บทที่ 762 ตู้เว่ยหายไป
ตั้งแต่รู้ที่มาที่ไปของตัวเอง ตู้เว่ยก็ออกไปนอกจวนน้อยลง ทุกครั้งที่ออกไปจะมีคนคุ้มกันคอยติดตามเสมอ
ครั้งนี้ในตอนออกไปข้างนอกมีขอทานกลุ่มหนึ่งเข้ามาขวางรถม้าไว้ หลังจากที่คนคุ้มกันไล่ขอทานเหล่านั้นออกไป เมื่อพวกเขาเดินทางกลับมาที่จวนสกุลตู้ กลับพบว่าภายในรถม้าว่างเปล่า
จวนสกุลตู้ตื่นตระหนก พวกเขาส่งคนจำนวนมากออกไปค้นหาโดยเฉพาะบริเวณที่มีขอทานอยู่ แต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆ ผ่านไปทั้งคืนก็ยังไม่พบ ราวกับว่าตู้เว่ยหายไปในอากาศ ตู้เยี่ยนและฮูหยินใหญ่นอนไม่หลับทั้งคืน
“เด็กสาวอย่างเสี่ยวเว่ยจะหายไปในอากาศแบบนี้ได้อย่างไร?” ใบหน้าของตู้เยี่ยนเคร่งเครียด เสี่ยวเว่ยพูดไม่ได้ซ้ำยังอ่อนแอเช่นนั้น หากเกิดอะไรขึ้น…
ดวงตาของฮูหยินใหญ่เต็มไปด้วยความกังวล นางรับปากกับเซียนโหรวว่าจะดูแลบุตรสาวของนางเป็นอย่างดี หากเกิดอะไรขึ้น นางจะมีหน้าไปพบกับเซียนโหรวได้อย่างไร?
“ท่านแม่ เราควรรายงานทางการหรือไม่?” ตู้เยี่ยนปรึกษา ตอนนี้ไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากรายงานทางการ แต่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นมีคดีรับผิดชอบหลายคดี คดีนี้อาจจะเป็นเพียงหนึ่งในนั้น พวกเขาอาจจะไม่ให้ความสนใจมากนักก็เป็นได้ ต่อให้ทางการจะส่งคนออกตามหาก็ต้องใช้เวลา ทำให้ไม่อาจหาเจอได้ง่าย นางไม่รู้ว่าในตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเว่ยบ้าง…
“ท่านแม่ ข้าคิดว่าจิงอ๋องต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน”
“เราควรไปที่จวนจิงอ๋องเพื่อตรวจสอบดู หากเรามีหลักฐานอะไรบางอย่าง ทางการอาจจะทำงานเร็วขึ้น”
ฮูหยินใหญ่เองก็คิดเช่นเดียวกัน ตอนนี้ไม่อาจที่จะนั่งนิ่งอยู่ได้ นางจึงตัดสินใจ
“เยี่ยนเอ๋อร์ เราไปที่จวนจิงอ๋องกันเถอะ”
สองแม่ลูกเดินทางไปยังจวนจิงอ๋องโดยรถม้า จวนจิงอ๋องทรุดโทรมลงไปกว่าเมื่อสิบปีก่อนมาก หากทว่าเมื่อเทียบกับจวนตู้แล้วก็ยังนับว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่า เมื่อถึงที่หน้าจวน ตู้เยี่ยนช่วยฮูหยินใหญ่ลงจากรถม้า ทั้งสองเดินไปที่หน้าประตูแจ้งกับยามเฝ้าประตู
“ฮูหยินสกุลตู้ต้องการขอเข้าเฝ้าจิงอ๋อง” ตู้เยี่ยนพูดพลางยัดเงินใส่มือยามเฝ้าประตู
ถึงแม้ว่าจิงอ๋องจะได้รับการปล่อยตัว แต่เขาก็สูญเสียอำนาจไปมาก ที่จวนอ๋องจึงว่างเปล่า บ่าวรับใช้ไม่ได้เงินตอบแทน เมื่อยามเฝ้าประตูได้เงิน เขาจึงรีบเข้าไปรายงานทันที
“หากท่านอ๋องไม่อนุญาตให้เข้าพบ เราสองคนแม่ลูกจะรออยู่ที่หน้าจวนแห่งนี้” ฮูหยินตู้กล่าว “ไม่ต้องห่วง น้องชาย ข้ามีรางวัลให้เจ้าแน่นอน”
