บทที่ 773 ไม่ไขว่คว้าอีกต่อไป
คนเดียวที่ใส่ใจตู้เยี่ยนคือจางจ้าวหมิง
เมื่อตู้เยี่ยนไม่มา จางจ้าวหมิงก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไป ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะนึกถึงท่าทีเศร้าสร้อยของหญิงสาวที่หน้าหอหวางเจียง เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสารนาง แต่ตัวเองกลับไม่รู้ว่าเหตุใดถึงได้ร้อนใจเช่นนี้
“จ้าวหมิง”
เมื่อได้ยินเสียงเรียก จางจ้าวหมิงก็รู้สึกตัว
“ท่านแม่ทัพ” เขารีบลุกขึ้นทำความเคารพ
วันนี้กู้หวนอวี้ไม่ได้อยู่ในชุดสีขาวดั่งเช่นปกติ แต่เป็นชุดสีดำซึ่งทำให้เขาดูสูงโปร่งมากขึ้น ผมของเขารวบขึ้นจนเห็นคิ้วที่เรียวสวย สาบเสื้อที่เคยยกสูงถูกปลดออกจนเห็นกล้ามเนื้อบางๆ หากเป็นคนอื่นมาเห็นเข้า คงจะแปลกใจกับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของเขา แต่ไม่ใช่กับจางจ้าวหมิง เขาคุ้นชินกับแม่ทัพที่มีภาพลักษณ์เช่นนี้ในสนามรบ
“มาซ้อมกับข้าหน่อย” กู้หวนอวี้พูดด้วยรอยยิ้ม
จางจ้าวหมิงพยักหน้าแล้วตามกู้หวนอวี้ออกไปที่ลานฝึก คุณชายรองกู้ถนัดใช้ทวน ในขณะที่จางจ้าวหมิงใช้ดาบ ทวนของกู้หวนอวี้แทงไปข้างหน้าพัดพาเอาลมหนาวมาด้วย จางจ้าวหมิงสกัดการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของกู้หวนอวี้ลื่นไหลและอันตรายมาก สมกับสมญานามเทพเจ้าสงคราม ทหารคนอื่นมักจะรับมือกับเขาไม่ได้ มีเพียงจางจ้าวหมิงเท่านั้นที่สามารถรับมือเขาได้อย่างเท่าเทียมกัน
แต่วันนี้เพียงใช้ทวนโจมตีไม่กี่ครั้งเท่านั้น จางจ้าวหมิงก็ล้มไปที่พื้นทันที กู้หวนอวี้ถือทวนไว้ในมือ จ่อไปที่คอของคนที่นอนอยู่บนพื้น ชายหนุ่มกำหมัดแน่นพร้อมกับยอมรับความพ่ายแพ้
กู้หวนอวี้ชักทวนออกมา เหงื่อเม็ดหนึ่งไหลจากคอของเขาลอดไปในเสื้อผ้า เขาขมวดคิ้วมองไปยังจางจ้าวหมิง
“เจ้ากังวลอะไรอยู่หรือเปล่า?” เขาถาม
จางจ้าวหมิงพยักหน้า ราวกับอยากพูดบางอย่าง ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา
“ท่านแม่ทัพ คุณหนูตู้ไม่มาที่นี่สองวันแล้ว”
“คุณหนูตู้?” กู้หวนอวี้ขมวดคิ้ว
คุณหนูตู้หลงรักท่านแม่ทัพโดยที่เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่านางคือใคร จู่ๆ จางจ้าวหมิงก็รู้สึกเสียใจแทนนางขึ้นมา
“นางเป็นพี่สาวของตู้เว่ยใช่หรือไม่?” กู้หวนอวี้ถาม เขามองหน้าจางจ้าวหมิงพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“บอกนางว่าข้าไม่ได้ชอบนาง ไม่จำเป็นต้องไล่ตามข้า”
กู้หวนอวี้เป็นคนอ่อนโยน เขาเห็นว่าจางจ้าวหมิงชอบเด็กสาวคนนั้น จึงอยากปฏิเสธนางเพื่อให้โอกาสจางจ้าวหมิง
อารมณ์ของจ้าวหมิงซับซ้อนมาก เขาเสียใจกับตู้เยี่ยนก็จริง แต่ก็มีความสุขอย่างน่าประหลาด
“ท่านแม่ทัพ ท่านเห็นผู้หญิงทุกคนเป็นเหมือนกันหรือไม่? ท่านมีสตรีที่ท่านชื่นชอบหรือไม่?” เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
ดวงตาของกู้หวนอวี้หรี่ลง
ชอบ?
