War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2051
ตอนที่ 2,051 : ความตายของแม่ทัพองครักษ์เกราะทมิฬ!
จนเมื่อร่างทั้ง 3 เหินเข้ามาใกล้ หลี่อันค่อยพบว่า
ที่แท้มี 2 คนที่ถูกคนๆหนึ่งที่บรรลุถึงด่านพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนนภานำพามานั่นเอง! ทำให้หลี่อันหันไปให้ความสนใจกับคนๆนั้นทันที…คนที่เหินร่างนำมาหน้าสุด!!
และยิ่งไปกว่านั้น พลังฝึกปรือของคนผู้นี้ไม่เพียงแต่จะบรรลุถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นต้น แต่ยังคล้ายพึ่งบรรลุถึงเซียนนภาขั้นกลาง!
แถมมันยังพบว่าหน้าตาของคนผู้นี้ละม้ายคล้ายโฉมหน้าที่แท้จริงของต้วนหลิงเทียนก่อนแปลงโฉมอยู่ถึง 7-8 ส่วน!
เหตุผลที่ไฉนมันถึงมีภาพเหมือนใบหน้าที่แท้จริงของต้วนหลิงเทียนได้ เป็นเพราะมันสั่งให้ผู้เฝ้ามองวาดให้ขณะที่กล่าวสอบสวนด้วยวิชาควาญวิญญาณ
และคนที่เหินร่างนำหน้ามา ก็คล้ายต้วนหลิงเทียนในรูปวาดนั่นนัก!
“จ้าวตำหนักเมฆาครา ต้วนหรูเฟิง!”
พริบตาหลี่อันก็ล่วงรู้ฐานะผู้มาใหม่ทันที
จ้าวตำหนักเมฆาคราม ต้วนหรูเฟิง บิดาของต้วนหลิงเทียน!
ครู่ต่อมา ร่างต้วนหรูเฟิงก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเหล่าองครักษ์เกราะทมิฬที่ตั้งแนวป้องกัน พร้อมกับชายชราและชายวัยกลางคนในชุดเกราะสีดำสนิทที่แลดูแข็งแกร่งคนหนึ่ง
“ท่านจ้าวตำหนัก!”
“ท่านจ้าวตำหนัก”
…
เมื่อเห็นต้วนหรูเฟิงปรากฏตัว ว่าที่แม่ทัพคนต่อไปอย่างถงจ้งก็เป็นผู้นำกล่าวคารวะทักทายด้วยความเคารพทันที
เหล่าองครักษ์เกราะทมิฬที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาต้วนหรูเฟิงมาก่อน ตอนนี้ยังตื่นเต้นนัก! ในใจบังเกิดความฮึกเหิมขึ้นมาไม่น้อย!!
พวกมันได้พบหน้าจ้าวตำหนักผู้ยิ่งใหญ่ของพวกมันแล้ว วันนี้แม้ตายพวกมันก็ไม่คิดเสียดายอีกต่อไป!
เพราะในสายตาของเหล่าองครักษ์เกราะทมิฬทั้งหลาย ต้วนหรูเฟิงเปรียบดั่งแผ่นฟ้าของพวกมัน เป็นดั่งตัวตนผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด จุดศูนย์รวมความศรัทธา!
ความสำคัญของต้วนหรูเฟิงในใจพวกมัน ยิ่งกว่าชีวิตของพวกมันเสียอีก!
และเมื่อได้แลเห็นต้วนหรูเฟิงยืนประจัญหน้ากับศัตรูอย่างไร้หวั่นหวาด แผ่นหลังของเหล่าองครักษ์เกราะทมิฬพลันยืดตรง เชิดหน้าอกผ่ายไหล่ผึ่ง สภาวะทั่วร่างเปี่ยมล้นไปด้วยความดุร้าย กลิ่นอายพลังคนทั้งกองทัพคล้ายลุกโชนขึ้นมาด้วยจิตต่อสู้!
เห็นฉากนี้ หลี่อันและผู้ที่ติดตามอยู่เบื้องหลังอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง!
