ตอนที่ 765 เรื่องเลวร้าย

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 765 เรื่อง​เลวร้าย​

นักข่าว​สาว​คน​นั้น​ไม่ใช่ใคร​อื่น​นอกจาก​ถงชิงหยาง​ ลูกพี่ลูกน้อง​ห่าง ๆ​ ของ​ซูอวี้อิ๋ง​

ใน​การ​สัมภาษณ์ครั้งนี้​ หล่อน​จงใจนำ​หัวข้อ​นี้​เชื่อม​ไป​ยัง​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​

เดิมที​หล่อน​ต้องการ​สร้าง​กระแส​เพื่อ​ทำการ​โฆษณาตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ แต่​ก็​ไม่ได้​คาดหวัง​ว่า​ทุกอย่าง​จะเป็น​เช่นนี้​ สิ่งที่​ได้รับ​คือ​มุมมืด​ของตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​แทน​

หล่อน​ต้อง​รายงาน​ซูอวี้อิ๋ง​ใน​ตอนนี้​ เพื่อ​ที่​อีก​ฝ่าย​จะได้​เตรียมตัว​สำหรับ​เรื่อง​นี้​

หล่อน​รีบ​ไป​ยัง​หน่วยงาน​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​และ​เล่าเรื่อง​ทั้งหมด​พร้อม​ข้อเท็จจริง​ที่​นักข่าว​กำลัง​สืบสวน​

แน่นอน​ว่า​หล่อน​ไม่ได้​พูดถึง​ความร้ายแรง​ของ​เหตุการณ์​นี้​ด้วยซ้ำ​

ใบหน้า​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​ซีด​ลง​ด้วย​ความตกใจ​

หล่อน​ไม่คาดคิด​ว่า​เรื่องราว​อื้อฉาว​ของตลาด​จะถูก​เปิดเผย​

บรรดา​ผู้บริโภค​ที่​ซื้อ​ปลา​และ​เนื้อ​เน่าเสีย​ของหล่อน​ไป​รับประทาน​ต่าง​ก็​อาหาร​เป็นพิษ​จน​ต้อง​เข้า​โรงพยาบาล​ ทำให้​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​พวกเขา​ต้อง​หาเงิน​มาทำ​การรักษา​ แต่​ตำรวจ​กลับ​ไม่คิด​บีบบังคับ​ให้​ซูอวี้อิ๋ง​รับผิดชอบ​

สำหรับ​สาร​กำจัด​ศัตรูพืช​บน​ผัก​เรือนกระจก​ของ​พวกเขา​ตำรวจ​ก็​สืบสวน​ความจริง​เช่นกัน​ และ​มีรายงาน​ว่า​ สาร​กำจัด​ศัตรูพืช​ทั้งหมด​ไม่มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​หล่อน​ ทุกอย่าง​เป็น​ความผิด​ของ​เหล่า​เกษตรกร​

แม้ว่า​ก่อนหน้านี้​หล่อน​จะเคย​ขึ้นราคา​สินค้า​ แต่​ตอนนี้​ก็​ลดลง​มาก​แล้ว​

แม้ว่า​หน่วยงาน​ระดับสูง​จะรู้​ว่า​พวกเขา​ต้อง​รับผิดชอบ​ แต่​พวกเขา​ก็​เพียง​ตำหนิ​และ​เรียก​เก็บ​ค่าปรับ​จาก​หล่อน​ และ​ก็​ไม่ได้​มีปัญหา​ยิ่งใหญ่​อะไร​นับ​จากนั้น​

หล่อน​กังวล​เพียง​ว่าการ​ซื้อ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​เนื้อสัตว์​อย่าง​ผิดกฎหมาย​จาก​สหพันธ์​การ​เก็บรักษา​ธัญพืช​และ​เนื้อสัตว์​แห่ง​ประเทศ​จีน​จะถูก​เปิดโปง​ออก​ไป​ และ​นั่น​จะเป็นเรื่อง​ร้ายแรง​

