บทที่ 748 หนี้ชีวิตจากชาติที่แล้ว
บทที่ 748 หนี้ชีวิตจากชาติที่แล้ว
ดวงตาของซูอันเป็นประกาย “ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติแบบนี้มักจะมาพร้อมกับโอกาสแห่งโชคลาภ ข้าต้องไปดู!”
เพ่ยเหมียนหมานรู้สึกกังวล “นี่เจ้ายังอยู่ในอารมณ์ที่จะมองหาสมบัติอีกงั้นเหรอ?? เรากำลังถูกไล่ล่าอยู่และเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะสามารถเอาชีวิตรอดได้หรือไม่นะ!”
ซูอันหัวเราะคิกคัก
“เจ้าพูดผิดแล้ว ไม่ว่าเราจะวิ่งเร็วขนาดไหน แม่ชียุงก็ตามเราทันเสมอ ไม่มีทางที่เราจะวกกลับไปเจอกับจูเซี่ยฉือซินได้ทันเวลาแน่นอน แต่อุกกาบาตนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ และทุกคนที่อยู่ภายในระยะสิบลี้จะต้องได้เห็นมันอย่างแน่นอน ซึ่งกลุ่มของจูเซี่ยฉือซินก็ไม่มีข้อยกเว้น
“ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่สามารถทานทนต่อความเย้ายวนของสมบัติอันล้ำค่าได้! ทุกคนที่เห็นมันจะมุ่งหน้าไปที่นั่น ดังนั้นหากเรามุ่งหน้าไปที่จุดตกของอุกกาบาต เราจะต้องได้เจอกับทุกคนอย่างแน่นอน!”
เพ่ยเหมียนหมานตกตะลึง ก่อนหน้านี้นางคิดว่าความโลภครอบงำจิตใจของเขาแล้ว แต่ในความเป็นจริง ซูอันกลับมีความคิดที่ชาญฉลาดจนน่าตกตะลึง
ซูอันหัวเราะอย่างเขินอาย “อย่าจ้องข้าแบบนั้น… รู้ไหมว่ามีงานวิจัยหนึ่งที่บอกว่า คนสองคนย่อมอดไม่ได้ที่จะตกหลุมรักกัน ถ้าพวกเขาจ้องตากันนานพอ”
“ตกหลุมรักกับก้นเจ้าเถอะ!” เพ่ยเหมียนหมานเย้ยหยัน “ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะปากดีแบบนี้ตอนอยู่ต่อหน้าชูเหยียนบ้างเลย!”
ดวงตาของซูอันเบิกกว้าง “เจ้ากำลังหมายความว่าข้าควรใกล้ชิดกับเจ้ามากขึ้นแม้จะอยู่ต่อหน้าชูเหยียนงั้นเหรอ?”
“ฮึ่ม! ในความฝันของเจ้าสิ!” เพ่ยเหมียนหมานทำหน้าบึ้ง นางวิ่งออกไป แต่จิตใจของนางค่อนข้างยุ่งเหยิง
ซูอันหัวเราะและเดินตามนางไป
ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังจุดที่เศษอุกกาบาตชิ้นใหญ่ที่สุดตกลงไป ในเวลาไม่นาน พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่หน้าหลุมไฟขนาดใหญ่ เปลวไฟยังคงลุกโชนแผดเผาไปทั่วพื้นที่รกร้างโดยรอบ
ดินในหลุมไฟเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปกลายเป็นก้อนผลึกเพราะอุณหภูมิที่สูงมาก
“ทำไมข้าถึงรู้สึกหนาว?” เพ่ยเหมียนหมานจับแขนของซูอันโดยไม่รู้ตัว นางแนบตัวพิงเขาราวกับว่าการทำเช่นนี้จะทำให้นางรู้สึกปลอดภัยขึ้น
“อากาศเย็นลงจริง ๆ ด้วย” ซูอันพบว่าบรรยากาศรอบตัวแปลกไปเช่นกัน อุกกาบาตไฟเพิ่งตกลงมา แต่ทำไมอากาศถึงหนาว? มันน่าจะร้อนไม่ใช่เหรอ?
