บทที่ 665 ตัดขาของเธอ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

นวิยากัดริมฝีปาก แววตามีความหวาดกลัว

เธอรู้ ครั้งนี้ถูกนัทธีจับไป เธอมีจุดจบไม่ดีแน่

ครั้งที่แล้วหนีมาจากการกักขังของนัทธีได้ เป็นเพราะเธอหลอกใช้พิชิต

แต่ครั้งนี้ นัทธีไม่มีทางให้พิชิตเข้าใกล้เธอแน่ ดังนั้นเธออยากหนีไป ก็เป็นไปไม่ได้

แน่นอนว่า คนที่ทำให้นวิยาเกลียดที่สุด ก็เป็นนิรุตติ์

ไอ้ระยำนั่นกลับมาครั้งหนึ่งแล้ว อยู่แป๊บเดียวก็ไปอีก ทิ้งเธอไว้ที่นี่ ทำให้นัทธีจับเธอได้

ทั้งๆที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน แล้วทำไมนิรุตติ์หนีไปได้ ส่วนเธอต้องถูกจับ

ตอนนี้เธอสงสัย ว่านิรุตติ์รู้อยู่แล้วว่านัทธีจะมาที่นี่ ก็เลยหนีไปก่อนหรือเปล่า?

ถ้าเป็นแบบนี้จริง งั้นไอ้นิรุตติ์นี่ ก็เป็นสัตว์เดรัจฉานจริงๆ!

กำลังคิดอยู่นั้น เรือลำที่สามก็ขึ้นฝั่งมา

นัทธีลงจากเรือ สายตามองมาที่นวิยานั้นเย็นชามาก

นวิยาสบตาเขาด้วยสายตาที่หวาดกลัวและซับซ้อน หลังจากสบตาสักพัก ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา“นัทธี พวกเราไม่เจอกันนานเลยนะ”

นัทธีก้าวเท้ามาทางเธอ ไม่ได้ตอบคำทักทายของเธอ

นวิยาได้ยินเสียงเท้าของเขา ดังขึ้นๆ เหมือนกำลังเหยียบอยู่บนใจเธอ ทำให้เธอหวาดกลัวมาก

เธอถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

นัทธีเข้ามาใกล้ไม่หยุด สุดท้ายก็ให้พวกบอดี้การ์ดเข้าไป“จับพวกเธอไป”

“ครับ!”พวกบอดี้การ์ดสิบกว่าคนตอบรับไป แล้วเดินไปทางนวิยากับคนใช้

“อย่าเข้ามา พวกแกห้ามเข้ามา!”นวิยาตะโกนร้องด้วยความหวาดกลัว

อย่างไรก็ตามพวกบอดี้การ์ดไม่ฟังเลย และยังวิ่งมาด้วย

มีบอดี้การ์ดหนึ่งในนั้นวิ่งมาตรงหน้านวิยาก่อน ก็ยื่นมือจะไปจับเธอ

นวิยาหรี่ตาลง แล้วจู่ๆก็ย่อตัวลง กวาดขาล้มบอดี้การ์ดลง

ส่วนคนใช้ที่อยู่ข้างๆก็เช่นกัน ทำเอาบอดี้การ์ดสองคนล้มไป

ฉากนี้ ทำให้ทุกคนต่างตกใจ

“ประธาน นวิยาต่อสู้เป็น!”มารุตพูดอย่างตกใจ

นัทธีหรี่ตา“ไม่ชำนาญ ไม่ใช่อุปสรรค”

พวกบอดี้การ์ดแค่คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงสองคนนี้จะต่อสู้เป็น ดังนั้นจึงมองต่ำไป เลยถูกโค่นล้มได้

แต่ถึงมีฝึกอบรมสิ่งนี้มา ต่อไปนวิยากับคนใช้ ยังไงก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกบอดี้การ์ด

ตามที่คาดไว้เลย หลังจากเหล่าบอดี้การ์ดได้สติคืนมาจากความตกตะลึง ก็ไม่มองผู้หญิงสองคนนี้ต่ำไปอีก แล้วจึงจริงจังขึ้นมา