เขาไม่รู้ว่ามีความหมายอย่างไร
ผู้หญิงส่วนใหญ่เหมือนกันหมด แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น…
ในตอนที่กู้หวนอวี้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ตอนเหนือของเป่ยหมาน มีพี่น้องคู่หนึ่งช่วยชีวิตเขาไว้ พี่สาวต้องการถอดเสื้อผ้าของเขาออกเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา แต่เขาปฏิเสธ นางเยาะเย้ยเขา
หลังจากที่มองเห็นร่างกายของเขาแล้ว นางก็ให้กู้หวนอวี้รับผิดชอบ เพราะนางเป็นหญิงพรหมจรรย์เพิ่งเคยเห็นร่างเปลือยของบุรุษเป็นครั้งแรก กู้หวนอวี้อึกอัก ในที่สุดเขาตัดสินใจรับผิดชอบสตรีผู้นั้น คาดไม่ถึงว่านางกลับหัวเราะเยาะว่าเขาโง่เขลา เพราะนางแค่เย้าหยอกเท่านั้นแต่เขากลับถือเป็นจริงจัง
กู้หวนอวี้โมโหแทบตาย แต่จนใจที่ทำอะไรนางไม่ได้เพราะเขาได้รับบาดเจ็บ ตามองไม่เห็น ขาก็เดินไม่ได้ ได้แต่เก็บโทสะไว้เช่นนั้น
หญิงผู้นี้ชอบยั่วยุให้กู้หวนอวี้โกรธอยู่บ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งเขาโกรธนางจนแผลปริ โชคดีที่น้องชายของนางเก่งกาจวิชาแพทย์ จึงรักษาเขาได้ เขาคิดไว้ว่าถ้าหายดีเมื่อจะแก้แค้นนางให้ได้ แต่เมื่อเขาหายดีแล้ว สองพี่น้องก็หายตัวไปทันที เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของทั้งสองคนด้วยซ้ำ
กู้หวนอวี้ไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อสืบเรื่องราวของพี่น้องคู่นี้ เพราะเคยได้ยินมาว่าจะมีหมอเดินทางมารักษาชาวบ้าน แต่ไม่ว่าจะสืบหาอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดรู้
ชายหนุ่มกลับไปยังค่ายทหาร จากนั้นเขาก็จากไปโดยไม่มีเวลาตามหาพี่น้องคู่นั้นอีก
น่าเสียดาย…
บางครั้งกู้หวนอวี้ก็ฝันถึงนาง ในความฝันเขาจะอารมณ์เสียทุกครั้ง ตื่นขึ้นมาก็ยังแค้นใจไม่หาย
จางจ้าวหมิงที่ไม่ได้รับคำตอบ รู้สึกตกใจที่เห็นว่ากู้หวนอวี้ขบฟันแน่น
“ท่านแม่ทัพ?” จางจ้าวหมิงเรียกอย่างลังเล กู้หวนอวี้กลับมาได้สติ ท่าทีของเขากลับมาดูอ่อนโยนเช่นเดิม
“ไม่มีอะไร ข้าให้เจ้าหยุดครึ่งวันไปจัดการเรื่องของเจ้า” จางจ้าวหมิงกำลังคิดถึงตู้เยี่ยน นางหายไปสองสามวันแล้ว แต่เขาไม่แน่ใจว่าควรจะบอกคำพูดของท่านแม่ทัพให้นางรู้ดีหรือไม่? เขาต่อสู้ดิ้นรนกับคาวมคิดของตนอยู่สักพัก กว่าจะรู้ตัวก็ได้เดินมาถึงหน้าขวนตู้เสียแล้ว
“พี่จาง” เสียงทักทายดังขึ้น
จางจ้าวหมิงเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นตู้เยี่ยนกำลังเดินออกมา ในตอนแรกเขาคิดว่าหญิงสาวจะมีท่าทีหดหู่เศร้าหมอง แต่กลับพบว่านางยังสดใสและร่าเริงเช่นเดิม ใบหน้าของนางตอนที่เห็นเขาดูประหลาดใจแต่มีความสุข
“ท่านมาทำไม? มาหาข้าหรือ?”