บริเวณโดยรอบมีแต่หลุมบ่อและรอยไหม้จากความร้อนจัดและแม้แต่อากาศก็ยังมีกลิ่นไหม้ บริเวณนี้น่าจะร้อน แต่แปลกที่กลับรู้สึกหนาวแทน!
“ระวังด้วย เส้นทางสู่สมบัติอันยิ่งใหญ่มักจะเต็มไปด้วยอันตราย” ซูอันเตือนนางพลางลูบมือนางเบา ๆ
เพ่ยเหมียนหมานทำเสียงฮึดฮัดแต่สายตาของนางกวาดไปมาเฝ้าระวังเช่นกัน นางพร้อมที่จะตอบสนองทุกเมื่อ
ทั้งสองคนเดินไปถึงปากหลุมอย่างระมัดระวังและเดินไปที่อุกกาบาตที่อยู่ใจกลางหลุม
ความคิดของซูอันเริ่มเพ้อไปไกล หวังว่าจะไม่มีกัมมันตภาพรังสี…
มีหลายกรณีในโลกที่แล้วของเขาที่อุกกาบาตซึ่งตกลงมาจากอวกาศมีกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อน ส่งผลให้บรรดาผู้ที่ค้นพบมันซึ่งคิดว่าพวกเขาได้พบสมบัติล้ำค่า…กลับกลายเป็นพวกเขาถูกทรมานด้วยผลกระทบอันแสนสาหัสของกัมมันตภาพรังสีแทน จนอยากตายแทนที่จะมีชีวิตอยู่
อย่างไรก็ตาม ซูอันสลัดความคิดฟุ้งซ่านเหล่านั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าไปต่อ
ทั้งสองพบว่าเศษอุกกาบาตขนาดยักษ์ชิ้นนี้เป็นสีดำมันเงา พวกเขาค่อย ๆ เดินวนดูรอบ ๆ มัน ซึ่งท้ายที่สุดดูเหมือนว่ามันไม่มีอะไรพิเศษเลย
สมบัติที่ว่าอยู่ที่ไหน? ควรจะหาเจอแล้วไม่ใช่เหรอ?
ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันชั่วร้าย “ไม่คิดเลยว่าเจ้าสองคนจะมาที่นี่ พวกเจ้าพบอะไรดี ๆ บ้างแล้วใช่ไหม? จงทำตัวเป็นเด็กดีและมอบมันมาให้ข้าซะ แล้วข้าอาจจะไว้ชีวิตพวกเจ้าก็ได้”
แม่ชียุงยืนอยู่ที่ขอบหลุม จ้องมองทั้งสองคนอย่างเย็นชา
ซูอันรู้สึกปวดหัวอย่างมาก “ข้าว่าข้าคงเป็นหนี้เจ้าในชีวิตที่แล้ว ไม่งั้นชาตินี้เจ้าคงตามกัดข้าไม่ปล่อยขนาดนี้!”
เขาพยายามที่จะซื้อเวลา หากความสงสัยของเขาถูกต้อง จูเซี่ยฉือซินและคนอื่น ๆ น่าจะมาถึงในไม่ช้า
แม่ชียุงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจัดเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งให้ดูดีที่สุด น่าเสียดาย ไม่ว่านางจะพยายามแค่ไหน นางก็ยังไม่สามารถปกปิดเนื้อหนังส่วนใหญ่ของนางได้ “ฮึ่ม! ตอนนี้ข้าไม่มีอารมณ์จะคุยกับเจ้า มอบของที่เจ้าพบมา ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าผู้หญิงข้าง ๆ เจ้าให้ตายอย่างน่าอนาถ!”
