ตอนที่ 740 ผู้ไปร่วมงานเลี้ยงยังคงเป็นคนเหล่านั้น

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

รถม้า​เคลื่อนตัว​ไป​ช้าๆ​ ​ผ้าม่าน​สีเขียว​นั้น​มอง​ไป​ค่อนข้าง​เรียบง่าย​ ​แต่​ภายใน​ตกแต่ง​หรูหรา​นั่ง​สบาย

อวี​้​จิ​่น​เอื้อมมือ​ออก​ไป​หยิบ​ผลไม้​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ขึ้น​มากัด​ไป​คำ​หนึ่ง​ ​ยิ้ม​แล้ว​มอง​ไป​ทาง​เจียง​ซื่อ

การ​เดินทาง​เข้า​วัง​ใน​ครั้งนี้​เห็นได้ชัด​ว่า​จะ​ไม่มี​ความสงบ​สุข​ ​แต่​สำหรับ​เขา​แล้ว​ไม่ได้​กลัว​แต่อย่างใด​ ​ในทางกลับกัน​ช่าง​รู้สึก​กระตือรือร้น​อยาก​จะ​เผชิญ

เขา​ไม่เคย​กลัว​ผู้คน​พวก​ที่​ตาบอด​และ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ ​ในเมื่อ​เขา​มุ่ง​เป้าหมาย​ไป​ที่​ตำแหน่ง​นั้น​ ​ระหว่างทาง​ยิ่ง​มี​หิน​เข้ามา​คอย​สกัด​ขวางกั้น​มาก​เท่าไร​ก็​ควรจะ​เตะ​ออก​มัน​ไป​อย่างรวดเร็ว​เท่านั้น​ ​เมื่อ​จัดการ​ได้​ทั้งหมด​ ​เป้าหมาย​ก็​นับว่า​เกือบ​สำเร็จ​แล้ว

ความตื่นเต้น​ใน​แววตา​ของ​อวี​้​จิ​่น​ทำให้​เจียง​ซื่อ​ส่ายหน้า​แล้ว​หัวเราะ​ขึ้น​ ​“​ในเมื่อ​รู้​ว่า​จะ​เกิดเรื่อง​ ​แต่​เหตุใด​ข้า​จึง​มองเห็น​ว่า​เจ้า​กำลัง​ตั้งตารอ​มัน​”

อวี​้​จิ​่​นวาง​จาน​ผลไม้​ลง​แล้ว​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ตั้งตารอ​คอย​สักหน่อย​ ​แต่​ข้า​อดใจ​รอ​ไม่ไหว​แล้ว​ต่างหาก​”​

เจียง​ซื่อ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา

การต่อสู้​เพื่อ​บัลลังก์​สืบทอด​ตำแหน่ง​นั้น​ ​ถนน​ใน​ภายภาคหน้า​เต็มไปด้วย​ขวากหนาม​ ​แต่​ท่าทาง​อัน​ดีงาม​ของ​อวี​้​จิ​่น​เช่นนี้​ทำให้​เจียง​ซื่อ​ผ่อนคลาย​มากขึ้น

“​เจ้า​ควรระวัง​ไว้​สักหน่อย​ ​อย่า​ได้​ประมาท​จน​เกินไป​”

“​วางใจ​เถิด​ ​เจ้า​เอง​ก็​ควรระวัง​เช่นกัน​”

ทั้งสอง​สนทนา​กัน​ไปมา​ ​ในที่สุด​ก็​มาถึง​พระราชวัง

แท้จริง​แล้ว​งาน​วัน​คล้าย​วันคล้ายวันพระราชสมภพ​ของ​ไท​เฮา​นับเป็น​งานใหญ่​ที่​รอง​มาจาก​วันคล้ายวันพระราชสมภพ​ของ​ฮ่องเต้​ ​แต่​หลาย​ปี​มานี​้​ไท​เฮา​ไม่​ชื่นชอบ​จัดงาน​เลี้ยง​ใหญ่โต​ ​ประกอบกับ​ใน​ปีนี​้​ร่างกาย​ของ​นาง​ไม่ได้​แข็งแรง​นัก​ ​จึง​จัดงาน​เลี้ยง​เฉลิมฉลอง​ใน​ตำหนัก​ฉาง​เซิง​เท่านั้น​ ​ผู้​ที่​เดินทาง​มาร​่ว​มงา​นล​้​วน​เป็น​คนใน​ตระกูล

