War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2045
ตอนที่ 2,045 : ตำหนักเมฆาครามตกอยู่ในห้วงวิกฤต!

“หืม? เจ้ารู้จักต้วนหลิงเทียนเช่นนั้นหรือ?”

ถึงแม้แววตาประหลาดใจสงสัยของผู้เฝ้ามองจะเรืองสว่างขึ้นมาเพียงชั่ววูบ หากแต่หลี่อันที่จับจ้องอยู่ย่อมพบเห็นได้ไม่ยาก

และในขณะที่หลี่อันกล่าวจี้ถามออกมาอีกครั้ง มันก็เร่งเร้าแรงกดดันให้หนักหน่วงขึ้น!

ตอนนี้สีสันบนใบหน้าของชายชราผู้เฝ้ามองแทบไม่เหลือสีโลหิต และพริบตานั้นเอง อยู่ๆร่างมันก็สะท้านกระตุก! สองตากลายเป็นล่องลอยไร้ประกาย! เป็นหลี่อันคร้านเสียเวลาสอบสวนให้มากความ…เลือกจะใช้ทักษะควาญวิญญาณ สืบค้นทุกสิ่งทุกอย่างจากมันโดยตรง!!

และทันทีที่วิชาควาญวิญญาณสำแดงเดช ผู้ตกเป็นเป้าก็จะตกอยู่ในการควบคุมของผู้ลงมืออย่างไร้หนทางต้านทาน

“เจ้ารู้จักต้วนหลิงเทียนหรือไม่?”

หลี่อันกล่าวถามเสียงเข้ม หลังวิชาควาญวิญญาณสำแดงผล

“รู้จัก”

ผู้เฝ้ามองที่สองตาเลื่อนลอย กล่าวตอบออกมาตามตรง

ตอนนี้มันคล้ายหุ่นเชิดไร้ชีวิตตัวหนึ่ง ดั่งร่างอันไร้ซึ่งวิญญาณ!

พอได้ยินคำตอบของผู้เฝ้ามองสองตาหลี่อันก็ลุกวาวขึ้นมาทันใด หากแต่ใบหน้ากลายเป็นดุร้ายอำมหิต “แล้วไฉนตอนข้ากล่าวถามเจ้าว่าเคยเห็นคนในรูปเหมือนนี่หรือไม่ ปากเจ้าถึงได้กล้าบอกว่าไม่?”

“นั่นเพราะข้ามิเคยเห็นมันจริงๆ”

ผู้เฝ้ามองตอบกลับ

“หืม? หรือต้วนหลิงเทียนที่เจ้ารู้จักมิได้มีหน้าตาเช่นนี้?”

คิ้วหลี่อันอดไม่ได้ที่จะขมวดยู่เป็นปมหลังได้ยินคำตอบของผู้เฝ้ามอง

หรือว่าต้วนหลิงเทียนที่มันรู้จัก กับต้วนหลิงเทียนที่ผู้เฝ้ามองรู้จักจะเป็นคนละคนกัน เพียงแค่บังเอิญมีชื่อเหมือนกันเท่านั้น?

เพราะหลี่อันมั่นใจเต็มเปี่ยม ว่าใบหน้าของต้วนหลิงเทียนที่มันรู้จักสมควรเป็นใบหน้าที่แท้จริง ไร้ซึ่งร่องรอยการปลอมแปลงโฉมใดๆ

และมันก็มั่นใจถึงที่สุดว่าผู้เฝ้ามองที่ตกอยู่ภายใต้วิชาควาญวิญญาณของมัน ไม่มีทางโกหกมันได้

“มิได้มีหน้าตาเช่นนี้จริงๆ”

ได้ยินคำถามของหลี่อัน ผู้เฝ้ามองที่เหม่อลอยคล้ายไร้วิญญาณก็ยังคงกล่าวตอบออกไปอย่างไม่ได้โกหก เพราะต้วนหลิงเทียนที่มันรู้จักไม่ได้มีหน้าตาเหมือนคนในรูปวาดของหลี่อันจริงๆ

“บอกเรื่องของต้วนหลิงเทียนที่เจ้ารู้จักมาให้ข้าฟัง…เจ้ารู้อันใดบอกมาให้หมดอย่าได้ให้ขาดตก!”

