก่อน วิญญาณร้ายเข้าสิงร่างเขา เขาถึงได้ยุให้ฮองเฮาบูชาพระโพธิสัตว์ ไม่รู้ว่าหากวันนี้สั่งรื้อหอพระนั้นยังทันอยู่หรือไม่