ตอนที่ 764 สัมภาษณ์เด็กชายผู้ป่วย

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 764 สัมภาษณ์เด็กชาย​ผู้ป่วย​

ตาม​เบาะแส​ที่​ซูอวี้อิ๋ง​ให้​ไว้​ ตำรวจ​ได้​เรียกตัว​ชาวบ้าน​หลาย​คนใน​เมือง​หู​ลู่​มาสอบปากคำ​

แต่​ไม่มีใคร​ยอมรับ​ว่า​มีสาร​กำจัด​ศัตรูพืช​ใน​ผัก​เรือนกระจก​ของ​พวกเขา​

ตำรวจ​ไม่ใช่คน​ไร้​ปัญญา​ พวกเขา​เก็บ​ตัวอย่าง​ผัก​เรือนกระจก​ทั้งหมด​จาก​ทุก​ครัวเรือน​ทันที​และ​นำ​กลับ​ไป​ทดสอบ​

ผู้ต้องสงสัย​ถูก​ระบุ​อย่าง​รวดเร็ว​

ผู้คน​ทั้งหมด​ยี่สิบ​ถึงสามสิบ​คนใน​หมู่บ้าน​ต่าง​ฉีด​พ่น​ยาฆ่าแมลง​บน​ผัก​ใน​โรงเรือน​ของ​พวกเขา​

เกษตรกร​หลาย​สิบ​คน​เหล่านี้​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ยัง​สถานีตำรวจ​ ซึ่งพวกเขา​ได้​สารภาพ​ถึงแรงจูงใจ​ใน​การ​ก่อ​อาชญากรรม​

เมื่อ​เกษตรกร​หลาย​สิบ​คน​เห็น​ว่า​เหตุการณ์​รุนแรง​ขึ้น​ พวกเขา​ต่าง​เสียใจ​และ​ร้องไห้​อย่าง​ขมขื่น​

หลักฐาน​ชี้แจงโดยละเอียด​ว่า​ พวกเขา​จงใจฉีด​พ่น​ยาฆ่าแมลง​บน​ผัก​เรือนกระจก​ เพราะ​พวกเขา​ต้อง​การแก้แค้น​ความ​ไร้ยางอาย​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​

พวกเขา​ต้องการ​สร้าง​ปัญหา​ให้​กับ​ซูอวี้อิ๋ง​ เพราะ​หลังจากที่​ลูกค้า​ได้รับ​พิษ​จาก​การ​รับประทาน​ผัก​ใน​เรือนกระจก​ที่​มียาฆ่าแมลง​ หล่อน​ก็​จะไม่สามารถ​ใช้ชีวิต​อย่าง​มีความสุข​ได้​อีกต่อไป​

หาก​ซูอวี้อิ๋ง​ไม่ส่งคน​ไป​กระตุ้น​ให้​พวกเขา​ครอบครอง​ผัก​เรือนกระจก​ของ​หลิน​ม่าย​และ​ขาย​ให้​หล่อน​ใน​ราคา​ถูก​ ชีวิต​ของ​พวกเขา​ก็​คง​ไม่ดำเนิน​มาจนถึง​จุด​นี้​

สิ่งที่​น่าเกลียด​คือ​หลังจากที่​ชื่อเสียง​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​เสื่อมเสีย​ก็​ไม่มีใคร​ซื้อ​ผัก​เรือนกระจก​ของ​พวกเขา​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงถูก​ซูอวี้อิ๋ง​กดราคา​

หาก​สภาพอากาศ​ดี​และ​ซูอวี้อิ๋ง​ทำ​เช่นนี้​ พวกเขา​ก็​คงจะ​ยอมรับ​

แต่​ภายใต้​หิมะ​ที่​ตกหนัก​เช่นนี้​ ซูอวี้อิ๋ง​ยังคง​ซื้อ​ผัก​เรือนกระจก​ของ​พวกเขา​ใน​ราคา​ที่ต่ำ​ลง​และ​ต่ำ​ลง​ใน​ทุกวัน​ ซึ่งเป็น​สิ่งที่​พวกเขา​ไม่อาจ​ยอม​รับได้​อีกต่อไป​

