ตอนที่ 1377 อู๋เย่า (3) / ตอนที่ 1378 อู๋เย่า (4)
ตอนที่ 1377 อู๋เย่า (3)
เวลาเห็นนางขมวดคิ้ว เขาก็จะปวดใจ เวลาเห็นนางดื้อรั้น เขาก็จะรู้สึกหมดหนทาง
นั่นเป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เย่าได้รู้ว่าความรู้สึกของเขาได้รับผลกระทบจากคนอื่น และความรู้สึกพวกนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี
ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับจวินอู๋เสียชั่วคราว แต่เขาก็เป็นห่วงความปลอดภัยของนาง จึงทิ้งเยี่ยซาเอาไว้ให้อยู่ข้างกายนาง คอยปกป้องนาง
จนกระทั่งที่เทือกเขาเมฆา ตอนที่เยี่ยซาระเบิดตัวเอง และจวินอู๋เสียพบกับอันตราย
พอเขาสัมผัสได้ เขาก็อยากจะวิ่งเข้ามาอยู่ข้างกายนางในทันทีที่ทำได้จนแทบทนไม่ไหว
ความรู้สึกสับสนเหล่านั้นเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ไม่ได้รับการควบคุม มันพลุ่งพล่านเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้
จนกระทั่งเขาได้เห็นนางและโอบกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน เขาถึงได้รู้สึกพอใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
นับจากนั้นเป็นต้นมา จวินอู๋เย่าก็เลิกห้ามตัวเอง และยอมรับความรู้สึกที่เขามีต่อนาง ไม่ว่ามันจะคืออะไรก็ตาม
เขาเต็มใจอย่างยิ่งที่จะปกป้องเด็กน้อยของเขา
ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เขาก็ไม่อยากหนีอีกต่อไปแล้ว
จวินอู๋เย่าอาจจะยังไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนั้นเรียกว่าอะไร แต่มีอย่างหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับเขามาก นั่นคือ เขาอยากอยู่กับเด็กน้อยของเขา ไม่ว่าจะที่ไหนหรือเมื่อไร เขาอยากทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับนาง ใช้ทุกสิ่งที่เขามีเพื่อปกป้องนาง
เขาไม่สามารถบรรยายออกมาได้ว่าความรู้สึกเหล่านั้นคืออะไร แต่เขารู้ อักษรสามตัวที่อ่านว่า ‘จวินอู๋เสีย’ กลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ประทับอยู่ในตัวเขาตลอดชั่วนิรันดร์
ความคิดทั้งหมดหมุนวนอยู่ในใจเขาด้วยความเร็วแสง ในที่สุดจวินอู๋เย่าก็ถอนริมฝีปากออก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าทำได้เขาอยากจะให้ช่วงเวลานั้นดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุด
“ข้าชอบให้เจ้าเรียกอย่างนั้น”
‘อู๋เย่า’ ชื่อของเขา ไม่ว่าในอดีตเขาจะเป็นใคร นับจากนี้เป็นต้นไป เขาคือจวินอู๋เย่า จวินอู๋เย่าที่เป็นของนางแต่เพียงผู้เดียว
เขายอมทิ้งโลกทั้งใบเพื่อเป็นคนเดียวในใจนาง
แก้มทั้งสองข้างของจวินอู๋เสียเป็นสีชมพูระเรื่อ แต่นางไม่ได้แสดงอาการเขินอายใดๆ ขณะที่มองจวินอู๋เย่าด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
เมื่อก่อนนางไม่รู้ว่าจะหัวเราะอย่างไร แต่ตอนนี้นางเริ่มคุ้นเคยกับการยิ้มให้เขาแล้ว
พวกเขาสองคนเข้าใจกันโดยไม่จำเป็นต้องพูด บางคำไม่จำเป็นต้องพูดออกมา ก็เข้าใจกันและกันแล้ว
คำกระซิบหวานหูหรือคำมั่นสัญญาถึงความรักชั่วนิรันดร์ ยังคงเทียบไม่ได้กับสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างหัวใจสองดวง
เมื่อความรู้สึกลึกซึ้งถึงขนาดนี้ คำพูดคำเดียวก็เป็นคำที่ไพเราะที่สุดแล้ว
“ถ้าท่านชอบ ก็ช่วยหาของให้เสี่ยวเจว๋หน่อยสิ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น เอาเปรียบนางไปแล้ว ยังไม่ตอบแทนในส่วนของเขากลับมาอีกหรือ
จวินอู๋เย่าหัวเราะเบาๆ สีหน้าของจวินอู๋เสียมีการแสดงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับท่าทางเย็นชาของนางในตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก ตอนนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาก และสิ่งที่เขาดีใจที่สุดก็คือ เขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในตัวนางด้วยตาของตัวเอง
โชคดี…
ที่ไม่ได้พลาดไป
“ข้าน้อยรับคำสั่งคุณหนูใหญ่ขอรับ” จวินอู๋เย่าแกล้งล้อเลียนจวินอู๋เสีย เขาทำหน้าเคร่งขรึมราวกับกำลังรับคำสั่งอย่างเชื่อฟัง
เยี่ยกูแทบกระอักโลหิตออกมาจากภาพที่เห็น เขาตะลึงค้างไปทั้งตัวแล้ว
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยตบบ่าเยี่ยกูด้วยความเห็นใจ
เดี๋ยวเขาก็ชินเองแหละ
หลังจากได้รับ ‘กำลังใจ’ จากจวินอู๋เสีย จวินอู๋เย่าก็หยุดหาของวิเศษที่เหมาะสมสำหรับจวินอู๋เสีย และหันไปมองเสี่ยวเจว๋ที่ยืนหัวหดอยู่ข้างๆ
เสี่ยวเจว๋กลัวจวินอู๋เย่าโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เขาไม่กล้าขยับตัวมากเกินไปเมื่อเห็นจวินอู๋เย่าอยู่ตรงหน้า ภาพของเด็กน้อยที่ยืนหวาดกลัวทำให้คนที่เห็นรู้สึกอยากโอบกอดเขาไว้ในอ้อมแขนเพื่อปลอบโยนเขา
น่าเสียดายที่อ้อมกอดของจวินอู๋เย่ามีไว้ให้จวินอู๋เสียเพียงคนเดียวเท่านั้น
“หยกสงบวิญญาณเป็นของวิเศษที่ใช้ฟื้นฟูจิตวิญญาณ แต่ที่นี่มีของที่ดีกว่านั้น เจ้าหนู วันนี้ข้าอารมณ์ดี เพราะอย่างนั้นข้าจะเลือกของดีให้เจ้า” จวินอู๋เย่าหัวเราะ น้ำเสียงของเขาราวกับกำลังบอกทุกคนว่า วันนี้เขาอารมณ์ดีมากจริงๆ!
ตอนที่ 1378 อู๋เย่า (4)
เสี่ยวเจว๋ไม่กล้าแม้แต่จะพูด เขามองไปที่จวินอู๋เย่าเหมือนกำลังจะร้องไห้
ในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมีของวิเศษทุกประเภทมากมายเกินกว่าจะนับได้
จวินอู๋เสียไม่ได้คิดแค่ให้เสี่ยวเจว๋ฟื้นตัวเท่านั้น ยังมีอีกสองคนที่นางกังวลอยู่ในใจไม่แพ้กัน
คนหนึ่งคือ จวินกู้ บิดาของนางที่หยกสงบวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งได้รักษาร่างกายของเขาเอาไว้
ส่วนอีกคนก็คือ เยี่ยนปู้กุย อาจารย์ของนางที่สำนักศึกษาหงส์อมตะ
นางไม่มีวิธีทำให้จวินกู้ฟื้นขึ้นมาได้ จึงได้ตั้งความหวังไว้กับจวินอู๋เย่าในการค้นหาของวิเศษเพื่อการนี้ ในส่วนปัญหาของเยี่ยนปู้กุยนั้นแก้ไขได้ง่ายกว่ามาก
ก่อนที่นางจะเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่แห่งนี้ จวินอู๋เสียสังเกตเห็นว่าหลังประตูหลายบานที่พวกเขาเดินผ่านไป มีสมุนไพรและโอสถวิเศษเป็นจำนวนมากที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี สมุนไพรหลายชนิดเป็นสิ่งที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน และบางชนิดนางจำได้ว่าเป็นพันธุ์ที่มีค่าสูงและเป็นที่ต้องการอย่างมาก และยังมีอีกหลายชนิดที่เยี่ยนปู้กุยต้องการ
ก่อนหน้านี้นางไม่มีเวลาดูพวกมันอย่างละเอียด เนื่องจากพวกเขายังค้นหาของวิเศษกันอยู่ แต่ตอนนี้นางมีเวลาว่างไปตรวจสอบพวกมันแล้ว
จากนั้นจวินอู๋เสียก็ก้าวเท้าออกจากห้องโถงใหญ่ จวินอู๋เย่าเหลือบมองไปที่เยี่ยซากับเยี่ยเม่ย ทั้งสองคนคว้าแขนเยี่ยกูขึ้นมาทันทีและวิ่งไปหาจวินอู๋เสีย
“คุณหนูใหญ่! ท่านกำลังจะไปไหนขอรับ” เยี่ยซาถามด้วยความเคารพ
“ไปหาสมุนไพร” จวินอู๋เสียมองไปที่เยี่ยกูซึ่งถูกเยี่ยซากับเยี่ยเม่ยจับไว้ ร่างกายของเขาเป็นเด็กอายุสิบสองปี เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยร่างสูงใหญ่ ถูกสองคนนี้จับเอาไว้ เท้าของเยี่ยกูจึงไม่ได้แตะพื้นเลย
“แค่ก เราจะไปกับท่านด้วย ที่นี่ใหญ่โต พาเขามากับเรา คุณหนูใหญ่จะหาของได้สะดวกกว่าขอรับ” เยี่ยเม่ยพูด
จวินอู๋เสียมองทั้งสามคนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า
พวกเขาเดินออกจากห้องโถงใหญ่ได้ไม่นาน เยี่ยเม่ยก็เริ่มถามว่าจวินอู๋เสียต้องการหาสมุนไพรชนิดใด จากนั้นก็แอบบอกให้เยี่ยกูชี้ทางให้ เพื่อจะให้จวินอู๋เสียหาได้ง่ายขึ้น
จวินอู๋เสียและทั้งสามคนออกมานอกห้องโถงแล้ว และกำลังยืนอยู่ที่ทางเดิน เมื่อเห็นความเอาใจใส่ที่เยี่ยซาและเยี่ยเม่ยมีต่อนางแล้ว จวินอู๋เสียก็หยุดฝีเท้าในทันที
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยก็หยุดเช่นกัน พวกเขาไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียต้องการทำอะไร
จวินอู๋เสียหันกลับมามองทั้งสามคน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ปล่อยเขาลง”
“ฮะ” เยี่ยเม่ยตกใจเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าจวินอู๋เสียกำลังพูดถึงเยี่ยกู
เยี่ยซากลับพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมจริงจังว่า “คุณหนูใหญ่ขอรับ เจ้านี่แข็งแกร่งมาก ถ้าปล่อยเขา แล้วเขากลับคำขึ้นมา ข้าเกรงว่า…”
จวินอู๋เสียมองเยี่ยซาอย่างเย็นชา เยี่ยซาหุบปากทันที
“ถ้าเขากลับคำพูดจริงๆ เจ้าสองคนก็หยุดเขาไม่ได้อยู่ดี” จวินอู๋เสียพูด
สีหน้าตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเยี่ยซาและเยี่ยเม่ยทันที
คุณหนูใหญ่มองออกได้อย่างไร
“ไม่เป็นไร ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยแล้ว ไม่จำเป็นต้องแสดงละครแล้ว ปล่อยเขาลง จะได้เดินเร็วขึ้น” จวินอู๋เสียพูดอย่างเสียไม่ได้ หลังจากเข้ามาในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ นางก็รู้สึกว่าสติปัญญาของนางโดนดูถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เยี่ยซาและเยี่ยเม่ยตกใจกับคำพูดของนาง แม้ว่าพวกเขาจะเดาว่าจวินอู๋เสียรู้ตัวจริงของนายท่านแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจนัก
แต่ด้วยคำพูดที่เพิ่งออกจากปากจวินอู๋เสียนี้ สิ่งที่พวกเขาเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการยืนยันทันที
คุณหนูใหญ่รู้แล้วแน่นอน!
“ไอ้เวรสองตัวนี้นี่! ยังจับข้าไว้ทำไม! ถ้ายังอยากแสดงละครโง่ๆ ต่อ ก็ทำกันเอง! ไม่ต้องลากข้าเข้าไปด้วย!” เยี่ยกูรู้ว่าการแสดงของเขาถูกมองออกแล้ว เขาก็ยกเท้าเตะไปที่ด้านหลังของเยี่ยซาและเยี่ยเม่ยทันที! จากนั้นก็ลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคงพร้อมกับมองไปที่จวินอู๋เสียด้วยสีหน้าหงิกงอ