บทที่ 785 ลูกหมาตัวน้อยไล่ตาม
ชายผู้นั้นจับแขนของตู้ชิงหยูไว้แน่นพลางเอ่ยปากถาม
กู้หวนอวี้ได้รู้ตัวตนของเขาจากคำพูดที่เขาพร่ำเพ้อออกมา ชายคนนี้แซ่เกามาจากเมืองเหลียงโจวที่อยู่ไกลออกไปนับพันลี้ เขาไล่ตามนางมาจนถึงเมืองหลวง กลายเป็นว่าหลังจากที่ตู้ชิงหยูออกจากเป่ยหมานแล้ว นางได้ไปพำนักอยู่ที่เมืองเหลียงโจวจนได้เข้าไปพัวพันกับผู้ชายแซ่เกาเข้าโดยบังเอิญ
ชายหนุ่มยังถือโอกาสจับมือตู้ชิงหยูไว้แน่น แววตาเปล่งประกายไปด้วยความสุขและความชื่นชมจนล้นเอ่อ เขาต่อว่าที่นางจากเขาไปโดยไม่ได้ร่ำลา เขาคิดถึงนางและตามไล่ล่าหานางอย่างบ้าคลั่ง
“แม่นางหยู ไม่ว่าจะยากลำบากสักเพียงใด ในที่สุดข้าก็ตามหาเจ้าจนพบ” เขากะพริบดวงตาราวกับลูกสุนัขตัวโตมองตู้ชิงหยู
“ครั้งนี้เจ้าห้ามทิ้งข้าอีก!”
กู้หวนอวี้มองดูอยู่ด้านข้าง เส้นเลือดสีน้ำเงินที่หน้าผากปูดออกมา เขาลุกขึ้นยืน หากตอนนี้ได้มีใครมองเห็นกู้หวนอวี้เข้าคงอดตกตะลึงไปเสียไม่ได้ ความอ่อนโยนที่เคยมีของเขาได้หายไปจนหมด ดวงตาเขามีแต่โทสะฉายอยู่เต็ม เขาเดินเข้าไปหาคนผู้นั้น
ชายแซ่เกาเหลือบมาเห็น เขาตกใจท่าทางของกู้หวนอวี้ไม่น้อย ต่อมาจึงได้พบว่าเขาโดนชายผู้นั้นจับตัวเอาไว้
“เจ้าเป็นใคร? จะทำอะไร? ปล่อยข้านะ!” เขาดิ้นรน แต่กู้หวนอวี้แข็งแกร่งกว่าเขามากนัก เขายกตัวชายแซ่เกาแล้วโยนออกออกไปจากห้อง ปิดประตูเสียงดัง
เมื่อเห็นชายแซ่เกาโดนโยนออกไปนอกห้องแล้ว ตู้ชิงหยูถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะที่นางกำลังจะกล่าวขอบคุณก็เหลือบไปเห็นกู้หวนอวี้ที่หน้าดำประหนึ่งก้นหม้อเข้าเสียก่อน
ตู้ชิงหยูรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เกิดอะไรขึ้น?” กู้หวนอวี้ถาม
“เอ่อ… ตอนที่ข้าอยู่ที่เมืองหลันซี มณฑลเหลียงโจวข้าได้พบกับเกาจิงหยวนผู้นี้หลังจากไปดื่มที่ร้านสุราแก้วสองแก้ว” ตู้ชิงหยูเล่าให้เขาฟัง แต่นางไม่ได้เอ่ยรายละเอียดว่าเป็นเพราะเห็นเขาหน้าตาดีก็เลยอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้าเขาสักสองสามคำ
เกาจิงหยวนเป็นหนุ่มเสเพลชื่อดังในเมืองหลันซี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงเกี้ยวพา หยอกเย้า จึงถูกนางดึงดูดความสนใจ พวกเขาจึงกลายเป็นเพื่อน คบหาและดื่มสุราด้วยกัน จู่ๆ หนุ่มเสเพลก็เกิดขอนางแต่งงานขึ้นมาอย่างกะทันหัน ตู้ชิงหยูเกิดความกลัวขึ้นมาจึงหนีไปพร้อมกับตู้เสี่ยวไป๋
วันหนึ่งนางนั่งบนหลังคา จู่ๆ ก็หวนคิดถึงถังหลี่ จึงได้ตัดสินใจมาเมืองหลวง ไม่คิดว่าเกาจิงหยวนผู้นี้จะกลายเป็นกระต่ายวิ่งอย่างเร็วตามไล่ล่านางมาจนถึงที่นี่ได้
สีหน้าของกู้หวนอวี้เย็นชา เมื่อคิดว่าตู้ชิงหยูทำนิสัยเช่นนี้เหมือนกับที่ทำกับเขาแล้ว ก็ทั้งโกรธและขมขื่นอยู่ในอก ไม่รู้จะระบายออกมาได้อย่างไร
“แม่นางตู้ได้โปรดเคารพตัวเองด้วย” เขากัดฟันพูดลอดไรฟันออกมา
“เคารพตนเอง? บุรุษไปหอเริงรมย์ได้ แต่ข้าไม่อาจทำได้เช่นนั้นหรือ?”
