บทที่ 718 จับมือเดินไปด้วยกันจนแก่

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

อีกไม่นานงานหมั้นก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว สายตาของคนมากมายมองไปบนเวที เจี้ยนหวาเลยเริ่มรู้สึกเป็นตัวเองมากขึ้น

ตอนที่เวียร์จูงมือลี่จุนซินเดินเข้ามาในงานนั้น ทุกคนต่างอึ้งจนเหม่อไปกันหมด

ลี่จุนซินนั้นเหมือนเจ้าหญิง ที่ค่อยๆ เดินลงมาจากบันไดทีละขั้นๆ ด้วยความสง่างาม มงกุฎบนหัวก็ส่องแสงระยิบระยับ ตามที่เธอก้าวเดิน

คนมากมายมักจะใส่ชุดที่ดูสวยงามเป็นอย่างมากในงานหมั้น แต่ว่าลี่จุนซินนั้นต่างจากคนอื่น ตอนที่อยู่ที่อิตาลีนั้น เธอกับนักออกแบบได้ร่วมมือกันแล้ว

สุดท้าย ท่ามกลางแบบที่วางเอาไว้มากมาย ลี่จุนซินเลือกชุดกางเกงมาชุดหนึ่ง มันดูเรียบง่ายและสะดวกสบาย แถมเสื้อนั้นยังเป็นแบบปาดไหล่ด้วย ทำให้ลี่จุนซินดูหวานมากกว่าเดิม

ส่วนกางเกงของชุดนั้นก็เป็นกางเกงขาบาน ทำให้ลี่จุนซินที่ขายาวอยู่แล้วยิ่งดูสวยกว่าเดิม บริเวณเอวนั้น ลี่จุนซินยังปักชื่อของเวียร์เอาไว้ด้วยตัวเองด้วย

รองเท้าส้นสูงของลี่จุนซินเองก็ออกแบบให้เข้ากับเสื้อผ้าของเธอ มันทำให้ลี่จุนซินดูสวยหวานและยังมีความเท่เหมือนฮีโร่อีกด้วย

ถึงจะเป็นชุดกางเกง แต่ก็ไม่ได้ดูขัดกับมงกุฎบนหัวของเธอเลย แถมยังทำให้ลี่จุนซินดูเหมือนราชินีเลยล่ะ

เพื่อให้เข้ากับลี่จุนซิน เวียร์เองก็ใส่ชุดสูทสีขาว ที่เอวเองก็ยังปักชื่อของลี่จุนซินเป็นภาษาอังกฤษด้วย

ทั้งสองคนยืนอยู่บนเวที ดูเป็นสาวสวยและหนุ่มหล่อ ดูเข้ากันเป็นอย่างมาก

หลังจากที่เวียร์จูงมือลี่จุนซินไปถึงบนเวที ก็เดินไปที่เปียโนข้างๆ ด้านล่างเวที จากนั้นก็นั่งลง แล้วเริ่มเล่นเปียโน

“《MarryU》เพลงนี้ ขอมอบให้ผู้หญิงที่ฉันรักมากที่สุด เพลงนี้เป็นเพลงที่เธอชอบมากที่สุด วันนี้ฉันจะเล่นเปียโนเพื่อเธอ เพื่อขอให้เธอแต่งงานกับฉัน”

ลี่จุนซินไม่รู้เลยว่ามีช่วงนี้ด้วย เวียร์ไม่เคยบอกกับเธอเลย

เธอมองชายที่ตัวเองรักที่สุดเล่นเพลงนี้ให้ตัวเอง ก็ซึ้งใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะยืนบนเวทีก็อดไม่ได้ที่จะโยกตัวไปตามจังหวะเบาๆ

หลังจากที่เล่นเสร็จแล้ว เวียร์ก็ลุกขึ้นมา ก่อนจะหยิบไมค์บนเวทีแล้วเดินไป

“ฉันเดินผ่านสะพานมาหลายสาย เห็นเมฆมามากมาย ดื่มน้ำเมามาก็ไม่น้อย แต่กลับรักเพียงคนในเวลาที่เหมาะสมเพียงคนเดียว”

เมื่อคิดถึงฉากเปิดมากมาย ที่แท้มันก็เกิดขึ้นได้เพียงในฝันที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว

เวียร์เอามือทั้งสองมากุมไว้ที่ด้านหน้า ด้วยท่าทีเคารพเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดจาหวานๆ แต่กลับพูดคำที่จริงใจ และทำให้คนอบอุ่นใจ และซึ้งใจมากที่สุด

จากนั้นลี่จุนซินก็ใจเย็นลงอีกครั้ง ในสถานการณ์แบบนี้ เลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมึนไป เพราะในสมองก็คิดไปเรื่อยอย่างไม่หยุดหย่อน สิ่งที่จำได้มีแต่ความดีของเขา คนเรานี่แปลกเสียจริง

ลี่จุนซินไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรออกไป อยากจะฟังให้ชัดแต่ก็รู้สึกไกลแสนไกล เพราะเห็นเพียงเขาอ้าและหุบปากเท่านั้น

เหมือนกับว่ากำลังจะถึงเป้าหมายแล้วก็ถูกพังทลายลง เลยทำได้เพียงมองจากไกลๆ โดยที่ไม่มีแรง

เธอตกอยู่ในภวังค์ จากนั้น ทางที่เดินไปหาเวียร์นั้นเป็นแบบคู่ขนานแทนที่จะเป็นเส้นขนาน

เวียร์เหมือนกับค่อยๆ เดินขึ้นมาจากตอนยุคกลางเรื่อยๆ ลี่จุนซินรู้สึกว่ารอบๆ ตัวเขามีแสงสว่างไปรอบๆ อย่างแปลกประหลาด เปรียบเสมือนแสงสีทองอ่อนๆ กับยามเย็นในฤดูร้อนของอิตาลี ที่ตกกระทบขนตาสีดำของเขา

“การเรียกของชาวไต้หวันดั้งเดิมนั้นภรรยาของพวกเขาคือ ‘การผูกข้อมือ’ ฉันเองชอบการเรียกแบบนี้มาก” เวียร์พูดกับคนที่นั่งอยู่ จากนั้นก็เดินมาอยู่ต่อหน้าเธอ แสงสปอตไลต์ก็ส่องมา อยู่ที่ทั้งสองคน

“จับมือเดินไปด้วยกัน จนแก่เฒ่า” เขายื่นมือมา ก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อย อีกมือหนึ่งไขว้หลังเอาไว้ แล้วก็เม้มปากเล็กน้อยด้วยความสง่างาม ก่อนจะยิ้มขึ้นเบาๆ

บรรดาผู้ที่ครื้นเครงในงานเริ่มตื่นตัวในทันที บางคนล้อเลียน บางคนโห่ร้อง บ้างก็ทำท่านับถือ มีหลากหลายแบบ

แต่ ลี่จุนซินนั้นรู้ดี ความโค้งของมุมปากในตอนนี้เป็นมุมปากที่กำลังปกปิดความเครียดของเขาอยู่

ลี่จุนซินยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นจับฝ่ามือของเขา

ความรู้สึกที่จริงใจนั้น มันกุมอยู่ในมือ เวียร์ค่อยๆ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง ก่อนจะหยิบแหวนออกมาใส่ให้ลี่จุนซิน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยทำแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าเขาก็ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม

ตอนแรก ที่ลี่จุนซินเห็นช่วงนี้มาก่อนแล้ว ก็เคยปรึกษากับเวียร์ว่าจะลบช่วงนี้ออก เพราะถึงอย่างไรก็เคยขอไปครั้งหนึ่งแล้ว

แต่ว่าเวียร์นั้นไม่เหมือนกัน เขายังคงคิดว่าคราวก่อนหน้านี้ไม่ได้ดีเท่าที่ควร เลยอยากจะลองใหม่อีกครั้ง

เวียร์ลุกขึ้น ก่อนจะโค้ง มากระซิบข้างๆ หูของเธอ:

“มืออ่อนนุ่มราวกับในฤดูใบไม้ผลิ ผิวเหมือนขาวและชุ่มชื้น ส่วนคอก็เรียวสวย และฟันก็เป็นระเบียบ หน้าผากอวบอิ่มและรอยยิ้มหวาน และดวงตาก็น่าหลงใหล(《คัมภีร์ซือจิง·กั๋วเฟิง·เว่ยเฟิง·โซว่เหริน》)เมื่อได้พบก็ยากที่จะลืม วันใดที่ไม่ได้พบ ก็คิดถึงแทบขาดใจ”