ไม่ใช่เพียง​หล่อน​ต้อง​พบ​กับ​จุดจบ​ แต่​พ่อ​ของหล่อน​ก็​ต้อง​พบ​กับ​จุดจบ​ด้วย​ และ​ทุกคน​ที่​เกี่ยวข้อง​จะไม่สามารถ​หลบหนี​ได้​

ซูอวี้อิ๋ง​คิด​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​และ​กลับ​ไป​ยัง​บ้าน​แม่ของ​เธอ​หลัง​เลิกงาน​

พ่อ​ซูยัง​ไม่กลับมา​

ผู้นำ​ระดับสูง​มัก​ยุ่ง​กับ​งาน​ และ​พวกเขา​ไม่ค่อย​กลับบ้าน​ตรงเวลา​

แม่ซูรู้สึก​ประหลาดใจ​มาก​ที่​เห็น​ลูกสาว​กลับมา​บ้าน​มือเปล่า​

ลูกสาว​ของหล่อน​หน้าตา​ดี​ ทุกครั้งที่​กลับบ้าน​ก็​จะมาพร้อม​ของขวัญ​ชิ้น​โต​ เพื่อ​ไม่ให้​เพื่อนบ้าน​ต้อง​ตำหนิ​หรือ​ดูถูก​สามีของหล่อน​

แต่​คราวนี้​กลับมา​พร้อม​มือเปล่า​~

แม่ซูถามอย่าง​ลังเล​ “สามีภรรยา​ทะเลาะ​กัน​อีกแล้ว​เหรอ​?”

ซูอวี้อิ๋ง​ไม่ต้องการ​ให้​แม่ซูรู้​ว่า​หล่อน​สร้าง​ปัญหา​ง ดังนั้น​จึงฝืนยิ้ม​ “ไม่ค่ะ​ ฉัน​แค่​อยาก​กลับมา​กิน​อาหารเย็น​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​ลูกสาว​ไม่ยอม​บอก​ความจริง​ แม่ซูก็​หยุด​ถามและ​ช่วย​พี่เลี้ยง​ทำอาหาร​

ยัง​ไม่ทัน​ที่จะ​ได้​ซักถาม​ ก็​พลัน​มีเสียง​รถ​ดัง​ขึ้น​ข้างนอก​ ซึ่งอาจ​เป็น​พ่อ​ซูที่​เดินทาง​มาถึงบ้าน​แล้ว​

ซูอวี้อิ๋ง​รีบ​ออก​ไป​ต้อนรับ​และ​เห็น​พ่อ​ซูลง​จาก​รถ​

เขา​ค่อนข้าง​ประหลาดใจ​ที่​เห็น​ซูอวี้อิ๋ง​ เช่นเดียวกับ​คนขับรถ​ที่​ได้​เห็น​แต่​ก็​ไม่ได้​ถามสิ่งใด​ เพียง​เผย​รอยยิ้ม​เท่านั้น​ “คุณหนู​กลับบ้าน​มาหา​คุณพ่อ​กับ​คุณแม่​เหรอ​ครับ​?”

เมื้อ​เห็น​พ่อ​ซู ซูอวี้อิ๋ง​ก็​งรู้สึก​โล่งใจ​จึงพยักหน้า​และ​ตอบกลับ​ “ใช่ค่ะ​”

เมื่อ​พ่อ​ซูกลับมา​ แม่ซูก็​เริ่ม​ตั้งโต๊ะ​อาหารเย็น​

ซูอวี้อิ๋ง​กำลัง​รับประทาน​อาหารเย็น​อย่าง​เหม่อลอย​ในขณะที่​จ้องมอง​ไป​ยัง​ข่าว​ที่​กำลัง​ออกอากาศ​

หลังจาก​ข่าวในประเทศ​จบ​ลง​ เธอ​ก็​ไม่เห็น​ข่าว​เกี่ยวกับ​ตัวเอง​จึงลอบ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​

อย่างไรก็ตาม​ ข่าว​เกี่ยวกับ​หล่อน​ไม่ได้​อยู่​ใน​เครือข่าย​ข่าว​ส่วนกลาง​ แต่​อาจจะ​เป็น​ใน​เครือข่าย​ข่าวท้องถิ่น​

ซูอวี้อิ๋ง​ปรับ​ทีวี​ไป​ยัง​ช่อง​เป่ย​จิงทีวี​

ซูอวี้อิ๋ง​ไม่ชอบ​อ่าน​ข่าว​ แต่​วันนี้​หล่อน​กลับ​ให้ความสนใจ​แก้​ข่าว​เป็นพิเศษ​จน​พ่อ​และ​แม่ซูที่​เฝ้าดู​พฤติกรรม​ผิดปกติ​ของ​ลูกสาว​พูดไม่ออก​

คน​หนึ่ง​มอง​หล่อน​อย่าง​สงสัย​ อีก​คน​มอง​หล่อน​อย่าง​เป็นกังวล​พลาง​ตัก​อาหาร​เข้า​ปาก​อย่าง​เงียบงัน​

ครึ่ง​ชั่วโมง​ต่อมา​ ครอบครัว​ของ​พวกเขา​ก็​กิน​อาหารเย็น​เสร็จสิ้น​ การออกอากาศ​ข่าวท้องถิ่น​ของ​สถานีโทรทัศน์​ปักกิ่ง​ก็​จบ​ลง​โดย​ไม่มีข่าว​เกี่ยวกับ​ซูอวี้อิ๋ง​

ในที่สุด​ซูอวี้อิ๋ง​ก็​หันไป​มอง​ พ่อ​ซูซึ่งก็​มอง​มาที่​เธอ​เช่นกัน​

หล่อน​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ จึงกล่าว​อย่าง​แผ่วเบา​ “พ่อ​คะ​ ฉัน​มีเรื่อง​จะคุย​กับ​พ่อ​”

พ่อ​ซูพา​หล่อน​ไป​ยัง​ห้องทำงาน​และ​ขอให้​หล่อน​นั่งลง​ “บอก​พ่อ​มาสิ ลูก​ต้อง​การคุย​กับ​พ่อ​เรื่อง​อะไร​?”

จากนั้น​ซูอวี้อิ๋ง​ก็​ลังเล​ก่อน​จะบอกเล่า​ถึงความผิด​ของหล่อน​ใน​การขึ้นราคา​และ​ขาย​อาหาร​เน่าเสีย​

พ่อ​ซูตกใจ​จน​พูดไม่ออก​อยู่​พัก​หนึ่ง​

เขา​คิด​เสมอ​ว่า​ การ​ที่​ลูกสาว​ของ​เขา​ขาย​ผัก​เรือนกระจก​ที่​มียาฆ่าแมลง​ให้​กับ​คนอื่น​ก็​ถือเป็น​ความผิด​มหันต์​แล้ว​

แต่​ลูกสาว​ของ​เขา​กลับ​ยัง​ทำ​เรื่องอื้อฉาว​เช่นนี้​ ซึ่งเป็นเรื่อง​ที่​เขา​รับ​ไม่ได้​อย่างยิ่ง​

หล่อน​ขึ้นราคา​สินค้า​จน​แพง​เกิน​กว่า​เหตุ​!

พ่อ​ซูตะโกน​ด้วย​สีหน้า​ไม่พอใจ​ “กล้า​ดี​ยังไง​ถึงขึ้นราคา​สินค้า​ท่ามกลาง​ภัยพิบัติ​แบบนี้​ ลูก​ทำ​แบบ​นั้น​ได้​ยังไง​!”