ตู้ชิงหยูกระชากเสียงไม่พอใจ “เรื่องกินหลับนอน หญิงชายล้วนไม่แตกต่าง”
“ข้าไม่เคยไปหอนางโลม” กู้หวนอวี้พูดขัดขึ้น
“โอ้! ท่านไม่เคยไปหอนางโลมหรือ ท่านช่างผิดแปลกไปจากบุรุษอื่น..” นางจับคางตนเองพลางครุ่นคิด
“ท่านทำไม่ได้หรือ?”
ใบหน้าของกู้หวนอวี้สีเข้มขึ้น เหตุใดถึงได้เปลี่ยนมาเป็นเรื่องของเขาเล่า?
“แม่นางตู้ หากท่านไม่คิดจริงจังก็อย่าได้ไปยั่วยุผู้อื่นเลยจะดีกว่า เขาอาจจะไม่ได้คิดเหมือนท่าน” กู้หวนอวี้พูดเสียงเนิบ
“จริงจัง? แล้วท่านจริงจังหรือไม่?..ท่านไม่ได้ชอบข้าหรือ?” ตู้ชิงหยูทำท่าตกใจ คิ้วของนางขมวดมุ่น “ถ้าหากท่านชอบข้า ท่านก็ควรเลิกคิดได้ ข้าไม่คิดจะแต่งงานหรือตกหลุมรักผู้ใด”
เพลิงโทสะแทบจะโหมเผาร่างของกู้หวนอวี้ สมองเขามึนงงไปหมด
“ช่างคิดซับซ้อนอะไรเช่นนั้น ตู้ชิงหยู เจ้าอย่าได้คิดไปเอง”
นางถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ดีแล้ว!”
ตอนนั้นเองที่ประตูถูกทุบรัวแรงๆ จนแทบจะพัง ตู้ชิงหยูทำท่าปวดหัว นางกระโดดออกจากหน้าต่างอย่างว่องไว กู้หวนอวี้รีบเดินไปชะโงกดู เมื่อเห็นนางร่อนลงพื้นอย่างสง่างามทั้งยังดึงดูดสายตาของของหญิงที่ซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำ ไม่รู้นางเอื้อนเอ่ยอะไรทำให้สาวๆ ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะกันออกมา
แม้ว่านางจะเป็นหญิงสาวแต่กลับดูหล่อเหลาเกินหน้าบุรุษเพศ ไม่เพียงดึงดูดชายหนุ่ม แต่ยังรวมสตรีอีกมากมาย !
ไม่ว่าจะเป็นผีเสื้อและภมรต่างโดนนางดึงดูดอย่างไม่รู้ตัว กู้หวนอวี้โกรธ กัดฟันจนแทบหัก แต่ก็ยังละสายตาจากนางไม่ได้
ในตอนนั้นประตูได้ถูกเปิดออก ชายหนุ่มคนเดิมเดินเข้ามา
“แม่นางหยู …” เขาหันมองรอบไม่เจอใครนอกจากใบหน้าที่เย็นชาของกู้หวนอวี้เท่านั้น
“เหตุใดท่านถึงได้มองข้าเช่นนั้น? แม่นางหยูไปไหนเสียแล้ว?” เกาจิงหยวนสอดส่ายสายตามองหาตู้ชิงหยู
“นางไปแล้ว นั่งลงก่อนเถอะ” เมื่อได้ยินว่าแม่นางหยูไม่อยู่แล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไป อยากจะออกไปตามหานาง แต่ประตูกลับถูกปิดลงโดยมือที่แข็งแกร่งของใครบางคน เกาจิงหยวนเงยหน้ามองเห็นเจ้าของมือ กู้หวนอวี้ที่หน้าตาไม่สบอารมณ์
“ท่านผู้นี้หน้าตาหล่อเหลาเข้าที ท่านเป็นคนรักใหม่ของแม่นางหยูหรือ?” เกาจิงหยวนพูดอย่างบึ้งตึง
ใบหน้าของกู้หวนอวี้แข็งทื่อ
“ไม่ใช่!”
