บทที่ 782 ยอมรับโดยดุษณี
กู้หวนอวี้เหลียวไปมองตู้เสี่ยวไป๋ เด็กหนุ่มจำวาจากำชับของพี่สาวได้ เขาจึงปิดปากของตนแน่นสนิท
“อาจารย์ตู้ ข้าได้ยินจากพี่สาวท่านว่า ท่านมีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ดียิ่ง ข้ามีคำถามอยากจะถามท่านสักข้อ ก่อนหน้าข้าได้รับบาดเจ็บที่ท้องจนต้องผ่าตัด ตอนนี้ข้ามีอาการปวดท้องเป็นระยะๆ หมอที่รักษาข้าสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า ท่านหมอที่ผ่าตัดท้องข้าก่อนหน้า อาจจะลืมของบางอย่าง เช่น กรรไกรไว้ในท้องของข้าก็เป็นได้ …ท่านคิดว่าจะมีโอกาสเป็นเช่นนั้นได้หรือไม่?”
ตู้เสี่ยวไป๋เป็นคนเย็บแผลที่กระเพาะให้กู้หวนอวี้ เมื่อได้ยินว่ามีใครบางคนสงสัยในทักษะการรักษาของตน ก็เบิกตากว้างลืมคำตักเตือนของพี่สาวไปจนหมด เขาปฏิเสธออกมาทันที
“เป็นไปไม่ได้!”
เมื่อกู้หวนอวี้ได้ยินเสียงของเด็กหนุ่ม เขาย่อมจำได้ทันที
นั่นคือหมอตัวน้อยที่รักษาเขา
แม้กู้หวนอวี้จะประหลาดใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตู้ชิงหยูคือหญิงสาวคนนั้นนั่นเอง !
เขายิ้ม
“ข้าก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้เช่นกัน หมอตัวน้อยที่ดูแลในครั้งนั้นย่อมเป็นคนจิตใจดี รอบคอบ ไม่มีทางที่เขาจะทำเรื่องผิดพลาดเล็กๆน้อยเช่นนั้นได้ “
ตู้เสี่ยวไป๋รำพึงในใจ จบกัน! โดนจับได้แล้ว
“ท่านหมอ ในที่สุดข้าก็ได้พบท่าน ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้”
ว่าแล้วกู้หวนอวี้ก็โค้งคำนับอย่างซาบซึ้งใจ
ตู้เสี่ยวไป๋มองพี่ชายสุดหล่อที่ดูสง่างามและอ่อนโยนตรงหน้า เขาเป็นพี่รองของพี่ถังหลี่..คงไม่เป็นไรใช่หรือไม่?
พี่สาวของเขาทำเรื่องเลวร้ายมากเกินไป นางถึงได้ต้องการเก็บเป็นความลับ แต่นั่น…ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเขาเลยนี่!
“การช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บเป็นหน้าที่พึงกระทำของหมอ ท่านแม่ทัพกู้อย่าได้เกรงใจมากนัก” ตู้เสี่ยวไป๋ว่า
กู้หวนอวี้และตู้เสี่ยวไป๋สนทนากันอยู่ครู่หนึ่ง ตู้เสี่ยวไป๋ก็ใจลอยไปหาพี่สาว
เขาต้องรีบไปเตือนนาง
……..
เมื่อตู้ชิงหยูเห็นตู้เสี่ยวไป๋และกู้หวนอวี้เดินมาด้วยกัน นางสังหรณ์ใจขึ้นมาทันที
“แม่นางหยู หรือจะให้ข้าเรียกว่า แม่นางตู้ดี?” กู้หวนอวี้พูดกึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง
เขารู้แล้ว!