หลี่อันกล่าวถามออกมาอีกครั้ง

ถึงแม้ตอนนี้หลี่อันแทบจะยืนยันไปแล้วว่าต้วนหลิงเทียนที่มันตามหา ไม่น่าจะใช่คนเดียวกับต้วนหลิงเทียนที่ผู้เฝ้ามองบอก แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะยืนยันเรื่องราวให้แน่ชัด

เพราะชื่อ ต้วนหลิงเทียน นั้นไม่ใช่ว่าจะมีเยอะ

ที่สำคัญที่สุดก็คือเมื่อผู้เฝ้ามองนั้นรู้จักคนที่ชื่อต้วนหลิงเทียนได้ อีกฝ่ายก็สมควรไม่ใช่คนธรรมดาในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแน่

และต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในลัทธิบูชาไฟก็ห่างไกลคำว่า ‘ธรรมดา’ ถึงขีดสุด!

จิตใต้สำนึกของหลี่อันรู้สึกว่าเรื่องราวต่างๆมันบังเอิญจนเกินไป

ไฉนคนที่มีนามว่าต้วนหลิงเทียนถึงไม่ธรรมดาเหมือนกันได้!

ด้วยเหตุนี้มันจึงเลือกที่จะกล่าวถามผู้เฝ้ามองออกมาอีกรอบ

ตอนนี้เมื่อผู้เฝ้ามองตกอยู่ภายใต้อำนาจวิชาควาญวิญญาณของหลี่อัน เป็นธรรมดาที่มันจะกระทำตามคำสั่งหลี่อันอย่างไม่ขาดตก…

หลังจากนั้นมันก็เริ่มเล่าเรื่องราวทุกอย่างของต้วนหลิงเทียนที่มันรู้จักออกมาหมดสิ้น

หลี่อันที่ได้ฟังวาจาของผู้เฝ้ามองก็รับทราบได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนที่นี่ก็คือสุดยอดอัจฉริยะคนหนึ่ง

แต่แน่นอนว่าสุดยอดอัจฉริยะที่ว่า ก็เพียงเป็นสุดยอดอัจฉริยะของภูมิภาคเบื้องล่างดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเท่านั้น

ในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ผู้ที่จะถูกเรียกหาว่าสุดยอดอัจฉริยะได้ ก็มีแค่อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีม่วงเท่านั้น

“หืม ต้วนหลิงเทียนที่ว่ามันพึ่งใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาคไปยังภูมิภาคเบื้องบนได้ไม่นานงั้นหรือ?”

เมื่อได้ยินว่าต้วนหลิงเทียนที่ผู้เฝ้ามองรู้จัก พึ่งใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายไปภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าได้ไม่นาน สองตาหลี่อันก็ฉายประกายเจิดจ้าออกมาทันที!

“มันยังรู้ทักษะแปลงโฉมอันเลิศล้ำถึงขั้นที่ไม่อาจตรวจพบร่องรอยใดๆด้วยสำนึกเทวะ…”

เมื่อหลี่อันได้ยินเรื่องนี้จากปากผู้เฝ้ามอง มันก็แทบจะมั่นใจได้ทันที!

ต้วนหลิงเทียนที่ผู้เฝ้ามองรู้จัก สมควรเป็นต้วนหลิงเทียนที่มีเรื่องกับมันในลัทธิบูชาไฟ!!

สมควรเป็นเพราะโฉมหน้าของต้วนหลิงเทียนที่ก่อเรื่องในลัทธิบูชาไฟเป็นโฉมหน้าปลอม ผู้เฝ้ามองจึงไม่รู้จัก…แต่ด้วยทักษะลับแปลงโฉมอันเลิศล้ำจนที่มิอาจตรวจสอบได้ด้วยสำนึกเทวะ ทำให้มันไม่อาจบอกได้ว่าต้วนหลิงเทียนที่มันรู้จักกำลังแปลงโฉมอยู่!

