บทที่ 781 กู้หวนอวี้วางแผนลวง

ตู้ชิงหยูแหงนหน้าหาวหวอด นางเดินตัดลานมา เห็นชายคนหนึ่งสวมชุดขาวหน้าตาหล่อเหลา ยืนอยู่ที่ประตูหน้าลาน คนผู้นั้นคือกู้หวนอวี้ เมื่อนางเห็นเขาเข้า ความรู้สึกผิดก็เกิดขึ้นมาในใจจนแทบอยากจะวิ่งหนีหายไปในพริบตา

นางทำท่าจะเดินกลับไป

กู้หวนอวี้ยิ้ม

“แม่นางตู้”

ตู้ชิงหยูชะงักฝีเท้า หันไปมองส่งยิ้มให้เช่นกุลสตรีทั่วไป

“ท่านกู้ ช่างบังเอิญยิ่งนัก” นางจงใจฝืนธรรมชาติและบุคลิกของตนเอง ทำท่าราวกับเป็นหญิงสาวที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้เขาจับได้ว่านางคือใคร

“ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก ข้ากำลังรอท่านอยู่”

เมื่อได้ยินคำพูดของกู้หวนอวี้ หัวใจของตู้ชิงหยูก็เต้นเร็วขึ้น

หรือว่าเขาจะจำได้?

“ข้าได้ยินเสียงร่ำลือว่าแม่นางตู้มีพรสวรรค์ทางหมากกระดานอย่างยากที่จะหาใครเปรียบได้ ข้าจึงอยากลองเล่นกับท่านดูสักตาหรือสองตาจะได้หรือไม่?”

ตู้ชิงหยูลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาจำนางไม่ได้ แค่อยากลองประลองฝีมือกับนางเท่านั้นเอง

“ไม่ใช่เรื่องยาก” ตู้ชิงหยูรับคำ

เมื่ออาจารย์จ้านได้ยินว่ากู้หวนอวี้และตู้ชิงหยูกำลังจะประลองฝีมือในการเล่นหมากกระดาน ก็ให้ตื่นเต้นยิ่งนัก เขารีบนำม้านั่งตัวเล็กมาวางเพื่อสังเกตการณ์ทันที

ไม่เพียงแค่นั้น เขายังพามู่เป่าผู้ชื่นชอบความตื่นเต้นและถังเป่าเด็กหญิงที่ให้ความสนใจเรื่องหมากเป็นอย่างมากมาดูด้วย

เด็กน้อยทั้งสองนั่งชมดูข้างผู้อาวุโสจ้าน ไม่เว้นแม้แต่ไทเฮาและถังหลี่เช่นกัน

ไม่นานนักลานแห่งนั้นก็เต็มไปด้วยผู้คน

ตู้ชิงหยูและกู้หวนอวี้นั่งอยู่ตรงกันข้าม คนหนึ่งถือหมากสีขาวอีกคนหนึ่งถือหมากสีดำ

เมื่อการแข่งขันเริ่มต้น ท่านอาจารย์จ้านเริ่มกังวลที่กู้หวนอวี้ต้องการเอาชนะเพื่อรักษาหน้าให้เขา

แต่แล้วอาจารย์จ้านก็กลับลืมความต้องการที่จะเอาชนะไปจนหมดสิ้นเมื่อการแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้น

ตู้ชิงหยูและกู้หวนอวี้เล่นเก่งมาก ฝีมือของพวกเขาสูสีกัน ทุกครั้งที่จะวางหมาก ทั้งคู่จะหยุดไตร่ตรองครุ่นคิดอยู่นาน

ถังหลี่มองดูทั้งสองคนอย่างตื่นเต้น ความกระหายอยากเอาชนะอยู่ในดวงตาของพวกเขา

นี่คงจะเป็นความตื่นเต้นที่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือสมน้ำสมเนื้อกัน

มู่เป่าแทบนั่งอยู่เฉยไม่ได้ เขาขยับก้นของตนเองไปมา เมื่อไทเฮาได้ทอดพระเนตรเห็นท่าทางนั้น พระนางจึงได้เอื้อมพระหัตถ์มาอุ้มเขา

ในทางกลับกัน ถังเป่ากลับเชิดคางขึ้น กระพริบดวงตาสีดำแวววาวของนางช้าๆ ด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง จนทำให้มารดาของนางอดข้องใจไม่ได้

บุตรสาวของนางเข้าใจเกมหมากกระดานที่ซับซ้อนเช่นนี้ด้วยหรือ?

