ในเมื่อเจียงหยุนเอ๋อพูดแบบนี้แล้ว ลี่จุนถิงเองก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
“ได้ครับ ในเมื่อคุณไม่อยากไป คุณก็อยู่ที่นี่กับผม ครั้งนี้ ผมไม่มีวันปล่อยให้คุณตกอยู่ในอันตรายแน่นอน”
“หลังจากนี้ ถ้าคุณจะออกไปข้างนอก ต้องพาคนไปให้มากพอ อีกอย่างก่อนออกไปต้องโทรบอกผม”
“ค่ะๆๆ ฉันเข้าใจแล้ว”
วันกีฬาสีประจำเมือง ท้องฟ้าสดใส ไม่มีเมฆ
ถึงแม้ฤดูหนาวยังไม่ผ่านพ้นไป แต่อากาศถือว่าใช้ได้ ไม่ได้หนาวขนาดนั้น
การแข่งขันวิ่งระยะสั้นของลี่จุนซินจัดขึ้นตอนเย็น แทบจะจัดขึ้นเวลาเดียวกันกับการแข่งขันกระโดดสูงของเฉินหมินหมินซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอ
ตอนเย็นเป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนหญิงห้ากิโลเมตร ลี่จุนซินและเฉินหมินหมินกำลังนั่งวางแผนที่จะช้อปปิ้งยิ่งใหญ่ในอีกสองสามวันข้างหน้าบนอัฒจันทร์
ไม่นาน บนอัฒจันทร์ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่คล้ายกำลังหาบางอย่าง หลังจากเดินไปหนึ่งรอบ เธอหยุดลงตรงหน้าลี่จุนซิน
“คุณหาอะไรอยู่?” ลี่จุนซินลุกขึ้น มองด้านหลังตนเอง ไม่เจออะไรทั้งนั้น
“คุณช่วยอะไรฉันหน่อย ได้ไหมคะ?” เสียงละเอียดอ่อน แค่ฟังก็รู้สึกถึงความบอบบาง
มองตามสายตาของผู้หญิงตรงหน้า ลี่จุนซินพบว่าเธอกำลังมองรองเท้าของตน
“คุณ…อยากยืมรองเท้าเหรอคะ?”
อีกฝ่ายพยักหน้า
“เดี๋ยวฉันจะต้องลงแข็งแล้ว” ลี่จุนซินรีบอธิบาย ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วย เพียงแต่รองเท้าที่ใส่ไม่พอดีทำให้วิ่งได้ไม่เร็วแน่ๆ หลังจากนั้นเหรียญรางวัลก็จะหลุดลอยไป หลังจากนั้นก็ไม่สามารถเอาไปอวดเวียร์ได้แล้ว
ความคิดหยุดลงตรงคำว่า “หลุดลอย” เสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้น “ฉันเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล ไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนรองเท้าที่บ้าน แต่ว่า ฉัน……”
ลี่จุนซินก้มหน้าลง รองเท้าส้นสูงกับวิ่งมาราธอนต้องเท่มากแน่ๆ!
“ฉันถามผู้หญิงทั้งกลุ่มแล้ว ไม่มีใครใส่รองเท้าเบอร์ 36 ดังนั้น คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ……ขอร้องล่ะ”
ลี่จุนซินไม่รู้จะพูดอะไร เงียบไปพักหนึ่ง
“ขอร้องนะคะ!”