นั่นเพราะยามเหล่าองครักษ์เกราะทมิฬแผ่จิตต่อสู้อันเหี้ยมหาญออกมาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พลังสภาวะนั้นกลับเข้มแข็งขึ้นอย่างมหาศาล ราวกับพลังรบของพวกมันรวมกันแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาคนหนึ่ง!
“อาวุโสหรง!”
“อาวุโสหรง!”
…
“ท่านแม่ทัพ!”
“ท่านแม่ทัพ!”
…
หลังจากเสียงทักทายต้วนหรูเฟิงด้วยเคารพดังขึ้น กลุ่มองครักษ์เกราะทมิฬก็หันไปคารวะทักทายชายชราและชายวัยกลางคนที่มาพร้อมกับต้วนหรูเฟิงทันที
ชายชราที่ยืนข้างต้วนหรูเฟิงกก็คือ หรงหยวน
สำหรับชายวัยกลางคนในชุดเกราะสีดำสนิทก็ไม่ใช่ใครอื่น มันคือแม่ทัพใหญ่ของกองกำลังองครักษ์เกราะทมิฬ พลังฝึกปรือบรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!
แน่นอนว่าด่านพลังเซียนปฐพีขั้นสูงสุด ก็เสมือนด่านพลังที่สูงสุดในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแล้ว
อย่างไรก็ตาม…ต่อหน้ากลุ่มของหลี่อัน ด่านพลังเท่านี้ก็ไม่นับเป็นตัวอะไร!
ไม่ต้องกล่าวถึงหลี่อันที่เป็นผู้นำด้วยซ้ำ กระทั่งบรรดาผู้ที่ติดตามมารับใช้หลี่อัน ผู้ที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยที่สุดก็บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยน!
ตัวตนเช่นนี้ ลำบากเพียงยกนิ้วก็สามารถบดขยี้เข่นฆ่าเซียนปฐพีขั้นสูงสุดได้อย่างง่ายดาย!
“เจ้าเป็นใคร ไฉนถึงบุกมาฆ่าคนตำหนักเมฆาครามของข้า?”
ชุดคลุมต้วนหรูเฟิงแผ่วพลิ้วไปตามแรงลม ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มเผยให้เห็นโทสะอันเกรี้ยวกราด มองถามผู้นำกลุ่มแขกไม่ได้รับเชิญเบื้องหน้าเสียงเข้มด้วยสายตาเย็นชา
เพราะด้วยความที่มันพึ่งมาถึง จึงยังไม่รับทราบตัวตนของพวกหลี่อัน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ต้วนหรูเฟิงมีโมโหขึ้นมาแล้วจริงๆ
ตั้งแต่ที่มันเป็นจ้าวตำหนักเมฆาคราม ไหนเลยจะมีใครในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า กล้าบุกมาก่อการอุกอาจถึงตำหนักเมฆาครามเช่นนี้!
ทว่าวันนี้กลับมีกลุ่มคนกล้าบุกรุกตำหนักเมฆาคราม กระทั่งฆ่าองครักษ์เกราะทมิฬของมันไปนับร้อย!
การกระทำดังกล่าวยังต่างอะไรกับตบหน้าจ้าวตำหนักอย่างต้วนหรูเฟิงอย่างจัง!
“เจ้าน่ะหรือต้วนหรูเฟิง จ้าวตำหนักเมฆาคราม?”
หลี่อันไม่ตอบคำถามของต้วนหรูเฟิง หากแต่เลือกที่จะย้อนถามออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย สีหน้าท่าทางยังถือดีทำราวกับชนชั้นสูงกำลังกล่าวกับชนชั้นล่าง
“บังอาจ!”
และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงถามไถ่ของหลี่อันดังจบคำ แม่ทัพใหญ่ของกองกำลังองครักษ์เกราะทมิฬอันเป็นชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆต้วนหรูเฟิง ก็ก้าวออกมาสองก้าว มองจ้องหลี่อันพร้อมตะโกนออกด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“เฒ่าชราที่โอหังนัก! ถึงขั้นกล้าเรียกชื่อท่านจ้าวตำหนักเมฆาครามของพวกเราห้วนๆ!!”
