ตอนที่ 696 ขอพบคุณหนูใหญ่

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 696 ขอพบคุณหนูใหญ่

“ข้าทราบดีว่าพี่หญิงมีศักดิ์สูงส่งเป็นถึงหลานสาวคนโตของตระกูลไป๋ พี่หญิงไม่ขาดเหลือสิ่งใด ทว่า นี่คือน้ำใจจากข้า พี่หญิงใหญ่อย่าปฏิเสธเลยนะเจ้าคะ” ต่งถิงเจินกล่าวยิ้มๆ

ไป๋ชิงเหยียนมองกล่องตรงหน้าแล้วนึกถึงกำไลที่เซียวหรงเหยี่ยนมอบให้นางเมื่อวาน ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขอบคุณพลางรับกล่องไม้มาเปิดดู ด้านในกล่องคือปิ่นปักผมหยกเนื้อดี แกะสลักลายดอกไม้แย้มบาน ใบไม้ที่ขึ้นอยู่รอบดอกไม้เป็นชั้นๆ สลักด้วยลวดลายสีทอง ดอกไม้แย้มบานตรงกลางทำจากหยกสีมรกต เกสรของดอกไม้เป็นสีทอง แกะสลักได้งดงามราวกับมีชีวิตจริงๆ หากนำปิ่นหยกอันนี้ไปวางไว้กลางแสงอาทิตย์ ฝูงแมลงและผีเสื้อต้องบินมาเชยชมแน่นอน

หากไป๋ชิงเหยียนเดาไม่ผิด นี่ต้องเป็นของสมบัติของต่งถิงเจินแน่ๆ

“ต่งถิงเจินของพวกเราใจกว้างจริงๆ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวหยอกต่งถิงเจิน

ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่านี่คือความตั้งใจของญาติผู้น้อง หญิงสาวจึงไม่ได้ปฏิเสธ ตั้งใจว่าเมื่อต่งถิงเจินแต่งงานออกเรือน นางค่อยส่งของขวัญไปตอบแทนญาติผู้น้องในสินเดิมของนาง

ใบหน้าของต่งถิงเจินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากยิ้มๆ

“ใช่สิเจ้าคะ ช่วงที่ข้าอยู่ที่ตระกูลไป๋ ข้าได้ของล้ำค่าจากท่านอามามากมาย หากข้าไม่นำของล้ำค่าของข้ามาเป็นของขวัญวันเกิดให้พี่หญิงก็คงไม่งามนักเจ้าค่ะ”

ต่งซื่อเอื้อมมือไปเขกศีรษะของต่งถิงเจินเบาๆ

ไม่นานไป๋จิ่นจื้อ ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาต่างก็มาอวยพรวันเกิดให้ไป๋ชิงเหยียน

ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาเป็นฝาแฝดกัน พวกนางต่างแยกกันหาของขวัญให้พี่หญิงใหญ่โดยไม่บอกให้อีกฝ่ายรับรู้ ทว่า เมื่อเปิดออกดู…เด็กสาวทั้งสองต่างมอบทับทิมแดงเม็ดใหญ่ที่อวี๋กุ้ยเฟยมอบให้ในงานเลี้ยงในวังหลวงปีที่แล้วให้ไป๋ชิงเหยียนทั้งคู่ ไป๋ชิงเหยียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี

บรรดาฮูหยินต่างนำของขวัญมามอบให้ไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกัน

ต่งซื่อเห็นว่าบรรดาพี่น้องกำลังสนทนากันอย่างสนุกสนาน นางจึงสั่งให้ฉินหมัวมัวไปสั่งให้โรงครัวเตรียมจัดโต๊ะ ส่วนนางเดินแยกตัวจากไป

หากบรรดาผู้ใหญ่อยู่ที่นี่ด้วย เด็กๆ อาจรู้สึกเกร็งได้ เมื่อต่งซื่อจากไป กลุ่มลิงทโมนเหล่านั้นจึงจะเล่นกันได้อย่างเต็มที่

เมื่อต่งซื่อจากไป ไป๋จิ่นจื้อจึงสลัดคราบกุลสตรีทิ้งทันที สาวน้อยเอนกายพิงเก้าอี้อย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์ เล่าให้บรรดาน้องสาวฟังว่านางแกล้งทำเป็นปวดมือเพื่อให้มารดาส่งสารและเลิกทำโทษนางคัดตำราเช่นไรบ้าง

ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาตั้งใจฟังอย่างสนใจ ต่งถิงเจินรีบกล่าวห้ามไม่ให้ไป๋จิ่นจื้อสอนสิ่งไม่ดีให้น้องๆ ด้วยรอยยิ้ม