ตู้ชิงหยูและกู้หวนอวี้แข่งขันกันตั้งแต่เช้าถึงบ่าย ในที่สุดกู้หวนอวี้ก็พ่ายแพ้ไปอย่างฉิวเฉียด ผู้อาวุโสจ้านถึงกับเสียดาย

อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น!

แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป

ตาเฒ่าฮั่นดูสิ ลูกศิษย์ของข้าฝีมือไม่ได้เป็นรองไปกว่าลูกศิษย์ของเจ้ามากนัก!

กู้หวนอวี้ไม่ได้ผิดหวังแต่อย่างใด เขามองสตรีที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าของบุรุษที่อยู่ตรงหน้า

นางสมกับเป็นศิษย์เอกของผู้อาวุโสฮั่นจริงๆ

เขาผายมือไปทางตู้ชิงหยูเอ่ยว่า

“แม่นางตู้ เจ้าชนะแล้ว”

ตู้ชิงหยูรู้สึกสนุกสนานมาก นางกับกู้หวนอวี้มีฝีมือทัดเทียมกัน หากได้แข่งขันกันในครั้งหน้าก็ไม่อาจรู้ว่าใครจะเป็นผู้แพ้ผู้ชนะกันแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในก่อนหน้า พวกเขาอาจคบกันเป็นสหายไปแล้ว

ช่างน่าเสียดายเสียนี่กระไร?

กู้หวนอวี้เป็นคนรักศักดิ์ศรีของตนเอง หากรู้ว่าเป็นนางที่กลั่นแกล้งเขา นางคงจะต้องโดนเขาทุบตีอย่างโหดร้ายเป็นแน่

ตู้ชิงหยูไม่กลัวว่าตัวเองจะสู้กู้หวนอวี้ไม่ได้ เพียงแต่กู้หวนอวี้เป็นพี่ชายของเสี่ยวถัง นางไม่อยากให้ถังหลี่ตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในฐานะคนกลาง

วิธีที่ดีที่สุดก็คือขออย่าให้กู้หวนอวี้จำนางได้เลย

“ข้ายอมรับ” นางกล่าวตอบรับอย่างสุภาพ

“เจ้าเคยไปดินแดนเป่ยหมานมาก่อนหรือไม่?” กู้หวนอวี้ถามตรงๆ

ตู้ชิงหยูใจเต้น แต่รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงความสุภาพเช่นเดิม

“ข้าไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนเลย” ว่าแล้วนางก็เอามือลูบท้องเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างฉับพลัน นางมองถังหลี่อย่างออดอ้อน

“เสี่ยวถัง ข้าหิว…”

“อาหารตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะ” ถังหลี่เชิญชวน ทั้งหมดจึงย้ายไปที่ห้องรับประทานอาหาร

ตู้ชิงหยูนั่งข้างถังหลี่ นางขอให้ท่านผู้เฒ่าจ้านนั่งคั่นกลางระหว่างนางและกู้หวนอวี้ ชายหนุ่มรู้สึกว่าตู้ชิงหยูทำตัวเหินห่างจากเขา ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร แต่เขาไม่ได้ใส่ใจ

ตู้ชิงหยูหิวมากจนลืมตัว นางเอาเนื้อยัดเข้าปากลืมท่าทางกุลสตรีไปจนหมด เมื่อเห็นกู้หวนอวี้จ้องมองตนเอง หญิงสาวชะงักตัวแข็ง

“แม่นางตู้ อยากได้สุราสักจอกหรือไม่?” กู้หวนอวี้ถาม

ตู้ชิงหยูได้สติ ยามที่นางอยู่เป่ยหมานนางมีนิสัยชอบดื่มสุราและกินเนื้อคำโต กู้หวนอวี้คิดจะลองใจนางหรือ?

ผู้หญิง ผู้หญิง ข้าเป็นสตรีที่รับการอบรมมาเป็นอย่างดี!

นางแย้มยิ้มอย่างสงวนท่าทีให้เขาเอ่ยว่า

“ข้าไม่ดื่มสุรา”

ว่าแล้วนางกลับสงบเสงี่ยม และเล็มอาหารช้าๆ ราวกับกุลสตรีในห้องหอ

ถังหลี่เหลือบมาเห็นอดแปลกใจไม่ได้

“เนื้อย่างไม่ถูกใจเจ้าหรือ?”

“เอ่อ…ข้าอิ่มแล้วนะ..” ชิงหยูตอบ

เพื่อที่จะทำตัวให้เป็นกุลสตรีนางจึงไม่กล้ากินเนื้อและดื่มสุรามากนัก ตู้ชิงหยูกินไม่อิ่มด้วยซ้ำ นางวางชามและตะเกียบลงอย่างเสียดาย

เมื่อเห็นกู้หวนอวี้ไม่ได้จับผิดนางแล้ว หญิงสาวจึงได้ลอบถอนหายใจ

หลังอาหารเย็นเมื่อทุกคนลุกออกจากโต๊ะ ตู้ชิงหยูคิดว่านางเอาตัวรอดได้แล้ว แต่กลับเหลือบไปเห็นตู้เสี่ยวไป๋กำลังเดินเข้ามาหา

หัวใจของตู้ชิงหยูเต้นกระหน่ำขึ้นมาอีกครั้ง นางแทบจะฝืนสีหน้าไม่อยู่ การที่กู้หวนอวี้สงสัยเสียงของนาง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ถ้านางมีน้องชายที่เสียงเหมือนหมอที่รักษาเขาด้วย คราวนี้กู้หวนอวี้คงคิดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ตัวตนของนางจะถูกเปิดเผยก็คราวนี้!

ตู้ชิงหยูรีบเดินไปหาน้องชายอย่างเร็วรี่ เมื่อตู้เสี่ยวไป๋เหลือบไปเห็นกู้หวนอวี้ เขาก็ตกตะลึง ทว่าพี่สาวของเขาก็รีบฉุดแขนเ พาเดินออกไปจากที่ตรงนั้นอย่างว่องไว

กู้หวนอวี้มองแผ่นหลังของสองพี่น้อง ดวงตาเขาหรี่ลง

“ถังถังเด็กคนนั้นคือ…”

“เขาคือเสี่ยวไป๋เป็นน้องชายของชิงหยู” ถังหลี่ตอบ

ความสงสัยที่หายไปของกู้หวนอวี้ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง

“ตู้เสี่ยวไป๋รู้วิชาแพทย์หรือไม่?”

“เขาเรียนวิชาแพทย์กับหมอซู เขาเก่งมากทีเดียว”

กู้หวนอวี้กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว

“เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้วพวกเขาสองพี่น้องเคยไปเป่ยหมานมาหรือไม่?”

“ครึ่งปีที่แล้วหรือ?” ถังหลี่ครุ่นคิด ด้วยก่อนหน้านี้การติดต่อระหว่างนางกับตู้ชิงหยูหายไปเกือบแปดเดือน นางจึงไม่รู้ว่าตู้ชิงหยูไปที่เป่ยหมานเมื่อครึ่งปีก่อนหน้าหรือเปล่า?