ต้วนหรูเฟิงไม่ได้แค่รับความเคารพอย่างสูงจากเหล่าองครักษ์เกราะทมิฬทุกนาย แต่ยังเป็นดั่ง ‘ศรัทธา’ ของแม่ทัพใหญ่ของกองกำลังองครักษ์เกราะทมิฬเช่นกัน!
ย้อนกลับไปในอดีตหากไม่ได้ต้วนหรูเฟิงช่วยเหลือ ป่านนี้มันตกตายไปแล้ว!
เช่นนั้นเพื่อต้วนหรูเฟิงแล้ว ให้มันสู้ตายถวายหัวจนเลือดหมดตัวมันก็ไม่กลัว!
ตอนนี้พอมาเห็นผู้ใดก็ไม่ทราบกล้าวางตัวโอหังกล่าวคำต่อจ้าวตำหนักที่มันยินดีถวายชีวิตด้วยน้ำเสียงเช่นนั้น ไหนเลยมันจะทานทนรับได้!
“ท่านแม่ทัพ!”
ในขณะที่แม่ทัพใหญ่ของกองกำลังองครักษ์เกราะทมิฬก้าวออกมากล่าววาจาตอบโต้หลี่อัน ถงจ้งที่อยู่ด้านหลังคล้ายจดจำอะไรได้ หน้ามันเปลี่ยนสีไปทันใด เร่งตะโกนทักแม่ทัพใหญ่ของมันด้วยความหวาดกลัว
ทว่าชั่วพริบตาดั่งฟ้าแลบ วาจาของถงจ้งยังไม่ทันดังจบคำดีด้วยซ้ำ…
ฟั่บ!
เสียงหวีดหวิวหนึ่งดังขึ้นเบาๆ…
พริบตาต่อมาภายใต้สายตาของทุกคน ศีรษะของแม่ทัพใหญ่กองกำลังองครักษ์เกราะทมิฬ ก็กระเด็นออกจากร่าง!
โลหิตพวยพุ่งออกจากลำคอไร้ศีรษะ มองไปคล้ายน้ำพุแดงฉานสายหนึ่งพรั่งพรูขึ้นไปรดฟ้า ค่อยเบ่งบานปานกุหลาบแดง
“หึ! ต่อหน้าท่านผู้อาวุโสหลี่อัน มดปลวกเซียนปฐพีเช่นเจ้ายังกล้าโอหัง?”
ขณะเดียวกัน ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังหลี่อันพลันกล่าววาจาค่อนแคะออกมาเสียงเย็นอย่างดูแคลน
เมื่อครู่เป็นมันที่ลงมือเอง และอาศัยเพียงหนึ่งกระบี่ก็บั่นคอแม่ทัพใหญ่กองกำลังองครักษ์เกราะทมิฬได้อย่างง่ายดาย!
“เหล่าหวัง!”
ต้วนหรูเฟิงเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว สีหน้ายังเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นร่างแม่ทัพใหญ่เบื้องหน้าหัวตัวแยกจาก สองตากลายเป็นแดงฉานปานโลหิต ไอมารอันน่าสะพรึงกลัวปะทุระเบิดออกมาท่วมร่าง!
ผึก!
เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเชือกรัดมวยผมบนศีรษะต้วนหรูเฟิงขาดผึง ยามนี้ผมสีดำยาวพลันปลิวไสวแม้ไร้ลม มองไปคล้ายอสรพิษสีดำสนิทกำลังเลื้อยแล่นในอากาศ
ทั่วร่างต้วนหรูเฟิงตอนนี้ปรากฏไอมารสีดำสนิทลุกโชนขึ้นมาปกคลุมดั่งเพลิงไฟ
และกลิ่นอายพลังทั่วร่างยังปะทุเพิ่มพูนสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง!
