บทที่ 722 จึงจะแก้แค้นได้ดียิ่งขึ้น

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

ณ โรงแรมเคมปินสกี้ที่อยู่ในประเทศ ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนวีลแชร์ ซ่อนตัวอยู่ในความมืด

ถึงแม้เขาจะซ่อนตัวอยู่ในความมืด แต่ผมสีเงินนั้นกลับสะดุดตาอย่างมาก

“สืบได้อะไรแล้วบ้าง?” เสียงของเขาแหบพร่า คล้ายคนที่ท่องเที่ยวอยู่ในทะเลทรายไม่ได้แล้วกินน้ำมานาน เสียงแหบพร่าอย่างมาก

“ลี่จุนถิงปกป้องภรรยาของตน รักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น อีกทั้งรอบตัวยังมีคนมากมาย พวกเราไม่สามารถเข้าใกล้ผู้หญิงคนนั้นได้”

“เศษสวะ! พวกแกมันเศษสวะ!” คนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์โมโห ใช้มือตบที่วางแขนบนวีลแชร์อย่างแรง

คนที่รายงาน กลัวจนถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยังกัดฟันสู้ รายงานต่อไปด้วยความสั่นเทา

“หัวหน้าครับ ผมคิดว่าพวกเราสามารถใช้วิธีการอื่น เพื่อเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา”

คนๆนี้ยืนอยู่ด้านหลังคนที่เขาเรียกว่า “หัวหน้า” พูดด้วยความเคารพนับถือ

“ใช้วิธีอะไร?” เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า

“ความสัมพันธ์ระหว่างลี่จุนถิงและน้องชายต่างแม่แย่มาก อีกทั้งพ่อของเขารักน้องชายของเขามาก พวกเราสามารถจับตัวน้องชายของเขามาได้ครับ”

ชายที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด นัยน์ตาของเขาคล้ายกระหายเลือดอย่างมาก แผ่รังสีอันตราย เสียงทั้งแหบพร่าและเคียดแค้น

“ครั้งนี้ ฉันไม่ต้องการแค่ผู้หญิงคนนั้น ฉันต้องการทั้งตระกูลลี่ ฉันต้องการให้ทุกคนในตระกูลลี่ ตายเพื่อชดใช้ให้กับเบ็ตตี้และขาทั้งสองข้างของฉัน

ถูกต้อง คนๆนี้ก็คืออาเะอร์ หลังจากที่ขาของเขาบาดเจ็บ เขาก็ติดต่อกับคนของสิงโม่มาโดยตลอด ในตอนหลังซ่อนตัวอยู่บนเกาะร้าง จึงสลัดพวกสิงโม่ได้สำเร็จ

ความเป็นจริง คนที่ไปบนเกาะร้างนั้นไม่ใช่อาเธอร์ แต่เป็นลูกน้องของอาเธอร์ปลอมตัวเป็นเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้อาเธอร์ไม่ได้ออกนอกเม็กซิโก เขาและลูกน้องของเขาแยกกันอยู่คนละที่

เพราะมีคนติดตามเขามากเกินไป เขาก็ยิ่งถูกพบได้ง่ายขึ้น

เขาปลอมตัวเป็นคนแก่ที่พิการ อยู่ในวิลล่ากลางเมืองเม็กซิโกตามลำพัง ทุกครั้งที่เขาออกไปด้านนอกล้วนปลอมตัวเสร็จแล้วค่อยออกไป

ติดต่อกับลูกน้องผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น เพราะพวกเขาเปลี่ยนที่ซ่อนตัวตลอดเวลา ดังนั้นสิงโม่จึงไม่สามารถส่งคนของตนเข้ามาแทรกแซงอยู่กับพวกเขาได้

อีกทั้งสิงโม่คิดไม่ถึงว่า อาเธอร์ที่ไปไหนมาไหนไม่สะดวกขนาดนี้แล้ว ยังจะแยกกับลูกน้องของตนแล้วเคลื่อนไหว ครั้งนี้ สิงโม่ประมาทศัตรูไปแล้วจริงๆ อีกทั้งก็พิสูจน์แล้วว่าอาเธอร์เป็นคนที่เจ้าเล่ห์มาก