เกษตรกร​ไร้ยางอาย​หลาย​สิบ​คน​มีฐานะ​ปานกลาง​ และ​มีคน​มากกว่า​สามร้อย​คน​ได้รับ​ผลกระทบ​จาก​การ​กิน​ผัก​เรือนกระจก​ของ​พวกเขา​

ผู้ป่วย​ที่​มีอาการ​รุนแรง​เป็น​เด็ก​ทั้งหมด​หลาย​สิบ​ราย​ และ​ราย​อื่น​ ๆ เป็น​ผู้ป่วย​ที่​มีอาการ​ไม่รุนแรง​

เด็ก​ที่​ป่วยหนัก​เกือบ​ทั้งหมด​หลาย​สิบ​คน​ได้รับ​พิษ​จาก​การ​กิน​ไข่​คน​กับ​มะเขือเทศ​

ไข่​คน​กับ​มะเขือเทศ​มีรส​หวาน​อม​เปรี้ยว​ เด็ก​ ๆ หลาย​คน​จึงชอบ​กิน​มัน​

หาก​ให้​เกษตรกร​เหล่านั้น​จ่าย​ค่ารักษาพยาบาล​ให้​กับ​ผู้ป่วย​หลาย​สิบ​ราย​เหล่านี้​ แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่อาจ​รับผิดชอบ​ได้​

สุดท้าย​สื่อ​ก็​รายงาน​เหตุการณ์​และ​เรียกร้อง​ให้​สังคม​บริจาค​เงิน​เพื่อ​เด็ก​หลาย​สิบ​คน​นั้น​

หลิน​ม่าย​อ่าน​หนังสือพิมพ์​ทุกวัน​ จึงเห็น​ข่าว​นี้​ด้วย​

เธอ​ชื่นชม​เกษตรกร​ไร้ยางอาย​หลาย​สิบ​คน​ที่​กล้า​พ่น​ยาฆ่าแมลง​ใส่ผัก​ใน​เรือนกระจก​ของ​ตนเอง​

พวกเขา​โง่เขลา​ถึงกับ​ไม่คิดถึง​ผล​ที่​ตามมา​ของ​การกระทำ​นั้น​ พวกเขา​คง​ไม่เคย​คิด​ว่า​หาก​ทำให้​ใคร​สัก​คน​ต้อง​เสียชีวิต​ พวกเขา​เอง​ก็​จะต้อง​ติดคุก​

แต่​ทั้งหมด​นี้​เป็น​ความผิด​ของ​พวกเขา​เอง​ ไม่ว่า​หลิน​ม่าย​จะมีความเมตตา​มาก​เพียงใด​ ก็​ไม่คิด​เห็นใจ​พวกเขา​

เธอ​จะเห็นใจ​เด็ก​ที่นอน​อยู่​ใน​หอ​ผู้​ป่วยหนัก​เท่านั้น​

เกิด​อะไร​แบบนี้​ขึ้นกับ​พวกเขา​ได้​อย่างไร​? พวกเขา​เพียง​กิน​ไข่​คน​กับ​มะเขือเทศ​โดย​ไม่คาดคิด​มาก่อน​ว่า​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​จะต้อง​ตกอยู่ในอันตราย​เช่นนี้​

แม้ว่า​เด็ก​เหล่านั้น​จะได้รับ​พิษ​และ​ทำให้เกิด​ภาวะ​ไต​วาย​เฉียบพลัน​ แต่​ก็​สามารถ​ล้าง​พิษ​และ​ฟื้นฟู​สุขภาพ​ได้​ด้วย​การ​ฟอก​เลือด​และ​การ​ล้าง​ไต​

แน่นอน​ว่า​ยิ่ง​รักษา​ได้​รวดเร็ว​เท่าไร​ ความรุนแรง​ของ​อาการ​ก็​จะลดน้อยลง​เท่านั้น​

มิฉะนั้น​จะเป็นเรื่อง​อันต​รายได้​หาก​กลายเป็น​ไต​วาย​เรื้อรัง​

หลิน​ม่าย​บริจาค​เงิน​ห้า​พัน​หยวน​ให้​กับ​เด็ก​ที่​ป่วยหนัก​แต่ละคน​ในนามของ​สำนักงานใหญ่​โดย​ไม่ลังเล​