“พี่รอง เหตุใดท่านถึงได้ถามข้าเช่นนี้ พวกท่านเคยรู้จักกันมาก่อนหรือ?” ถังหลี่สงสัยท่าทางที่พี่รองมีต่อตู้ชิงหยูที่ดูซับซ้อนผิดปรกติอย่างยากจะอธิบายได้

“ข้าเคยบาดเจ็บสาหัสตอนที่อยู่เป่ยหมาน มีพี่สาวและน้องชายสกุลหยูได้ช่วยเหลือข้าเอาไว้ ตอนนั้นดวงตาข้ามองไม่เห็นจึงได้ยินแค่เสียง หญิงสาวที่ได้ช่วยเหลือข้ามีน้ำเสียงที่ไพเราะ..เหมือนแม่นางตู้มาก” เขาเล่าให้น้องสาวฟังอย่างไม่ปิดบัง

ถังหลี่ตะลึงไป หากเป็นเรื่องจริงก็ถือได้ว่าเป็นโชคชะตาที่พวกเขาได้บังเอิญพบกันที่แคว้นเป่ยหมาน

พี่รองของนางตามองไม่เห็นก็จริง แต่ชิงหยูเห็น นางน่าจะจำเขาได้ ถังหลี่สงสัยว่าพี่รองเล่าให้นางฟังไม่หมด

“หรือจะให้ข้าถามชิงหยู?”

กู้หวนอวี้นิ่งไปแต่แล้วก็ส่ายหน้า

“ไม่จำเป็น”

เขาอยากสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเขาเอง

ในเวลาเดียวกัน ตู้ชิงหยูที่ลากน้องชายออกไป เห็นสีหน้าที่ตกใจของตู้เสี่ยวไป๋

“พี่สาวเหตุใดพี่กู้ถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้?” ตู้เสี่ยวไป๋ถาม

พี่สาวของเขาตั้งฉายาให้ชายคนนั้น นางเรียกเขาว่า ‘สุดหล่อหน้าเย็น’ หรือเรียกสั้นๆว่า ‘สุดหล่อ’ ตู้เสี่ยวไป๋ก็เรียกเลยเรียกเขาว่า ‘พี่ชายสุดหล่อ’ เช่นกัน เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นพี่ชายสุดหล่อคนนี้อีกครั้ง

“เขาเป็นพี่รองของถังหลี่ เขาชื่อกู้หวนอวี้”

“เขาคือกู้หวนอวี้หรือ?”

ในสงครามระหว่างต้าโจวและคนเถื่อนทางเหนือ มีข่าวร่ำลือกันว่าแม่ทัพของต้าโจวหายตัวไป ทำให้ต้าโจวต้องถอยร่นออกไป ต่อเมื่อแม่ทัพกลับมาได้พวกเขาจึงตีพวกคนเถื่อนพ่ายไปจนต้องร้องหาบิดามารดากันเลยทีเดียว

พี่ชายสุดหล่อคือท่านแม่ทัพหรือ?

“เสี่ยวไป๋ หากเจอกู้หวนอวี้ เจ้าห้ามพูดอะไรเด็ดขาด” ตู้ชิงหยูกำชับ

ตู้เสี่ยวไป๋ฉลาด เขาเข้าใจได้ในทันที

“พี่สาว เขายังไม่รู้ว่าเราเป็นคนช่วยเหลือเขาเอาไว้หรือ?”

“อืม..” พี่สาวเขาตอบรับคลุมเครือ

พี่สาวเคยพูดเสมอว่า กระต่ายที่ดีจะไม่กินหญ้าที่ข้างรัง พี่ชายสุดหล่อคนนั้นคงเป็นหญ้าที่ข้างรังสินะ

“ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอกับเขาอีก เฮ้อ..ทั้งหน้าตาและกล้ามเนื้อที่บึกบึน..” ตู้ชิงหยูน้ำลายแทบไหลเมื่อนึกถึง แต่แล้วก็ต้องตบหัวตนเองอย่างแรง

อย่าให้ความงามมาหลอกล่อได้!

“จำไว้ให้ดีห้ามเจ้าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเขา!” ตู้เสี่ยวไป๋พยักหน้า

แต่เขาจะซ่อนไว้ได้หรือ?