ตอนที่ 726 เรื่องน่ายินดี

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​สีหน้า​อ่อนโยน​ ​น้ำเสียง​เอาใจใส่​เหมือน​ใน​อดีต​ที่​เคย​พูด​อย่างเป็นธรรม​ชาติ​ว่า​ ​“​อ้าย​เฟย​ไม่สบาย​ ​ต้อง​พักผ่อน​ให้​มาก​”​

เสียน​เฟ​ยม​อง​ใบหน้า​มีอายุ​ที่​ทั้ง​คุ้นเคย​และ​แปลกหน้า​ ​ภายใน​หัว​ขาวโพลน​ไป​ชั่วขณะ​ ​ไม่ได้​มี​ปฏิกิริยาตอบโต้​ว่า​อีก​ฝ่าย​พูด​อะไร

“​อ้าย​เฟย​ ​เจ้า​ว่านี​่​เป็น​วิธี​ที่​แก้ปัญหา​ที่​ได้ประโยชน์​ด้วยกัน​ทั้งสองฝ่าย​หรือไม่​”

เสียน​เฟ​ยพ​ยัก​หน้า​คล้อยตาม​ ​จนกระทั่ง​ปลายนิ้ว​สัมผัส​โดน​ความร้อน​ของ​กาน้ำ​ชา​ถึง​ได้​รู้สึกตัว

นาง​ลุก​พรวด​ขึ้น​มา​ ​สีหน้า​ซีดเผือด​ ​“​ฝ่า​บาท​ว่า​อะไร​นะ​เพ​คะ​”

ถ้าหากว่า​นาง​ฟัง​ไม่ผิด​ ​ฝ่า​บาท​ยก​เจ้า​เจ็ด​ให้​ฮองเฮา​งั้น​รึ

เป็นไปไม่ได้​ ​เป็น​ไม่ได้​เด็ดขาด​!

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ทำ​หน้าเป็น​ห่วง​ ​“​อ้าย​เฟ​ยอา​การ​ปวดหัว​กำเริบ​หรือ​”

เสียน​เฟย​จ้อง​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เขม็ง​ ​สีหน้า​เหยเก​ ​ริมฝีปาก​ซีดเซียว​สั่น​ระริก​ ​มี​เพียง​ความคิด​เดียว​ที่​แล่น​อยู่​ใน​หัว​ ​นาง​อยาก​จะ​ข่วน​หน้าตา​แก่​ตรงหน้า​นี่​ซะ​ให้​รู้แล้วรู้รอด​!

ขณะที่​กำลัง​ง้าง​มือ​ ​อาการ​ปวดหัว​ขั้น​รุนแรง​ก็​โจมตี​เข้ามา​ ​ปะทะ​เข้ากับ​อารมณ์​ที่​ขึ้น​ลง​ราวกับ​คลื่น​ลูก​ใหญ่​ ​ทำเอา​เสียน​เฟย​รับ​ไม่ไหว​ ​ทันทีที่​กลอกตา​ขึ้น​ก็​ล้ม​ลง​ไป

“​พระสนม​!​”​ ​นางกำนัล​ใน​ตำหนัก​ตกใจ​กัน​ยกใหญ่

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​วางมือ​ด้วย​ท่าที​สงบ​ ​“​ไม่เป็นไร​”

โบราณ​กล่าว​ไว้​ว่า​ ​ยิ่ง​พบ​เจอ​มามาก​ก็​ยิ่ง​รู้มาก​ ​สตรี​ใน​วัง​นั้น​มีมาก​มาย​ ​จาก​ประสบการณ์​ที่​สั่งสม​มา​หลาย​สิบ​ปี​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เห็น​ผู้หญิง​สลบ​มานั​กต​่อ​นัก​ ​จึง​ค่อนข้าง​มีประสบการณ์​ด้าน​นี้

เขา​ยื่นมือ​ออกแรง​หยิก​เสียน​เฟย​ ​หลังจากนั้น​สักประเดี๋ยว​เดียว​เสียน​เฟ​ยก​็​ตื่นขึ้น​มาช​้า​ๆ​ ​ได้​แต่​รู้สึก​ว่า​ริมฝีปาก​ร้อน​ฉ่า​จน​เจ็บ