ไป๋ชิงเหยียนคลุมผ้าขนแกะผืนบางไว้ที่ขา มองดูบรรดาน้องสาวที่กำลังสนทนากันอย่างสนุกสนาน จากนั้นหันไปมองท้องฟ้าใส ไร้ซึ่งก้อนเมฆทางนอกหน้าต่าง หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นมาก รักบรรยากาศสงบสุขเช่นนี้มากจริงๆ

ไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงนึกถึงกำไลข้อมือหยกของเซียวหรงเหยี่ยนขึ้นมา อยากหยิบขึ้นมาดู ทว่า กลัวว่าบรรดาน้องสาวจะซักถามถึงที่มา นางจึงได้แต่คิดอยู่ในใจ รอยยิ้มบนใบหน้าเด่นชัดมากยิ่งขึ้น

ชุนเถาถือตะกร้าใบหนึ่งเข้ามาด้านใน จากนั้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ

“คุณหนูใหญ่ นี่คือขนมที่หย่าเหนียงตั้งใจทำมาให้คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ ด้านในมีถุงเครื่องรางนำโชคที่นางอธิษฐานขอพรไว้ทุกๆ เจ็ดวันจนครบสี่สิบเก้าวันด้วยเจ้าค่ะ นางหวังว่าสิ่งนี้จะคุ้มครองให้คุณหนูใหญ่ปลอดภัยเจ้าค่ะ”

เมื่อไป๋ชิงเหยียนได้ยินว่าคือของที่หย่าเหนียงส่งมาให้ ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอนยิ้มทันที

“นำมาให้ข้าดูที”

“นี่คือของขวัญวันเกิดที่หย่าเหนียงมอบให้พี่หญิงใหญ่หรือเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อขยับเข้ามาใกล้

“หย่าเหนียงไม่รู้ว่าวันนี้คือวันเกิดของคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ นางได้ยินว่าคุณหนูใหญ่กลับมาซั่วหยางแล้ว นางจึงส่งของมาให้เจ้าค่ะ” ชุนเถากล่าวยิ้มๆ

หย่าเหนียงลงมือทำขนมด้วยตัวเอง แม้หน้าตาจะไม่สวยงามนัก ทว่า ให้ความรู้สึกแปลกใหม่มาก ไป๋จิ่นจื้อจับดูแล้วยังคงอุ่นๆ อยู่เลย

เครื่องรางนำโชคอยู่ในถุงเงินที่เย็บอย่างประณีต ถุงเงินปักเย็บเป็นลายนกบินอย่างงดงาม น่าจะเป็นฝีมือการเย็บของมารดาของหย่าเหนียง

ไป๋ชิงเหยียนดันจานขนมไปตรงหน้าไป๋จิ่นจื้อ จากนั้นสั่งให้ชุนเถาเก็บถุงเครื่องรางนำโชคไว้ให้ดี

พรุ่งนี้เสี่ยวซื่อจะออกเดินทางไปยังค่ายผิงอันแล้ว เจ้าเก็บของเรียบร้อยแล้วหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนยกน้ำชาขึ้นจิบ จากนั้นเอ่ยถามไป๋จิ่นจื้อยิ้มๆ

“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วง ข้าเก็บเรียบร้อยหมดแล้วเจ้าค่ะ ลุงผิงคัดคนมาให้ข้าเลือกเรียบร้อยแล้ว ทว่า ท่านแม่ของข้ายังไม่วางใจ นางยังเติมของให้ข้าอยู่เลยเจ้าค่ะ ทว่า ข้ารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องนำของสิ่งใดไปมากนักเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวอย่างมั่นใจ

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ในเมื่อเตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นวันนี้เจ้าก็ใช้เวลาอยู่กับท่านแม่เจ้าให้มากหน่อย เดี๋ยวเจ้าก็จะออกเดินทางแล้ว ไม่รู้จะได้กลับมาอีกเมื่อใด ท่านอาสะใภ้สามย่อมเป็นห่วงเจ้าอยู่แล้ว”

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ปรึกษาท่านอาสะใภ้สามล่วงหน้าเรื่องที่จะให้ไป๋จิ่นจื้อเดินทางไปยังค่ายทหารผิงอัน ทว่า ท่านอาสะใภ้สามก็ยอมตกลงอยู่ดี ไป๋จิ่นจื้อจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้แล้ว แม้วันนี้จะเป็นวันเกิดของไป๋ชิงเหยียน ทว่า หญิงสาวคิดว่าไป๋จิ่นจื้อควรใช้เวลาอยู่กับหลี่ซื่อมากกว่า

ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า “เมื่อข้าทานอาหารกลางวันกับพี่หญิงใหญ่เสร็จ ข้าจะไปอยู่กับท่านแม่เจ้าค่ะ”

