บทที่ 784 ศัตรูหัวใจ
ตู้ชิงหยูเดินไปหากู้หวนอวี้ นางฝืนส่งยิ้มให้
แม้ว่าตู้ชิงหยูจะไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งงาน มีลูก ดูแลสามี นั่นไม่ใช่สิ่งที่นางปรารถนาเลย นางโหยหาชีวิตที่อิสระ ไร้ขนบธรรมเนียม ก็ไม่ได้หมายความว่า นางจะหยุดชื่นชมความงาม เมื่อเห็นผู้ชายหน้าตาดีเข้าเมื่อใด ก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อและแกล้งเขา
กู้หวนอวี้เป็นชายหนุ่มที่มองแล้วเพลิดเพลินให้ความสุนทรีย์ทางอารมณ์เป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาหล่อเหลา มีเหลี่ยมมุมชัดเจน ดวงตาดำเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง รูปร่างก็ช่างยอดเยี่ยม ไหล่กว้าง เอวสอบ ใส่ชุดขาวดูงามสง่า ยิ่งพอถอดชุดเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่้เรียบลื่น…
แค่คิดตู้ชิงหยูก็คันไม้คันมือแล้ว
กู้หวนอวี้รู้สึกขนลุก ไม่สบายใจ ทว่าเขายังวางท่าใบหน้ายังคงนิ่งสงบ
“แม่นางตู้เรามาเริ่มแข่งกันเถอะ” กู้หวนอวี้พูดราวกับว่าเขาต้องการแข่งหมากกับนางจริงๆ อย่างไรอย่างนั้น
ตู้ชิงหยูไม่เกรงใจ นางคีบตัวหมากไว้ระหว่างนิ้วที่เรียวยาว จากนั้นจึงวางลงบนกระดาน กู้หวนอวี้รู้ดีว่าคู่แข่งเขาเก่งกาจมากเพียงใด เขาจึงไตร่ตรองทุกครั้งก่อนที่จะวางหมากลง
นายท่านสามคอยรินชาให้พวกเขาทั้งสองคนอยู่ข้างๆ ทำหน้าที่เป็นผู้ดูอย่างเงียบๆ แม้ว่าบางครั้ง กระดานหมากจะเปลี่ยนไปจนเขาวิตกกังวลไปบ้างก็ตาม
ทั้งคู่เล่นหมากตานี้ตั้งแต่เช้าจรดบ่ายโดยไม่มีใครรู้สึกหิวเลย ในที่สุดพอถึงช่วงเย็นกู้หวนอวี้ก็เอาชนะหมากตานี้ไปได้อย่างฉิวเฉียด
ตู้ชิงหยูอารมณ์ไม่ดีนักที่กลายเป็นผู้แพ้ แต่นางก็ยืดตัวขึ้นทำท่าจะจากไป กู้หวนอวี้เห็นเช่นนั้นก็นึกไม่พอใจที่เห็นนางไม่ลังเลหรือแม้แต่จะรีรอที่จะอยู่ต่อ
“แม่นางตู้ จะไม่อยู่สนทนากับข้าต่อสักครู่หรือ?” ตู้ชิงหยูสบตามองเขา
“กู้หวนอวี้ พวกเราตกลงจะเล่นหมากกันเท่านั้น ไม่ได้รวมไปถึงการสนทนาแต่อย่างใด ท่านอย่าได้เกาะติดข้าจนเหนียวหนืดเช่นนี้”
กู้หวนอวี้ได้ยินวาจาของนางเข้า เขาถึงกับตัวแข็งไปเดี๋ยวนั้น
อะไรนะ!
เกาะติด! เหนียวหนืด! มีคนพูดประโยคนี้ใส่เขา
ในสนามรบเขาเป็นแม่ทัพผู้เหี้ยมโหด เมื่อดาบของเขาได้ถูกชักออกมา แน่นอนว่ามันจะต้องชโลมไปด้วยเลือด
ในเมืองหลวงเขาเป็นหนุ่มรูปงาม ในสายตาของหญิงสาวเขาเป็นดอกไม้บานอยู่บนยอดเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดใส่หน้าเขาว่า ‘เกาะติดจนเหนียวหนืด’
ใบหน้าของกู้หวนอวี้แม้จะเรียบเฉย แต่โคนหูเขากลับแดงขึ้นมาอย่างเงียบๆ เขาถึงกับพูดไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่
หลังจากหญิงผู้นั้นจากไป กู้หวนอวี้ยังคงนั่งตัวตรงราวกับรูปปั้นอยู่เช่นนั้น
นายท่านสามตบไหล่เขา
“หวนอวี้ ชิงหยูพูดถูกแล้ว เจ้าต้องผ่อนคลายยามไล่เกี้ยวสตรีบ้าง ไม่เช่นนั้น นางจะรำคาญเจ้าได้”
“ท่านมีประสบการณ์มากหรือ?” กู้หวนอวี้ชำเลืองมองเอ่ยถาม
นายท่านสามตอบเขาว่า
“ข้าอายุปูนนี้แล้ว ข้าย่อมกินเกลือมากกว่าเจ้าที่กินข้าวอย่างแน่นอน”
“แล้วเหตุใดท่านถึงไม่ได้แต่งภรรยาเสียทีล่ะ ประสบการณ์ของท่านผิดพลาดไปหรือไม่?” กู้หวนอวี้ส่งยิ้มให้อย่างนุ่มนวล แต่คำพูดกลับตรงเข้าเป้า นายท่านสามเอามือปิดที่หัวใจ รีบวิ่งหนีไปทันที
กู้หวนอวี้มองตามแผ่นหลังของนายท่านสาม จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ไม่! เขาไม่ได้ตามเกี้ยวนาง เขาแค่อยากทำให้นางโกรธบ้างเท่านั้น!