อวี​้​จิ​่​นลง​จาก​รถม้า​แล้ว​เอื้อมมือ​ไป​ประคอง​เจียง​ซื่อ

เจียง​ซื่อ​เพิ่งจะ​ยืน​ได้​มั่นคง​ก็ได้​ยิน​น้ำเสียง​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​ว่า​ ​“​บังเอิญ​เสีย​จริง​ที่​ได้​พบ​น้อง​เจ็ด​กับ​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​ที่นี่​”​

ทั้งสอง​คน​หันหลัง​กลับ​ไป​มอง​พบ​ว่า​ฉี​อ๋อง​ยืน​อยู่​ไม่​ไกล​ออก​ไป​นัก​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ปรากฏ​เป็น​รอยยิ้ม​จางๆ​

ฉี​อ๋อง​รีบ​เดิน​ก้าว​เข้ามา​ด้านหน้า​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​เข้าไป​ด้วยกัน​เถิด​”

อวี​้​จิ​่​นม​อง​ไป​ทาง​เขา​อย่าง​ลึกล้ำ​ ​แล้ว​จู่ๆ​ ​ก็​ก้าว​เข้าไป​ด้านหน้า​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ต่ำ​ทุ้ม​ว่า​ ​“​พี่​สี่​ชอบ​เอาหน้า​อุ่นๆ​ ​ไป​สัมผัส​ก้น​เย็น​ๆ​ ​ของ​คนอื่น​เสีย​จริง​เชียว​”

“​เจ้า​…​”​ ​ต่อให้​ฉี​อ๋อง​ได้รับ​การอบรม​สั่งสอน​มา​อย่างดี​เพียงไร​ ​บัดนี้​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​เหล่านั้น​ล้วน​โมโห​โกรธเคือง​ ​ลืม​เรื่อง​ที่จะ​รักษา​มารยาท​ของ​ตน​ทันที

ในทางกลับกัน​ ​ใบหน้า​ของ​อวี​้​จิ​่น​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​พี่​สี่​จะเข้า​ไป​ด้วยกัน​ไม่ใช่​หรือ​ ​ท่าน​เป็น​พี่​ ​เชิญ​เข้าไป​ก่อน​เถิด​…​”

เสียง​ของ​เขา​ดู​สูง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​บรรดา​ราชวงศ์​คนอื่นๆ​ ​ให้​หันมา​มอง

ฉี​อ๋อง​ไม่​สามารถ​ระบาย​ความโมโห​ขุ่นเคือง​ใจ​ออกมา​ได้​ในขณะนี้

มี​ผู้คน​มากมาย​จับจ้อง​มอง​อยู่​ ​ต่อให้​เจ้า​เจ็ด​จะ​ไร้ยางอาย​สัก​เพียงใด​ ​เขา​ก็​ยังคง​ต้อง​รักษาหน้า​ตาของ​ตน​ไว้​ ​หากว่า​สอง​พี่น้อง​เกิด​ข้อ​วิวาท​กัน​ใน​งาน​วัน​คล้าย​วันคล้ายวันพระราชสมภพ​ของ​เสด็จ​ย่า​ ​เรื่อง​นี้​ไป​ถึง​หู​เสด็จ​พ่อ​จะ​มี​ข้อดี​อัน​ใด​เล่า

ฉี​อ๋อง​พยายาม​เก็บ​กลั้น​ความโกรธ​เอาไว้​และ​ไม่ได้​กระทำการ​ใด​ออกมา​ ​อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ขึ้น​กล่าวว่า​ ​“​พี่​สี่​ช่าง​เกรงใจ​กัน​มาก​ไป​แล้ว​ ​ถ้าเช่นนั้น​น้อง​ขอตัว​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ก่อน​”

เมื่อ​ฉี​อ๋อง​ได้สติ​กลับคืน​มาก​็​พบ​ว่า​อวี​้​จิ​่น​จูงมือ​เจียง​ซื่อ​เดิน​ตรง​เข้าไป​ข้างใน​ก่อน​แล้ว

เซียง​อ๋อง​ที่​เพิ่ง​เดินทาง​มาถึง​ช้า​ไป​ก้าว​หนึ่ง​ ​เขา​เข้ามา​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​พี่​สี่​ ​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​งั้น​หรือ​”

แววตา​ของ​ฉี​อ๋อง​กลับคืน​สู่​ภาวะ​ปกติ​ ​แต่​ภายใต้​แววตา​นั้น​ยังคง​มีน​้ำ​แข็ง​ปกคลุม​เยือกเย็น​แล้ว​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​บางเบา​ว่า​ ​“​ไม่มี​อะไร​หรอก​ ​น้อง​แปด​ ​พวกเรา​เข้าไป​ข้างใน​กัน​เถิด​”