“เดี๋ยวข้าจะไปอยู่เป็นเพื่อนท่านอาเช่นกันเจ้าค่ะ” ต่งถิงเจินกล่าว

ไป๋จิ่นจื้อจะเดินทางไปยังค่ายทหารผิงอัน ต่งถิงเจินจะเดินทางกลับเมืองหลวงเช่นเดียวกัน

ถงหมัวมัวเดินถือส้มเขียวหวานเข้ามาในห้อง กล่าวว่าต่งเหล่าไท่จวินสั่งให้คนขี่ม้าเร็วนำมาให้จากเติงโจว ต่งซื่อแบ่งไปให้เรือนอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว นางนำจานนี้มาให้บรรดาคุณหนูๆ ลองชิม

ต่งเหล่าไท่จวินจำวันเกิดหลานสาวของตัวเองได้ นอกจากนางจะสั่งให้คนนำส้มเขียวหวานมาให้ไป๋ชิงเหยียนแล้ว นางยังส่งของขวัญมาให้หลานสาวด้วย ถงหมัวมัววางจานผลไม้ลงตรงหน้าบรรดาคุณหนูๆ จากนั้นเดินไปหยุดอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียน กล่าวเสียงเบาหวิว “คุณหนูใหญ่ ต่งเหล่าไท่จวินและนายท่านต่งส่งสือฮุ่ยสู่เป็นคนนำของขวัญวันเกิดมามอบให้คุณหนูใหญ่ ใต้เท้าสือขอพบคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ”

สือฮุ่ยสู่ขอพบนางอย่างนั้นหรือ! ท่านน้าชายฝากให้สือฮุ่ยสู่นำจดหมายมาให้นางใช่หรือไม่นะ

สายตาของไป๋ชิงเหยียนหยุดอยู่ที่ไป๋จิ่นจื้อ ไป๋จิ่นเจา ไป๋จิ่นหวาและต่งถิงเจินที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่ จากนั้นกล่าวขึ้น “ใกล้ได้เวลาแล้ว เสี่ยวซื่อ เจ้าพาถิงเจิน เสี่ยวอู่และเสี่ยวลิ่วไปที่เรือนเซ่าหวาก่อน วันนี้อากาศดี พวกเราไปชมแปะก๊วยที่นั่นดีกว่า เดี๋ยวพี่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จแล้วจะตามไป”

“พี่หญิงใหญ่เดินไหวหรือเจ้าคะ” ต่งถิงเจินถามอย่างไม่วางใจ

“มิเป็นอันใด วันนี้อากาศดี พี่อยากออกไปสูดอากาศสักหน่อย”

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าพาพี่ถิงเจิน เสี่ยวอู่และเสี่ยวลิ่วล่วงหน้าไปก่อนนะเจ้าคะ พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องรีบเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อกล่าว

เมื่อบรรดาน้องสาวจากไปแล้ว ไป๋ชิงเหยียนให้ชุนเถาช่วยเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้ ถงหมัวมัวไปเชิญสือฮุ่ยสู่มาที่เรือน

เมื่อไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จเรียบร้อยและนั่งรออยู่ที่โถงรับรอง ถงหมัวมัวก็พาสือฮุ่ยสู่มาทถึงเรือนปัวอวิ๋นพอดี

สือฮุ่ยสู่อายุยังไม่ถึงสี่สิบ ทว่า กลับดูเคร่งขรึมเกินอายุ เขายังคงแต่งกายด้วยชุดนักรบสีดำ แผ่ไอสังหารของความเป็นนักรบออกมาเหมือนตอนที่อยู่เติงโจวไม่มีผิดเพี้ยน

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนที่ สวมเสื้อท่อนบนสีขาวหิมะ กระโปรงด้านล่างสีเขียวอ่อนเดินเข้ามา สือฮุ่ยสู่นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันเพียงไม่กี่เดือนคุณหนูเปี่ยวจะซูบผอมลงถึงเพียงนี้ ครั้งนี้คุณหนูเปี่ยวได้รับบาดเจ็บหนักอย่างนั้นหรือ

คราวที่แล้วสือฮุ่ยสู่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับไป๋ชิงเหยียนที่เติงโจว เคยเห็นท่าทีองอาจสง่างามของไป๋ชิงเหยียน เคยเห็นฝีมือที่เก่งกาจของหญิงสาว ตอนที่ได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนได้รับบาดเจ็บ แม้คนในเมืองหลวงจะลือกันว่าไป๋ชิงเหยียนรับธนูแทนองค์รัชทายาทจนมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ทว่า สือฮุ่ยสู่ไม่เคยกังวลเรื่องนี้มาก่อนเลย…