“หืม? เซียนนภาขั้นกลางเต็มขั้น….เซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญ…เซียนนภาขั้นสูงสุด…”
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังทั่วร่างต้วนหรูเฟิงที่เพิ่มพูนสูงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งหลี่อันยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกกมา
เพราะก่อนหน้านี้หลี่อันเพียงสัมผัสพลังฝึกปรือของต้วนหรูเฟิงได้เพียงเซียนนภาขั้นกลางที่เสมือนพึ่งทะลวงผ่านมาเท่านั้น…
ทว่าตอนนี้พลังฝึกปรือของต้วนหรูเฟิงกลับเพิ่มพูนขึ้นมาจนบรรลุถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดได้ในเวลาชั่วพริบตา!
ถึงแม้จะยังไม่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้หลี่อันอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
‘สมแล้วที่เป็นบิดาของต้วนหลิงเทียน…ต้วนหรูเฟิงผู้นี้สมควรรู้ทักษะปกปิดพลังฝึกปรือเช่นกัน’
ในใจหลี่อันได้แต่คิดไปในลักษณะนี้ มันไม่ได้ตกใจอะไรและคิดว่าก่อนหน้าเป็นต้วนหรูเฟิงปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้แล้วพึ่งปลดปล่อยออกมาเท่านั้น
มันไม่เคยคิดถึงเรื่องที่ว่า…
พลังฝึกปรือของต้วนหรูเฟิงได้เพิ่มพูนสูงขึ้นแม้แต่น้อย
เพราะเมื่อครู่พลังฝึกปรือของต้วนหรูเฟิงก็แค่เซียนนภาขั้นกลางเท่านั้น ไม่ได้ใช้เวทย์พลังอะไรไฉนพลังฝึกปรือจะเพิ่มพูนขึ้นมาได้?
“แม่ทัพหวัง!”
หลังต้วนหรูเฟิงคืนสติ คนต่อมาที่รู้สึกตัวก็คือหรงหยวน เมื่อเห็นร่างแม่ทัพใหญ่หวังหัวตัวแยกจาก สองตาของมันก็เปลี่ยนเป็นแดงฉานทันที
“ท่านแม่ทัพใหญ่!”
“ท่านแม่ทัพใหญ่!”
…
ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์เกราะทมิฬไม่เว้น ถงจ้ง ก็ร่ำร้องออกมาด้วยความเสียใจ
หลังจากนั้นสายตาของทุกคนก็ละออกจากศพของแม่ทัพใหญ่แซ่หวัง และหันไปตกยังร่างหลี่อันและคนอื่นๆด้านหลังหลี่อันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชังดั่งมีเพลิงโทสะลุกโชน!
หากสายตาเคียดแค้นเปี่ยมโทสะดั่งเพลิงไฟนี้สามารถฆ่าคนได้ ไม่ทราบหลี่อันกับพวกจะตกตายไปแล้วคนละกี่รอบ
“เจ้า…เป็นคนจากภูมิภาคเบื้องบน?”
ขณะเดียวกัน ร่างต้วนหรูเฟิงที่เต็มไปด้วยไอมาร ก็มองถามหลี่อันด้วยสายตาไม่แยแส
น้ำเสียงยังเยียบเย็นปานผุดแทรกขึ้นมาจากนรกขุมที่ 9 พาลให้ผู้ที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะขนลุก
กระทั่งหรงหยวนที่อยู่ข้างๆต้วนหรูเฟิงยังอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวจนตัวสั่น
จังหวะนี้มันสัมผัสได้ถึงโทสะอันแรงกล้าของจ้าวตำหนักข้างๆชัดเจน!
“ไม่เลว…”
เผชิญกับคำถามด้วยสีหน้าเฉยเมยไม่แยแสเสียงเย็นของต้วนหรูเฟิง หลี่อันคลี่ยิ้มออกมาอย่างไร้ความหวาดกลัวใดๆ “ต้วนหรูเฟิง บอกเจ้าไปก็มิได้มีใดเสียหาย…ข้าเรียกว่าหลี่อัน และเป็นอาวุโสเพลิงเงินลัทธิบูชาไฟ 1 ใน 3 ลัทธิของภูมิภาคเบื้องบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า”
ลัทธิบูชาไฟ!