ตู้ชิงหยูตื่นตระหนก ตอนนี้นางถูกเปิดเผยตัวตนแล้ว ถ้าหากนางทุบหม้อยอมรับ กู้หวนอี้จะทนได้หรือ? เขาจะทุบตีนางหรือไม่? แต่ทักษะการต่อสู้ของนางก็ไม่เป็นรองใคร หากปะมือกันก็ไม่รู้ว่าใครจะแพ้ใครชนะกันแน่
นางยิ้มกล่าวตอบรับ
“ก็แค่ชื่อเท่านั้น อย่าได้สุภาพนัก”
“แม่นาง ข้าอยากแสดงความขอบคุณที่ได้ช่วยเหลือข้าเอาไว้” กู้หวนอวี้เดินเข้าไปใกล้ เขาสูงกว่าตู้ชิงหยูมาก เมื่อเขาก้มลงมอง ตู้ชิงหยูจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกดดัน ดวงตาที่จับจ้องมองราวกับเขาได้เห็นหญิงโคมเขียวที่ได้หยอกล้อตนเองในครั้งก่อน
แม้ตู้ชิงหยูจะแต่งกายเป็นบุรุษ และใบหน้าคมคายเกินกว่าหญิงสาวทั่วไป แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความงามที่กล้าหาญ เขาต้องยอมรับกับตนเองว่า นางเป็นสตรีที่มีรูปโฉมโดดเด่นไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
ทว่านางช่างหน้าไม่อายที่ทำกับเขาเช่นนั้น…พอคิดถึงแล้วกู้หวนอวี้ก็กัดฟันกรอด
ตู้ชิงหยูเห็นความโกรธออกมาจากดวงตาของเขา นางค่อยๆกระถดกายทำท่าถอยห่าง
กู้หวนอวี้ยื่นมือออกไปขวางสกัดนางเอาไว้
“แม่นางตู้ เรายังรำลึกถึงความหลังกันไม่จบเลย เจ้าจะรีบไปไหนหรือ?”
ตู้ชิงหยูหลบไปด้านข้าง พยายามหลีกเลี่ยงกู้หวนอวี้
“พวกเราไม่เคยมีความหลังร่วมกัน” กู้หวนอวี้ขวางทางนางเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“แทนที่จะรำลึกความหลัง เรามาเล่นหมากกันอีกสักกระดานเป็นอย่างไร?”
“ขอโทษที วันนี้ข้าไม่นึกอยากเล่น”
นางพยายามหลบหลีก หากเขากลับไม่ยอมปล่อย สุดท้ายแล้วก็อดที่จะลงไม้ลงมือกันปะทะกันไม่ได้
ตู้เสี่ยวไป๋รีบถอยออกห่าง เหลือพื้นที่ว่างตรงกลางไว้ให้พวกเขาปะฝีมือต่อสู้กัน
เจ้าออกกระบวนท่า ข้ารับ เจ้าปะมือ ข้าต้าน
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด พวกเขาต่างเป็นปรมาจารย์ในด้านการต่อสู้ ต่างฝ่ายต่างมีทักษะเก่งกาจเทียบเคียงกันได้ ไม่มีใครยอมลงให้กัน ต่อสู้กันจนฝุ่นตลบคลุ้งไปทั่ว ไม่รู้แพ้รู้ชนะกันเสียที
ตู้ชิงหยูอ่อนใจ นางไม่อยากพัวพันกับเขาอีก เมื่อกู้หวนอวี้กำลังจะฟาดฝ่ามือมาที่นาง ตู้ชิงหยูจงใจไม่หลบ กู้หวนอวี้เล็งฝ่ามือไปที่หัวใจของตู้ชิงหยู ใกล้จนเขาแทบจะฟาดมือลงไปได้ …สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไป เขาชะงักมือเอาไว้ได้ทัน ในตอนนั้นเองตู้ชิงหยูจึงได้โอกาส นางหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ร่างของนางหายไปจากสายตาของเขาราวกับลมพัด แม้กู้หวนอวี้อยากตามก็ไม่อาจตามได้ทัน
กู้หวนอวี้เลือกที่จะไม่ติดตามนาง ตอนนี้เขารู้ตัวตนของนางแล้ว จึงไม่กังวลที่จะตามจับนางอีก
ตู้เสี่ยวไป๋ที่มองอยู่ข้างๆ ถึงกับอึ้งตกตะลึงไป พี่สาวของเขามีทักษะการต่อสู้ที่เก่งกาจยากจะหาผู้ใดเทียบได้ พี่กู้ช่างเก่งกาจมากจริงๆ
ตู้เสี่ยวไป๋ยกนิ้วให้เขา กู้หวนอวี้ส่งยิ้มที่อบอุ่นให้
ถังหลี่ได้ยินเรื่องราวการต่อสู้ของพวกเขาก็รู้สึกแปลกใจ