“ต้วนหลิงเทียนนั่น มันเป็นนายน้อยของตำหนักเมฆาคราม ขุมพลังกึ่งชั้น 3 ในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า?”

เมื่อยืนยันได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนทั้ง 2 สมควรเป็นคนๆเดียวกัน ลูกตาหลี่อันก็เผยประกายเย็นชาอำมหิต!

“แล้วตำหนักเมฆาครามที่ว่า ตั้งอยู่ที่ใด”

หลี่อันมองถามผู้เฝ้ามองทันที

หลังจากที่ได้รับฟังคำตอบเรื่องที่อยู่ของตำหนักเมฆาครามจากผู้เฝ้ามองแล้ว หลี่อันก็ไม่รอช้าอะไรเร่งเหินร่างจากไปอย่างเร็ว!

เหล่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ที่หยางชง อาวุโส 5 วังอุดรไพศาลส่งมารับใช้หลี่อัน ก็เร่งรุดเหินร่างตามไปทันที

ทั้งหมดเหินร่างข้ามฟ้าตรงดิ่งไปยังตำหนักเมฆาครามด้วยความเร็วสูงล้ำ!

ทว่าด้านตำหนักเมฆาครามยังคงใช้ชีวิตไปอย่างสงบตามประสา หาได้รู้แม้แต่น้อยว่าตอนนี้หายนะครั้งใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ถึงตัวแล้ว…

วิกฤตการณ์ครั้งนี้ยังร้ายแรงถึงขั้นที่อาจทำให้ทุกสรรพชีวิตของตำหนักเมฆาครามถึงกาลอวสาน…

ด้านต้วนหลิงเทียนที่ทำงานอยู่ในหอคุมกฏของหอคุมกฏลัทธิบูชาไฟ ไม่อาจล่วงรู้เรื่องนี้ได้เลย

เขารู้แค่ว่าป่านนี้จูลู่ฉีสมควรไปพบบิดาเขาเนิ่นนานแล้ว และบิดาเขาก็คงอพยพผู้คนทั้งตำหนักไปยังที่ปลอดภัยอย่างที่ไม่อาจมีใครพบเจอได้เรียบร้อย…

อย่างไรก็ตามต่อให้หลับต้วนหลิงเทียนก็ไม่เคยฝันถึง

ว่าในขณะที่จูลู่ฉีได้ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาค มันจะดวงซวยตกเข้าสู่รอยแยกมิติจนถูกส่งไปโผล่ที่แดนเนรเทศ

แดนเนรเทศก็คือดินแดนหนึ่งที่ติดกับโลก ที่มีดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าและทวีปมนุษย์ทั้ง 3 ดำรงอยู่ ทั้งหมดล้วนอยู่ในระนาบโลกียะเดียวกัน…

แน่นอนว่าดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าในที่นี้ หมายถึงดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องล่าง

ส่วนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบนนั้นเป็นระนาบเทียม ไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกัน

และแน่นอนว่าการที่จูลู่ฉีถูกส่งมาแดนเนรเทศแบบนี้ ข่าวสารสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ต้วนหลิงเทียนฝากมันมา ย่อมมิอาจไปถึงมือต้วนหรูเฟิงจ้าวตำหนักเมฆาคราม…ทำให้คนของตำหนักเมฆาครามไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ กระทั่งไม่อาจตระหนักได้ถึงวิกฤตการณ์ที่กำลังจะมาถึงหน้าประตูด้วยซ้ำ!

‘โอย งานของหอคุมกฏนี่มันช่างน่าเบื่อจริงๆ’

ต้วนหลิงเทียนตอนนี้กำลังทำหน้าที่ลาดตระเวน ตามหน้าที่ๆได้รับมอบหมายจากหอคุมกฏ

ตลอดทั้งเดือนนี้เขาต้องลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่หนึ่ง ที่ทางหอคุมกฏได้มอบหมายให้เขารับผิดชอบ

“หืม?”

