บทที่ 739 ริษยาจนอยากจะฉีกทึ้ง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 739 ริษยาจนอยากจะฉีกทึ้ง

บทที่ 739 ริษยาจนอยากจะฉีกทึ้ง

ซูอันสูญเสียคำพูดเมื่อเห็นความตื่นเต้นดีใจของแม่ชียุง มังกรในโลกนี้ถือว่าอ่อนแอจริงเหรอ?

ถ้านางไม่กลัวเมื่อข้าบอกว่ามาจากเผ่ามังกรก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมนางต้องตื่นเต้นขนาดนี้…?

เขาเริ่มสงสัยว่ามังกรมีสถานะอย่างไรกันแน่ในโลกนี้…

อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะคิดถึงสิ่งเหล่านี้ ซูอันผลักชิวฮัวเล่ยออกไปในขณะที่แม่ชียุงพุ่งเข้ามาหาเขา และตัวเองก็หลบไปอีกทางหนึ่ง

แม่ชียุงเคยเห็นทักษะการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มมาก่อนแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่แปลกใจที่เขาหลบเลี่ยงการโจมตีได้ และนางยังคงไล่ตามอย่างใจเย็นพยายามจะจับเขาให้ได้

ซูอันใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันไปหลายครั้ง แม้ว่าจะสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของนางได้ในตอนนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากนางได้โดยสิ้นเชิง คู่ต่อสู้ของเขาเกาะติดอย่างดื้อรั้นตลอดเวลา

ซูอันเหงื่อออกจนเย็นไปหมด หลายครั้งที่ตัวเองเกือบถูกเล็บที่แหลมคมของนางจับตัวไว้ แน่นอนว่าทั้งระดับการบ่มเพาะและประสบการณ์การต่อสู้ของคู่ต่อสู้ของเขานั้นสูงกว่าเขามาก ดังนั้นการหลบหลีกจึงยากขึ้นเรื่อย ๆ

“ข้าจับเจ้าได้แล้ว!” แม่ชียุงยิ้มอย่างพอใจ และกางอุ้งมือหมายจะจับไหล่ของเขาอย่างรวดเร็ว

นี่เป็นช่วงเวลาที่ซูอันไม่สามารถหลบหลีกได้ มันคือเสี้ยววินาทีที่ชายหนุ่มกำลังเปลี่ยนแปลงท่าการเคลื่อนไหว

ขณะที่แอบสบถอยู่ในใจ กระบี่ยาวเล่มหนึ่งก็พุ่งมาสกัดกั้นการโจมตีอันตรายนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“นังจิ้งจอกน้อย เจ้าอยากตายงั้นเหรอ!”

ดวงตาของแม่ชียุงเบิกกว้างขณะที่นางจ้องมองที่ชิวฮัวเล่ย ในที่สุดนางก็กดดันซูอันมากพอที่คว้าโอกาสไว้ได้ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับทำลายโอกาสทั้งหมดของนาง

ทักษะการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดของซูอันนั้นยากจะรับมือ ดังนั้นมันจึงยิ่งเป็นเรื่องยากมากกว่าเดิมในการที่นางจะมีโอกาสจับซูอันได้เช่นนี้อีกในครั้งต่อไป

ยิ่งนางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ความเกลียดชังของนางก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น นางพุ่งออกไปด้วยเจตนาฆ่า

นางยังคงยั้งมือเมื่อต่อสู้กับซูอันก่อนหน้านี้ เพราะอีกฝ่ายครอบครองวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ แต่ชิวฮัวเล่ยแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

นางต้องการแค่โคมจักพรรดินีของอีกฝ่ายเท่านั้น สำหรับตัวชิวฮัวเล่ยแล้ว ไม่สำคัญเลยว่าจะอยู่หรือตาย

ยิ่งไปกว่านั้น นางมีความเกลียดชังต่อผู้หญิงที่สวยกว่านางเป็นอย่างมาก!

แม่ชียุงรู้สึกโกรธทุกครั้งที่เห็นใบหน้าที่งดงามขนาดล่มเมืองของชิวฮัวเล่ย และทุกครั้งที่นางเห็นความหลงใหลในสายตาของทุกคนที่มองไปที่อีกฝ่าย นางไม่เพียงต้องการจะฆ่าชิวฮัวเล่ยเท่านั้น แต่นางต้องการถลกหนังออกมาด้วย

มาดูกันว่าเจ้าจะยั่วยวนผู้ชายต่อไปได้อย่างไร!

ชิวฮัวเล่ยตกตะลึงกับการโจมตีที่โหดเหี้ยมนี้ นางยกกระบี่ขึ้นป้องกันอย่างรวดเร็ว

น่าเสียดายที่ความแตกต่างของระดับการบ่มเพาะนั้นมากเกินไป เล็บของแม่ชียุงหักกระบี่ยาวของนางได้อย่างง่ายดายก่อนจะยืดยาวพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของชิวฮัวเล่ย

แม่ชียุงต้องการที่จะฉีกใบหน้าที่สวยงามแต่น่าขยะแขยงสำหรับนางนี้ให้หายลับ!

ขณะที่กระบี่หัก พลังชี่ของชิวฮัวเล่ยตกอยู่ในความปั่นป่วน นางไม่สามารถรวบรวมกำลังใด ๆ เพื่อปกป้องตัวเองได้

จิตใจของนางว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิงขณะที่จ้องมองไปที่ประกายเย็นวาบของเล็บยาวเหล่านั้น นางสัมผัสได้ถึงความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว

แต่ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็กระโดดมาบังด้านหน้าเอาไว้และโอบนางไว้ในอ้อมแขน โดยใช้หลังของเขารับกรงเล็บที่เฉือนเข้ามาอย่างไร้การป้องกัน

อ๊าก!

แม้ว่าร่างกายของซูอันจะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปจากวิชาปฐมบทแรกเริ่ม แต่เขาก็ยังถูกเล็บที่แหลมคมของแม่ชียุงกระชากเนื้อหลุดออกเป็นชิ้น ๆ จนเกิดเป็นร่องลึกห้าร่องยาวบนหลังของเขาพร้อมกับเลือดที่กระสาดกระเซ็นมากมาย

แม่ชียุงตกตะลึงชั่วขณะ จากนั้นก็คำรามด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว เจ้าจะทิ้งชีวิตของตัวเองเพราะนางเหรอ!?”

ในฐานะผู้หญิง นางไม่เคยมีประสบการณ์ที่ผู้ชายสละตัวเองเพื่อปกป้องนางมาก่อน ดังนั้นการได้เห็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้ในสิ่งที่นางไม่เคยได้รับทำให้นางโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง

ท่านยั่วยุแม่ชียุงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 1024!

ซูอันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าแม่ชียุงได้โจมตีชิวฮัวเล่ยด้วยเจตนาฆ่าที่ชัดเจนกว่ามากเมื่อเทียบกับระหว่างที่นางโจมตีเขา

ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเพราะนางต้องการวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ นางจึงไม่อาจฆ่าเขาได้ในทันที…

ด้วยเหตุผลนี้และความแกร่งของร่างกายของตัวเอง เขาจึงเลือกที่จะสกัดกั้นการโจมตีที่ร้ายแรงนี้แทนชิวฮัวเล่ย

และแน่นอน ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะยอมเสียโอกาสที่จะเรียกร้องความซาบซึ้งใจเพิ่มขึ้น เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของชิวฮัวเล่ยและกล่าวว่า “แน่นอน! ถ้านางตายไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ข้าจะมีชีวิตอยู่!”