อาเธอร์บอกให้คนที่อยู่ด้านหลังเข็นเขาไปที่ริมหน้าต่าง เปิดม่าน อาเธอร์มองทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่อยู่ภายนอก ถนนด้านล่างเต็มไปด้วยรถขับเคลื่อนไปมา เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

มองทิวทัศน์ที่สวยงามยามค่ำคืนด้านนอก อาเธอร์ยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขาน่ากลัวอย่างมาก

“ฉันจะทำให้พวกมันกลายเป็นหุ่นเชิดของฉัน พวกแกรู้ ทีมแพทย์ที่ฉันก่อตั้งขึ้นมา ตอนนี้กำลังวิจัยน้ำยาชนิดหนึ่ง น้ำยาชนิดนี้สามารถทำให้พันธุกรรมของมนุษย์แข็งแกร่งขึ้นได้”

“ถึงเวลานั้น ฉันจะทำให้พวกมันกลายเป็นหนูทดลองของฉัน ฉันจะทำให้ลี่จุนถิงกลายเป็นอาวุธในการฆ่าคนของฉัน”

อาเธอร์พอจะจินตนาการได้แล้ว ภาพวันข้างหน้าที่เขาควบคุมลี่จุนถิงเอาไว้ได้ มองไปนอกหน้าต่างพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง แต่เพราะเสียงของเขาแหบพร่ามาก เสียงหัวเราะจึงน่ากลัวมาก

คนของสิงโม่ไล่ล่าเขามาโดยตลอด เฟิงจิงเป่ยเองก็ออกหมายนำจับสีแดงระหว่างประเทศ อาเธอร์ทำอะไรไม่ได้จึงต้องหนีแล้วหนีอีก ถึงขั้นที่ว่าตอนอยู่สามเหลี่ยมทองคำ ตอนต่อสู้กับสิงโม่ ได้รับบาดเจ็บที่เท้า

เพราะเอาแต่หนี ดังนั้นจึงรับการรักษาล่าช้า ทำให้เท้าของเขาพิการเหมือนอย่างตอนนี้ เขาต้องใช้ชีวิตอยู่บนวีลแชร์ทุกวัน

อาเธอร์หนีตายมาตลอดทาง ท้ายที่สุดไม่ง่ายเลยกว่าจะมีชีวิตรอด ตอนนี้เขามีความคิดที่จะทำลายล้างทุกอย่าง

ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังอาเธอร์พยักหน้ารับคำสั่ง เขาคือคนแก่ที่ติดตามอาเธอร์มาหลายปี เห็นอาเธอร์ได้รับบาดเจ็บที่เท้าเขาเองก็ปวดใจ

“คุณอาเธอร์ คุณต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรง ขอเพียงร่างกายกลับมาแข็งแรง คุณถึงจะแก้แค้นได้ดียิ่งขึ้น”

อาเธอร์บาดเจ็บสาหัสยังไม่หายดี หลังจากเท้าทั้งสองข้างพิการ จนถึงตอนนี้ยังไม่กลับมาแข็งแรง เขาก็อดใจไม่ไหวอยากจะแก้แค้นแล้ว เขาและพวกพ้องรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมอย่างมาก

หลังจากอาเธอร์ฟังคำเกลี้ยกล่อมของลูกน้อง โมโหอย่างมาก คว้าปืนที่พกติดตัวขึ้นมา ชี้ไปที่ลูกน้อง “แกกล้าสงสัยในตัวฉัน?”