ทว่า​ตอนนี้​เสียน​เฟย​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ ​คว้า​หมับ​เข้าที่​แขน​เสื้อ​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ ​“​เมื่อ​ครู่​ฮ่องเต้​ตรัส​ว่า​อะไร​นะ​เพ​คะ​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​แอบ​สะบัด​มือ​ออก​ ​“​เหตุใด​อ้าย​เฟย​ถึง​หมดสติ​ไป​ ​ปวดหัว​อีกแล้ว​ใช่​หรือไม่​ ​ถ้าหาก​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​อย่า​ได้​โมโห​ขึ้น​มาง​่าย​ๆ​ ​จำเป็นต้อง​พักผ่อน​อย่างสงบ​”

เมื่อ​ถูก​เสริม​ว่า​จำเป็นต้อง​พักผ่อน​อย่างสงบ​ ​เสียน​เฟย​รู้สึก​สะท้าน​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​ ​ได้สติ​โดยพลัน

ตรงหน้า​นาง​คือ​ฮ่องเต้​ ​กษัตริย์​ของ​บ้านเมือง​ ​ไม่ใช่​บุรุษ​สามัญชน

ไม่มี​พ่อ​ลูก​ที่แท้​จริง​ใน​ครอบครัว​ของ​กษัตริย์​ ​เช่นนั้น​อย่า​ได้​กล่าวถึง​ความรัก​ที่​กษัตริย์​มี​ให้​เหล่า​สนม​เลย

เมื่อ​ครู่​นาง​อยาก​จะ​ข่วน​ใบหน้า​แก่ๆ​ ​ของ​ฝ่า​บาท​ตามใจ​อยาก​จริงๆ​ ​แต่​เกรง​ว่าความ​น่ากลัว​ที่​รอนาง​จะ​เป็น​ตำหนัก​เย็น

เสียน​เฟย​รู้สึก​หวาดกลัว​ ​สีหน้า​ซีด​ขาว​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​ดู​อ่อนแอ​ราวกับ​กระดาษ

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เห็น​ว่า​เสียน​เฟ​ยส​งบ​ลง​ ​จึง​แอบ​ถอนหายใจ​ออกมา​เงียบๆ

สตรี​ช่าง​น่ากลัว​ยิ่งนัก​ ​เสียน​เฟย​ที่​ปกติ​ดู​สวย​ฉลาด​เพียบพร้อม​ ​ท่าทาง​เมื่อ​ครู่​ราวกับ​จะ​ฆ่า​เขา​ให้​ตาย​อย่างไร​อย่างนั้น

เขา​เป็น​ฮ่องเต้​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่​กลัว​พระสนม​เพียงแค่​คนเดียว​อยู่​แล้ว​ ​ทว่า​หาก​ถูก​เล็บ​ยาว​ๆ​ ​ข่วน​เข้าให้​จริงๆ​ ​คนแก่​อย่าง​เขา​คง​ขายหน้า​แย่

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​แอบ​ชำเลือง​มองออก​ไป​ไกล​ ​กระแอม​เสียง​ตรัส​ขึ้น​ ​“​ข้า​เป็นห่วง​อาการ​ปวดหัว​ของ​อ้าย​เฟ​ยมาก​จึง​ได้​พิจารณา​ถึง​จุด​นี้​ ​จากนั้น​ถึง​ได้​ยก​เจ้า​เจ็ด​ให้​ฮองเฮา​ ​เจ้า​สารเลว​นั่น​จะ​ได้​ไม่​มายั​่ว​โมโห​เจ้า​ ​และ​ทำให้​อาการ​แย่​ลง​อีก​…​”

เสียน​เฟ​ยมุม​ปาก​กระตุก​ขึ้น​ ​เริ่ม​หมดหนทาง​ที่จะ​สงบ​ลง​

ลูกชาย​ที่นา​งค​ลอด​ออกมา​ถูก​ยก​ให้​ฮองเฮา​ไป​หน้าตาเฉย​ ​นาง​ต้อง​เอ่ย​ขอบ​พระทัย​ฝ่า​บาท​งั้น​หรือ