ในขณะที่ทั้งคู่รออยู่ที่หน้าประตูฮูหยินใหญ่มอบเงินอีกส่วนให้กับยามเฝ้าประตูเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ตัวเองโดยหวังจะได้ทราบข่าว แต่ยามที่หน้าประตูก็ไม่อาจบอกอะไรนางได้
จิงอ๋องเป็นคนเข้มงวด ทุกการกระทำของเขาจึงไร้ข้อบกพร่องใดๆ สักพักยามกลับเข้ามาเชิญให้พวกนางเข้าไปด้านใน แต่แทนที่จะเจอจิงอ๋องกลับกลายเป็นบ่าวรับใช้ในชุดสีเทามาต้อนรับแทน
“เราอยากพบท่านอ๋อง จิงอ๋องอยู่หรือไม่?” ตู้เยี่ยนถาม บ่าวรับใช้ไม่ตอบ เขามองพวกนางด้วยสีหน้าเฉยเมยทำให้ดูน่ากลัวไม่น้อย
“ท่านอ๋องทรงประชวร หากมีเรื่องอะไรก็ฝากข้าไว้ได้”
ตู้เยี่ยนขมวดคิ้ว พวกนางแค่อยากพบจิงอ๋องเท่านั้น นางจึงพูดขึ้นว่า
“วันนั้นที่ท่านอ๋องเจอน้องสาวข้าก็ยังสบายดี แล้วท่านจะประชวรได้อย่างไร? หากเป็นเช่นนี้มิได้หมายความว่าท่านอ๋องไม่ต้องการพบพวกข้าหรือ? เป็นเพราะข้าแซ่ตู้ ท่านอ๋องทรงดูแคลนสกุลเล็กๆหรือ?”
ตู้เยี่ยนโวยวาย นางแทบจะนอนกลิ้งเกลือกลงไปกับพื้น บ่าวรับใช้ชุดเทาหาได้สะทกสะท้านไม่
“ตู้เว่ยบุตรสาวข้าอยู่ที่นี่หรือไม่?” ฮูหยินตู้ถาม
“นางไม่อยู่” บ่าวรับใช้ชุดเทาส่ายศีรษะ
“หากพวกท่านจับน้องสาวข้าไปก็ปล่อยนางออกมา พวกข้าจะทำเป็นไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้น มิฉะนั้นพวกข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อเจ้าหน้าที่ทางการ เขาจะต้องเอาผิดจิงอ๋องแน่” ตู้เยี่ยนว่า
“แม่นางกลับไปเถอะ” บ่าวรับใช้ชุดเทาไม่แสดงอารมณ์อะไร
“เจ้า!” ตู้เยี่ยนโกรธ
“ข้าจะร้องเรียนจิงอ๋อง!”
“แม่นาง เจ้ารู้ผลที่ตามมาของการกล่าวหาเชื้อพระวงศ์หรือไม่?” บ่าวรับใช้ชุดเทาพูดอย่างเย็นชา
หน้าอกของตู้เยี่ยนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ฮูหยินตู้ดึงตัวบุตรสาวออกจากจวนอ๋องทันที
“ท่านแม่ ข้าไม่พบข้อสงสัยอะไรเลย คงทำได้แค่แจ้งว่าเสี่ยวเว่ยหายไปและให้ทางการค้นหา”
“ไปศาลาว่าการกันเถอะ” นางตู้กล่าว
สองแม่ลูกไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องไปรายงานคนหาย
ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเว่ยเลย!
จวนจิงอ๋อง
บ่าวรับใช้ชุดเทาเดินเข้าไปด้านในก่อนจะเคาะประตู
“เข้ามา”
เมื่อเขาเข้าไปพบว่าชายชรากำลังยืนหันหลังให้กับเขา
“ท่านอ๋อง ฮูหยินตู้และคุณหนูใหญ่สกุลตู้กลับไปแล้วขอรับ” บ่าวรับใช้ชุดเทากล่าว
“พวกนางใส่ใจเด็กคนนั้นมากจริงๆหรือ? ” จิงอ๋องบ่นพึมพำ ดวงตาของเขาฉายแววโหดร้าย
“หรือเป็นตู้จางที่ห่วงใยนาง!”