เซียง​อ๋อง​เหลือบมอง​ไป​ยัง​ร่าง​นั้น​ที่​เดิน​อย่าง​สง่างาม​เข้าไป​ข้างใน​ ​เขา​เดินตาม​ฉี​อ๋อง​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​บางเบา​ว่า​ ​“​พี่​สี่​ ​ไอ้​สารเลว​นั่น​มัน​หาเรื่อง​พี่​อีกแล้ว​ใช่​หรือไม่​”

สายตา​ของ​ฉี​อ๋อง​เหลือบมอง​ซ้าย​ขวา​แล้ว​รีบ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ทุ้ม​ต่ำ​ว่า​ ​“​น้อง​แปด​เอ่ย​วาจา​ใด​ระมัดระวัง​ด้วย​”

บัดนี้​มี​ผู้คน​มากมาย​ ​หาก​มี​ใคร​ได้ยิน​เข้าว่า​เจ้า​แปด​เรียก​เจ้า​เจ็ด​ว่า​ไอ้​สารเลว​คง​ไม่เหมาะสม

เซียง​อ๋อง​ส่ายหน้า​ ​“​พี่​สี่​ช่าง​นิสัย​ดียิ่ง​นัก​ ​สามารถ​อดทน​ได้​”

ฉี​อ๋อง​หรี่​ตาลง​แล้ว​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​บางเบา​ ​“​อดทน​เพียงแค่​ชั่วครู่​ ​จะ​เป็นไร​ไป​เล่า​”

บัดนี้​หาก​เขา​อดทน​ไว้​ ​วันใด​ที่​เขา​ประสบความสำเร็จ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​อดทน​อีกต่อไป​ ​หาก​จะ​ต้อง​อดทน​ใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​เพื่อ​แลก​มากับ​ความ​มีเกียรติ​ยิ่ง​ตลอดชีวิต​ก็​นับว่า​คุ้มค่า

ความเย่อหยิ่ง​ของ​เจ้า​เจ็ด​ใน​มุมมอง​ของ​เขา​ช่าง​ดู​ไร้เดียงสา​เหลือเกิน​ ​ในไม่ช้า​ก็​เร็ว​จะ​ต้อง​ชดใช้​กับ​ความ​โง่เขลา​เช่นนั้น

ฉี​อ๋อง​คิด​ดังนี้​จึง​ทำให้​ความโกรธเคือง​เมื่อ​ครู่​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป

จังหวะ​เดียวกัน​ ​อวี​้​จิ​่น​เหลือบมอง​มา​พบ​ใบหน้า​ของ​ฉี​อ๋อง​ ​รอยยิ้ม​เยาะเย้ย​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ที่​มุม​ปาก

ฉี​อ๋อง​หยุด​ฝีเท้า​ของ​ตน​ลง​ ​ความโกรธ​ที่​เพิ่ง​ระงับ​ได้​เมื่อ​ครู่​แทบจะ​ปะทุ​ออกมา​อีกครั้ง​

“​อา​ซื่อ​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​พี่​สี่​ช่าง​มี​ความสามารถ​ยิ่งนัก​”

เจียง​ซื่อ​เหลือบมอง​อวี​้​จิ​่น​ ​“​เหตุใด​หรือ​”

อวี​้​จิ​่น​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​“​เมื่อ​ครู่​ที่​ข้า​กล่าว​ออก​ไป​เช่นนั้น​ ​เขา​ยัง​สามารถ​ระงับ​ความโกรธ​ของ​ตน​ไว้​ได้​ ​ข้าว​่า​เขา​เป็น​คนที​่​สามารถ​ปลอบโยน​ตนเอง​อย่าง​มีพรสวรรค์​โดยแท้​”

เจ้า​คนขี้ขลาด​นั่น​คิด​สิ่งใด​อยู่​มี​หรือทั​้​เขา​จะ​ไม่รู้​ ​ก็​คง​อดกลั้น​เอาไว้​และ​ตั้งตารอ​คอย​คิดบัญชี​ใน​ภายหลัง​ ​แต่กลับ​ไม่รู้​หรอก​ว่าความ​เคยชิน​กับ​การอด​ทน​ ​ท้ายที่สุด​แล้วก็​เหมาะสม​เป็น​เพียงแค่​เต่า​หดหัว​ใน​กระดอง​ ​คิด​อยาก​จะ​ขึ้น​เป็น​มังกร​ทะยาน​สู่​ฟากฟ้า​ได้​อย่างไร

“​รอดู​เถิด​ ​ต่อให้​ใน​วันนี้​จะ​เกิดเรื่อง​ราว​ใด​ขึ้น​ ​พี่​สี่​ก็​คง​ไม่กล้า​ลงมือทำ​เอง​อย่างแน่นอน​”