“​อ้าย​เฟ​ยส​บาย​ใจ​เถอะ​ ​ไม่มี​อะไร​สำคัญ​ไป​กว่า​ร่างกาย​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​แตะ​เสียน​เฟย​เบา​ๆ​ ​รู้สึก​ว่า​อะไร​ที่​ควร​พูด​ล้วน​พูด​ไป​หมด​แล้ว​ ​หาก​อยู่​ต่อมี​แต่​จะ​เพิ่ม​ความ​อันตราย​ ​เช่นนั้น​ฉวยโอกาส​ตัดสินใจ​กลับดี​กว่า

“​พวก​เจ้า​ดูแล​พระสนม​ให้​ดี​ ​ถ้าหาก​พระสนม​ไม่สบาย​ตรงไหน​ก็​ให้​เรียก​หมอ​หลวง​ทันที​ ​อย่า​เสียเวลา​จน​อาการ​กำเริบ​ ​มิเช่นนั้น​ข้า​จะ​คิดบัญชี​กับ​พวก​เจ้า​!​”

อาศัย​ตอนที่​นางกำนัล​ขานรับ​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​เดิน​ออก​ไป​ ​ปล่อย​ให้​คน​ทั้ง​ห้อง​มอง​เสียน​เฟ​ยด​้วย​ท่าที​เกรงกลัว

ภายใต้​แววตา​ที่​จ้องมอง​เช่นนี้​ ​เสียน​เฟย​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​กลายเป็น​เรื่องตลก​ของ​ใต้​หล้า

เจ้า​เจ็ด​กลายเป็น​ลูกชาย​ของ​ฮองเฮา​งั้น​หรือ

ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​เห็นที​นาง​ที่​อยาก​จะ​ใช้​ภรรยา​เจ้า​เจ็ด​มา​ขยี้​เจ้า​เจ็ด​ให้​ยอมแพ้​คง​ไม่พอ​แล้ว

เจ้า​เจ็ด​กลายเป็น​โอรส​ใน​ฮองเฮา​ ​จากนี้ไป​ภรรยา​เจ้า​เจ็ด​ก็​ต้อง​เข้า​วัง​ไป​น้อม​ทัก​ ​เดิม​จึง​ไม่จำเป็น​ที่จะ​ต้อง​มายัง​ตำหนัก​อวี​้​เฉวียน​ ​นาง​ไม่มี​สิทธิ์​แม้แต่​จะ​โกรธ​แล้ว​…

เสียน​เฟย​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​คับแค้นใจ​ ​ไม่นาน​ก็​คิดถึง​เรื่อง​ที่​ร้ายแรง​ยิ่งขึ้น​ ​องค์​ชาย​ที่​เป็น​โอรส​ใน​ฮองเฮา​นับว่า​เป็น​ลูก​แท้ๆ​ ​แล้ว​ครึ่งหนึ่ง​ ​เช่นนั้น​เจ้า​เจ็ด​ก็​มีคุณ​สมบัติ​ที่จะ​เป็นไท​่​จื่อ​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​ถ้าอย่างนั้น​องค์​ชาย​สี่​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​พี่น้อง​ท้อง​เดียวกัน​ ​เจ้า​เจ็ด​ไม่เพียงแต่​ไม่​ช่วย​เจ้า​สี่​เลย​สักนิด​ ​แถม​ยัง​กลายเป็น​คู่แข่ง​ที่​ใหญ่​ที่สุด​กับ​เจ้า​สี่​ด้วย​ ​ไม่แน่​อาจจะ​เหยียบ​เจ้า​สี่​ขึ้นไป​ก็​เป็นได้

เสียน​เฟย​แทบจะ​ไม่กล้า​นึก​ภาพ​เหตุการณ์​ที่จะ​เกิดขึ้น

ถ้าหาก​เจ้า​สี่​แพ้​ ​นาง​ยอมให้​องค์​ชาย​ท่าน​อื่น​ได้​ตำแหน่ง​ ​แต่​ไม่​อยาก​ให้​คน​คน​นั้น​เป็น​เจ้า​เจ็ด

หลังจากที่​เสียหน้า​ใน​วันนั้น​ ​นาง​ก็​เห็น​ได้​อย่างชัดเจน​ว่า​เจ้า​นั่น​มัน​ไร้​หัวใจ​ ​ไม่มีหัว​คิด