ไม่กี่วันต่อมา กู้หวนอวี้ก็ยังมาเล่นหมากรุกกับตู่ชิงหยูที่จวนสกุลอู่เกือบทุกวัน แม้กระทั่งถังหลี่ยังแทบไม่ได้เห็นหน้าตู้ชิงหยูเลยด้วยซ้ำ ต่างกับก่อนหน้าที่นางเกาะติดถังหลี่ตลอดวัน
เว่ยฉิงพอใจมาก แต่เดิมเขาคิดว่าจะต้องสอนเคล็ดลับให้พี่รองของภรรยาเพื่อให้เขาจับตู้ชิงหยูให้เร็วขึ้น และให้ดีที่สุดก็ควรจะให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันทุกวันจนแก่เฒ่าไปด้วยกันเลยยิ่งดี
เมื่อถังหลี่กลับจวนแม่ทัพ ฮูหยินกู้ได้ถามนางถึงเรื่องนี้
“มีอะไรเกิดขึ้นกับหวนอวี้หรือ? เหตุใดเขาถึงได้วิ่งไปจวนสกุลอู่เกือบทุกวันเล่า?” น้ำเสียงของฮูหยินกู้เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เขาไปเล่นหมากกระดานเจ้าค่ะ”
“เล่นกับนายท่านสามหรือ? ไม่ใช่ว่านายท่านสามจะเคยมาที่จวนสกุลกู้หรอกหรือ?” ฮูหยินกู้อดรู้สึกไม่ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“เขาไปเล่นหมากรุกกับชิงหยูเจ้าค่ะท่านแม่”
“จริงหรือ?” ฮูหยินกู้เสียงดังขึ้น นางมีความประทับใจในตัวตู้ชิงหยูหรือท่านจิ่วถิงผู้นี้มาก นางเป็นคนมีชื่อเสียงซ้ำยังเป็นเพื่อนของบุตรสาวอีกด้วย
น่าแปลกที่หวนอวี้ไปที่จวนอู่ทุกวันเพื่อเล่นหมากกับนาง หรือว่าจะมีเรื่องน่าตื่นเต้น ยินดีเกิดขึ้น…
“เสี่ยวหลี่…พี่รองของเจ้ากับคนผู้นี้…” ฮูหยินกู้ลากเสียง
“พี่รองของข้าอาจถูกล่อลวงเข้าให้แล้ว”
ฮูหยินกู้ประหลาดใจจนพูดไม่ออก
“ต้นไม้เหล็กกำลังออกดอก แม่สุกรกำลังปีนต้นไม้ พี่รองของเจ้า..ถูกล่อลวงเข้าให้แล้ว”
ถังหลี่คิดเช่นเดียวกับมารดา พี่ชายของนาง ดูภายนอกเป็นคนอ่อนโยน สุภาพ แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นคนใจแข็ง นางเคยคิดว่าเขาเป็นคนที่ยากจะแสดงออกถึงความรักต่อผู้อื่น แต่กลับกลายเป็นว่าแท้จริงแล้วเขาไม่เคยเจอคนที่ ‘ใช่’ ต่างหาก
แต่ดูเหมือนตู้ชิงหยูจะไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
หนทางไล่ล่าภรรยาของพี่ชายนางคงอีกยาวไกล
…….