“อาซู!” ชิวฮัวเล่ยน้ำตาคลอเบ้าในทันที นางชินชากับคำเยินยอหน้าซื่อใจคดของพวกผู้ชายในสำนักศักดิ์สิทธิ์และที่หอสุขนิรันดร์ และไม่เคยเชื่อคำพวกนี้เลย

แต่ในช่วงเวลานี้เมื่อได้เห็นซูอันเสียสละตัวเองเพื่อนาง แล้วพูดคำดังกล่าวพร้อมด้วยเลือดที่ไหลออกจากปากของเขา มันรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของนางถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบตี นางถูกครอบงำด้วยอารมณ์ลึกซึ้งอย่างเต็มที่

แม่ชียุงรังเกียจการแสดงความรักนี้ ใบหน้าของนางมืดหม่น นางต้องฆ่าชิวฮัวเล่ยให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพื่อระงับความโกรธของนาง!

ในเวลานี้ ในที่สุดเหล่าแปดเดียวดายที่เหลือก็เริ่มฟื้นตัวและรีบวิ่งเข้ามา

แม่ชียุงรู้สึกเบื่อหน่ายกับพวกเขามากกว่า นางเปิดปากโดยสัญชาตญาณเพื่อใช้การโจมตีด้วยคลื่นเสียง แต่ทันทีที่เสียงหึ่งดังออกมา นางก็ได้ยินประโยคเดิม

“แกมองอะไร?”

“ข้ากำลังมองแกไง ไอ้โง่!”

ในที่สุดแม่ชียุงก็ได้ลิ้มรสความเจ็บปวดเดียวกับมังกรเฒ่า และสิ่งที่ทำให้นางโกรธมากยิ่งขึ้นก็คือ ซูอันไม่หยุดนางก่อนที่จะเริ่มใช้ทักษะนี้ แต่กลับหยุดนางในเวลาที่นางอ้าปากพ่นเสียงออกไปได้นิดหน่อยแล้ว

นี่หมายความว่านางต้องหยุดทักษะไม้ตายนี้ของนางกลางคันอย่างกะทันหันเพื่อตอบโต้ด้วยประโยคที่งี่เง่านั้น ซึ่งมันส่งผลให้คลื่นเสียงที่นางกำลังปล่อยออกไปมันตีกลับเข้ามาในหัวของนางเอง ทำให้เกิดคลื่นกระแทกจำนวนมากวนเวียนอยู่ในหัว

ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีระดับการบ่มเพาะอันสูงส่ง ป่านนี้นางคงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนกระอักเลือดแล้ว

ถึงอย่างนั้น การถูกขัดจังหวะหลายครั้งติดต่อกันก็ทำให้รู้สึกแย่มาก และทำให้นางไม่สามารถใช้ทักษะนี้ต่อเนื่องได้อีก

แปดเดียวดายใช้โอกาสนี้ประเคนวิชาทั้งหลายของพวกเขาเข้าใส่แม่ชียุง สายฟ้าเดียวดายกวัดแกว่งค้อนขนาดใหญ่ของนางและเรียกชิวฮัวเล่ย “บุตรีสวรรค์รีบพาซูอันหนีไป! เราจะจัดการนางเอง!”

พวกเขารู้ว่าแม่ชียุงกำลังติดตามซูอันและโคมจักรพรรดินี ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่พวกเขาต้องปกป้องด้วยชีวิตด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน

คนหนึ่งครอบครองวิชาลับที่เจ้าสำนักต้องการ

อีกคนหนึ่งคือบุตรสวรรค์ซึ่งสูงส่งยิ่งกว่าใคร

ชิวฮัวเล่ยเข้าใจดีว่าสถานการณ์ขณะนี้สำคัญเพียงใด และกังวลเรื่องอาการของซูอันด้วย นางพยักหน้าและพูดว่า “ทุกคนรักษาตัวด้วย!”

จากนั้นนางก็หายตัวไปในความมืดมิดของราตรีอย่างรวดเร็วโดยมีซูอันอยู่ในอ้อมแขนของนาง