ถ้าหาก​เจ้า​เจ็ด​ได้​นั่ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​นั้น​ ​อย่า​ว่าแต่​แม่​แท้ๆ​ ​อย่าง​นาง​จะ​ได้ประโยชน์​อะไร​เลย​ ​เกรง​ว่า​จะ​ได้รับ​ความอับอายขายหน้า​เป็น​อย่างยิ่ง​เสียมา​กก​ว่า

จะ​มี​อะไร​เสียดแทงใจ​ไป​กว่า​การ​ที่​ลูก​ของ​ตัวเอง​ได้​กลายเป็น​ผู้​ที่​มีเกียรติ​สูงสุด​ใน​ใต้​หล้า​ ​ทว่า​กลับ​กตัญญูกตเวที​ต่อ​สตรี​นาง​อื่น

เสียน​เฟย​ใบหน้า​ซีดเผือด​ ​เลือด​สูบฉีด​ขึ้น​มา​อย่างรวดเร็ว​ ​ทันใดนั้น​ก็​รู้สึก​หวาน​ใน​ลำคอ​ ​พอ​อ้า​ปาก​ก็​กระอัก​เลือด

“​พระสนม​…​”​ ​เหล่า​นางกำนัล​ตกใจ​จน​หน้า​ถอดสี

ห​มัว​มัว​คนสนิท​ร้อง​เสียงแหลม​ ​“​รีบ​ตาม​หมอ​หลวง​มา​เร็ว​เข้า​…​”

ไม่นาน​หมอ​หลวง​ก็​หอบ​กล่อง​ยาวิ​่ง​เข้ามา​ด้วย​ความรีบร้อน​ ​หลังจาก​วินิจฉัยโรค​ให้​เสีย​เฟย​เสร็จ​ก็​เอ่ย​กำชับ​ออก​ไป​ ​“​มี​เลือด​ค้าง​ใน​ตับ​ ​การ​โมโห​จะ​ทำร้าย​ตับ​ ​พระสนม​ต้อง​จำใส่ใจ​เอาไว้​ว่า​ต้อง​พักผ่อน​ทำ​จิตใจ​ให้​สงบ​ ​อย่า​ได้​โมโห​ขึ้น​มาง​่าย​ๆ​”

เสียน​เฟ​ยสี​หน้า​ไร้​เลือดฝาด​ ​ไม่​พูด​อะไร​ออกมา​สัก​คำ

ห​มัว​มัว​คนสนิท​ส่ง​หมอ​หลวง​กลับ​ไป​พร้อมกับ​แอบ​ยัด​เหอ​เปา​ให้​ ​เอ่ย​กระซิบ​ขึ้น​ ​“​เรื่อง​ของ​พระสนม​ ​หมอ​หลวง​อย่า​ได้​พูด​กับ​ผู้ใด​”

หมอ​หลวง​เก็บ​เหอ​เปา​ด้วย​ความชำนาญ​ ​พยักหน้า​ลง​เล็กน้อย

เขา​มักจะ​มาที​่​ตำหนัก​อวี​้​เฉวียน​บ่อยๆ​ ​นับว่า​เป็น​คน​ของเสียน​เฟย​ ​จึง​รู้​ว่า​อะไร​ควร​ไม่​ควร​พูด​แน่นอน

ช่วงนี้​เสียน​เฟ​ยอา​รมณ์​แปรปรวน​ยิ่งนัก​ ​บวก​กับ​อาการ​ปวดหัว​ที่​หา​สาเหตุ​ไม่ได้​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​เกรง​ว่า​ร่างกาย​…

หมอ​หลวง​ถอนหายใจ​ออกมา​เงียบๆ​ ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​จาก​ตำหนัก​อวี​้​เฉวียน

หลังจาก​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เดิน​ออกมา​จาก​เสียน​เฟ​ยก​็​มุ่งหน้า​ไป​ที่​เรือน​ฉือ​ซิน

ฮองเฮา​เลือก​เจ้า​เจ็ด​เป็น​โอรส​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​เรื่อง​นี้​ก็​ต้อง​บอก​ไท​เฮา

“​ฮ่องเต้​เสด็จ​…​”