“แต่​ฉัน​ทำ​ลง​ไป​แล้ว​” ซูอวี้อิ๋ง​เถียง​

พ่อ​ซูพูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ “แล้ว​ตอนที่​ทำ​ไม่คิดถึง​ผลกระทบ​ที่​ตามมา​บ้าง​เหรอ​? หาก​ผู้มีอำนาจ​ระดับสูง​ไม่รู้​ก็​คง​ไม่เป็นไร​ แต่​เมื่อไหร่​ที่​พวกเขา​รู้​ พวกเขา​จะต้อง​สืบสวน​ลูก​อย่าง​แน่นอน​ เมื่อ​ถึงเวลา​นั้น​ ลูก​จะไม่สามารถ​ปกปิด​เรื่อง​การ​ได้รับ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​เนื้อหมู​อย่าง​ผิดกฎหมาย​จาก​สหพันธ์​การ​เก็บรักษา​ธัญพืช​และ​เนื้อสัตว์​แห่ง​ประเทศ​จีน​ได้​ และ​เรื่องราว​ทั้งหมด​จะถูก​ค้นพบ​ หาก​เวลา​นั้น​มาถึง ไม่ใช่เพียง​ลูก​ที่จะ​ซวย​ แต่​ตระกูล​ซูทั้งหมด​ของ​เรา​ก็​จะซวย​ไป​ด้วย​!”

เมื้อ​ซูอวี้อิ๋ง​เห็น​ว่า​พ่อ​ซูพูด​อย่าง​จริงจัง​ก็​รู้สึก​กลัว​จน​อยาก​จะร้องไห้​ “พ่อ​คะ​ เหตุการณ์​มัน​เกิด​ขึ้นไป​แล้ว​ ตอนนี้​เรา​มาช่วยกัน​หา​ทางแก้ไข​ก่อน​ดีกว่า​ แล้ว​จะทุบตี​หรือ​ด่าทอ​ฉัน​ก็​ค่อย​เอาไว้​ทีหลัง​”

พ่อ​ซูครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ และ​ในไม่ช้า​ก็​จัด​การวางแผน​ใน​ใจของ​เขา​

เขา​ต้อง​ไม่ล้มเหลว​ เนื่องจาก​การ​เสียชีวิต​ของ​เสาหลัก​ตระกูล​ เขา​จึงกลายเป็น​เสาหลัก​ของ​ตระกูล​ซู

หาก​เขา​ล้ม​ลง​ ครอบครัว​ซูทั้งหมด​ก็​จะล้ม​ลง​เช่นกัน​

โชคดี​ที่​เพื่อ​ความสะดวก​ใน​การ​ซื้อ​ของ​ให้​ลูกสาว​ เขา​เพียง​กล่าว​ทักทาย​และ​สั่งซื้อ​ด้วย​คำพูด​คลุมเครือ​ ไม่ได้​แสดงออก​ถึงตัวตน​อย่าง​ชัดเจน​

พวกเขา​แปรรูป​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​เนื้อหมู​เพื่อให้​ลูกสาว​ขาย​และ​ทำกำไร​ได้​มากขึ้น​

เขา​ไม่ได้​พูด​อะไร​เกี่ยวกับ​การ​ขอให้​พวกเขา​ขาย​ธัญพืช​สำรอง​และ​เนื้อ​สำรอง​ให้​กับ​ลูกสาว​ของ​เขา​

อันที่จริง​พ่อ​ซูตั้งใจ​จะปกป้อง​ตัวเอง​เท่านั้น​ ไม่ได้​คำนึงถึง​ลูกสาว​สุดที่รัก​ของ​เขา​

ภัยพิบัติ​เกิด​จาก​หล่อน​ และ​หล่อน​ควร​รับ​ผล​ที่​ตามมา​

หาก​เขา​ต้อง​การปกป้อง​ลูกสาว​ของ​เขา​ใน​ช่วงเวลา​หัวเลี้ยวหัวต่อ​นี้​ เขา​ต้อง​เข้าไปมีส่วนร่วม​ด้วย​