ทว่าทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนคล้ายสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง ร่างที่กำลังเหินหยุดลง หันมองไปยังหอคุมกฏที่อยู่ไกลตาทันที เพราะเขาสัมผัสได้ว่ามีความเคลื่อนไหวบางอย่างจากหอหลัก!

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

และแทบจะพร้อมๆกันกับที่ต้วนหลิงเทียนหันไปมองทางหอหลัก เขาก็แลเห็นร่าง 2 ร่างพุ่งวูบมาด้วยความเร็วสูง และพริบตาก็บรรลุถึงเบื้องหน้าเขาเรียบร้อย

“ต่งหลิน?”

ต้วนหลิงเทียนจดจำร่าง 1 ใน 2 ผู้มาเยือนได้ทันที ไม่ใช่ใครที่ไหน…เป็นต่งหลินที่เขาบีบคั้นให้มันต้องเสียหน้าโดยการก้มหัวขอขมาเขาต่อหน้าผู้คนมากมายในวังชินหั่ว ยังเป็นลูกชายคนเดียวของรองจ้าวหอคุมกฏ ต่งหยวนจิ้น!

นอกจากต่งหลินแล้ว อีกคนที่มากับมันต้วนหลิงเทียนไม่รู้จัก

อีกฝ่ายเป็นชายวัยกลางคนที่มีหน้าตาแลดูธรรมดาๆ ถึงขั้นที่หากจับไปปล่อยไว้ในฝูงชนก็ยากจะระบุตัวมันได้

ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายมาปรากฏอยู่เบื้องหน้า มันก็มองต้วนหลิงเทียนไม่วางตา ทว่าสีหน้าแววตาแลดูเฉยเมยไม่แยแส ยากจะล่วงรู้ได้ว่าที่แท้มีจุดประสงค์อันใดกันแน่…

“เฮ่! นั่นอาวุโสต่งหลินไม่ใช่หรือ?”

“สวรรค์! ข้างๆนั่นมันอาวุโสเถียนตงนี่! ไฉนมากับต่งหลินได้เล่า?”

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ต่งหลินและชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าต้วนหลิงเทียน อาวุโสเพลิงทองแดงที่อยู่ในหน่วยลาดตระเวนเดียวกันกับต้วนหลิงเทียนก็หยุดมองด้วยความแปลกใจทันที

ฟังจากน้ำเสียงทั้งสีหน้าแล้ว คล้ายจะประหลาดใจกันอยู่ไม่น้อย

“อาวุโสเถียนตง?”

ได้ยินคำของอาวุโสเพลิงทองแดงรอบๆต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

เพราะนามเถียนตงนี้หาได้แปลกหูเขาแต่อย่างใด

เมื่อวานก่อนที่เขากับหลิวอวิ๋นจะแสดงละครแตกหักกัน หลิวอวิ๋นก็ได้เอ่ยถึงชื่อนี้ให้เขาฟัง ทั้งให้เขาระวังตัวเอาไว้!

เถียนตงผู้นี้ ก็เป็นอาวุโสคุมกฏของหอคุมกฏเช่นกัน

และในหอคุมกฏของลัทธิบูชาไฟ เถียนตงผู้นี้ยังเป็นถึงผู้อาวุโสเพลิงเงิน!

กระทั่งยังเป็นอาวุโสเพลิงเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในหอคุมกฏ!