แป๊บเดียว นวิยากับคนใช้ก็ถูกเหล่าบอดี้การ์ดจับไว้ แล้วพามาตรงหน้านัทธี

“คุกเข่าลง”หัวหน้าบอดี้การ์ดพูด

เหล่าบอดี้การ์ดที่จับนวิยากับคนใช้ ก็ค่อยๆเตะเข่าของพวกเธอ

มีเสียงดังขึ้นมา นวิยากับคนใช้คุกเข่าลงกับพื้น

นวิยารู้สึกอับอายมาก อยากจะขัดขืน แต่ถูกบอดี้การ์ดปราบไปอย่างง่ายดาย

ส่วนคนใช้ เธอรู้ว่าตัวเองขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงยอมรับโชคชะตาไปซะ แล้วคุกเข่าอย่างเชื่อฟัง

“ประธาน ต่อไปจะจัดการพวกเธอสองคนอย่างไร?”มารุตถาม

นัทธีเม้มริมฝีปากแล้วพูด:“เอาเชือกมามัดพวกเธอไว้ พาไปเรือสำราญแล้วขังไว้ แล้วก็ ตัดขาของพวกเธอซะ”

แบบนี้ ถึงพวกเธอมีความสามารถแกะเชือกออก ก็หนีไปไม่ได้

นวิยาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เงยหน้าขึ้นมองนัทธีทันที“นัทธี คุณจะตัดขาของฉันเหรอ?”

นัทธีมองเธออย่างเย็นชา“ไม่ได้เหรอ?”

“แน่นอนว่าไม่ได้ ฉันเป็นน้องสาวบุญธรรมคุณนะ คุณทำแบบนี้กับฉันได้ไงล่ะ!”นวิยาตะโกนไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น

“น้องสาวบุญธรรม?”สี่คำนี้ เหมือนจะสะกิดใจนัทธี จู่ๆเขาก็ยกเท้าขึ้นมา แล้วเตะไปที่ห้องนวิยา

นวิยาร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ร่างกายโค้งงอ รู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วน เจ็บจนตัวสั่น

“คุณยังมีหน้ามาพูดว่าเป็นน้องสาวบุญธรรมผมเหรอ?พ่อแม่ผมไม่ดีกับคุณเหรอไง?รับคุณมาเป็นลูกสาวบุญธรรม รักและตามใจคุณสุดๆ คุณกลับร่วมมือกับขงเบ้งฆ่าพวกเขา!”เสียงอันเยือกเย็นของนัทธีเหมือนมาจากปีศาจในขุมนรก ความแค้นที่อยู่ในนั้น ยิ่งฟังก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกเย็นไปทั่วร่างกาย

ที่จริงนวิยายังเจ็บอยู่จนเหงื่อไหล แต่ได้ยินเขาพูดคำนี้ ก็อึ้งไปหมด

เขา……เขารู้ว่าเธอฆ่าพ่อแม่บุญธรรม?

เธอคิดมาตลอดว่า เขาอยากจับเธอให้ได้ ก็เพื่อแก้แค้นให้วารุณีกับลูกนอกสมรสสองคนนั้น คิดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะรู้เรื่องนี้ด้วย!

นัทธีไม่ปล่อยนวิยาเลย เขาเตะเธอไปอีกที

เขาไม่ทำร้ายผู้หญิง แต่ผู้หญิงคนนี้ สำหรับเขาแล้วไม่ใช่แค่ไม่ได้เป็นผู้หญิง แต่ว่าแม้แต่คนก็ยังไม่ใช่ เป็นสัตว์เดรัจฉาน ปีศาจ

“แค้นของพ่อแม่ผมเป็นหนึ่งในนั้น ส่วนแค้นของวารุณีกับลูกผมผมก็จะคิดบัญชีกับคุณอย่างดี ดังนั้นนวิยา รอลงนรกได้เลย ไปตัดขาเธอให้ผมเดี๋ยวนี้เลย!”นัทธีพูดเสียงคมกริบ

เหล่าบอดี้การ์ดพยักหน้า“ครับ ประธานนัทธี”

“เดี๋ยว”

ตอนนี้เอง มีเสียงเข้ามาจากด้านบนหัว

ทุกคนเงยหน้าไปมอง

เห็นวารุณีตรงระเบียงชั้นสามของคฤหาสน์ นัทธีขมวดคิ้ว“ทำไมเหรอ?”

“นัทธี นวิยาฉันไม่สนหรอก แต่คนใช้คนนั้นไม่ต้องตัดขาของเธอ ถึงแม้เธอเป็นคนของนิรุตติ์ แต่ในช่วงนี้เธอปกป้องฉัน ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันก็ถูกนวิยารังแกไปนานแล้ว ดังนั้นขังเธอไว้ก็พอ อย่าตัดขาเธอเลย”วารุณีมองเมโรนาแล้วพูด

เมโรนาที่เดิมทีก้มหน้าอยู่ หลับตา ด้วยสภาพที่รอดโชคชะตาที่กำลังจะมาถึง

แต่พอได้ยินคำพูดของวารุณีนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะลืมตา มองไปที่วารุณีอย่างตกใจ เหมือนกับตกใจที่วารุณีช่วยตัวเองพูด

นัทธีจ้องเมโรนา สุดท้ายก็เห็นด้วยกับคำขอของวารุณี“โอเค มัดเธอไว้ แล้วทำให้ไฟไหลผ่านประตูห้องที่ขังเธอไว้”

เขาไม่ตัดขาของคนๆนี้ แต่หลังจากที่ทำให้ไฟไหลผ่าน ถึงคนๆนี้จะแก้เชือก ก็หนีไปไม่ได้

ยังไงถ้าประตูมีไฟฟ้า พอแตะโดนก็จะโดนไฟฟ้าช็อตจนพิการได้

เหล่าบอดี้การ์ดก็เริ่มดำเนินการ

พวกเขามัดนวิยากับเมโรนาด้วยเชือกก่อน แล้วปิดปากไว้

หลังจากมัดเชือกเสร็จ ก็มีบอดี้การ์ดสองคนพาเมโรนาไปก่อน ส่วนนวิยา ยังอยู่ที่เดิม

บอดี้การ์ดหนึ่งในนั้นหยิบกระบองออกมา ตีไปที่ขาของนวิยาแรงๆ ภายใต้การส่ายหัวอย่างหวาดกลัวของเธอ ไม่ได้ตีไปที่กระดูกขา แต่เป็นกระดูกหัวเข่า

กึก!

เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้นมาทันที ดังเข้าไปถึงหูของทุกคนที่อยู่ที่นั่น

ดวงตานวิยาเบิกโต ใบหน้านั้นเจ็บปวดจนเหยเก แดงระเรื่อ หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ เส้นเลือดที่คอปูดออกมา ดูแล้วน่าตกใจ

สุดท้าย เธอก็ทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสไม่ได้ กลอกตาคู่นั้น แล้วหมดสติไป

ชั้นบน วารุณีตกใจจนหลับตาลง กลับห้องไม่ดูอีก

เพราะยังไงเธอก็ไม่กล้าแม้แต่เอามีดมาทำร้ายคน แล้วจะกล้ามองฉากที่นองเลือดได้ไง

เธอมองไปครั้งหนึ่ง ก็ตกใจกลัวจนหัวใจแทบจะทะลักออกมา แล้วจะกล้ามองอีกครั้งได้อย่างไร

ดังนั้นจึงเดินออกไป รอจนจบ

ถึงแม้ชีวิตจะโหดร้ายอย่างมากที่หักขาคน แต่วารุณีไม่เห็นใจนวิยา นี่เป็นการลงโทษที่นวิยาสมควรได้รับ

พอถึงนึกพ่อและแม่สามีของตัวเอง นึกถึงอารัณกับไอริณ

นวิยาก็สมควรแล้ว!

ด้านนอก ยังคงดำเนินต่อไป

เมื่อกี๊บอดี้การ์ดตัดขาซ้ายของนวิยา ตอนนี้จึงเริ่มลงมือไปที่ขาขวา

ตุบ!

กระบองทุบลงอีกครั้งพร้อมกับลมแรง แล้วจึงมีเสียงกระดูกหักอีก

ถึงแม้นวิยาจะหมดสติไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวด ร่างกายสั่นอย่างรุนแรง

บอดี้การ์ดย่อตัวลง เอามือลูบกระดูกหัวเข่านวิยา หลังจากแน่ใจว่าเรียบร้อยดี จึงเก็บกระบองแล้วยืนขึ้นมา รายงานนัทธีไปว่า“ประธานนัทธี ดำเนินการเสร็จแล้วครับ กระดูกเข่าทั้งสองข้างแตกละเอียด ถึงรักษาไว้ทันก็ไม่มีทางที่จะรักษาให้สมานได้แล้ว”

นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย“ดีมาก เอาเธอไปที่เรือสำราญ ให้หมอคอยจับตาดูเธอ ถ้ามีอาการเป็นไข้ ให้หมอรักษาทันที อย่าให้เธอตาย”

“เข้าใจแล้วครับ!”บอดี้การ์ดพยักหน้า จากนั้นก็ไปกับเหล่าบอดี้การ์ดที่เหลือ พาเธอไปที่เรือสำราญ