บทที่ 726 กลิ่นของคุณไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

วันนี้ เจียงหยุนเอ๋อส่งมื้อเที่ยงไปให้ลี่จุนถิงที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป หลังจากตื่นจากนอนกลางวัน ทั้งสองมีปากเสียงกันเพราะเรื่องปัญหาการศึกษาของถวนจื่อในอนาคต

เจียงหยุนเอ๋ออยากจะให้ถวนจื่อเรียนไปทีละชั้น ทำให้เขาได้สัมผัสถึงความสุขของช่วงเวลาเรียน จากนั้นวันข้างหน้าเขาอยากเรียนอะไรก็เรียนสิ่งนั้น

แต่ว่า ลี่จุนถิงอยากจะให้ถวนจื่อไปทดสอบไอคิว ถ้าไอคิวเหนือกว่าคนปกติ เขาสามารถเลื่อนชั้นได้ จากนั้นก็เดินตามเส้นทางที่ตนเคยเดิน

ทั้งสองต่างยึดถือในความคิดของตนเอง คิดว่าตนพูดมีเหตุผล

ปกติแล้วเขาอ่อนโยนกับเธอมาก ทำไมพอเป็นเรื่องนี้ถึงได้ดื้อดึงยิ่งกว่าเธอ หลังจากจ้องมองกันด้วยความโกรธเคือง เจียงหยุนเอ๋อเบือนหน้าหนีไม่มองหน้าเขา

ลี่จุนถิงนั่งพิงบนเก้าอี้ทำงาน ยืดขาเรียวยาว นานครู่หนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย:“หยุนเอ๋อ คุณไม่ยอมพูดอะไร ภายในใจไม่พอใจมากใช่ไหม? แบบนี้ไม่ดีนะครับ ทำให้ภายในกระทบกระเทือนเอาได้”

ครั้งนี้ ลี่จุนถิงเดาใจเธอได้อย่างถูกต้อง

หน้าของเจียงหยุนเอ๋อเริ่มแดง ระบายความโมโหของตนเองออกไปจนหมด!

ลี่จุนถิงปิดคอมพิวเตอร์ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น มองหน้าเธออย่างเดียว

ดูเหมือนใครบางคนจะโมโหมาก มองดูสีหน้าโมโหของเธอ ลี่จุนถิงครุ่นคิดว่าตนควรจะพยายามต่อ หรือว่าหยุดแค่นี้?

ตอนถอนสายตากลับไปที่โต๊ะ แก้วกาแฟของลี่จุนถิง หัวเราะ

“ไปชงกาแฟนมาดื่มให้กระชุ่มกระชวย รอให้ผมทำงานเสร็จ พวกเราออกไปกินข้าวกัน”

ลี่จุนถิงพูดโดยไม่มีอารมณ์ร่วมแม้แต่น้อย เป็นน้ำเสียงเดียวกับเมื่อก่อนตอนที่สั่งให้เธอทำงาน

เจียงหยุนเอ๋อเพิ่งพ่ายแพ้ไป เป็นธรรมดาที่จะไม่ยอม ลี่จุนถิงเห็นเธอนั่งนิ่งไม่ขยับ เงยหน้าขึ้นมองเธออยู่นาน แล้วพูด “อย่าดื้อเลยนะครับ ไปเร็ว”

“อืม” ถอนหายใจ เจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้นไปเติมน้ำด้วยความไม่เต็มใจ

ลี่จุนถิงมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มืดสนิท แล้วมองไปที่ประตูห้องทำงาน จู่ๆเขาก็นึกขึ้นได้ดูเหมือนวันนี้เขาจะเลิกงานเร็ว

“เพราะคำพูดของผมทำให้ดึกขนาดนี้คุณไม่ยอมกลับบ้านใช่ไหม?” ลี่จุนถิงใช้ช้อนคนกาแฟ สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

เจียงหยุนเอ๋อถอนสายตาที่มองอยู่บนแก้วขึ้นมา ตอบในสิ่งที่ไม่ได้ถาม “แก้วใบนี้กับแก้วที่ก่อนหน้านี้ถวนจื่อทำแตกไม่เหมือนกันใช่ไหมคะ?”