เจียง​ซื่อ​หัวเราะ​แล้ว​กระซิบ​ว่า​ ​“​เจ้า​มอง​ฉี​อ๋อง​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​เหลือเกิน​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้มเยาะ​ ​“​คน​เช่นนี้​ข้า​เจอ​มามาก​นัก​”

“​อาจิ​่น​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​เจ้า​ควร​ระมัดระวัง​เซียง​อ๋อง​เอาไว้​”​ ​เจียง​ซื่อ​ขยับ​เข้าไป​ใกล้​แล้ว​กระซิบ

อวี​้​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​เล็กน้อย​ ​“​วางใจ​เถิด​ ​ข้า​รู้​”

แน่นอน​ว่า​เจ้า​แปด​รู้สึก​อึดอัด​คับข้องใจ​เรื่อง​ที่​ฮองเฮา​รับ​โอรส​เข้ามา​ไว้​ในนาม​ ​เมื่อ​ถูก​พี่​สี่​โน้มน้าว​ ​เขา​คง​เลือก​จะ​ลงมือ​ใน​วันนี้

อวี​้​จิ​่​นคิด​ถึง​สิ่ง​นี้​แล้ว​เผยอ​มุม​ปาก​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​รอยยิ้ม​ของ​เขา​ดูถูก​เยาะเย้ย

เจ้า​เด็ก​โง่เง่า​ที่​แม้แต่​ก้น​ตนเอง​ยัง​เช็ด​ไม่​แห้ง​ ​กล้า​ที่จะ​กระโดดโลดเต้น​ไปมา​ ​หรือ​ชีวิต​ของ​เขา​ดู​น่าเบื่อ​เกินไป​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​หาเรื่อง​เพิ่ม​ความสนุก​สนาน​?

เขา​ตั้งหน้าตั้งตา​รอมัน​จริงๆ​

“​ท่าน​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​อ๋อง​ช่าง​เป็น​คู่รัก​ที่​เหมาะสม​กัน​จริง​”​ ​ชาย​คน​หนึ่ง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ใน​ระยะ​ที่​ห่าง​ออก​ไป​ไม่​ไกล​นัก

อวี​้​จิ​่น​เหลือบมอง​ไป​ยัง​ชาย​ผู้​นั้น​ก็​จำได้​ทันที​ว่า​คือ​ใคร

ผู้​ที่​เอ่ย​ประโยค​นั้น​ออกมา​ก็​คือ​บุตรชายคนโต​ของ​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​นาม​ว่า​คังจ​วิ​้​นอ​๋​อง​น้อย

แม้​จะ​ไม่​คุ้นเคย​นัก​ ​แต่​เมื่อ​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​กล่าว​เช่นนี้​ก็​ควรจะ​สนใจ​เขา​สักหน่อย

รอยยิ้ม​ของ​อวี​้​จิ​่น​ปรากฏ​ขึ้น​แล้ว​ทำการ​ทักทาย​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง

งานเลี้ยง​ใน​ตำหนัก​ฉาง​เซิง​ถูก​จัด​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ก่อนหน้า​ ​ทางซ้าย​จะ​เป็น​แขก​ทาง​ผู้ชาย​ ​ทางขวา​จะ​เป็น​แขก​ผู้หญิง​ ​เนื่องจาก​เป็น​คนใน​ตระกูล​เดียวกัน​จึง​ไม่จำเป็น​ต้อง​จัด​ที่นั่ง​ให้​ห่าง​มาก​นัก​ ​เพียงแค่​ตรงกลาง​มี​ช่องว่าง​เพียงพอ​ให้​เดิน​สำหรับ​ผู้อื่น​เป็น​พอ

สำหรับ​พื้นที่​ให้​นาง​ระบำ​ร่ายรำ​ไปร​อบ​ๆ​ ​ผู้​ที่มา​ร่วมงาน​เลี้ยง​ฉลอง​เมื่อ​ครั้น​ดวงตา​ของ​องค์​หญิงฝู​ชิง​มองเห็น​ได้​อีกครั้ง​ล้วน​พากัน​ส่ายหน้า

สิ่ง​นี้​ไม่จำเป็น​เอา​เสีย​เลย​ ​เมื่อ​หวน​ถึง​งานเลี้ยง​ใน​ครานั้น​พวกเขา​ยัง​รู้สึก​หวาดกลัว​เล็กน้อย​ ​นาง​ระบำ​ที่​ปลงพระชนม์​องค์​หญิง​สิบห้า​ได้​ร่ายรำ​ไปร​อบ​แขกเหรื่อ​เหล่านี้​และ​แอบ​วางยาพิษ​โดยไม่รู้ตัว