ตู้ชิงหยูไม่ได้ช่วยชีวิตพี่รองของนางเอาไว้หรือ? แล้วเหตุใดพวกเขาถึงได้ต่อสู้กันด้วย
ตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่า พี่ชายของนางปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้จริงๆ
เมื่อกู้หวนอี้กลับไปยังจวนสกุลกู้ เขาตกอยู่ในภวังค์ ในที่สุดเขาก็เดินมายังลานซงเถาที่จางจ้าวหมิงพำนักอยู่ แม้ว่าจางจ้าวหมิงกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักกับตู้เยี่ยน แต่เขาก็ยังให้ความสนใจกับแม่ทัพของตน เขาเห็นความผิดปกติของกู้หวนอวี้ทันที
“ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นอะไรหรือ?” จางจ้าวหมิงไต่ถาม
กู้หวนอวี้มีอารมณ์ซับซ้อนจนไม่อาจเอ่ยออกมาได้ เขาโกรธตู้ชิงหยูมากจนคิดว่าถ้าเขาหายดี เขาจะไม่ปล่อยนางไปอย่างแน่นอน แต่เมื่อเขาหาย และตามองเห็นดีอีกครั้ง นางกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ในที่สุดเขาก็ได้พบหญิงสาวผู้ลึกลับคนนั้น พวกเขาทะเลาะกัน ต่อสู้กัน แต่เขายังไม่สบายใจมากอยู่ดี เสียงในใจของเขายังคงตะโกนก้อง
เขาจะระบายความโกรธออกมาอย่างไรดี? หรือจะต้องต่อสู้ให้รู้แพ้ชนะกันไป ?
แต่ตู้ชิงหยูเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาไม่อาจทุบตีผู้หญิงได้ แล้วเขาควรจะทำอย่างไรดี?
กู้หวนอวี้กังวล เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ให้จางจ้าวหมิงฟัง เขาพูดถึงเหตุการณ์เป่ยหมานแต่จงใจเว้นเรื่องที่ตู้ชิงหยูทำกับตนเองเอาไว้
“ท่านอยากรู้ว่าควรจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไรหรือ?” จางจ้าวหมิงถาม
กู้หวนอวี้พยักหน้ารับ
“ข้าคิดว่าท่านควรทำกับนางเช่นเดียวกับที่นางทำกับท่าน”
จางจ้าวหมิงให้คำแนะนำ กู้หวนอวี้คิดถึงยามที่ตู้ชิงหยูสัมผัสที่หน้าอกและกล้ามเนื้อที่หน้าท้องของตน หากเขาทำที่หลังของนางเช่นนั้นบ้าง…
ใบหน้าและร่างกายของเขาเห่อร้อนวูบวาบขึ้นมาทันใด
จางจ้าวหมิงแปลกใจ เขาแนะวิธีแก้แค้นให้ท่านแม่ทัพแต่ไฉนท่านแม่ทัพกลับหน้าแดงขึ้นมาได้เล่า?
“ข้าจะลองคิดดู!” กู้หวนอวี้ทิ้งท้ายแล้วรีบเดินหนีไป
ชายหนุ่มนั่งคิดนอนคิดอยู่ทั้งคืนแต่ก็ยังไม่สามารถหาวิธีโต้ตอบได้ วันรุ่งขึ้นเขาคิดจะไปตามจับนางที่จวนสกุลอู่เหมือนเช่นเดิม
เขาคิดว่าตู้ชิงหยูอาจจะหลบหนีไปได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่นางไหลลื่นมาก เขามาที่จวนสกุลอู่หลายครั้งก็ยังไม่อาจจับนางได้แม้แต่ครั้งเดียว
ในที่สุดถังหลี่ก็รู้ว่าพี่รองของนางมาจวนสกุลอู่แทบทุกวันเพื่อมาหาตู้ชิงหยู
ตอนเย็นหลังจากที่เว่ยฉิงกลับมา ถังหลี่ก็อดที่จะเล่าให้เขาฟังไม่ได้
“สามี ท่านพูดถูกแล้วที่ว่าตู้ชิงหยูกับพี่รองของข้าน่าจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี”
เว่ยฉิงดีใจที่ได้ยิน เขาคิดว่าตนเองควรให้กำลังใจพี่รองของถังหลี่ให้มาก แนะนำกลอุบายให้เขาเพื่อที่จะทำให้เขาเกี้ยวตู้ชิงหยูได้จนสำเร็จ
ผู้หญิงคนนั้นจะได้ไม่มาเกาะติดรบกวนเวลาของเขากับภรรยา!