ผู้หญิงตรงหน้าสีหน้าซีดขาว มองมาที่ตนแล้วขอร้องด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า ลี่จุนซินลังเล ไม่ให้ยืนก็ดูใจร้าย ให้ยืมก็เสี่ยงเกินไป
“การแข่งวิ่งหญิงอยู่หลังการแข่งวิ่งมาราธอน ฉันจะเอามาคืนให้ตรงเวลาแน่นอนค่ะ ฉันรับปาก”
ยกเท้าขึ้น ลี่จุนซินถอดเชือกรองเท้า “หลังจากวิ่งมาราธอนเสร็จแล้วรีบเอามาคืนฉันที่จุดรายงานตัว ฉันต้องวิ่งห้าสิบเมตร……” ยังไม่ทันพูดจบเสียงประกาศก็ดังขึ้น การแข่งขันมาราธอนเริ่มรายงานตัวแล้ว
หญิงสาวโค้งตัวขอบคุณเก้าสิบองศา จากนั้นรีบวิ่งลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว
“จุนซิน ฉันรู้สึกว่าเธอมีศักยภาพมาก!” เฉินหมินหมินกินไอศกรีม พูดไม่ชัดเท่าไหร่
“นี่มันฤดูหนาว แกกินไอศกรีมบ้าอะไรเนี่ย” ลี่จุนซินเห็นเฉินหมินหมินกินไอศกรีม แย่งมา แล้วตนก็กัดกินคำเล็กๆหนึ่งคำ
“แกจะเข้าใจอะไร ไอศกรีมต้องกินฤดูหนาวถึงจะฟิน” ขณะพูด ก็แย่งไอศกรีมของตนกลับไป
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ลี่จุนซินอยู่ที่จุดรายงานตัวเห็นเธอวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก อยู่ห่างจากที่สองไกลมาก เกือบสองร้อยเมตร!
“คนเราดูแต่ภายนอกไม่ได้จริงๆ!” หลังจากพูดจบลี่จุนซินเพิ่งตระหนักขึ้นได้ ตนจะแข่งวิ่งแล้ว แต่ว่า รองเท้ายังเป็นรองเท้าส้นสูงคู่นั้น หรือว่าจะเปลี่ยนเป็นตนที่เท่แทน?
ลี่จุนซินตีปาก คงไม่เท่แน่ แต่จะพิการต่างหาก!
จนกระทั่งก่อนการวิ่งหนึ่งนาที ผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ปรากฏตัว ลี่จุนซินที่หมดหนทางทำได้เพียงช่วยตนเอง ขอยืมรองเท้าจากคนที่เดินผ่านไปมา
ลี่จุนซินเปลี่ยนรองเท้าเสร็จรู้สึกว่าตนโชคดีที่ยืมรองเท้าซึ่งใส่พอดีเท้าได้
สำหรับทักษะการวิ่งของตนเอง ลี่จุนซินมั่นใจมาโดยตลอด ยกเท้าขึ้น ลี่จุนซินรู้สึกว่าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน จากนั้นเธอก็มีเวลามากพอที่จะเอารองเท้าตนเองกลับคืนมา
สูดลมหายใจเข้า ลี่จุนซินเดินไปตรงสนาม มองไปยังเส้นชัยซึ่งอยู่ไม่ไกล ย่อตัวลงทำท่าออกตัววิ่ง
“ปั้ง—” เสียงปืนดังขึ้น
ลี่จุนซินพุ่งตัวออกไปก่อน ตอนแรกรู้สึกทรงตัวไม่ได้เท่าไหร่ เมื่อก่อนตอนแข่งก็มีสถานการณ์คล้ายๆกันแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเหมือนกัน
แต่สักพักหนึ่งเธอก็ปรับตัวได้ ด้วยเหตุนี้ลี่จุนซินจึงไม่ได้ลดความเร็ว แขนทั้งสองข้างยังคงแกว่งอย่างแรง
วิ่งไปสิบเมตรแรก ลี่จุนซินอยู่อันดับที่หนึ่ง
สิบห้าเมตร ลี่จุนซินโซเซไปมา
ยี่สิบเมตร ผู้คนบนอัฒจันทร์แห่งนักวิ่งหมายเลขสามหน้าคะมำลงไป
ตอนที่ร่างกายล้มลงไป ลี่จุนซินไม่ได้ลดความเร็ว รู้สึกเพียงว่าร่างกายยังคงพุ่งไปด้านหน้า เพียงแต่สายตาของเธอมองเห็นพื้นเท่านั้น ยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้น ตัวของเธอล้มลงไปทางด้านซ้ายกลิ้งเหมือนลูกบอล……
วินาทีที่ล้มลงบนพื้น สัญชาตญาณของฝ่ามือซ้ายดันพื้นเพื่อลดความเร็ว หลังจากนั้น……
“ซี๊ด—” รู้สึกเจ็บปวด
ลุกขึ้นมา ตอนที่วิ่งเข้าเส้นชัย ลี่จุนซินอยู่อันดับสุดท้ายอย่างไม่ต้องสงสัย!