ดูเหมือน​ทาง​พระราชวัง​จะ​ได้รับ​บทเรียน​ใน​ครานั้น​ ​วันนี้​จึง​มี​เพียง​เวที​ที่​จัด​อยู่​ตรงหน้า​ห้องโถง​ใหญ่​เท่านั้น

บริเวณ​ที่​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​รวมทั้ง​ไท​เฮา​ประทับ​นั่ง​อยู่​บน​แท่น​สูง​ ​มีพ​รม​ปู​ตรงกลาง​ ​เมื่อ​งานเลี้ยง​เริ่ม​ขึ้น​นาง​ระบำ​เหล่านั้น​สามารถ​ร่ายรำ​บน​เวที​แห่ง​นี้​ด้วย​ความสนุก​สนาน​ ​แต่​ไม่​อาจ​ก้าว​เข้าไป​ใน​พรม​ได้

หลาย​คน​มองดู​นาง​ระบำ​ที่​เต้นรำ​ไปร​อบ​ๆ​ ​พรม​ ​พวกเขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พยักหน้า​คิด​ว่า​ ​อืม​ ​เช่นนี้​ดียิ่ง​นัก

สำหรับ​คนที​่​ไม่ได้​เดินทาง​มา​และ​ไม่รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​ใน​งาน​ครั้งนั้น​ ​พากั​นก​ระ​ซิบ​กระ​ซาบ​ว่า​ ​ช่าง​ไม่รู้​จัก​ความรื่นเริง​เอา​เสีย​เลย

ผู้​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ตะโกน​ตำหนิ​ ​“​เจ้า​จะ​ไปรู​้​เรื่อง​อะไร​เล่า​”

ต่อให้​น่าเบื่อ​เพียงไร​ก็ดี​กว่า​ต้อง​มี​คนตาย

ใน​ตอนแรก​องค์​หญิง​สิบห้า​ถูก​ปลงพระชนม์​ใน​งานเลี้ยง​ ​ต่อมา​อันจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ก็​ถูก​ลอบ​ปลงพระชนม์​ที่​ชุ่ย​หลัว​ ​บัดนี้​ ​เมื่อ​ต้อง​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ที่​จัด​ขึ้น​โดย​ราช​วัง​ ​พวกเขา​ต่าง​พากัน​หวาดกลัว

แต่​ดู​จาก​การ​จัดการ​ใน​วันนี้​ ​คาด​ว่า​จะ​สามารถ​ผ่าน​ไป​ได้​อย่างสงบ​ราบรื่น​ ​อีก​อย่าง​นี่​คือ​งานเลี้ยง​วัน​คล้าย​วันคล้ายวันพระราชสมภพ​ของ​ไท​เฮา​คง​ไม่มี​ผู้ใด​กล้า​ที่จะ​รนหาที่​ตาย

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ประทับ​อยู่​บน​แท่น​สูง​ ​มอง​ลงมา​ถึง​ฉาก​ด้านหน้า​ ​เขา​แอบ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

เปลือกตา​เขา​ไม่ได้​กระตุก​และ​ใน​ใจ​ก็​ไม่​ตื่นตระหนก​ ​ที่​สำคัญ​ก็​คือ​ใน​วันนี้​นาง​ระบำ​ไม่​อาจ​เคลื่อนไหว​ไป​ได้​ตามใจ​พวก​นาง​ ​คาด​ว่า​คงจะ​ราบรื่น

เมื่อ​คิดได้​ดังนี้​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ลง​แล้ว​หันไป​สนทนา​กับ​ฮองเฮา​ที่​ด้าน​ข้าง​สอง​สาม​ประโยค

“​ได้ยิน​ว่า​แม้แต่​พรม​ใน​วันนี้​ฮองเฮา​ก็​เป็น​คนเลื​อก​ด้วย​ตนเอง​ ​ลำบาก​ฮองเฮา​ยิ่งนัก​”

ท่ามกลาง​สายตา​ของ​ทุกคน​ที่อยู่​ ณ​ ​ที่​นั้น​ ​ฮองเฮา​ยิ้ม​ขึ้น​อย่างเหมาะสม​ ​“​เป็น​สิ่ง​ที่​หม่อมฉัน​ควร​ทำ​เพ​คะ​”

ขณะที่​ฮองเฮา​และ​ฮ่องเต้​กำลัง​กระซิบกระซาบ​กัน​ ​ก็ได้​ยิน​ข้าหลวง​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไท​เฮา​เสด็จ​!​”