ดังนั้นทันทีที่ได้รับทราบว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆต่งหลินเป็นอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของหอคุมกฏเถียนตง! ต้วนหลิงเทียนจึงแปลกใจไม่น้อย ด้วยไม่คิดว่าต่งหลินจะสามารถสั่งให้อาวุโสเพลิงเงินของหอคุมกฏมาช่วยเหลือมันได้

กล่าวให้ถูก ต้วนหลิงเทียนไม่คิดว่าบิดาของต่งหลิน รองจ้าวหอคุมกฏจะมีอำนาจถึงขั้นสั่งการอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ให้มาติดสอยห้อยตามต่งหลินเพื่อเล่นงานเขาได้ราวข้ารับใช้แบบนี้…

ก่อนที่จะรู้ฐานะของคนที่มากับต่งหลิน ต้วนหลิงเทียนก็เดาได้แต่แรกว่า อีกฝ่ายไม่พ้น ‘ลิ่วล้อ’ ที่คอยฟังคำสั่งของต่งหลินแน่นอน

และทุกอย่างก็เป็นดั่งที่เขาคิดไว้แต่แรกไม่มีผิด

ว่าหลังจากที่เขามาทำงานที่หอคุมกฏแบบนี้ ไม่วายต่งหลินต้องพาคนมากระทืบเขาแน่นอน…

เป็นธรรมดาที่มันคงไม่กระทืบเขาถึงตายและพิการอะไร แต่อย่างน้อยๆก็ต้องสาหัสปางตายกันบ้าง

“ต้วนหลิงเทียน…พวกเราพบกันอีกแล้ว”

ต่งหลินมองกล่าวทักทายต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หากแต่แววตาที่ลุกโชนดั่งเพลิงไฟของมันนั้นแทบไม่คิดจะปกปิดอาการกระเหี้ยนกระหือรืออยากจัดการเขาแม้แต่น้อย

ตอนนี้ต่งหลินไม่เหลือทีท่านอบน้อมสำนึกผิดอย่างตอนที่ก้มหัวขอขมาเขาที่วังชินหั่วแม้แต่น้อย กลับมาหยิ่งยโสถือดีราวตัวโกงไม่มีผิด

และเหตุผลเดียวที่มันกล้าวางมาดโอหังแบบนี้ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ก็เพราะมันมีเถียนตงคอยให้ท้ายนั่นเอง!

เถียนตงไม่อยู่ ไหนเลยมันจะกล้าผยองพองขน!

ด้วยมีเถียนตงอยู่ข้างๆ มันจึงกล้าหาญชาญชัยเอาใหญ่ทันที!

“อา พบกันอีกแล้ว”

ต้วนหลิงเทียนยังคงมีใบหน้าสงบเฉยเมย แม้จะอยู่ต่อหน้าต่งหลินที่มีเถียนตงติดตามมาหนุนหลังก็ตาม

“ต้วนหลิงเทียน เจ้ารู้หรือไม่ว่าวันนี้ข้ามาหาเจ้าทำไม?”

เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังคงเฉยอยู่ได้คล้ายไม่แยแสอะไรมันแม้แต่น้อย ใจต่งหลินพลันขุ่นมัวขึ้นมาทันที หากแต่ใบหน้ามันก็ยังคงกล่าวถามออกมาด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ใช่ว่าเจ้าไปหาลิ่วล้อมาสั่งสอนบทเรียนให้ข้าหรือไง?”

ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบเสียงเบา

“เจ้ารู้?”

ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ต่งหลินอดไม่ได้ที่จะอึ้ง “ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าไฉนข้าถึงมานี่ได้แล้วเจ้ามิกลัวรึ? อ้อ…จริงสิบางทีเจ้าคงไม่รู้สินะว่าคนที่อยู่ข้างๆข้าเป็นผู้ใด”

“ข้ารู้ว่ามันเป็นใคร”

ต่งหลินกล่าวไม่ทันจบคำดี ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย ค่อยหันไปมองชายวัยกลางคนข้างๆต่งหลินด้วยสายตาไม่ยี่หระ “มันคือ เถียนตง อาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของหอคุมกฏ”

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าววาจานี้ออกมา ไม่เพียงทำให้ต่งหลินและเถียนตงตะลึง กระทั่งอาวุโสเพลิงทองแดงไม่กี่คนที่อยู่ใกล้ๆยังอดอึ้งไปเสียไม่ได้!

ในเมื่อต้วนหลิงเทียนรู้แล้วว่านั่นคืออาวุโสเถียนตง…ไฉนยังเฉยอยู่ได้?