หางตาของลี่จุนซินเห็นนักแข่งที่วิ่งเข้าเส้นชัยคนแรกเดินมาแล้วปรบมือให้ตน จากนั้นก็ได้ยินเสียงเชียร์จากบนอัฒจันทร์ แทบจะไม่ได้เงยหน้าขึ้น ลี่จุนซินเดินไปยังห้องพยาบาลชั่วคราวของสนามแข่งด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
กางฝ่ามือ เลือดสีแดงสดผสมกับสิ่งสกปรกสีเทา ปวดใจอย่างมาก……เมื่อสิบกว่าวินาทีก่อน เธอจินตนาการว่าตนสามารถไปถึงเส้นชัยคนแรกได้ ทว่าใครจะไปรู้ กลับกลายเป็นเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว!
ห้องพยาบาลตั้งอยู่ด้านล่างอัฒจันทร์ เดิมทีไม่รู้ว่าเป็นห้องว่างสำหรับเก็บอะไร เพียงแต่นำมาใช้ครู่หนึ่งเท่านั้น ลี่จุนซินนั่งอยู่ด้านในตามลำพัง รอคนไปตามหมอ
หลังจากหัวใจเต้นช้าลง ความเจ็บปวดตรงฝ่ามือก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น เสื้อเชิ้ตที่เพิ่งเปลี่ยนมีรูใหญ่ เสื้อสีน้ำเงินในตอนแรกเวลานี้กลับเป็นสีม่วงอมดำ ผิวหนังเละไปหมด ลี่จุนซินไม่กล้ามอง
ตอนที่เงยหน้าขึ้น รู้สึกว่าหางตามีอะไรตกลงมา สูดลมหายใจเข้า ลี่จุนซินเป่าฝ่ามือ
เจ็บจริงๆ!
ตอนที่เฉินหมินหมินพาเวียนร์มาถึงห้องพยาบาล เห็นลี่จุนซินที่ดวงตาแดงก่ำ แขนและฝ่ามือเต็มไปด้วยเลือดจนน่าตกใจ หัวใจของเขากระตุก บริเวณหน้าอกรู้สึกอึดอัดจนกระวนกระวาย จากนั้นขมวดคิ้วเป็นปม
ตอนที่เห็นเงาของคนที่ประตู ลี่จุนซินเงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ ทว่าคิดไม่ถึงว่าจะเจอเวียร์และเฉินหมินหมิน น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด
ไม่ว่าจะกลั้นน้ำตาแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ สุดท้ายกลายเป็นสะอึกสะอื้นไม่หยุด น่าสงสารยิ่งกว่าร้องไห้ออกมาเสียงดังๆ
ถ้าน้ำตาที่ไหลลงมาเมื่อกี้เป็นเพราะเจ็บแผล เช่นนั้นตอนนี้แค่รู้สึกเสียใจ จากนั้นควบคุมความรู้สึกไม่ได้ เหมือนนกน้อยบาดเจ็บอยากจะกลับรัง ทว่าระหว่างทางพบเจอกับญาติมิตร
“แบบนี้ไม่ได้ ต้องไปโรงพยาบาล” สีหน้าของเวียร์เคร่งขรึม ต้องเจ็บแค่ไหนถึงได้สะอึกสะอื้นด้วยความปวดใจแบบนี้?
ลี่จุนซินเงียบ ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย วินาทีต่อมาเท้าของเธอสั่นเทาตัวเซเกือบจะล้มลง ลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว ก้มหน้าลง ลี่จุนซินพบว่า ที่แท้หัวเข่าก็มีาแผลถลอกเหมือนกัน
กะพริบตาปริบๆ น้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง