บทที่ 698 ใบหน้าที่สร้างความวุ่นวายใครเขาไปทั่ว

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 698 ใบหน้าที่สร้างความวุ่นวายใครเขาไปทั่ว

บทที่ 698 ใบหน้าที่สร้างความวุ่นวายใครเขาไปทั่ว

พี่ชายทั้งสองจะรู้ได้ยังไงว่าเด็กคนนี้กำลังอยากให้พวกเราทะเลาะกัน แต่เรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เราจับมือและคืนดีกันในที่สุด จากนั้นคนอื่น ๆ ก็จากไป เหลือเพียงฉืออี้หย่วนและเสี่ยวเถียนที่ไม่สบายใจเท่าไร ตั้งแต่ย้อนเวลากลับมาเธอยังไม่เคยอยู่ห่างจากที่บ้านเลย และนี่เป็นครั้งแรก

“เราไปกันเถอะเสี่ยวเถียน เดี๋ยวพี่พาไปซื้อขนมแบ่งให้เพื่อนในห้องกินนะ” ฉืออี้หย่วนมองรถสองคันนั้น เอ่ยเบา ๆ

เด็กสาวไม่ได้นึกเรื่องนี้เลย พออีกฝ่ายทักก็เพิ่งนึกออก

“ได้ค่ะ!” เสี่ยวเถียนยิ้มกว้าง

ทั้งสองเดินร้านขายขนมด้วยกัน

หน้ามหาวิทยาลัย ฉืออี้หย่วนรีบหยิบขนมห่อใหญ่ ๆ ออกมาทุกอย่าง แต่เราไม่ได้เอากระเป๋ามาด้วย เขาเลยต้องซื้อถุงเพื่อเอามาใส่ขนม

“พี่อี้หย่วน เราต้องซื้อเยอะขนาดนี้เลยหรือคะ?” เสี่ยวเถียนสงสัย

“ไม่เยอะหรอก แบ่งเพื่อนคนละอันเองนะ!” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงเอ็นดู

คนในมหาวิทยาลัยเห็นฉากตรงหน้า เด็กสาวสองคนเป็นเพื่อนในชั้นเรียนของฉืออี้หย่วน ทั้งยังแอบชอบเขาอีกต่างหาก แต่อีกฝ่ายมักจะแสดงท่าทีเย็นชาใส่ตนเองเสมอ เธอก็เลยไม่กล้าก้าวเข้าไปใกล้

“เด็กผู้หญิงข้าง ๆ เขาคือใครน่ะ?” สาวตัวสูงเอ่ยด้วยความสงสัย แววตางดงามจ้องมองเสี่ยวเถียนตาไม่กะพริบทำไมถึงได้รับการดูแลจากฉืออี้หย่วนด้วย?

“ฉันได้ยินคนบอกว่าเขาพาเด็กคนหนึ่งมารายงานตัวน่ะ ฉันว่าน่าจะเป็นคนนี่แหละ”

เด็กสาวเจ้าของร่างเล็กมองเสี่ยวเถียน เด็กหญิงคนนั้นหน้าตาสวยมากหรือว่าเธอจะเป็นน้องสาวฉืออี้หย่วนกันนะ?

“เสี่ยวหรง เธอว่าเด็กคนนั้นใช่น้องสาวเขาไหมอ่ะ?”

“หน้าตาพวกเขาไม่เหมือนกันเลยนะ แต่น้องคนนั้นสวยมากเลย!” เด็กสาวตัวสูงขมวดคิ้ว

หน้าตาดีตั้งแต่เด็กเลย ไม่รู้ว่าโตขึ้นจะสวยขนาดไหนกัน

หน้าตาเสี่ยวเถียนเดิม เรียกได้ว่าสวยอยู่แล้ว แต่ก็อย่างว่าหน้าตาดีก็ไม่ได้หมายความว่านิสัยจะดีเหมือนหน้า แต่เสี่ยวเถียนที่พื้นฐานหน้าตาดีอยู่แล้ว รวมถึงนิสัยที่น่ารักก็ยิ่งดีกว่าเดิมขึ้นไปอีก!

“เสี่ยวหรง เราเข้าไปถามเลยดีไหม?” สาวตัวเล็กถามขึ้น

แต่เด็กสาวตัวสูงส่ายหัวอย่างยอมแพ้

“พวกเราดูดีกว่าอีก ก็แค่เด็กคนเดียวเองนะ”

เธอคิดแบบนี้เพราะไม่คิดว่าฉืออี้หย่วนจะชอบอีกฝ่ายน่ะสิ ที่ต้องระวังคือพวกที่ชอบระรานคนอื่นในมหาวิทยาลัยต่างหาก ไม่ใช่ยัยเด็กนี่!

ฉืออี้หย่วนสังเกตเห็นว่ามีคนตามมาแต่ไม่ได้สนใจ ปกติเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยอยู่แล้ว เขาชินซะแล้วล่ะ ขอแค่ไม่เข้ามาก่อกวนกัน เขาก็ไม่สนใจหรอก

ฉืออี้หย่วนถือถุงแล้วเดินไปส่งเสี่ยวเถียนที่หอ ระหว่างทางเด็กหญิงโดนทุกสายตาจ้องมองมา ตอนนี้เธอเหมือนนั่งอยู่บนเข็มแหลม ๆ และได้แต่นึกเสียใจว่า ถ้ารู้ว่าจะกลายเป็นเป้าสายตาแบบนี้ให้รถขับมาส่งถึงที่หอดีกว่า ถึงจะเด่นไปหน่อยแต่ดีกว่าตอนนี้มาก

“พี่อี้หย่วน มันเป็นความผิดของพี่เลย!”

เพราะได้รับสายตาไม่ประสงค์ดีจากพวกสาว ๆ เสี่ยวเถียนก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นได้ ยิ่งคิดว่าหนึ่งในนั้นคือแฟนพี่อี้หย่วน จู่ ๆ ก็รู้สึกอึดอัดใจโดยไม่มีสาเหตุ

ฉืออี้หย่วนชอบดวงตากลมโตของเสี่ยวเถียนมาก แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม

“ทำไมต้องโทษพี่ด้วยเล่า ไม่ใช่เพราะเธอโดดเด่นหรอกหรือ?” เขาเอ่ยอย่างหดหู่

จากมุมมองของเขา ที่เสี่ยวเถียนเป็นจุดสนใจเพราะอายุน้อย และสอบได้อันดับหนึ่ง

เด็กหญิงจ้องอีกฝ่ายเขม็ง เป็นสายตาที่กำลังขอเหตุผล

อี้หย่วนยิ้มกับใบหน้ามุ่ย ๆ นั้น

“เสี่ยวเถียนยิ้มหน่อยสิ เดี๋ยวพี่อี้หย่วนให้ลูกอมกิน” เขาแหย่เสี่ยวเถียนด้วยความเอ็นดู

เสี่ยวเถียนอยากจะกลอกตาใส่อีกฝ่ายจริง ๆ เล้ย เธออายุตั้งเท่าไรแล้ว พี่อี้หย่วนเห็นเธอเป็นเด็กอยู่หรือไงนะ!?

เราเดินสนทนาหยอกล้อกันมาจนถึงใต้ตึก 7 จากนั้นอี้หย่วนก็ยื่นถุงให้เสี่ยวเถียนด้วยความไม่เต็มใจ แต่น้องเรียนมหาวิทยาลัยแล้วนะ จากนี้ไปจะได้เรียนที่เดียวกันแล้ว

เรื่องนี้มันดีไปเลย! อย่างน้อยก็ได้เห็นหน้าเธอทุกวัน ได้กินข้าวด้วยกันทุกวันด้วย!

“เดี่ยวพี่มารับตอนหกโมงครึ่ง ไว้ไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะ!”

รอยยิ้มพี่ชายอ่อนโยนและอบอุ่นราวกับแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ สว่างสดใสเสียจนเสี่ยวเถียนสายตาพร่ามัว

หลังจากได้สติก็บ่นงึมงำว่าความงามทำพิษนะ! ผู้ชายคนนี้หน้าตาดียังไงให้สร้างความวุ่นวายไปทั่วเนี่ย? น่าโมโหจริง ๆ

ไม่ไหว ทนดูต่อไม่ไหวแล้ว!

“ได้ค่ะพี่อี้หย่วน หนูจะจำไว้นะ!” เธอรีบไปคว้าถุงมากอดไว้ จากนั้นก็วิ่งพรวดเข้าไปข้างในตึก

ฉืออี้หย่วนมองตามแผ่นหลังเล็กนั้น รอยยิ้มบนปากกว้างขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเอ็นดูอีกฝ่ายแค่ไหน

คนที่ชอบเด็กหนุ่มคนนี้ไม่เคยเห็นรอยยิ้มสดใสของเขาเลย แต่แล้วจู่ ๆ พวกผู้หญิงก็ดูเหมือนจะมึนงงไปชั่วขณะ

ฉืออี้หย่วนไม่รู้เรื่องนี้ และหมุนตัวจากไป

เพราะยุ่งเรื่องรายงานตัวของน้อง เรื่องของตัวเองยังไม่ได้จัดการเลย

……

เสี่ยวเถียนเข้าไปในตึกก่อนเจอคุณป้าคนดูแลหอพักในห้องรับรองแขก เธอหยิบเมล็ดแตงโมถุงใหญ่ออกมาแล้ววางไว้ที่ขอบหน้าต่าง

“คุณป้าขา มากินเมล็ดแตงโมกันค่ะ!”

ตอนแกเห็นสาวน้อยน่ารักก็คลี่ยิ้มออกมา ต่างจากตอนที่เจอคนอื่นมาก

“หนูนี่เอง สาวน้อย ป้าจำชื่อหนูได้ ซูเสี่ยวเถียนใช่ไหม? เอาไปกินเถอะลูก ป้าโตแล้ว ไม่อยากแย่งของหนูกินหรอกนะ!”

เด็กตัวนิดเดียว เห็นแล้วน่าสงสารนัก หัวใจคนเป็นแม่อย่างเธออ่อนยวบละลายแล้วละลายอีก

“คุณป้า อันนี้พี่ชายหนูซื้อให้ค่ะ ในถุงยังมีอีกหลายอย่างเลย แต่ถุงนี้หนูให้ป้าค่ะ!” เสี่ยวเถียนยิ้มสดใส

“งั้้นป้าจะรับไว้นะจ๊ะ ถุงใหญ่แบบนั้นใส่ของข้างในต้องหนักแน่ ๆ เลยใช่ไหมลูก หนูรีบขึ้นห้องเถอะ!” คุณป้ายิ้มแล้วเอ่ยซ้ำ ๆ ทีแรกเกือบเอ่ยปากช่วยแล้ว

สาวน้อยขอบคุณอย่างสุภาพ แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปทันที น้ำหนักแค่นี้ไม่คณามือเธอสักนิด หนึ่งคือไม่ได้หนัก สองคือเสี่ยวเถียนแข็งแกร่งมาก

และทันทีที่เข้าห้องไป ความอารมณ์ของเสี่ยวเถียนพลันหายไปทันที!