คุณคิดอยากจะลวงคำพูดจากฉัน หึ ฉันไม่ปล่อยให้เป็นไปตามที่คุณต้องการหรอก!

กะพริบตาปริบๆ เจียงหยุนเอ๋อแกล้งทำหน้าเสียดาย “เฮ้อ ไม่ว่าจะเหมือนแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่เหมือน!”

“ผมรู้ว่ามีอย่างหนึ่งต้องเหมือนกับเขาเดิมแน่นอน”

“อะไรคะ?” เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้น พบว่าลี่จุนถิงเดินมาข้างๆตนแล้ว

ลี่จุนถิงรับแก้วกาแฟในมือเจียงหยุนเอ๋อ จากนั้นวางไว้บนโต๊ะ

เจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้น จิตใต้สำนึกบอกให้เธอถอยหลังสองก้าว จากนั้นมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เป็นสีดำสนิท จู่ๆก็รู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ

“เมื่อกี้คุณยังดุฉันอยู่เลยไม่ใช่เหรอคะ? คุณอย่ามองฉันแบบนี้ เดี๋ยวฉันจะกัดคุณเข้าให้” หัวใจของเจียงหยุนเอ๋อเริ่มเต้นแรง

ลี่จุนถิงส่ายหน้าพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ จากนั้นก้มหน้าลง มือข้างหนึ่งของเขาจับท้ายทอยของเจียงหยุนเอ๋ออย่างรวดเร็ว อีกข้างหนึ่งโอบเอวเธอเบาๆ ทำด้วยความรวดเร็วและคุ้นชิน ก้มลงจุมพิตเธออย่างหนักหน่วง

ปากกับปาก แบบนี้ก็น่าจะถือว่ากัดแล้วแหละ!

เพราะไม่ได้เตรียมใจเอาไว้แม้แต่น้อย บวกกับทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน ฟันหน้าของเจียงหยุนเอ๋อไม่ทันได้ป้องกันแม้แต่น้อย ถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย

ลี่จุนถิงใช้ลิ้นแทรกเข้าไปเปิดริมฝีปากของเธอ จากนั้นยึดครองริมฝีปากของเธอ กวาดลิ้นไปมาในปากของเธอด้วยความดุเดือด

เสี้ยวเวลานี้ เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตนถูกสูบไปจนหมด นอกจากแสงไฟอ่อนๆตรงหน้าแล้ว แสงไฟที่บริสุทธิ์และโปร่งใส คล้ายจะเหลือเพียงความอบอุ่นของต้นฤดูใบไม้ผลิ ความอบอุ่นที่เขามอบให้เธอ

“อื้ม……”

เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตนหายใจไม่ออกแล้ว ยื่นมือไปอยากจะผลักเขาตามสัญชาตญาณ แต่กลับถูกเขาผลักติดผนัง จากนั้นกดทับอย่างแรง

เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกเวียนศีรษะ รู้สึกว่าเอวของตนใกล้จะหักแล้ว

เธอเริ่มดีดดิ้นในอ้อมกอดของเขา เหมือนกำลังปฏิเสธ แต่เสื้อผ้าของลี่จุนถิงที่อยู่ในมือกลับถูกกระชับแน่น

ความทรงจำกำลังฉายแสงแวววับ ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านจากริมฝีปากและลิ้น เคล้าไปด้วยกลิ่นหอมเฉพาะของบลูเมาท์เท่นคอฟฟี่ กลมกล่อมอย่างมาก ทำให้คนลุ่มหลงเหมือนจูบครั้งก่อน

ปลายลิ้นเลียรอบริมฝีปากที่ชุ่มฉ่ำ ลี่จุนถิงม้วนลิ้นที่อ่อนนุ่มแล้วดูดอย่างแรง แต่เธอหายใจไม่ออกนานแล้ว

หลังจากผ่านพายุฝนโหมกระหน่ำ เจียงหยุนเอ๋อได้พักเวลาสั้นๆ เธอรู้สึกตัวเบาหวิวตั้งแต่หัวจรดเท้า สมองของเธอขาดออกซิเจน

เธอหายใจหอบ หน้าแดงหัวใจเต้นแรง ดวงตาเปียกปอนกะพริบตาปริบๆมองไปที่ลี่จุนถิง เธอจะไม่กัดเขาอีกแล้ว!