แม้จะมีเด็ก​ที่​ป่วยหนัก​หลาย​สิบ​คน​ แต่​ก็​มีค่าใช้จ่าย​ห้า​พัน​หยวน​ต่อ​คน​ ซึ่งรวมกัน​เป็น​เงิน​หลาย​แสน​หยวน​

แม้สำหรับ​ทรราช​ท้องถิ่น​ เงิน​จำนวน​นี้​จะเป็น​เงิน​จำนวนมาก​ แต่​สำหรับ​หลิน​ม่าย​ เงิน​จำนวน​นี้​แทบ​ไม่มีค่า​เลย​

เธอ​ทำ​เงินได้​มากมาย​ใน​ตลาดหุ้น​ฮ่องกง​เมื่อไม่นานมานี้​ และ​เธอ​ก็​สามารถ​ใช้เงิน​จำนวน​เล็กน้อย​เพื่อ​ช่วยเหลือ​เด็ก​ ๆ เหล่านี้​โดย​ปราศจาก​แรงกดดัน​

พ่อแม่​ของ​เด็ก​เหล่านั้น​รู้สึก​ขอบคุณ​และ​อยาก​จะคุกเข่า​ลง​เพื่อ​กราบกราน​เธอ​ ทว่า​พวกเขา​ก็​ถูก​เธอ​ขัดขวาง​เอาไว้​

เธอ​ช่วยชีวิต​เด็ก​เหล่านั้น​ไม่ใช่เพื่อ​ชื่อเสียง​ แต่​เพราะ​ความเมตตา​ของ​เธอ​

หลิน​ม่าย​ออก​ค่ารักษาพยาบาล​ให้​เด็ก​วิกฤต​ทั้งหมด​ใน​คราว​เดียว​ เป็นเหตุให้​สื่อ​มากมาย​มารุม​สัมภาษณ์เธอ​

หลิน​ม่าย​ไม่ต้องการ​ให้​สัมภาษณ์สื่อ​ทุก​สำนัก​ เธอ​ไม่มีเวลา​มาก​พอที่จะ​เสีย​ไป​ใน​การ​สัมภาษณ์ เธอ​ต้อง​ร่วมมือ​กับ​รัฐบาล​เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​จะมีอาหาร​เพียงพอ​สำหรับ​ชาว​ปักกิ่ง​

ดังนั้น​จึงยอมให้​สัมภาษณ์กับ​สถานีโทรทัศน์​ CCTV เท่านั้น​

เธอ​ไม่ได้​พูด​เกิน​จริง​ การแสดง​ความเมตตา​ของ​เธอ​นั้น​ยิ่งใหญ่​มาก​

เธอ​ถือ​คติ​ที่ว่า​ หาก​เธอ​ทำเงิน​จาก​สังคม​ได้​ ก็​ต้อง​ให้​อะไร​กลับคืน​สู่สังคม​ด้วย​

คืน​นั้น​สถานีโทรทัศน์​ CCTV ก็ได้​เผยแพร่​บท​สัมภาษณ์ของ​หลิน​ม่าย​

การ​ที่​เธอ​พูด​เรื่อง​ ‘การคืน​กำไร​สู่สังคม​’ ทำให้​นักเรียน​หลาย​คน​ตกใจ​ พวกเขา​จด​คำ​นี้​ลง​ใน​สมุดบันทึก​ขนาดเล็ก​อย่าง​เงียบงัน​ ราวกับ​จะจด​จำไว้​เป็น​คติ​ประจำใจ​

ชื่อเสียง​ของ​หลิน​ม่าย​แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​เมืองหลวง​อย่าง​รวดเร็ว​

แม้รัฐบาล​จะพยายาม​อย่าง​ดี​ที่สุด​เพื่อ​แก้ปัญหา​ชีวิต​ความเป็นอยู่​ของ​ประชาชน​ใน​กรุง​ปักกิ่ง​จาก​ภัยพิบัติ​หิมะ​ แต่​อุปทาน​ใน​เมืองหลวง​ก็​ยัง​ไม่เพียงพอ​ เนื่องจาก​หิมะ​ที่​ตกหนัก​ปิดกั้น​ถนน​ ทำให้​ประสิทธิภาพ​ใน​การทำงาน​ต่ำ​