พ่อ​ซูพูด​เสียง​แผ่ว​ราวกับว่า​แก่​ไป​หลาย​ปี​ “หลังจาก​วันนี้​ อย่า​กลับมา​ที่​บ้าน​พ่อ​กับ​แม่อีก​ รอ​จนกว่า​เรื่อง​นี้​จะได้รับ​การ​แก้ไข​ เรา​ถึงจะยอมให้​ลูก​เดินทาง​กลับ​บ้านเกิด​และ​กลับมา​ยังบ้าน​ของ​เรา​ได้​ หาก​ข้าม​ผ่าน​ไป​ไม่ได้​และ​ต้อง​วุ่นวาย​กับ​เรื่อง​นี้​ ลูก​ต้อง​เป็น​คน​แบกรับ​ทั้งหมด​เอง​ ถ้าเรื่อง​แค่นี้​ผ่าน​ไป​ไม่ได้​ เรื่อง​จะวุ่นวาย​มาก​ และ​ลูก​ต้อง​แบกรับ​มัน​เอง​ทั้งหมด​ อย่า​ลาก​ฉัน​ไป​ลงนรก​ด้วย​ และ​อย่า​ลาก​ใคร​จาก​ตระกูล​ซูไป​ซวย​ด้วย​ เข้าใจ​ที่​พ่อ​หมายถึง​ไหม​?”

ซูอวี้อิ๋ง​พยักหน้า​ด้วย​ใบ​หน้าซีด​ “เข้าใจ​แล้ว​ค่ะ​”

พ่อ​ซูหาทาง​ซัดทอด​ได้​แล้ว​ หล่อน​จึงไม่นึก​เสียใจ​

ท้ายที่สุด​ พวกเขา​ก็​เป็น​ลูก​ของ​ข้าราชการ​ระดับสูง​ แม้ว่า​บางครั้ง​พวกเขา​จะไม่เคารพ​กฎหมาย​ แต่​ก็​ยัง​พึ่งพิง​ได้​ใน​ช่วงเวลา​วิกฤต​

หาก​พ่อ​ของหล่อน​ยังอยู่​ หล่อน​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​เกรงกลัว​อะไร​

พ่อ​ของหล่อน​คือ​เขา​เขียวขจี​ และ​ถ้าภูเขา​เขียว​อยู่​ที่นั่น​ ก็​ไม่ต้อง​กลัว​ฟืน​หมด​

ตราบใดที่​พ่อ​ของหล่อน​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ไม่ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้นกับ​หล่อน​ พ่อ​ของหล่อน​จะช่วย​หล่อน​อย่าง​แน่นอน​

แต่​หาก​พ่อ​ของหล่อน​ถูก​พบ​ว่า​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​และ​ถูก​กำจัด​ออกจาก​ตระกูล​ซู หลังจากนี้​จะมีใคร​ที่ไหน​ช่วยเหลือ​หล่อน​อีก​?

ซูอวี้อิ๋ง​หยิบ​กระเป๋า​ของ​ตน​และ​จากไป​

…….

นักข่าว​กลุ่ม​นั้น​ได้​เยี่ยมชม​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​สอง​แห่ง​โดย​ไม่แจ้งให้ทราบ​ล่วงหน้า​

สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ของ​ผู้ป่วย​กล่าวว่า​ ใน​ช่วง​ภัยพิบัติ​หิมะ​ ผลิตภัณฑ์​จาก​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ทั้งสอง​แห่ง​มีราคาแพง​มาก​

นักข่าว​ส่วนใหญ่​มีความยุติธรรม​ และ​พวกเขา​ก็​ดูหมิ่น​ผู้​ที่​ฉวยโอกาส​ทำเงิน​มหาศาล​ใน​ช่วง​วิกฤต​

หลังจาก​เสร็จสิ้น​การสืบสวน​ พวกเขา​ก็​กลับ​ไป​เขียน​หรือ​แก้ไข​วิธีการ​ เตรียม​เปิดโปง​ตลาดสด​ฮุ่ย​ห​มิน​ที่​เน่า​เฟะ

เด็กชาย​พิการ​ล้ม​ลง​ใน​โรงพยาบาล​ระหว่างทาง​ เพราะ​เขา​ต้องการ​ซื้อ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​ผัก​จาก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ เหตุการณ์​นี้​ถูก​ตีพิมพ์​ใน​หนังสือพิมพ์​ของ​วันรุ่งขึ้น​พร้อมกับ​เรื่องอื้อฉาว​ของตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​

เมื่อ​หลิน​ม่าย​อ่าน​หนังสือพิมพ์​ใน​ตอนเช้า​ เธอ​รู้​ว่า​มีคน​เกือบ​ประสบอุบัติเหตุ​ครั้ง​ใหญ่​เพราะ​ต้องการ​มาที่​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ของ​เธอ​

อีก​ทั้ง​ยัง​เห็น​ว่า​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​สอง​แห่ง​ถูก​รายงาน​ใน​หนังสือพิมพ์​เรื่อง​ที่​ขายของ​เกิน​ราคา​ อีก​ทั้ง​ยัง​ขายของ​เน่าเสีย​ เธอ​ก็​รู้สึก​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​

ในที่สุด​ การขึ้นราคา​สินค้า​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​ใน​ช่วง​ที่เกิด​ภัยพิบัติ​หิมะ​ก็ได้​เปิดเผย​ต่อ​สื่อ​

ทุกวันนี้​ สื่อ​ทุก​สำนัก​ล้วน​เป็น​ของ​ชาติ​

ตราบใดที่​มีการ​รายงาน​การขึ้นราคา​สินค้า​ของ​ซูอวี้อิ๋ง​ใน​ช่วง​ภัยพิบัติ​หิมะ​ต่อ​สื่อ​ รัฐบาล​ก็​จะต้อง​ตกเป็น​เป้าหมาย​อย่าง​แน่นอน​

ไม่ต้อง​พูดถึง​ซูอวี้อิ๋ง​ แม้แต่​ครอบครัว​ซูทั้งหมด​ก็​อาจ​ถึงวาระสุดท้าย​

เธอ​เพียง​รอ​ชมเรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ฐานะ​ผู้ชม​ที่​ดี​

ซูอวี้อิ๋ง​ไม่มีนิสัย​ชอบ​อ่าน​หนังสือพิมพ์​ใน​ตอนเช้า​ และ​หล่อน​มักจะ​อ่าน​หนังสือพิมพ์​เมื่อ​ไป​ถึงที่ทำงาน​

ใน​ยุค​นี้​ พนักงาน​ออฟฟิศ​ส่วนใหญ่​ใช้เวลา​หนึ่ง​วัน​ไป​กับ​การ​ดื่ม​ชาและ​หนังสือพิมพ์​

แต่​หล่อน​กลับ​อ่าน​หนังสือพิมพ์​ทันทีที่​ตื่นขึ้น​ใน​เช้าวันนี้​ และ​เห็น​ว่า​ความผิด​ทั้งหมด​ของ​ตน​ถูก​เขียน​และ​ตีพิมพ์​โดย​นักข่าว​หลาย​สำนัก​ ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​ใจ

หาก​ผู้นำ​ที่​เกี่ยวข้อง​เห็น​ข่าว​นี้​ก็​คง​กระวนกระวาย​จน​ทำตัว​ไม่ถูก​ และ​อนาคต​ใน​เส้นทาง​ธุรกิจ​ของหล่อน​อาจ​ต้อง​จบ​ลง​

ตอนนี้​หล่อน​ไม่สามารถ​ดูแล​งาน​ของ​ตัวเอง​ได้​อีกต่อไป​ ได้​แต่​หวัง​ว่าการ​ซื้อ​ธัญพืช​สำรอง​และ​เนื้อสัตว์​สำรอง​อย่าง​ผิดกฎหมาย​ของหล่อน​จะไม่ถูก​เปิดเผย​ เพราะ​นั่น​คือ​ความ​ผิดที่​ร้ายแรง​ที่สุด​

………..

