บทที่ 697 คำเตือน

บทที่ 697 คำเตือน

ช่วงนี้ไม่มีคนออกมากินข้าวข้างนอกเท่าไร หลังจากเราเดินทางมาถึงร้านอาหารก็เจอร้านเหมาะ ๆ แล้วเริ่มลงมือสั่งอาหารทันที ขณะกินข้าว ผู้อาวุโสทั้งสามให้คำแนะนำกับหลานสาวไว้เยอะแยะ

ยิ่งอวี่รุ่ยหยวนพูดเท่าไรก็ยิ่งไม่สบายใจเท่านั้น เสี่ยวเถียนเป็นเด็กผู้หญิงแถมอายุยังน้อยมาก เธอกังวลที่จะปล่อยให้หลานอยู่หอพักจริง ๆ

“หลานยังเด็ก พวกเราเป็นห่วงมากจริง ๆ นะ หรือเราจะซื้อลานบ้านสักหลังนอกมหาวิทยาลัยดี ย่าจะได้มาดูแล หนูจะได้อยู่บ้านด้วย”

ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าสมเหตุสมผล อยู่ที่มหาวิทยาลัยด้วย ที่บ้านด้วยสบายกว่าเยอะ หญิงชรารู้ว่าว่าตอนนี้ตนไม่มีอะไรที่ทำได้ จึงอยากดูแลเสี่ยวเถียนใกล้ ๆ มากกว่า หลานชายทั้งสามคาดไม่ถึงเลยว่าคุณย่าอวี่จะเอ่ยออกมาเช่นนี้ แถมคุณปู่ตู้ยังเออออไปด้วย

“ยายเฒ่าพูดถูก เสี่ยวเถียนยังเด็กอยู่เลย ฉันไม่วางใจปล่อยให้เธออยู่ที่มหาวิทยาลัยเลย งั้นก็เอาที่เธอว่าก็แล้วกัน ซื้อลานบ้านสักหลังข้างหน้า แล้วเรามาดูแลหลานกัน!”

ฉือเก๋อไม่คิดเรื่องจะมาถึงขั้นนี้ สองสามีภรรยาตู้รักเสี่ยวเถียนเหมือนหลานสาวแท้ ๆ เลย!

“ปู่ ย่า หนูอยู่ที่โรงเรียนก็ดีมากแล้วค่ะ อีกอย่างพี่อี้หย่วนก็อยู่ด้วย ให้พี่เขาดูแลหนูได้!” เสี่ยวเถียน

ล้อกันเล่นแล้ว เราเป็นนักศึกษานะจะให้ครอบครัวดูแลตลอดได้ยังไง? แต่เสี่ยวเถียนไม่กล้าพูดออกมาหรอกนะเพราะปู่ย่าบุญธรรมต้องหาเหตุผลมาอ้างแน่ ๆ

“ไม่งั้นก็ซื้อไว้สักที แต่พวกเราไม่ต้องมาที่นี่ หลานอยู่หอพักใช่ไหม? ให้อี้หย่วนมาอยู่เป็นเพื่อนไหมล่ะ?” ตู้ถงเหอเอ่ยอย่างลังเล

“ไม่ได้หรอกครับปู่ตู้ ชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน ตอนนี้เสี่ยวเถียนก็โตเป็นสาวแล้วด้วย!” แต่ซื่อเลี่ยงกลับไม่พอใจ

ฉืออี้หย่วนเจ้าบ้านั่นมันเล็งน้องสาวเขามาตั้งนานแล้ว จะมาปล่อยให้อยู่ด้วยกันได้ยังไง นี่กำลังล้อกันเล่นอยู่หรือไง?

เสี่ยวเถียนเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

“หนูว่าอยู่ที่หอดีกว่าค่ะ หนูน่ารักขนาดนี้ พี่ ๆ ในห้องต้องเอ็นดูแน่นอน ทุกคนไม่ต้องห่วงนะคะ!”

ถึงจะไม่เต็มใจให้ปู่ย่าซื้อบ้านเพื่อย้ายมาดูแลตนเอง แต่เสี่ยวเถียนก็คิดเหมือนกันว่า หากเธอซื้อบ้านเอาไว้สักหลังก็คงจะดีเหมือนกัน ยังไงเสียตอนนี้ในมือก็ยังมีเงินอยู่ เรื่องนี้ไว้ค่อยถามทีหลังดีกว่า ถ้ามีที่ไหนเหมาะ ๆ ก็ค่อยซื้อทิ้งไว้แล้วกัน ยังไงอนาคตราคาบ้านก็ขึ้นอยู่ดี แล้วเธอก็รู้อีกด้วยว่าอีก 30 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะซื้อบ้านเท่าไรก็ไม่ขาดทุน

ถ้าราคาบ้านในปัจจุบันไม่สูงจนน่าเกลียดนะ ยังไงก็พอซื้อไว้อยู่

เมื่อสองคนขับรถฟังบทสนทนาแล้วก็ได้แต่พูดไม่ออก เราสนิทกับเสี่ยวเถียนดี และรู้ว่าเด็กคนนี้เก่งกาจขนาดไหนขนาดผู้อำนวยการยังยกย่องเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก แต่ไม่นึกเลยว่าครอบครัวจะรักเธอมากขนาดนี้ นาน ๆ ทีจะเจอครอบครัวที่รักหลานสาวขนาดนี้!

แต่ด้วยหน้าที่เราเลยไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป และได้แต่รออาหารมาเสิร์ฟ จากนั้นก็นั่งกินไปฟังครอบครัวนี้พูดไปด้วย

ไม่ต้องบอกรสชาติของอาหารร้านนี้ ถึงจะแย่กว่าหออีหมิงแต่รวม ๆ แล้วก็ยังถือว่าใช้ได้

เป็นตอนนั้นเองที่มีลูกค้าทยอยเข้ามาในร้าน ในไม่ช้าโต๊ะในร้านก็เต็มไปด้วยผู้คน บอกได้เลยว่าขายดิบขายดีมาก จู่ ๆ เสี่ยวเถียนก็นึกอะไรขึ้นได้

พี่สะใภ้ใหญ่จะเปิดสาขาใหม่ไม่ใช่หรือ? คงจะดีไม่น้อยถ้าเลือกทำเลใกล้มหาวิทยาลัยนะ

ยุคนี้การเลือกทำเลบริเวณใกล้สถานศึกษาจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี แต่ถ้าในอีกสิบปีข้างหน้าเป็นการตัดสินใจที่ดีมาก ๆ นักศึกษาเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง

“หนูคิดว่าถ้าพี่สะใภ้เปิดร้านที่นี่น่าจะขายดีนะคะ!”

ทุกคนจะจำร้านนี้ได้ แล้วก็จะเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดด้วย แต่ฝีมือพี่สะใภ้ดีกว่าคนในแถบนี้แน่นอน

“เสี่ยวเถียนคิดได้ดีมาก” ได้ยินเช่นนี้ หญิงชราก็มีความสุขขึ้นมา

หลินหลินเองก็ดีเหมือนกัน ถ้าให้เขามาอยู่ที่นี่ก็จะมีคนดูแลเสี่ยวเถียนด้วย

แต่ความจริงแล้วเสี่ยวเถียนแค่พูดเฉย ๆ แต่กลายเป็นว่าหลังจากนั้นไม่กี่วันพี่สะใภ้ดันเจอร้านอาหารเล็ก ๆ สองชั้นใกล้มหาวิทยาลัยจริง ๆ

หลังกินข้าวเสร็จ เสี่ยวเถียนและฉืออี้หย่วนออกไปส่งครอบครัว

ซื่อเลี่ยงเรียกเด็กหนุ่มเป็นพิเศษ “อี้หย่วน ฉันจะบอกอะไรให้นะ น้องสาวฉันยังเด็ก เพราะฉะนั้นนายจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีความคิดอันไม่สมควร!”

ปีนี้น้องเพิ่ง 13 ยังอยู่ในวัยแรกแย้ม คงไม่ดีถ้าโดนฉืออี้หย่วนที่มีความคิดซ่อนเร้นหลอกล่อ

คนอายุน้อยกว่ามองพี่ชายที่จ้องมาแทบจะกินเลือดกินเนื้อแล้วเอ่ยเบา ๆ “ผมไม่ใช่สัตว์ร้ายสักหน่อยพี่ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า!”

เสี่ยวเถียนเพิ่งอายุเท่าไรเอง? ถึงเขาจะชอบน้อง แต่ไม่ทำอะไรแบบนั้นกับเธอที่เธอยังเด็กหรอก

ซื่อเลี่ยงจ้องเขม็งอีกฝ่ายอยู่นาน หลังจากแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่โกหกถึงยอมเชื่อ เรารู้จักกันมาหลายปี ซื่อเลี่ยงยังเชื่อเสมอว่าอี้หย่วนเป็นคนรักษาคำพูด แต่จะปกป้องมันก็ไม่ได้อีก เพราะน้องเล็กสวยมาก ถึงจะยังเด็กไปก็อาจมีพวกสัตว์ร้ายมารุมจ้องเหยื่อไม่ใช่หรือ?

“นายอยู่ที่นี่ต้องดูแลเสี่ยวเถียนให้ดีนะ อย่าให้คนอื่นมาหลอกน้องเด็ดขาด!” ซื่อเลี่ยงเตือน

โชคดีที่ปีนี้ก็กลับมาเรียนปริญญาโทแล้ว ตอนนั้นน่าจะดูแลน้องเองได้ ถ้าไม่สัญญาว่าจะไปท่องเที่ยวก่อน ก็คงย้ายมาดูแลถึงนี่แหละ

อี้หย่วนพยักหน้าจริงจัง เขาไม่ยอมให้ใครมาหลอกเสี่ยวเถียนแน่นอน!

เสี่ยวเถียนหน้าตาดี เขาอยากเก็บไว้คนเดียวและไม่ยอมให้ใครแตะต้องเธอด้วย

“ผมสัญญาว่าจะดูแลเสี่ยวเถียนให้ดีครับ พี่รองวางใจได้เลย!”

ซื่อเลี่ยงไม่ได้สังเกตถึงความผิดแปลกที่อีกฝ่ายเรียกตนว่า ‘พี่รอง’

เสี่ยวเถียนมองคนทั้งสอง ไม่รู้ว่าพึมพำอะไรอยู่! แล้วทำไมพี่รองต้องมองด้วยตาดุร้ายขนาดนั้น? ส่วนพี่อี้หย่วนก็มีท่าทางสงบมาก ไม่ได้ทะเลาะกันหรอกเนอะ?

ไม่หรอกมั้ง พวกเขาก็สนิทกันดีนี่นา ไม่น่าทะเลาะกันหรอก

ถ้าเขาสู้กัน อย่างน้อยมาวัดกันดีกว่าใครเก่งกว่า!

เสี่ยวเถียนยกยิ้ม

และในตอนชายทั้งสองหันไปมองก็เจอรอยยิ้มนั้นพอดี…