หาก​พวกเขา​มีระบบ​การ​จัดการ​ที่​ดี​เช่นเดียวกับ​ที่​กำลังจะ​เกิดขึ้น​ใน​อีก​ไม่กี่​ทศวรรษ​ครั้ง​หน้​ ปรากฏการณ์​ของ​อุปทาน​ไม่เพียงพอ​ใน​เมืองหลวง​ก็​คง​ได้รับ​การ​แก้ไข​ไป​นาน​แล้ว​

กล่าว​ได้​ว่า​ ระบบ​ราชการ​ใน​ยุค​นี้​ยังคง​ไม่มีเสถียรภาพ​มาก​นัก​

ดังนั้น​หลิน​ม่าย​จึงไม่กล้า​พักผ่อน​และ​จัด​คน​จำนวนมาก​เพื่อ​ขนส่ง​ผลิตภัณฑ์​ทาง​การเกษตร​และ​ผลิตภัณฑ์​ที่​จำเป็น​ต่าง ๆ​ จาก​ทั่วประเทศ​มายัง​เมืองหลวง​อย่าง​ต่อเนื่อง​

ใน​วันที่​สิบ​ของ​เดือนจันทรคติ​ที่หนึ่ง​ นมผง​สิบ​ตัน​ เนื้อวัว​และ​เนื้อ​แกะ​ที่​ซื้อ​มาจาก​ชายแดน​ซูโจว​ก็​มาถึงนคร​ฉือ​เจีย​จวง​

สิ่งของ​เหล่านี้​ถูก​ขนส่ง​จาก​ฉือ​เจีย​จวง​ไป​ยัง​เมืองหลวง​โดย​รถบรรทุก​ ซึ่งในที่สุด​ก็​ช่วย​บรรเทา​ปัญหา​การ​ขาดแคลน​นมผง​ใน​เมืองหลวง​ได้​อย่าง​มาก​

สอง​วัน​ผ่าน​ไป​ใน​พริบตา​ หิมะ​ตกหนัก​ไม่มีทีท่า​ว่า​จะหยุด​เลย​

คนงาน​ได้​เสร็จสิ้น​วันหยุด​เทศกาล​ปีใหม่​และ​กลับ​ไป​ทำงาน​ตามปกติ​

สิ่งแรก​ที่​พวกเขา​ทำ​เมื่อ​ไป​ทำงาน​คือ​การกวาด​หิมะ​บน​ถนน​และ​ใน​โรงงาน​

หิมะ​โปรยปราย​มากมาย​จน​เจ้าหน้าที่​สุขาภิบาล​ไม่สามารถ​ทำความสะอาด​ได้​ ต้อง​อาศัย​ความช่วยเหลือ​ของ​คนงาน​ใน​โรงงาน​และ​ประชาชน​

แต่​ถึงแม้ผู้คน​เกือบ​ทั้งหมด​จะลงมือทำ​ แต่​ก็​ยังมี​หิมะ​อยู่​บน​ถนน​จำนวนมาก​

หิมะ​บางส่วน​ได้​ก่อตัว​เป็น​ชั้น​น้ำแข็ง​บน​ถนน​ จน​ทำให้เกิด​อุบัติเหตุ​ขึ้นกับ​ผู้​คนเดินถนน​จำนวนมาก​

เช้าที่ผ่านมา​ ชาย​ชรา​และ​หญิง​หลาย​คน​ถูก​หาม​ส่งโรงพยาบาล​ระหว่างทาง​ไป​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​

ใน​หมู่​พวกเขา​มีชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ซึ่งถือ​ไม้ค้ำ​ล้ม​ลง​และ​สลบ​ไป​ใน​จุด​นั้น​

เขา​ถูก​ส่งตัว​ไป​ยัง​โรงพยาบาล​โห​ย่ว​เห​อ​ซึ่งใกล้​ที่สุด​โดย​ผู้คน​ที่​เดินผ่าน​ไปมา​ และ​หลังจาก​การ​ตรวจร่างกาย​ก็​พบ​ว่า​เขา​มีเลือด​ออก​ใน​กะโหลกศีรษะ​

หาก​ไม่ได้รับ​การ​ผ่าตัด​ในทันที​ก็​จะเสียชีวิต​หรือ​พิการ​กลายเป็น​ผัก​ได้​

สถานการณ์​รุนแรง​และ​เร่งด่วน​อย่าง​มาก​ เขา​จำเป็นต้อง​เข้า​รับ​การ​ผ่าตัด​โดยทันที​ แต่​การ​ผ่าตัด​กะโหลก​ต้อง​ใช้ศัลยแพทย์​ที่​มีประสบการณ์​

หัวหน้า​โรงพยาบาล​จึงแต่งตั้ง​ให้​ฟางจั๋ว​หรา​น​เป็น​ผู้รับผิดชอบ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ทำงาน​สำเร็จ​และ​ดึง​ชาย​ชรา​ผู้​นี้​กลับ​มาจาก​ประตู​นรก​ได้​

เหตุการณ์​นี้​แพร่หลาย​ใน​หมู่คน​ทั่วไป​ และ​อีก​สอง​วัน​ต่อมา​ ก็​มีคน​มาแจ้งข่าว​ให้​สื่อ​ทราบ​

ผู้สื่อข่าว​จาก​สถานีโทรทัศน์​ปักกิ่ง​และ​หนังสือพิมพ์​หลาย​ฉบับ​ไป​ยัง​โรงพยาบาล​เพื่อ​สัมภาษณ์

ระหว่าง​ที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​ตรวจ​คนไข้​ เขา​เห็น​ยายแก่​ของ​เด็กชาย​พิการ​นั่ง​ร้องไห้​อยู่​หน้า​เตียง​ใน​โรงพยาบาล​

หลังจาก​ซักถาม​ก็ได้​รู้​ว่า​เด็กชาย​พิการ​มาจาก​ครอบครัว​ที่​ยากจน​และ​ไม่สามารถ​จ่าย​ค่า​รักษาตัว​ใน​โรงพยาบาล​ได้​

คุณยาย​ร้องไห้​อย่าง​ขมขื่น​เพราะ​กลัว​โรงพยาบาล​จะสั่งลด​ยา​ของ​หลาน​

หลังจาก​ตรวจสอบ​เรียบร้อย​ เขา​ก็​จ่าย​ค่ารักษาพยาบาล​ให้​กับ​เด็กน้อย​คน​นี้​

เขา​จงใจกลับ​ไป​ยัง​วอร์​ด​พร้อม​บอก​หญิง​ชรา​และ​เด็กชาย​พิการ​อย่าง​เงียบงัน​ว่า​ พวกเขา​ไม่ต้อง​กังวล​เกี่ยวกับ​ค่ารักษาพยาบาล​อีกต่อไป​ เพราะ​เขา​จ่าย​แล้ว​

ทั้ง​ยาย​และ​หลาน​รู้สึก​ซาบซึ้ง​จน​ไม่รู้​จะตอบแทน​อย่างไร​

เมื่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น​กำลังจะ​จากไป​ กลุ่ม​นักข่าว​รีบ​เข้ามา​

นักข่าว​สาว​คน​หนึ่ง​เข้ามา​สัมภาษณ์เด็กชาย​พิการ​

เธอ​ถามเขา​ว่า​ทำไม​เขา​ถึงเลือก​ไป​ยัง​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ใน​วันที่​หิมะ​ตก​ ทั้งที่​เขา​ขา​พิการ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ชำเลือง​มอง​นักข่าว​ด้วย​ท่าทาง​สับสน​ นักข่าว​สมัยนี้​ไร้​สมอง​หรือ​อย่างไร​ถึงได้​ถามคำถาม​ปัญญาอ่อน​แบบ​นั้น​?

เขา​พูดไม่ออก​

เด็กชาย​พิการ​ยัง​รู้สึก​ว่า​คำถาม​ของ​นักข่าว​ดู​ราวกับ​คน​ไร้​ปัญญา​

แต่​เขา​ก็​ยัง​ตอบ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ “อาหาร​และ​ผักสด​ที่​บ้าน​ของ​ผม​หมด​แล้ว​ ผม​ต้อง​ไป​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ เพื่อ​ซื้อ​แป้ง​หนึ่ง​ถุงและ​ผักกาด​ขาว​สอง​สามหัว​ครับ​”

นักข่าว​ถามต่อ​ “ไม่มีร้าน​น้ำมัน​และ​ผลผลิต​ทาง​การเกษตร​หรือ​ตลาด​ของ​รัฐ​ใกล้​บ้าน​หนู​เลย​เหรอ​? หนู​ต้อง​เดินทางไกล​ขนาด​นี้​เพื่อ​มาซื้อ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​ผักกาด​ขาว​ปลี​เหรอ​? ตลาด​และ​ร้านค้า​ที่​ดำเนินการ​โดย​รัฐ​มีราคา​ที่​วางแผน​ไว้​ ไม่แพง​กว่า​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​ผักกาด​ขาว​ที่​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​นะ​”

สมาชิก​ใน​ครอบครัว​หลาย​คน​ของ​ผู้ป่วยใน​วอร์​ด​เดียวกัน​ไม่สามารถ​ทน​ได้​อีกต่อไป​

“ต่อให้​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​ผักกาด​ขาว​ใน​ตลาด​หรือ​ร้านค้า​ของ​รัฐ​จะมีราคา​เท่ากับ​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ แต่​เมล็ดข้าว​และ​เมล็ด​พืช​ของ​รัฐ​ล้วน​เน่าเสีย​ อีก​ทั้ง​ผักกาด​ขาว​ใน​ฟาร์ม​ผัก​ของ​รัฐ​ก็​เหี่ยวเฉา​ ธัญพืช​และ​น้ำมัน​ใน​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​คือ​ของสด​ใหม่​ เช่นเดียวกับ​ผักกาด​ขาว​ ใน​ฐานะ​คนธรรมดา​ ทุกคน​จะเลือก​ซื้อ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​ผักกาด​ขาว​ที่​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​

นักข่าว​สาว​ได้ยิน​ว่า​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​ผู้ป่วย​คนอื่น​ต่าง​กล่าว​หาว่า​หล่อน​ไร้​ปัญญา​ก็​รู้สึก​อึดอัด​เล็กน้อย​

หล่อน​กลอกตา​และ​สัมภาษณ์เด็กชาย​พิการ​ต่อไป​ “ละแวกบ้าน​หนู​ไม่มีตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​เหรอ​? แม้ว่า​ธัญพืช​และ​น้ำมัน​ที่​ขาย​จะเก่า​ แต่​ราคา​ก็​ถูก​กว่า​ร้าน​ขาย​ธัญพืช​และ​น้ำมัน​ของ​รัฐ​และ​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ ฉัน​ได้ยิน​มาว่า​ผัก​นั้น​มาจาก​ชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​ สด​และ​สะอาด​มาก​ ราคา​ก็​ถูก​กว่า​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ ทำไม​หนู​ไม่ไป​ซื้อ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​ผักกาด​ขาว​ที่​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ล่ะ​?”

สมาชิก​ครอบครัว​ของ​ผู้ป่วยใน​วอร์​ด​เดียวกัน​โห่ร้อง​ทันทีที่​ได้ยิน​คำถาม​ของหล่อน​

คน​เหล่านั้น​กลอกตา​พลาง​ดูถูก​เหยียดหยาม​ “ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ลดราคา​ลง​หลังจาก​เห็น​การ​แทรกแซง​ของ​รัฐบาล​เพื่อ​รักษา​เสถียรภาพ​ราคา​ เมื่อก่อน​รัฐบาล​ไม่ได้​จริงจัง​ใน​การ​ตรวจสอบ​เช่นเดียวกับ​ทุกวันนี้​ พวกเขา​ก็​ขาย​สินค้า​ใน​ราคา​สูง ราวกับ​กำลัง​ต้องการ​รีดไถ​เรา​ ไม่ว่า​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​จะราคา​ถูก​แค่​ไหน​ ฉัน​ก็​จะไม่ไป​ซื้อ​ของ​ที่นั่น​อีกต่อไป​ ฉัน​ไม่พึงพอใจ​กับ​ตลาด​แห่ง​นั้น​!”

นักข่าว​คนอื่น​ ๆ ถามด้วย​ความ​อยากรู้อยากเห็น​ “ของ​ของ​พวกเขา​แพง​แค่​ไห​นคะ​?”

