บทที่ 783 การคุกคามของกู้หวนอวี้

“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ว่า ท่านจิ่วถิงได้รับเชิญไปบรรยายที่สำนักศึกษาหลวง ว่ากันว่าได้ส่งเทียบเชิญให้เขาหลายครั้งแล้ว”

“ครั้งนี้เขาตอบรับเชิญแค่ครั้งเดียว ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยาก”

เด็กนักเรียนที่สำนักศึกษาหลวงต่างพากันตื่นเต้นดีใจมาก ท่านจิ่วถิงถือได้ว่าเป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคเทียบเท่ากับท่านขงจื้อเลยทีเดียว

“การได้เข้าฟังในชั้นเรียนของท่านจิ่วถิงถือได้ว่าเป็นประโยชน์มาก”

ท่านจิ่วถิงหรือที่รู้จักกันดีในนามของตู้ชิงหยูจะไปบรรยายในสำนักศึกษาหลวงเร็วๆนี้ ข่าวนี้แพร่กระจายไปในหมู่ของบัณฑิตอย่างรวดเร็ว กู้หวนอวี้ที่ให้ความสนใจการเคลื่อนไหวของตู้ชิงหยูย่อมไม่พลาดข่าวนี้เช่นกัน เขายกยิ้มที่มุมปาก ที่ผ่านมา เขาไม่อาจจับนางได้ แต่ครั้งนี้โอกาสมาถึงแล้ว เขาจะไปที่ชั้นเรียนเพื่อหานาง แน่นอนว่าเขาต้องได้เจอนางอย่างแน่นอน

ภายในชั่วพริบตา วันบรรยายก็มาถึง กู้หวนอวี้ซึ่งมีตำแหน่งและชื่อเสียงเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ย่อมเข้าไปที่สำนักศึกษาหลวงได้อย่างง่ายดาย เจ้าหน้าที่ของสำนักศึกษาหลวงเชิญเขาเข้าไปในโถงบรรยายและจัดที่นั่งที่ดีที่สุดให้เขา

แม้ว่าจะยังเช้าอยู่ แต่ที่นั่งในห้องบรรยายกลับคราคร่ำไปด้วยบัณฑิต เก้าอี้เกือบเต็มแล้ว ผู้คนยังทยอยมาไม่เลิก ผู้ที่มาภายหลังจึงได้แต่ยืนฟังเท่านั้น และแม้ว่าโถงบรรยายจะเต็มแล้ว ก็ยังมีผู้ที่ยืนรออยู่ด้านนอกไม่น้อย แสดงให้เห็นถึงความนิยมชื่นชมในตัวของท่านจิ่วถิงเป็นอันมาก

กู้หวนอวี้สับสน เป็นการยากที่จะเชื่อมโยงระหว่างท่านจิ่วถิงที่น่านับถือกับหญิงสาวผู้นั้นที่เย้าหยอกเขาในที่รโหฐาน

ไม่นานนักผู้คนต่างหันไปมองเป็นตาเดียวกัน หญิงสาวผู้หนึ่งดูเป็นอิสระท่าทางเรียบง่าย แต่งกายด้วยชุดบุรุษ เดินเข้ามาในโถงบรรยาย นางขึ้นมายังแท่นที่ยกสูง

นางมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหลังจากกวาดสายตามองบัณฑิตรุ่นเยาว์ภายในห้อง ต่อเมื่อเห็นกู้หวนอวี้ นางจึงชะงักค้างชั่วครู่จากนั้นจึงได้เบนสายตาไปยังที่อื่น แม้ตู้ชิงหยูจะอายุน้อย แต่นางมีความรู้มาก ถ้าเทียบกับบัณฑิตที่เอาแต่คร่ำเคร่งในตำราแล้ว ตู้ชิงหยูย่อมเหนือกว่ามากนัก นางมีความรู้ในเรื่องขนบธรรมเนียมและประเพณีจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งยังเข้าใจในตำนานที่หลากหลายมากมาย

คำบรรยายของนางไม่ได้เคร่งเครียดและดูน่าเบื่อแต่อย่างใด นางเล่าถึงสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย เพื่อที่จะปลูกฝังความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาของตนให้ทุกคนรับรู้ เปิดกว้างและยอมรับ

นักเรียนทั้งหลายตั้งใจฟังและมองตู้ชิงหยูอย่างเปี่ยมไปด้วยศรัทธา

ดวงตาของกู้หวนอวี้จ้องมองสตรีผู้นั้น เขาสัมผัสได้ถึงประกายแวววาวที่เจิดจ้า นางเป็นอิสระและไม่ยึดติดต่อสิ่งใด ราวกับปลาที่อยู่ในน้ำหรือนกที่บินอยู่ในท้องนภา

เขารู้ดีว่านางเป็นคนมีชีวิตชีวา มีความรอบรู้และมีความสามารถมากเพียงใด

ความรู้สึกและอารมณ์ที่แปลกประหลาดยากที่จะอธิบายได้บังเกิดขึ้นภายในใจของกู้หวนอวี้

บางอย่างที่นุ่มนวลอ่อนหวานได้ผุดขึ้นมา เขาเองก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร?