เมื่อพูดจบ เวียร์ก็มองเธอไม่ห่าง

ลี่จุนซินยืนขึ้นด้วยความหนักแน่น ก่อนจะเขย่งขึ้นมาเล็กน้อย แล้วกระซิบที่หู: “การจะเป็นสุภาพบุรุษที่ดีนั้นต้องผ่านอะไรมามากมาย ต้องเรียนรู้และขัดเกลามากมาย(《คัมภีร์ซือจิง·กั๋วเฟิง·เว่ยเฟิง·ฉีอ้าว》)”

เวียร์พลิกมือโอบเอวของเธอ ใบหน้าด้านข้างเหมือนหยกสวย : “เดี๋ยวคงจะต้องเชิญทุกท่านมาดื่มฉลองด้วยกันสักหน่อย”

ดูดี และเป็นที่อิจฉาของผู้คนมากมาย แสงไฟสาดส่อง ทั้งสองคนจูบกัน ส่วนคนที่อยู่ด้านล่างก็ส่งเสียงเชียร์ดังขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่ทั้งสองคนลงมาจากเวที ลี่จุนซินก็รีบถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย

“ที่รัก คุณท่อง《คัมภีร์ซือจิง》เป็นได้อย่างไร?”

เวียร์โอบลี่จุนซิน เขาเห็นท่าทีสงสัยของลี่จุนซินดูน่ารักมาก เลยอดไม่ได้ที่จะจุ๊บไปหนึ่งที

“คุณลืมแล้วเหรอว่าหม่ามี๊ของฉันชอบวัฒนธรรมตะวันออกเป็นอย่างมาก เธอเลยสอนฉันท่อง《คัมภีร์ซือจิง》ตั้งแต่ยังเล็ก แต่ก็ไม่ได้ไปแตะมันมานานหลายปีแล้วล่ะ”

“ฉันไปสืบมาจากแม่ของคุณ เลยรู้ว่าคุณชอบ《คัมภีร์ซือจิง》เป็นอย่างมาก ดังนั้นเลยท่องใหม่อีกครั้ง ถึงแม้ว่าตอนเด็กๆ จะเคยท่อง แต่ว่าครั้งนี้ยากกว่ามาก คุณจะต้องชดเชยให้ฉันนะ”

เมื่อลี่จุนซินได้ฟัง ก็รู้ว่าเขานั้นท่องมาเพื่อตัวเอง เลยซึ้งใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะเขย่งเท้ามาเพื่อจุ๊บเขา “ที่รัก ขอบคุณนะ”

ก่อนหน้านี้ที่ลี่จุนซินเจอกับช่วงนี้นั้น ก็รู้ว่าเวียร์จะสารภาพรักกับตัวเอง แต่ว่าไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาจะพูดคืออะไร

ตอนแรก เธอพยายามถามเวียร์ตั้งนาน เวียร์เอาแต่บอกว่าเขายังไม่ได้เตรียมพร้อม หลายวันมานี้เลยทำให้ลี่จุนซินไม่พอใจ

แล้ววันนี้เขาเล่นเปียโนให้เธอ แถมยังเป็นเพลงที่เธอชอบที่สุดด้วย แถมก่อนหน้านี้เวียร์เองก็ไม่ได้บอกเธอว่ามีช่วงนี้ด้วย

เมื่อเวียร์วางเธอลงจากบนเวที แล้วเดินลงไปคนเดียว เธอก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก เธอคิดว่าเวียร์ไม่อยากจะหมั้นกับเธอแล้ว

หลังจากที่ทั้งสองกระซิบกระซาบกันเสร็จ ก็เดินออกไปด้านนอกเพื่อรับแขก

เมื่อเห็นว่าพวกเขาออกมา ทุกคนก็ต่างมามุงดูกัน พลางอวยพรพวกเขาต่างๆ นานา พวกลี่จุนซินเองก็ยิ้มแย้ม

เมื่อลี่จุนถิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พวกเขาเห็นแบบนี้ ก็ยิ้มตามไปด้วย ทุกคนต่างรู้ดี ว่าลี่จุนถิงนั้นไม่ค่อยยิ้ม แต่วันนี้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก