บทที่ 763 ความช่วยเหลือจากถังหลี่

ทันทีที่จิงอ๋องจากไป ตู้เว่ยจึงโล่งใจขึ้น สีหน้าของนางมีแต่ความหวาดกลัวอย่างปิดไม่มิด

จิงอ๋องเหมือนคนวิปลาสในหนังสือนิยายของนางไม่มีผิด คนที่มีความปรารถนาแรงกล้าและต้องการที่จะควบคุม

นางจะถูกขังอยู่ในที่แบบนี้ตลอดไปหรือ? ต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางความมืดหรือ? แล้วยังอาจจะเจอเรื่องที่น่าขยะแขยง….

ตู้เว่ยตัวสั่นสะท้านเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ร่างกายของนางหดเล็กลง

หากเป็นเช่นนั้นนางยอมตายเสียดีกว่า… แต่ก่อนนางมีเพียงแม่นมจ้าวเท่านั้นจึงไม่ได้หวาดกลัวอะไรกับความตาย แต่ตอนนี้ชีวิตของนางต่างออกไปจากเดิม นางมีทั้งพี่สาวและท่านป้าที่ห่วงใยนาง ตู้เว่ยกำลังมีความสุขกับความรู้สึกที่เป็นที่รักและได้รับการเอาใจใส่ นางไม่อยากปล่อยมือจากความรู้สึกเช่นนี้ ทั้งพี่สาวและท่านป้าคงเป็นห่วงมากที่นางหายตัวไป พวกนางคงเสียใจหากมีอะไรเกิดขึ้น

ทั้งยังมี…เว่ยจื่ออี้…

วันนี้นางนัดพบกับเขา หากนางไม่ไป เว่ยจื่ออี้จะคิดว่านางเป็นคนไร้สัจจะและผิดหวังในตัวของนางหรือเปล่า.. นางไม่อยากตายตอนนี้

หัวใจของตู้เว่ยปั่นป่วน

เด็กสาวจับลูกกรงพยายามกรีดร้องออกมา

….

ตู้เยี่ยนและฮูหยินตู้ไปที่ศาลต้าหลี่เพื่อร้องเรียนคดีของตู้เว่ย แม้พวกนางจะร้องเรียนแล้วแต่ความกังวลก็ไม่ได้เบาลงเลย เจ้าหน้าที่เพิ่งรับเรื่องไปจึงต้องใช้เวลาสักพักในการดำเนินการตามหา พวกนางรู้ว่าในเมืองหลวงมีหลายคดีที่ศาลต้าหลี่ต้องรับผิดชอบ ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำงานทันทีได้ สำหรับศาลต้าหลี่แล้วทุกชีวิตล้วนสำคัญเท่ากันหมด

แต่สำหรับพวกนาง ตู้เว่ยเป็นทั้งลูกสาวและน้องสาว เป็นคนที่สำคัญมากของสกุลตู้ หากต้องรออีกสี่ชั่วยาม ตู้เว่ยอาจจะเป็นอะไรไปได้ทุกเมื่อ

“ท่านแม่ เราไปขอความช่วยเหลือที่จวนอู่โหวกันดีหรือไม่?” ตู้เยี่ยนว่า

ฮูหยินตู้มีความคิดเหมือนกับบุตรสาว สกุลตู้ไม่สามารถต่อกรกับจิงอ๋องซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ได้ แต่สกุลอู่ เป็นถึงผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่มีอำนาจล้นฟ้า

แต่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จะช่วยเหลือพวกนางหรือไม่?

แม้เสี่ยวเว่ยกับคุณชายรองแห่งจวนอู่โหวจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อาจจะไม่รู้เรื่องนี้ก็เป็นได้ หรือถ้ารู้ เขาจะไม่ขัดขวางหรือ? เพราะท้ายสุดแล้วสถานะของสกุลตู้และสกุลเว่ยก็ต่างกันราวกับฟ้าและเหว

คุณชายรองเว่ยมีบิดาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และครอบครัวของฝั่งมารดาก็คือสกุลกู้ แห่งจวนแม่ทัพกู้ พี่ชายคนโตเข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อนาคตก้าวไกล พี่สะใภ้ของฮูหยินอู่ก็เป็นถึงองค์หญิง นางยังมีความใกล้ชิดกับบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงอย่างนายท่านไป๋ ความสัมพันธ์เหล่านั้นย่อมส่งให้มีอำนาจมากกว่าสกุลตู้อย่างล้นหลาม อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้สกุลเว่ยคือสกุลอันดับหนึ่งของแคว้นต้าโจว ส่วนสกุลตู้คงไม่ต่างอะไรกับมดปลวก

แม้ว่าเว่ยจื่ออี้จะจริงใจกับเสี่ยวเว่ย แต่ในสายตาของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หากรู้พื้นเพของเสี่ยวเว่ยแล้ว ทั้งสองจะไม่มีวันสมหวังได้แน่นอน

“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านคิดอะไร แต่ความปลอดภัยของเสี่ยวเว่ยสำคัญมากนะเจ้าคะ เรื่องอื่นไว้ที่หลังเถอะ” ตู้เยี่ยนกล่าว

นางไม่ได้คิดมากเท่ามารดา ตอนนี้ขอเพียงช่วยอะไรได้นางก็พร้อมทำทุกอย่าง

“ใช่แล้ว ความปลอดภัยของเสี่ยวเว่ยสำคัญที่สุด เราไปที่จวนอู่โหวกันเถอะ” ฮูหยินตู้ตัดสินใจ

สองแม่ลูกนั่งรถม้าไปยังจวนอู่ด้วยกัน

จวนสกุลอู่มีลักษณะเรียบง่ายมาก ไม่ได้ใหญ่โตโออ่า แต่เพราะเป็นที่พำนักอาศัยของผู้สำเร็จราชการแทนระองค์ บรรยากาศจึงค่อนข้างน่าเกรงขาม ตู้เยี่ยนแจ้งความจำนงของนางกับยามเฝ้าประตู เพื่อขอพบกับเว่ยจื่ออี้คุณชายรองสกุลเว่ย

“คุณชายรองออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้วขอรับ ยังไม่กลับเข้ามาเลย” ยามเฝ้าประตูบอก

ไม่อยู่หรือ?

ทั้งสองมองหน้ากัน ช่างโชคร้ายเหลือเกิน พวกนางจะไปหาคุณชายรองเว่ยได้ที่ไหนกัน

“พวกท่านมีธุระอะไรหรือ หากคุณชายกลับมาแล้วข้าจะแจ้งพวกท่านเอง” บ่าวรับใช้กล่าว

ยามเฝ้าประตูหลายคนชอบใช้อำนาจของตัวเองรังแกชาวบ้าน แต่ทว่าบ่าวรับใช้ของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์กลับไม่เป็นเช่นนั้น

“ข้ามีนามว่าตู้คัง บุตรสาวของข้าชื่อตู้เยี่ยน ตอนนี้มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับตู้เว่ย บุตรสาวคนเล็กของข้า ข้าจึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณชายรองเว่ย..” ฮูหยินตู้รีบพูด

“เกิดอะไรขึ้นกับตู้เว่ยหรือ?” ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อทั้งสองหันไปมอง จึงได้พบกับหญิงสาวผู้หนึ่ง รูปร่างหน้าตาของนางงดงาม ดวงตาสีดำขลับเป็นประกาย บรรยากาศรอบตัวของนางดูสงบ เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้หรูหราแต่มีความสง่างาม นั่นไม่ได้ทำให้นางดูแปลกแยก แต่กลับน่าเข้าหาใกล้ชิด

“พระชายา” บ่าวรับใช้เรียกนางด้วยความเคารพ

ด้วยเหตุนี้สองแม่ลูกจึงรู้ว่า นางคือพระชายาของผู้สำเร็จราชการ คนผู้นี้ต่างจากภาพที่พวกนางจินตนาการไว้ไม่น้อย นางดูอ่อนเยาว์ราวกับอายุแค่ยี่สิบต้นๆ เท่านั้น หากไม่ได้เกล้าผมเยี่ยงสตรีออกเรือน คงไม่มีใครคิดว่านางแต่งงานแล้ว

“ท่านคือพระชายาหรือ?” ตู้เยี่ยนถามด้วยความสงสัย นางจ้องมองถังหลี่ จนมารดารีบห้าม

“เยี่ยนเอ๋อร์ รักษามารยาท!”

ถังหลี่ถูกตู้เยี่ยนมองจ้องก็ไม่ได้ขุ่นเคืองใจ ด้วยแยกแยะได้ว่าผู้ใดมีเจตนาดีหรือร้าย สายตาของตู้เยี่ยนมีแค่ความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น

ถังหลี่คิดว่าเด็กสาวเป็นคนตรงไปตรงมา

พวกเขาเป็นพี่สาวและท่านป้าของตู่เว่ยหรือ?

“เมื่อครู่พวกท่านบอกว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับตู้เว่ยหรือ?” ถังหลี่ถาม

“ใช่แล้วเพคะ บ่ายวานนี้เสี่ยวเว่ยขึ้นรถม้ากลับบ้าน แต่เมื่อถึงบ้านภายในรถม้ากลับว่างเปล่า พวกเราหาทั้งคืนแต่ก็ไม่พบนาง ก่อนหน้านี้พวกเราไปร้องเรียนที่ศาลต้าหลี่ แต่ว่าพวกข้ายังไม่อาจวางใจได้ จึงอยากให้คุณชายรองช่วย..” ฮูหยินตู้ร้อนใจ เล่าออกมาจนหมด

ถังหลี่เคยส่งคนไปสืบสวนเรื่องของตู้เว่ย พบว่ามารดาของนางเสียชีวิตไปตั้งแต่นางยังเด็ก แม้นางจะไม่ได้รับการปฏิบัติที่รุนแรงแต่นางก็ไม่ใช่บุตรสาวที่แท้จริงของฮูหยินตู้ นางจึงไม่ค่อยสนใจตู้เว่ยมากนัก แต่เมื่อดูความเป็นห่วงที่สองแม่ลูกแสดงออกมาแล้ว ทั้งสองคนใส่ใจตู้เว่ยมากกว่าที่คิด

“ข้าช่วยพวกท่านได้” ถังหลี่กล่าว

ฮูหยินตู้และตู้เยี่ยนตกตะลึง พวกนางประหลาดใจมาก

พระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จะช่วยตามหาเสี่ยวเว่ย ทุกอย่างราบรื่นกว่าที่พวกนางคิดเอาไว้

“พวกเราสงสัยว่าความจริงแล้วจิงอ๋องจับเสี่ยวเว่ยไป” ตู้เยี่ยนว่า

“จิงอ๋อง?” ในเมืองหลวงมีอ๋องมากมายแต่ถังหลี่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับอ๋องผู้นี้เลย

“เหตุใดท่านจึงสงสัยเขาหรือ?”

ฮูหยินตู้ลังเล แต่ตู้เยี่ยนบอกไปตามตรง

“พระชายา ความจริงแล้วเสี่ยวเว่ยไม่ใช่บุตรสาวของสกุลตู้ แต่เป็นบุตรสาวของลูกพี่ลูกน้องของท่านแม่ข้ากับองครักษ์จวนจิงอ๋อง มารดาของนางเป็นบุตรสาวบุญธรรมของจิงอ๋อง ท่านอ๋องคัดค้านความรักของพวกเขา ซ้ำยังฆ่าบิดาของเสี่ยวเว่ยด้วย พวกเขาจึงต้องพลัดพรากจากกัน”

“แต่เดิมจิงอ๋องถูกสั่งให้เฝ้าสุสานหลวง แต่ไม่นานมานี้เขาเป็นอิสระ และมาหาเสี่ยวเว่ยครั้งหนึ่ง ท่าทีของเขาแปลกมาก ราวกับคิดว่าเสี่ยวเว่ยเป็นมารดาของนาง..”

หลังจากที่ตู้เยี่ยนพูดจบ ถังหลี่เข้าใจในทันทีว่าจิงอ๋องอาจจะมีความรู้สึกบางอย่างกับบุตรสาวบุญธรรมผู้นี้ ตอนนี้ตู้เว่ยจึงได้กลายเป็นตัวแทนของมารดา

“ข้าจะส่งคนไปที่จวนจิงอ๋องและแจ้งให้พวกท่านทราบหากได้ข่าวอะไร ตอนนี้พวกท่านควรกลับไปก่อน”

ฮูหยินตู้และตู้เยี่ยนมองถังหลี่ด้วยความขอบคุณอย่างซาบซึ้ง ก่อนจะหันหลังขึ้นรถม้าจากไป

“เยี่ยนเอ๋อร์ หลังจากที่พระชายารับปาก แม่รู้สึกโล่งใจ” ฮูหยินตู้เอ่ยขึ้น ท่าทีของนางไม่ได้กระวนกระวายใจเหมือนก่อนหน้า

“ข้าก็เช่นกัน ท่านแม่ ข้าคิดว่าพระชายามีความสามารถทำให้ผู้คนสบายใจเป็นแน่”

“เยี่ยนเอ๋อร์ บางทีเจ้าอาจจะพูดถูก ข้าคิดว่าพระชายาผู้สูงศักดิ์เช่นนี้คงไม่ได้เข้าพบอย่างง่ายดาย แต่เมื่อได้พบนางเข้า แม่สัมผัสได้ว่านางเป็นผู้มีจิตใจกรุณา นางกับผู้สำเร็จราชการคงเป็นดั่งคู่สวรรค์สรรค์สร้างเหมือนที่ใครๆ พูดถึง”

“ท่านแม่ ท่านผ่านโลกมามากย่อมเคยเห็นด้านไม่ดีของผู้คน ท่านจึงคิดว่าคงไม่มีเรื่องดีๆ เช่นนี้ แต่ในโลกนี้ยังมีอะไรอีกมาก พวกเขาเป็นเสมือนตัวละครในนิยาย ไม่สนสถานะยากดีมีจน แค่มีใจรักกันอย่างบริสุทธิ์ก็พอ” ตู้เยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงปรารถนาอย่างไม่รู้ตัว

“นั่นเป็นสาเหตุที่เจ้าปฏิเสธการแต่งงานหรือ? ถึงได้บอกแม่ว่ายังไม่อยากแต่งงาน”

ตู้เยี่ยนถูกมารดาจับได้ นางกอดแขนฮูหยินตู้อย่างเขินอาย

“แล้วถ้าเจ้าไม่ได้เจอคนที่ว่าเล่า?” ฮูหยินตู้ถาม

“เช่นนั้นข้าก็จะไม่แต่งงาน”

“เป็นสาวแก่คอยเฝ้าเรือนหรือ?”

“ใช่ มีท่านแม่อยู่กับข้า ข้าไม่อดตายหรอก”

สองแม่ลูกคุยกันด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายลงมาก

เว่ยจื่ออี้รออยู่ที่ร้านหนังสือเกือบทั้งวันแต่ก็ไม่เห็นตู้เว่ย ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา เด็กหนุ่มสัมผัสได้ว่านางมีเรื่องไม่สบายใจ แต่เมื่อตู้เว่ยไม่ได้เอ่ยปาก เขาจึงไม่อยากคาดคั้นถามออกไป

ตู้เว่ยเป็นคนที่รักษาสัญญามาก หากนางนัดหมายไว้อย่างไรก็ต้องมา นอกจากจะมีเหตุสุดวิสัย นางจะขอให้ใครมาส่งข่าวให้ไม่ใช่หายไปเช่นนี้ หรือจะมีอะไรเกิดขึ้น?

“คุณชายรองขอรับ” บ่าวรับใช้นหนึ่งของจวนอู่โหวเปิดประตูเข้ามา

“พระชายารับสั่งให้คุณชายรีบกลับจวนขอรับ”

เว่ยจื่ออี้ทิ้งข้อความไว้ก่อนจะกลับไปที่จวน ทำให้เขาทราบเรื่องการหายตัวไปของตู้เว่ยจากมารดา

“เว่ยอวี๋หายไปหรือ?” ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล จนไม่อาจจะอยู่เฉยได้

“ข้าจะไปตามหานาง”

“ตอนนี้ตู้เว่ยอาจจะอยู่ในจวนจิงอ๋อง แม่ให้ฉือซื่อไปตามหานางแล้ว เจ้าไม่ต้องห่วง” ถังหลี่กล่าว