เมื่อ​เห็น​ฝ่า​บาท​มาหา​ ​ไท​เฮา​ก็​วาง​ลูกประคำ​ลง​บน​โต๊ะ​เบา​ๆ​ ​พลาง​ยิ้ม​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ลม​อะไร​หอบ​ฮ่องเต้​มากัน​”

องค์​หญิงฝู​ชิง​กับ​องค์​หญิง​สิบ​สี่​รีบ​น้อม​ทัก​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้

“​ลุกขึ้น​เถิด​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เอ่ย​พูด​กับ​องค์​หญิง​ทั้งสอง​ท่าน​ ​แล้ว​เดิน​ไป​นั่งลง​ข้าง​โต๊ะ​ ​“​เสด็จ​แม่​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​หรือ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ไท​เฮา​ชี้​ไป​ที่​กระดานหมากรุก​บน​โต๊ะ​ ​“​ไม่มี​อะไร​ให้​ทำ​น่ะ​ ​กำลัง​ดู​เด็ก​สอง​คน​นี้​เล่น​หมากรุก​กัน​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ชำเลือง​มอง​กระดานหมากรุก​ ​ยิ้ม​ตรัส​ออก​ไป​ ​“​หมาก​ฝั่ง​ขาว​ดูเหมือนว่า​จะ​ได้เปรียบ​อยู่​”

ไท​เฮา​เหลือบมองฝู​ชิง​ ​“​หมาก​ฝั่ง​ขาว​เป็น​ของ​อา​เฉวียน​ ​ทว่า​ของ​องค์​หญิง​สิบ​สี่​ก็​ไม่​ด้อย​ไป​กว่า​กัน​ ​นับว่า​เจ้า​เด็ก​สอง​คน​นี้​ฝีมือ​ไล่เลี่ยกัน​”

องค์​หญิง​สิบ​สี่​รีบ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​หาก​เสด็จ​พ่อ​มาช​้า​กว่านี​้​ ​หมาก​ฝั่ง​ดำ​คง​แพ้​ยับเยิน​ไป​แล้ว​เพ​คะ​”

องค์​หญิงฝู​ชิง​กลับ​เอ่ย​ขึ้น​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ ​“​ข้า​สู้​น้อง​สิบ​สี่​ไม่ได้​หรอก​”

นาง​ตาบอด​มานาน​หลาย​ปี​ ​ทักษะ​หมากรุก​จะ​เทียบ​องค์​หญิง​สิบ​สี่​ได้​อย่างไร​ ​คงจะ​มี​เพียงแต่​องค์​หญิง​สิบ​สี่​ยอมให้​เท่านั้น​แหละ

แม้นาง​จะ​รู้ดี​แต่​ก็​ไม่​อาจ​โพล่ง​ออก​ไป​ได้​ ​เพื่อ​ที่​องค์​หญิง​สิบ​สี่​จะ​ได้​สบายใจ​

“​ทั้งสอง​ล้วน​เล่น​ได้​ไม่เลว​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ตรัส​ชม​ออกมา​ ​แล้ว​คุย​กับ​ไท​เฮา​ต่อ​ ​“​ลูก​มีเรื่อง​น่ายินดี​จะ​บอก​เสด็จ​แม่​”

ไท​เฮา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​ ​“หืม​ ​เรื่อง​น่ายินดี​อะไร​หรือ​”

“​ลูก​ให้​องค์​ชาย​เจ็ด​เป็น​โอรส​ใน​ฮองเฮา​”

ไท​เฮา​ยื่นมือ​ออกมา​วาง​ทับ​ลูกประคำ​บน​โต๊ะ

ไม้​กฤษณา​ที่​ถูก​แกะสลัก​จน​กลายเป็น​ลูกประคำ​ ​ทุก​เม็ด​กลม​แวววาว​ราวกับ​ถูก​ทาเคลือบ​ด้วย​น้ำมัน

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​ไท​เฮา​ไม่ได้​เปลี่ยนไป​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​เพียงแต่​เสียงทุ้ม​ลง​เล็กน้อย​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​ควรจะ​ไป​แสดงความยินดี​กับ​ฮองเฮา​แล้ว​สินะ​”