พรุ่งนี้​เป็น​เทศกาล​โคมไฟ​ หลัง​อาหารเช้า​ หลิน​ม่าย​ฝ่าลม​และ​หิมะ​ไป​ยัง​ตลาด​ของ​ตัวเอง​เพื่อ​ดู​ว่า​มีการ​จัด​อุปกรณ์​เทศกาล​อย่างไร​

ตั้งแต่​เกิด​พายุ​หิมะ​ เธอ​ก็​ยืนยัน​ที่จะ​ขาย​สินค้า​เท่า​ราคาทุน​ใน​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​

และ​เรื่องราว​การ​ช่วยเหลือ​เด็ก​ที่​ต้อง​เข้า​โรงพยาบาล​หลังจาก​การ​รับประทาน​ผัก​เรือนกระจก​ที่​มียาฆ่าแมลง​ตกค้าง​มากเกินไป​ก็​แพร่สะพัด​ออก​ไป​

เกษตรกร​ใน​หลาย​เมือง​รอบ​กรุง​ปักกิ่ง​ก็​ยินดี​ที่จะ​จัดหา​สินค้า​หรือ​ผลผลิต​ทาง​การเกษตร​ต่าง ๆ​ ให้​กับ​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ใน​รา​คาที่​ยุติธรรม​

ตอนนี้​ผลผลิต​ทาง​การเกษตร​ของตลาด​ฝูตัว​ตัว​นั้น​สมบูรณ์​มาก​

หลิน​ม่าย​ต้องการ​มอบ​ความไว้วางใจ​จึงรับซื้อ​สินค้า​ทุก​ประเภท​ที่​ประชาชน​เสนอขาย​ จากนั้น​ก็​ให้​พวกเขา​นำ​ไป​แจกจ่าย​ให้​กับ​ประชาชน​ใน​เมืองหลวง​ที่​ขาดแคลน​

การ​เดินทาง​สำหรับ​ผู้​คนใน​ยุค​นี้​ถือ​เป็นเรื่อง​ลำบาก​ ดังนั้น​หลิน​ม่าย​จึงต้องการ​ช่วยเหลือ​ประชาชน​ที่​เดินทาง​มายัง​ตลาด​ของ​เธอ​ด้วยใจจริง​ โดย​ไม่หวัง​สิ่งใด​ตอบแทน​

ด้วยเหตุนี้​หลิน​ม่าย​จึงแบ่ง​พื้นที่​ใน​ตลาด​เพื่อ​แจกจ่าย​ผลิตภัณฑ์​หรือ​สินค้า​บาง​ชนิด​ให้​กับ​ประชาชน​

แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่ทุกคน​จะได้รับ​ เธอ​จะมอบให้​เฉพาะ​ครอบครัว​ที่​ยากจน​ และ​ครอบครัว​ที่​มีผู้สูงอายุ​มากกว่า​หกสิบ​ปี​ขึ้นไป​ รวมถึง​ผู้​พิการ​ด้วย​

กลุ่มคน​พิเศษ​เหล่านั้น​ต้อง​มีใบรับรอง​ที่​ออก​โดย​คณะกรรมการ​พื้นที่​และ​เข้าแถว​อย่าง​เป็นระเบียบ​เพื่อ​รับ​ของ​ฟรี​

ยุค​นี้​ไม่มีอาหาร​แช่แข็ง​ที่​สามารถ​กิน​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ พวกเขา​ทำได้​เพียง​ต้อง​ซื้อ​วัตถุดิบ​และ​นำ​กลับ​ไป​ปรุง​เอง​

ทันทีที่​หลิน​ม่าย​เดิน​เข้าไป​ใน​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ เธอ​ได้​มองเห็น​แป้ง​เกี๊ยว​สีขาว​เหมือน​หิมะ​กองพะเนิน​เหมือน​เนินเขา​ และ​มีไส้มากมาย​

หมู​ ไก่​ เป็ด​ ปลาน้ำจืด​… มีครบ​ทุก​ไส้

หลิน​ม่าย​ซื้อ​น้ำตาลทรายแดง​ นมผง​ และ​ผลไม้​สอง​สามถุงไป​ยัง​โรงพยาบาล​โห​ย่ว​เห​อ​เพื่อ​เยี่ยมเยียน​เด็กชาย​พิการ​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ตระกูล​ซูจะถึงคราว​ล่มสลาย​ไหม​นะ​ โดน​แฉขนาด​นี้​แล้ว​

ไหหม่า​(海馬)