วันนี้กู้หวนอวี้และตู้ชิงหยูเลือกที่จะย้ายการเล่นหมากไปที่หอหวางเจียง
‘หอหวางเจียง’ เป็นหอสูงสร้างขึ้นริมแม่น้ำสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยว และบ้านเรือนที่เรียงรายอยู่ในเมืองหลวง เป็นสถานที่สะดวกสบายสำหรับจิบชาร้อนหอมกรุ่นและเพลิดเพลินกับการเล่นหมากกับสหายรู้ใจ
กู้หวนอวี้เป็นคนแนะนำให้เปลี่ยนสถานที่ ตอนแรกตู้ชิงหยูไม่ค่อยยินดีเท่าไรนัก แต่เมื่อมาถึง ได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม และสัมผัสได้ถึงลมของแม่น้ำที่ได้พัดผ่านมากระทบผิวกาย ทำให้นางพอใจมาก
นางอารมณ์ดีจนอดสนทนากับกู้หวนอวี้สักสามคำไม่ได้
“ประมาณหนึ่งปี”
“คนเป่ยหนานดุร้าย ซ้ำยังเป็นศัตรูกับต้าโจว พวกเขาอันตรายมาก เหตุใดเจ้าจึงอยู่ร่วมกับพวกเขาได้ล่ะ?”กู้หวนอวี้สงสัย
ยิ่งไปกว่านั้น ชาวเป่ยหมานเกลียดชังชาวต้าโจวมาก จนพวกเขาล่าเอาหัวของคนต้าโจวแลกกับวัวและแกะด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่น้องแซ่ตู้สองคนจะกล้าเข้าไปในแคว้นเป่ยหมานอย่างไม่ได้กลัวเกรงเอาเสียเลย
ในตอนนั้นถ้ากู้หวนอวี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสองพี่น้อง เขาคงตายด้วยน้ำมือของพวกเป่ยหมานไปแล้ว
“น่าตื่นเต้นจะตายไป” ตู้ชิงหยูพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส กู้หวนอวี้ขมวดคิ้ว
ปลาที่อยู่ตรงหน้าเขารักอิสระและไหลลื่นจนยากที่เขาจะจับได้ทัน
“แน่นอนว่าข้าไม่ยินดีที่จะแสวงหาความตาย” ดวงตาของนางฉายแววเจ้าเล่ห์
“ก่อนที่ข้าจะเข้าไปในเป่ยหมานข้าย่อมรู้มาก่อนแล้วว่า ชาวเป่ยหมานเกลียดและสังหารชาวต้าโจว แต่ไม่ใช่หมอ สถานะของหมอในแคว้นเป่ยหมานถือได้ว่าเป็นสถานะที่สูงส่งมาก”
กู้หวนอวี้โล่งอก นางได้เตรียมตัวเป็นอย่างดีและทำทุกอย่างด้วยความมั่นใจ
“หวนอวี้” จู่ๆ นางก็เรียกชื่อเขา โคนหูของกู้หวนอวี้แดงขึ้น
“ท่านก็เห็นแล้วว่าข้ากับเสี่ยวไป๋ได้ช่วยชีวิตท่าน ทั้งเสี่ยวหลี่กับข้าก็นับถือเป็นพี่น้องกัน เหตุใดพวกเราไม่แกล้งทำเป็นลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในแคว้นเป่ยหมานไปเสียล่ะ?” ตู้ชิงหยูว่าแล้วก็มองเขาอย่างจนปัญญา
กู้หวนอวี้เม้มปากตัวเองแน่น
เรื่องที่นางแทะโลมเขาเช่นนั้น นางลืมไปแล้วหรือ?
เขาไม่มีความสุข อารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าต้องการอะไรกันแน่ เขาไม่เข้าใจความรู้สึกเช่นนี้เลย…
ตู้ชิงหยูยื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างกะทันหัน ใบหน้าที่งดงามและกล้าหาญของนางเข้ามาใกล้เขาจนเห็นผิวที่ขาวนวลและไรขนอ่อนบนใบหน้า
หัวใจของกู้หวนอวี้ผิดปกติไป มันเต้นเร็วราวกับจะทะลุหน้าอกออกมา
ทันใดนั้นเองมีเสียงดังเกิดขึ้น ทำให้เขากลับมาได้สติอีกครั้ง กู้หวนอวี้หันไปมองเห็นประตูห้องเปิดออก มีชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปียืนอยู่ที่หน้าประตู กู้หวนอวี้สับสน เขาไม่คุ้นหน้าคนผู้เลย เขาเป็นใคร? เหตุใดถึงได้มาที่นี่ ชายหนุ่มไม่ได้สังเกตท่าทางของตู้ชิงหยูที่ดูผิดแผกไป
ตอนแรกนางประหลาดใจก่อนที่จะรู้สึกผิด หญิงสาวลุกขึ้นยืนอยากจะกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง..
ชายหนุ่มคนนั้นวิ่งเข้าไปทำท่าจะกอดเอวหากตู้ชิงหยูเบนหลบ
“แม่นาง! ในที่สุดข้าก็ได้เจอเจ้าแล้ว เจ้าคิดถึงข้าบ้างหรือไม่?”