“ไม่กล้าครับ คุณอาเธอร์” ไม่ว่าลูกน้องจะสนิทกับอาเธอร์แค่ไหน แต่ก็ยังกลัวเขา

“ครั้งนี้ปล่อยแกไปก่อน จำเอาไว้ว่าห้ามมีครั้งต่อไปอีก” หลังจากลูกน้องรับปากกับอาเธอร์ เขาจึงฝืนลดปืนลง

“ครับ” ลูกน้องพูดด้วยความเหงื่อแตก

หลังจากอาเธอร์มาถึงประเทศจีนอย่างลับๆ เฟิงจิงเป่ยและสิงโม่ก็กลับมาเช่นเดียวกัน สิ่งแรกที่พวกเขาทำตอนกลับมาคือไปหาลี่จุนถิง

“ประธานลี่ ตอนนี้พวกเรามั่นใจแล้ว อาเธอร์เข้ามาในประเทศแล้ว ตอนนี้พวกเรายังสืบหาไม่พบว่ามันอยู่ที่ไหน ที่พักของมันพวกเราก็ยังหาไม่เจอ”

“อาเธอร์คนนั้นเจ้าแผนการ ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ขาของมันถูกพวกเราทำร้ายจนพิการไปแล้ว จากนิสัยขอมันต้องไม่มีวันปล่อยพวกเราไปแน่”

“นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเราต้องตั้งสติให้ดี เพื่อป้องกันการโจมตีของมันตลอดเวลา”

หลังจากลี่จุนถิงฟังจบ สีหน้าเคร่งขรึม

“สิงโม่ ตั้งแต่นี้นายส่งคนทั้งหมดไปสืบ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน หาละเอียดเท่าไหร่ก็ต้องหาให้เจอ”

หลังจากเฟิงจิงเป่ยกลับสถานีตำรวจ เขาออกหมายจับระหว่างประเทศอีกครั้ง ตามจับอาเธอร์

หลังจากลี่จุนถิงกลับบ้าน บอกเรื่องที่อาเธอร์เข้ามาในประเทศกับทุกคน เจียนหยุนเอ๋อรู้สึกกลัวอย่างมาก

“จุนถิง อาเธอร์คนนั้นบ้าไปแล้ว ตอนนี้มันคงถึงขั้นจิตวิปริต ถ้าเราตกอยู่ในกำมือของมันอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะเอาชีวิตรอดกลับมาได้ไหม”

ลี่จุนซินก็ไม่สบายใจมาก กลัวว่าครั้งนี้เป้าหมายของอาเธอร์จะเป็นเจียงหยุนเอ๋ออีก

“หยุนเอ๋อ หรือว่า คุณออกนอกประเทศพร้อมกับพวกผมเถอะ อีกไม่กี่วันพวกผมจะไปเยี่ยมญาติของเวียร์ที่อังกฤษพอดี ถ้าครั้งนี้เป้าหมายของอาเธอร์ยังเป็นคุณ ตอนนี้คุณจะลำบากอีกไม่ได้แล้ว”

ซูม่านลีก็พูดโน้มน้าวด้วย “ตอนนี้เสี่ยวกุ่นกุ่นยังเล็ก ถวนจื่อเองก็ยังไม่โต ในฐานะที่เธอเป็นแม่ของพวกเขา เธอจะตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ตลอดเวลาไม่ได้”

ลี่จุนถิงคิดไตร่ตรอง “แม่ครับ ผมกับหยุนเอ๋อขอปรึกษากันก่อน ถึงยังไงพี่สาวก็ไม่สามารถไปอังกฤษในเร็วๆนี้ได้ นอกจากนี้อีกสองสามวันพี่ยังต้องไปร่วมงานกีฬาสีของเมืองอะไรนั่นอีก”

ตอนกลางคืน กลับไปที่ห้อง สีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อยังคงเต็มไปด้วยความกังวล

“จุนถิง ฉันคิดว่าฉันไม่ไปกับพี่แล้วค่ะ ถ้าอาเธอร์คิดจะตามหาฉัน ไม่ว่าฉันซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ก็เจอตัวอยู่ดี”

“ในเมื่อต้องถูกเขาหาเจอแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นสู้พวกเราทั้งครอบครัวอยู่ด้วยกัน ถึงเวลานั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา พวกเราสามารถหารือและรับมือด้วยกันได้”