พิงอยู่ตรงผนัง เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตนแทบจะยืนไม่ตรงแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมือของลี่จุนถิงยังจับเอวเธอเอาไว้ ตอนนี้ ตนน่าจะล้มลงบนพื้นแล้ว

แต่ว่า ริมฝีปากของเขายังคงจูบพรมที่ตน ลมหายใจอุ่นๆพ่นมาตรงหน้าของเธอจนหมด

“……ลี่จุนถิง?”

เจียงหยุนเอ๋อขยับตัวไปมา เบือนหน้าหนี

“เป็นอะไรไป?”

ลี่จุนถิงใช้มือเชยคางเธอขึ้น ก้มหน้าลงแล้วจูบเธอเบาๆ

“รู้อะไรไหมครับ ไม่ว่าแก้วกาแฟจะเปลี่ยนไปแค่ไหน กลิ่นหอมของกาแฟที่อยู่ในปากของคุณกลมกล่อมตลอดไป ไม่เปลี่ยนแปลง!”

ตอนที่เดินออกมาจากบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป หน้าและหูของเจียงหยุนเอ๋อทั้งแดงและร้อนผ่าว จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

มองดูลี่จุนถิงขับรถออกมาจากโรงจากรถ เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดอีกครั้ง ทั้งที่เมื่อกี้เธอเพิ่งมีปากเสียงกับลี่จุนถิง แต่สุดท้ายกลับถูกเขาลวนลาม?

“หึ! ถ้าคราวหน้ายังกล้าลวนลามฉันอีก ดูสิว่าฉันจะหยิกคุณรึเปล่า!”

เจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่ข้างถนนแล้วบ่นงุบงิบ มือทั้งสองข้างทำเป็นกรงเล็บขยับไปมา

ในเวลานี้เอง รถยนต์ข้างๆลดกระจกลงมา ลี่จุนถิงเงยหน้าออกมา พูดเสียงเรียบ “ขึ้นรถ”

รัดเข็มขัดนิรภัย เจียงหยุนเด๋อเบือนหน้ามองไปนอกหน้าต่าง ยืนกรานที่จะไม่หันหน้าไปด้านซ้าย

ลี่จุนถิงมองเธอที่เอาแต่ทำหน้ามุ่ย ไม่ได้พูดอะไร ตั้งใจขับรถเท่านั้น

“ฟู่—” หลังจากผ่านไปนาน เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็ได้ยินลี่จุนถิงพูดขึ้นช้าๆ “เดี๋ยวกินอะไรครับ?”

“ขอแค่ไม่ใช่กาแฟก็พอแล้วค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อแทบจะไม่ลังเล พูดออกมา จากนั้น ปากไปเร็วกว่าความคิด เธอเริ่มรู้สึกเสียใจ

เพราะใครบางคนบีบให้ตนแทบจะเป็นโรคกลัวกาแฟแล้ว เพียงแค่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังดื่มกาแฟเมื่อกี้ เจียงหยุนรู้สึกว่าตนเองถูกทำจนมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างมีเงื่อนไข ขอเพียงดื่มกาแฟ ก็คิดถึงจูบของเขา

ส่ายหน้าอย่างรง เจียงหยุนเอ๋ออยากจะรีบเอาความคิดที่น่ากลัวนี้ออกจากหัว แต่กลับไม่รู้เลยว่า สิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้ได้เปิดเผยความคิดของเธอไปแล้ว

หลังจากนี้ ตอนลี่จุนถิงดื่มกาแฟ เธอไม่มีวันอยู่ใกล้เขา