นางมีแผนในใจอยู่แล้ว นางจะไม่ฆ่าเพ่ยเหมียนหมานในทันที แต่จะใช้เป็นตัวประกันเพื่อรีดวิชาวัฏจักรหงส์อมตะจากซูอันแทน
ซูอันยักไหล่และดึงเพ่ยเหมียนหมานไปข้างหลังเขา “เราเพิ่งมาถึงที่นี่เช่นกัน และตรวจดูนั่นนี่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อุกกาบาตนี้เป็นสิ่งเดียว ที่นี่ไม่มีอะไรอีกแล้ว”
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของนาง แม่ชียุงจึงไม่มีทางเชื่อคำพูดของซูอัน นางกระโจนเข้าหาทั้งสองคน
ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานยกอาวุธป้องกันอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีโคมจักรพรรดินีของชิวฮัวเล่ย ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ใช่คู่มือของนางเลย
เพ่ยเหมียนหมานไม่มีวิชาปฐมบทแรกเริ่มแบบซูอัน ดังนั้นอาการบาดเจ็บของนางจึงยังฟื้นตัวได้ช้ากว่าซูอันมาก ซึ่งส่งผลให้ปฏิกิริยาโต้ตอบของนางเชื่องช้า นางถูกกระแทกถอยหลังไปไกลจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของแม่ชียุง
อันที่จริง ถ้าไม่ใช่เพราะว่านางยังมีประโยชน์ต่อแม่ชียุงยังอยู่ ป่านนี้แม่ชียุงคงสังหารนางไปแล้ว
เมื่อเห็นเพ่ยเหมียนหมานบาดเจ็บมากกว่าเดิม ซูอันจึงพยายามเข้าไปช่วย แต่สิ่งนี้กลับทำให้แม่ชียุงได้โอกาสซัดฝ่ามือเข้าที่หน้าอกของเขา
แม่ชียุงไม่ได้ยั้งมือกับซูอันเหมือนกับที่ทำกับเพ่ยเหมียนหมาน นางซัดฝ่ามือใส่ซูอันจนร่างของซูอันกระเด็นไปข้างหลังและชนเข้ากับอุกกาบาตที่อยู่ด้านหลังเขา
แรงกระแทกนั้นรุนแรงถึงขนาดทำให้อุกกาบาตเกิดรูที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์
แม้แต่แม่ชียุงก็ยังตื่นตระหนก นางต้องการทำให้ซูอันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่ใช่ปลิดชีพเขา นางไม่คิดเหมือนกันว่าฝ่ามือของนางที่ซัดออกไปมันจะได้ผลดีขนาดนี้?
มีเพียงซูอันเท่านั้นที่รู้ว่าอุกกาบาตที่อยู่ข้างหลังเขาดูภายนอกมันอาจแข็งราวกับหินผา แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นตรงกันข้ามกันเลย มันค่อนข้างเปราะบางมากต่างหาก
แม่ชียุงกำลังจะเดินเข้าไปหาคนทั้งสอง แต่กลับมีเสียงเปรี๊ยะดังลั่นขึ้นอย่างต่อเนื่องในอากาศซะก่อน ราวกับว่ามีบางอย่างแตกออกจากกัน
นางหยุดทันทีและมองไปที่อุกกาบาตขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังซูอัน จากประสาทสัมผัสที่เฉียบคมของนาง นางสามารถบอกได้ว่ามันคือที่มาของเสียง
ดูเหมือนว่าซูอันไม่ได้โกหก ซูอันคงยังไม่มีเวลาสำรวจอุกกาบาตลูกนี้
ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่ธรรมดามักจะนำพาสมบัติที่ยิ่งใหญ่ติดมาด้วย
แต่สมบัติที่ว่ามักจะถูกปกป้องด้วยสิ่งที่อันตรายมหาศาล ตอนนี้ร่างกายของนางไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ดังนั้นนางจึงต้องระวังให้มากขึ้น