บ่าวรับใช้นิ่งเงียบ เขาอยู่รับใช้ท่านอ๋องมาหลายสิบปี ย่อมรู้ดีว่าควรทำตัวอย่างไร?
“ไอ้ตระกูลตู้ชั้นต่ำ ข้าต้องกำจัดมัน” จิงอ๋องกล่าว
ตอนนี้เขาได้รับการปล่อยตัวเพราะความเห็นอกเห็นใจ หากคิดจะแก้แค้นสกุลตู้ในเรื่องเมื่อสิบปีก่อน ก็ต้องใช้วาทศิลป์ของตน
“มันกล้าแตะต้องนาง ข้าจะทำให้ชีวิตพวกมันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย!” ดวงตาของจิงอ๋องเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า เขาเลี้ยงดูเซียนโหรวราวสมบัติล้ำค่า ใครก็ตามที่แตะต้องนางมันต้องตาย!
คนที่สัมผัสร่างกายที่บอบบางของนาง ทั้งยังให้เซียนโหรวต้องกำเนิดบุตรสาว เขาจะจัดการกับมันอย่างไรดี?
จิงอ๋องหลับตาครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาจินตนาการชะตากรรมตู้จางด้วยสีหน้าอิ่มเอม
แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าของบุตรสาว หัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน จิงอ๋องผุดลุกออกจากห้องไปยังห้องๆหนึ่ง ประตูห้องลงกลอนไว้แน่นหนา จิงอ๋องเดินเข้าไป ในห้องมีกรงเหล็กกักขังเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ นางหลับสนิท ใบหน้างดงามหมดจดไร้ที่ติ จิงอ๋องมองใบหน้าของเด็กสาวด้วยสีหน้าหมกมุ่น
“เซียนโหรว…”
ขนตาของนางกระพริบไหวจากนั้นจึงค่อยๆ ลืมขึ้น เมื่อเห็นคนตรงหน้าอย่างชัดเจน ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นทันที นางอยากจะหนีแต่ศีรษะของนางปวดร้าว ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ทำให้ทรุดไปกองที่พื้นอีกครั้ง
ตู้เว่ยกวาดตามองห้องที่ประดับด้วยผ้าสีแดง ดูเหมือนกรงที่แปลกประหลาด นางนั่งอยู่บนรถม้าแต่จู่ๆ ก็มีคนเอาผ้ามาปิดจมูก เมื่อได้กลิ่นหอมประหลาด ตู้เว่ยหมดสติไปทันที…
จิงอ๋องจับตัวนางมา?
ฮูหยินใหญ่เล่าว่าเขาคัดค้านไม่ให้พ่อกับแม่นางรักกัน ตอนนี้ทั้งสองจากไปแล้ว อีกทั้งมารดาตู้เว่ยก็เป็นบุตรบุญธรรมของเขา เหตุใดเขาจึงทำกับนางเช่นนี้?
สายตาที่เขามองมาที่นางดูผิดปกติ ไม่ใช่สายตาแสดงความรักจากคนในครอบครัว แต่เป็นสายตาที่น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง ทำให้นางไม่สบายใจ ตู้เว่ยรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่ฮูหยินใหญ่ไม่ได้บอกนาง…
“เซียนโหรว…” จิงอ๋องเรียกอีกครั้ง
ดวงตาของนางฉายแววหวาดกลัวราวกับกระต่ายขาวตัวน้อย เหมือนเซียนโหรวมาก เหมือนมากจริงๆ จิงอ๋องยื่นมือไปหานาง…
จู่ๆ ตู้เว่ยก็เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องไปที่จิงอ๋องอย่างดุร้าย ทำให้จิงอ๋องได้สติอีกครั้ง แม้เด็กคนนี้จะเหมือนเซียนโหรวแต่ว่าไม่ใช่นาง เซียนโหรวจะไม่มีวันทำสีหน้าแบบนั้น แต่เขามีวิธีทำให้นางเชื่องลง….
รอยยิ้มแปลกๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจิงอ๋อง เขาจ้องมองนางสักพักก่อนจะเดินออกไปจากห้อง