สีหน้าของเกาจิงหยวนดีขึ้น เขาเลิกตั้งแง่กับผู้ชายคนนี้อีกต่อไป
“นั่งลงแล้วคุยกันเถอะ” กู้หวนอวี้ชักชวน
เกาจิงหยวนคิดอยู่สักพัก แลัวจึงนั่งลงตรงข้ามเขา เอ่ยปากถามขึ้นก่อน
“ท่านเป็นใครหรือ? รู้จักแม่นางหยูได้อย่างไร?”
“นางช่วยชีวิตข้าเอาไว้” เกาจิงหยวนแปลกใจ
“ท่านไม่ใช่กู้หวนอวี้ เทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ของต้าโจวหรอกหรือ? แม่นางหยูช่วยท่านเอาไว้ นางช่างเป็นสตรีที่เก่งกาจยิ่งนัก”
ท่าทางของเกาจิงหยวนดูภูมิอกภูมิใจประหนึ่งว่าตู้ชิงหยูเป็นคนของเขา ยิ่งทำให้กู้หวนอวี้ไม่สบายใจเพิ่มมากขึ้น แต่ในเมื่อเขาต้องการข้อมูลจากอีกฝ่าย จึงได้แต่อดกลั้นเอาไว้
“นางได้ทำอะไรเจ้าหรือไม่?”
“ทำอะไรข้า?” เกาจิงหยวนงุนงงไม่เข้าใจคำถามของกู้หวนอวี้
“ก็แค่…” กู้หวนอวี้พูดแทบไม่ออก เขาสูดลมหายใจเข้า “ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกแล้วแตะเนื้อต้องตัวเจ้า…”
เกาจิงหยวนส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
“ไม่! ข้าอยากให้นางถอดเสื้อผ้าข้าออกแล้วแตะต้องตัวข้าบ้าง..แต่นางไม่ได้ทำเช่นนั้น”
นางทำกับเขา! กู้หวนอี้ลิงโลดอยู่ในใจ เขารู้สึกเหนือกว่าชายผู้นี้อย่างน่าประหลาด ใบหน้าเขาดูดีขึ้นมาในพริบตา แต่เมื่อรู้สึกตัว เขาก็หยุดชะงัก
“ตู้ชิงหยูยั่วยุบุรุษเช่นเจ้ากี่คน?” กู้หวนอวี้ถามต่อ
“ท่านหมายถึงอะไรกันแน่?” เกาจิงหยวนไม่พอใจขึ้นมา
แม่นางหยูทำเช่นนี้กับข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น ข้าเป็นบุรุษที่นางชื่นชอบแต่ผู้เดียวเท่านั้น หลังได้ยินคำพูดของเขา สีหน้ากู้หวนอวี้น่ากลัวน้อยลง
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดถึงถามคำถามเช่นนี้กับข้า ท่านคงไม่ได้ชอบแม่นางหยูด้วยหรอกนะ” เกาจิงหยวนจ้องหน้าเขา หากท่านแม่ทัพกู้ชื่นชอบแม่นางหยูขึ้นมา เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
กู้หวนอวี้ตอบอย่างไม่รู้ตัว
“เป็นไปไม่ได้!”
“ดียิ่ง! ข้าไม่สนทนากับท่านแล้ว ข้าจะต้องไปตามหาแม่นางหยู” หลังจากเกาจิงหยวนพูดจบ เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไป
กู้หวนอวี้ยังคงนั่งนิ่งเหม่อมองกระดานหมากที่ดูเละเทะ ในหัวใจเขาสับสน
เย็นนั้นเขากลับจวนแม่ทัพ สาวใช้เข้ามาทักทายเขาทีละคน หากเป็นแต่ก่อน เขาจะพยักหน้ารับอย่างนุ่มนวลทำให้เด็กสาวๆ แอบตื่นเต้น แต่วันนี้สีหน้าท่าทางของเขากลับเย็นชา หนาวเหน็บทำให้ไม่ผู้ใดกล้าเข้ามาใกล้ ทุกคนพากันแปลกใจ
เกิดอะไรขึ้นกับนายน้อยรอง!