กู้หวนอวี้อดคิดถึงวันเวลาเหล่านั้นที่เป่ยหมานไม่ได้ นักเรียนและบัณฑิตเหล่านี้ล้วนเคยเห็นแค่ด้านเก่งกาจสามารถรอบรู้ของนาง แต่เขาเป็นคนเดียวที่ได้เห็นด้านที่ดุร้ายเกเรของสตรีผู้นั้น

มีความสุขซุกซ่อนอยู่ในใจของเขา

ชั้นเรียนของตู้ชิงหยูใช้เวลาพอสมควร ทว่าผู้ที่นั่งฟังบรรยายกลับรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงท้ายของชั้นเรียน ตู้ชิงหยูได้แสดงความลื่นไหลของตนเองและหลุดออกจากชั้นเรียนไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อนางได้หนีไปจนถึงที่เปลี่ยวร้างแห่งหนึ่งกลับถูกใครบางคนขวางทางเอาไว้

ตู้ชิงหยูมองชายตรงหน้า นางไม่อาจรักษาท่าทางที่ห้าวหาญน่าเกรงขามของตนเหมือนยามที่อยู่ในชั้นบรรยายเอาไว้ได้ นางก้มหน้าลงอย่างขมขื่นใจ

“ท่านแม่ทัพกู้ ท่านไล่ล่าข้ามานานแล้ว ท่านต้องการอะไรกับแน่ ข้ายอมรับผิดแล้ว ข้าขอโทษ ท่านช่วยหยุดไล่ล่าข้าได้หรือไม่?”

กู้หวนอวี้รู้สึกยินดีไม่น้อยเมื่อเห็นท่าทางยอมก้มหัวลงให้ของตู้ชิงหยูเช่นนั้น

“เจ้ามองข้า แอบสัมผัสข้าเช่นนั้น จะมีให้แค่คำขอโทษเท่านั้นหรือ?” กู้หวนอวี้พยายามระงับรอยยิ้ม ถามนางด้วยท่าทางเย็นชา

ตู้ชิงหยูมองผู้ชายที่สูงกว่านางมากนัก นางถอยหลังไปหนึ่งก้าว หยุดอ้อนวอน เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้ว

“แล้วท่านต้องการอะไรหรือ? อยากจะให้ข้ารับผิดชอบท่านหรืออย่างไร มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!”

กู้หวนอวี้เม้มปากแน่น เขาโกรธมาก เขารู้ว่าตนเองเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มีสาวๆ มากมายในเมืองหลวงหลายคนปรารถนาที่จะแต่งงานกับเขา แต่คนที่อยู่ตรงหน้ากลับหลีกเลี่ยงราวกับว่าเขาเป็นงูหรือแมลงป่อง

“ท่านจิ่วถิงคิดมากเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้อยากให้เจ้ามารับผิดชอบข้า”

“แล้วท่านต้องการอะไร?” ตู้ชิงหยูถามไม่อ้อมค้อม

“พวกเราถูกลิขิตให้มาพบกันที่เป่ยหมาน ข้าแค่อยากเป็นเพื่อนกับเจ้า แข่งหมากกระดานกันบ้างสักสองสามตาก็เท่านั้น” น้ำเสียงเขาแผ่วเบา

ผู้ชายตรงหน้านางท่าทางนุ่มนวลดูอ่อนโยน สง่างาม ไม่ก้าวร้าว

หากทว่าสัมผัสที่หกของตู้ชิงหยูกลับบอกตนเองว่าเขาเป็นอันตราย

“ข้ายุ่งมาก ไม่มีเวลาจะเล่นหมากกับท่านหรอก” นางบอกปัดทันที

“แม่นางตู้ เมื่อเร็วๆนี้ดูเหมือนว่า…น้องสาวของข้าจะสนใจเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้ากับข้าที่เป่ยหมานมาก หรือว่าข้าควรจะเล่าให้นางฟังว่าเกิดอะไรขึ้นที่เป่ยหมาน เหตุใดเจ้าถึงได้เอาแต่วิ่งหนีข้า?” กู้หวนอวี้หรี่ตาลง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ

ตู้ชิงหยูเบิกตากว้าง นี่! เขาข่มขู่นางหรือ?

หากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ช่างเป็นสถานการณ์ที่น่าอับอายยิ่งนัก นางล้อเลียนกู้หวนอวี้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีสำหรับชายหนุ่มที่รักศักดิ์ศรีเช่นเขา

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดกู้หวนอวี้ ก็ได้รู้ถึงจุดอ่อนของตู้ชิงหยู ซึ่งก็คือถังหลี่นั่นเอง นางไม่อยากให้ถังหลี่ได้รู้เรื่องไร้สาระที่นางได้ทำลงไป นั่นอาจจะส่งถึงภาพลักษณ์ของนางในสายตาของเสี่ยวถัง

ตู้ชิงหยูเปลี่ยนสีหน้าในทันที

“แม้ว่าข้าจะยุ่งมาก แต่ก็ยังหาเวลาเล่นหมากกับท่านได้” ความกดดันของกู้หวนอวี้ลดลง ท่าทีเขาอ่อนโยนเช่นเดิมอีกครั้ง

“ข้าจะไปหาเจ้าที่จวนสกุลอู่เพื่อเล่นหมากกับท่าน”

“ข้าจะรอ”ตู้ชิงหยูยิ้มรับ

กู้หวนอวี้กล่าวคำอำลาอย่างอ่อนโยน ราวกับคนที่มีทีท่าคุกคามเมื่อครู่ไม่ใช่ตัวเขาเลย

เมื่อชายหนุ่มจากไป ใบหน้าของตู้ชิงหยูหมองลง นางโผไปมาอิสระราวกับสายลม พอมีคนมาบงการเช่นนี้ทำให้รู้สึกเหมือนโดนบังคับ

ใครใช้ให้นางควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ซ้ำยังกลั่นแกล้งผู้คนอย่างโหดร้ายเช่นนั้น แกล้งใครไม่แกล้งดันไปแกล้งพี่รองของถังหลี่เข้า!

ตู้ชิงหยูกลับไปจวนสกุลอู่อย่างหมดปัญญา เพื่อบรรเทาอาการเจ็บที่หัวใจ นางได้แต่ร้องขอให้ถังหลี่ทำขนมอบให้นางกิน ขนมอบที่ถังหลี่ทำอร่อยและหวานหอม นางใช้ขนมอบบรรเทาโทสะที่มีต่อกู้หวนอวี้ ในที่สุดอารมณ์ของตู้ชิงหยูก็ดีขึ้นมาก

วันรุ่งขึ้นกู้หวนอวี้มาที่จวนสกุลอู่แต่เช้า เขาวางกระดานหมากลงรอตู้ชิงหยูมาเล่นด้วยกัน

ตู้ชิงหยูยังไม่มา ทว่านายท่านสามกลับเดินมาเมียงมองกู้หวนอวี้อย่างพิจารณา

“หวนอวี้ เหตุใดวันนี้ข้ารู้สึกว่าเจ้าดูแปลกออกไปนะ”

เขามองขึ้นลงอยู่นาน จากนั้นก็ร้องออกมาว่า

“อ่ะฮ่า! ข้ารู้แล้ว” กู้หวนอวี้ใส่ชุดใหม่เอี่ยม ผมของเขาเกล้าเรียบร้อยด้วยกวานหยก ทั้งเสื้อผ้าและของประดับตกแต่งทำให้เขาดูหล่อเหลามากขึ้นอีกโข ใครๆ ก็รู้ดีว่าเขามาเล่นหมาก หากคนไม่รู้คงคิดว่าเขามีนัดกับสตรีเป็นแน่ นายท่านสามเองก็คิดแล้วพูดออกมาเช่นนั้น เมื่อเขาพูดจบตู้ชิงหยูก็เดินเข้ามาพอดี กู้หวนอวี้ชะงักกึก

มาพบคนรัก?

ผู้หญิงอย่างตู้ชิงหยูจะเป็นคนรักของเขาได้อย่างไร เขาสามารถที่จะแต่งงานกับใครก็ได้แต่ไม่ใช่ตู้ชิงหยูอย่างแน่นอน!

ตอนที่เขาสวมเสื้อผ้าใหม่ เขาคิดถึงท่าทีหวาดกลัวของนาง นางกลัวว่าจะต้องรับผิดชอบเขา

เขาไม่อยากให้ตู้ชิงหยูดูถูกตนเอง เขาจึงต้องดูแลแต่งกายให้หล่อเหลา!