นักข่าว​เหล่านี้​รู้​เพียง​ว่า​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มินขา​ย​ผัก​เรือนกระจก​ที่​มียาฆ่าแมลง​ปนเปื้อน​ แต่​พวกเขา​ไม่รู้​ว่า​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มินขา​ย​ผัก​ราคา​สูงเกิน​กว่า​ที่​ราคาตลาด​กำหนด​

สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​ผู้ป่วย​เหล่านั้น​ได้​บอก​ราคา​ของ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​สินค้า​เกษตร​มากมาย​ใน​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ให้​พวกเขา​ฟัง

บรรดา​นักข่าว​ต่าง​ก็​ตกตะลึง​ “ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​จะขาย​แพง​ขนาด​นั้น​ได้​อย่างไร​ และ​กล้า​ดี​ยังไง​ถึงขาย​แพง​ขนาด​นี้​ นี่​คือ​การ​โก่งราคา​ หาก​บอก​ผู้บังคับบัญชา​ให้​รู้​พวกเขา​ต้อง​ติดคุก​แน่​ เรื่อง​นี้​… ไม่น่าเชื่อ​เลย​ว่า​จะเกิดขึ้น​จริง​”

สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​ผู้ป่วย​กลอกตา​พร้อมกัน​ “หาก​คุณ​ไม่เชื่อ​ก็​ไป​สืบ​ด้วยตัวเอง​ แล้​วจะ​รู้​ว่า​สิ่งที่​เรา​บอก​นั้น​จริง​หรือ​เท็จ​”

สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​ผู้ป่วย​คน​หนึ่ง​พูด​ด้วย​ความ​เย้ยหยัน​ “ปลา​และ​เนื้อสัตว์​ที่​กำลังจะ​หมดอายุ​ก็​ถูก​นำมา​ขาย​ใน​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ ซึ่งคน​กลุ่ม​ใหญ่​ก็​ต่าง​ต้อง​เจ็บป่วย​และ​เข้า​โรงพยาบาล​เพราะ​กิน​มัน​ ต่อมา​พวกเขา​ก็​ขาย​ผัก​เรือนกระจก​ที่​มียาฆ่าแมลง​ และ​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ก็​ป่วย​จาก​การ​กิน​มัน​ ไม่มีอะไร​ที่​พวกเขา​ทำ​ไม่ได้​ ด้วย​ความ​ใจดำ​แล้ว​ไร้​มนุษยธรรม​ของ​พวกเขา​ ไม่น่าแปลกใจ​ที่​พวกเขา​ขายของ​ใน​ราคา​สูงแม้จะเกิด​ภัยพิบัติ​”

ใน​ช่วง​ทศวรรษ​ที่​ 1980 การ​แพร่กระจาย​ของ​ข่าวสาร​มักจะ​ไม่ทั่วถึง​นัก​

หาก​ไม่มีผู้ใด​ร้องเรียน​หรือ​รายงาน​ไป​ยัง​สำนัก​ นักข่าว​ส่วนใหญ่​ก็​ไม่รู้เรื่อง​

ผู้สื่อข่าว​เหล่านี้​ไม่เคย​รู้​ถึงเรื่องอื้อฉาว​ที่​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​ผู้ป่วย​เหล่านี้​กล่าวถึง​มาก่อน​เลย​ พวกเขา​จึงไม่เคย​รู้​ว่า​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​จะขายของ​บูด​เน่า​ให้​กับ​ผู้บริโภค​

เมื่อ​พวกเขา​ออก​มาจาก​โรงพยาบาล​ นักข่าว​เหล่านั้น​ก็​ร่วมกัน​ตรวจสอบ​ว่า​ข่าวลือ​ของตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ว่า​เป็น​ความจริง​หรือไม่​

นักข่าว​สาว​คน​หนึ่ง​บอ​กว่า​หล่อน​รู้สึก​ไม่ค่อย​สบาย​นัก​จึงขอ​หยุด​การสืบสวน​และ​กลับ​ไป​ก่อน​

……………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

นักข่าว​คน​สุดท้าย​แปลก​ๆ นะ​ สาย​ของ​ยัย​อวี้อิ๋ง​เหรอ​

ไหหม่า​(海馬)