อาวุโสเพลิงเงิน!
ได้ยินคำของหลี่อัน ลูกตาต้วนหรูเฟิงหดหยีลงทันใด ยังปรากฏประกายเย็นเยียบเรืองขึ้น
ลัทธิบูชาไฟ…ลัทธิที่จับลูกสะใภ้และหลานสาวของมันกักขังเอาไว้!
และคนที่อยู่เบื้องหน้าก็เป็นอาวุโสของลัทธินั่น!
ซัว!
สีหน้าหรงหยวนเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา ด้วยมันไม่คิดไม่ฝันเลย…
ว่าชายชราอันเป็นผู้นำกลุ่มคนเบื้องหน้า…จะเป็นถึงชนชั้นผู้อาวุโสของลัทธิบูชาไฟ 1 ใน 3 ลัทธิอันยิ่งใหญ่ของภูมิภาคเบื้องบน!
ต่างจากต้วนหรูเฟิงและหรงหยวน องครักษ์เกราะทมิฬส่วนใหญ่นั้นไม่รู้จักลัทธิบูชาไฟ จึงไม่เกิดปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
แน่นอนว่ายังมีองครักษ์เกราะทมิฬบางคนที่เคยได้ยินเรื่องราวของลัทธิบูชาไฟมาก่อน
และองครักษ์เกราะทมิฬเหล่านี้ ก็ล้วนเป็น สือฟูฉาง ไป่ฟูฉาง ขึ้นไปทั้งสิ้น ไม่เว้นกระทั่งตัวถงจ้งเองด้วย
ทันทีที่ได้ยินคำตอบของหลี่อัน คนเหล่านี้ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีไปทันที ยังเผยความตึงเครียดขึ้นมาไม่น้อย
ชายชราเบื้องหน้าพวกมันที่เรียกหาตัวเองว่า หลี่อัน กลับเป็นถึงชนชั้นอาวุโสของลัทธิบูชาไฟงั้นหรือ?
อย่างไรก็ตามแม้พวกมันจะรู้ตัวตนหลี่อันกระทั่งยังบังเกิดความหวาดกลัว…แต่พวกมันก็ไม่คิดถอยหนี! แผ่นหลังยังคงตั้งตรงเตรียมพร้อมลงมือสู้สุดกำลังสละได้ทุกสิ่งเพื่อจ้าวตำหนักและตำหนักเมฆาครามของพวกมัน!
รวมถึงชีวิตที่มีค่าที่สุดของพวกมันด้วย!
“ข้ามาที่นี่เพียงมีจุดประสงค์เดียวเท่านั้น…ข้าจะพาบิดามารดาของต้วนหลิงเทียนรวมถึงคนสนิทของมันไปยังภูมิภาคเบื้องบนกับข้า! ข้าคิดใช้พวกเจ้าล่องูออกจากถ้ำ ให้ต้วนหลิงเทียนมันโผล่หัวออกมาจากลัทธิบูชาไฟ!!”
ทันใดนั้นเอง เสียงของหลี่อันพลันดังขึ้นอีกครั้ง สองตาส่ายกวาดมองไปยังเหล่าองครักษ์เกราะทมิฬเบื่องหน้า
“เช่นนั้นแล้ว…หากพวกเจ้าจะโทษใครก็โทษลูกชายตัวดีของจ้าวตำหนักพวกเจ้าเถอะ! เป็นเพราะมัน ถึงได้ชักนำเภทภัยและหายนะนี้มาสู้ตำหนักเมฆาครามของพวกเจ้า มันคือต้นเหตุที่กำลังจะทำให้ตำหนักเมฆาครามของพวกเจ้าถูกทำลาย และพวกเจ้าทุกคนที่เหลือต้องตาย!!”
กล่าวถึงท้ายประโยค น้ำเสียงของหลี่อันยิ่งมาก็ยิ่งเยียบเย็นปานจะผุดแทรกออกมาจากหล่มน้ำแข็ง พาลให้บรรยากาศโดยรอบเสมือนเย็นลงหลายองศา!