“เอ่อ..” จางจ้าวหมิงลังเลก่อนจะพยักหน้า
“เหตุใดช่วงนี้ไม่ไปหาท่านแม่ทัพแล้วล่ะ?”
เมื่อจางจ้าวหมิงพูดถึงกู้หวนอวี้ใบหน้าเล็กๆ ของนางก็หมองลง
“คุณชายรองกู้หักนิ้วของเขาในยามที่หงุดหงิด เขาไม่ชอบข้า ข้าไม่กล้าไปหาเขาแล้วล่ะ”
จางจ้าวหมิงดูตื่นตระหนก เมื่อเห็นท่าทีเศร้าสร้อยของนาง เขาไม่เคยปลอบโยนใครจึงได้แต่เพียงพูดตะกุกตะกักออกมา
“ตู้เยี่ยน อย่าเศร้าไปเลย บางทีท่านแม่ทัพคงไม่ได้หงุดหงิดเขาอาจจะเมื่อยนิ้ว…บางทีกับข้าเขาก็เคยทำเช่นนั้น” ตู้เยี่ยนเห็นว่าเขาพูดติดขัด นางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“หากเขาไม่หงุดหงิด แล้วเขาชอบข้าหรือไม่?”
จางจ้าวหมิงคิดถึงคำพูดของกู้หวนอวี้
“ไม่..ท่านแม่ทัพพูด..”
“พูดอะไรหรือ?” ตู้เยี่ยนถาม
จางจ้าวหมิงอึกอักอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะเปลี่ยนคำพูดของท่านแม่ทัพให้สละสลวย
“ท่านแม่ทัพบอกว่าเจ้าไม่ควรเสียเวลากับเขา” แม้ว่าตู้เยี่ยนจะเดาได้ แต่ก็อดที่จะเศร้าใจไม่ได้ แต่นางไม่ได้เสียใจมากเหมือนวันก่อนหน้านี้แล้ว
ดูเหมือนว่าชายผู้เพียบพร้อมผู้นั้นไม่ให้โอกาสนางได้ใกล้ชิดเขาอีกแล้ว…
นางได้พยายามไขว่คว้า แต่กลับจบลงเช่นนี้
บนโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ นางไม่ใช่นางเอกในนิยาย เป็นเพียงคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของกู้หวนอวี้เท่านั้น หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“เขาควรปฏิเสธตรงๆ การกระทำที่อ่อนโยนของเขาทำให้คนเข้าใจผิดได้”
“แม่นางตู้ เจ้าเก่งมาก..”
“แน่นอน ข้าไม่เป็นอะไร แม่ทัพของท่านไม่มีโชคเอง” รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของตู้เยี่ยน
“ข้าจะไม่ไปหาเขาอีก” เมื่อเห็นว่าตู้เยี่ยนยอมรับความจริงได้ จางจ้าวหมิงก็ลอบถอนหายใจออกมา อย่างไรก็ตามการที่นางจะไม่ไปหาท่านแม่ทัพอีกแล้ว นั่นหมายถึงเขาจะไม่ได้พบนางอีกแล้วสิ จางจ้าวหมิงรู้สึกถึงความผิดหวังที่พุ่งขึ้นมาในทันที