บทที่ 746 ไม่มีใครแย่งไปได้

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

ลี่จุนซินนึกไม่ถึงเลย ว่าในอดีตเวียร์ได้เคยลองท่านี้มาก่อนแล้ว แต่ทุกครั้งไปไม่ถึงครึ่งทางก็ถูกลี่จุนซินปฏิเสธเสียก่อน เพราะเธอรู้สึกว่าความรู้สึกนี้ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

จากมุมของลี่จุนซิน สามารถมองเห็นเพียงผมสั้นที่หนาเตอะของเขา เวียร์จากบนลงล่าง จากในยันนอก ไม่ยอมปล่อยผ่านไปแม้แต่จุดเดียว อดีตเขาเองก็เคยได้ทำแบบนี้มาก่อน แต่กลับไม่ละเอียดถี่ถ้วนเท่านี้

ความรู้สึกระทมนี้ค่อยๆ แล่นขึ้นมาจากด้านล่าง ทำให้ลี่จุนซินไม่สามารถควบคุมตนเองอยู่ได้ ทีแรกเธอดิ้นทุรนทุรายเล็กน้อย ก่อนที่จะสมยอมไปกับฝีมืออันสูงส่งของเขา

ลี่จุนซินแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย แอ่นกาย นิ้วเท้าหดเกร็งอย่างไม่รู้ตัว นิ้วมือทั้งสิบกางออกจิกหัวของเขา หายใจหอบ จากสวรรค์ลงมายังผืนดิน และจากผืนดินพุ่งทะยานขึ้นไปยังวิมาน ช่างมีความสุขจนสุดแสนจะบรรยาย

อาบน้ำอยู่ค่อนคืน เวียร์ถึงได้อุ้มลี่จุนซินที่ถูกกลืนกินจากด้านในยันด้านนอกอีกหลายหน เดินออกมาจากห้องน้ำ ลี่จุนซินรู้สึกว่า ร่างทั้งร่างราวกับไม่ใช่ร่างกายของเธออีกต่อไป ทุกอณูในร่างยังคงเกร็งเล็กน้อย ยังคงเต้นตุ้มต่อม

ลี่จุนซินเพิ่งจะค้นพบว่า ความอ่อนโยนของเวียร์ในอดีตเพราะเขาอ่อนข้อให้กับเธอ หากคิดที่จะกำราบเธอ ด้านนี้เขาสามารถทรมานเธอจนมอดไหม้

ยิ่งไปกว่านั้น โบราณว่าเอาไว้ เรื่องไม่ดีไม่เกิดขึ้นเกินสามครั้ง เหตุใดเวียร์ถึงไม่ยอมจบไม่ยอมสิ้นกัน ทุกครั้งต้องทรมานเธอหลายครั้งหลายหนไม่งั้นไม่ยอมหยุด แถมยังมีกระบวนท่าใหม่ๆ ตลอด ทุกท่วงท่าทำให้เธอแทบวิญญาณหลุดออกจากร่าง แต่ก็สามารถรั้งเธอกลับไปได้ทุกที

ดีที่เช้าวันที่สองเป็นวันเสาร์ หลังทั้งคู่ใช้กำลังค่อนคืน ทั้งสองหลับยาวจนถึงเที่ยงวันถึงได้ตื่นขึ้นเพราะเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ เวียร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นรับสาย ก็พบว่าเป็นโม่เสี่ยวฮุ่ย

“ฮัลโหล ใช่เวียร์ไหม จุนซินล่ะ?”

“หม่ามี๊ จุนซินหลับอยู่” หลังหมั้นกับจุนซิน เวียร์ก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกขานแล้ว ตอนที่เขาขานเรียกครั้งแรก ทำให้โม่เสี่ยวฮุ่ยตกใจแทบแย่

“ยังหลับอยู่อีกหรือ ก็ได้ นอนต่ออีกหน่อยเถอะ ช่วงนี้เกิดเรื่องใหญ่ที่บ้าน เธอยุ่งจนหัวหมุน ไม่ได้พักผ่อนแบบนี้มานานแล้ว”

“เกิดเรื่องใหญ่? เรื่องอะไรเหรอ หม่ามี๊?” เวียร์เกิดสงสัย

“เฮ้อ~จุนซินไม่ได้บอกคุณเหรอ? แม่ของหยุนเอ๋อถูกลักพาตัว เฮ้อ ว่าจะไปเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของฉัน”

ทุกครั้งที่โม่เสี่ยวฮุ่ยนึกถึงเรื่องซูม่านลี ก็รู้สึกผิดทุกครั้งไป

เวียร์ตกใจเมื่อได้ยินเรื่องราว มิน่าเล่าช่วงนี้เธอถึงได้งานยุ่งขนาดนี้ แม้แต่เวลาโทรศัพท์ยังแทบไม่มี

เวียร์คิดที่จะถามไถ่เรื่องราวมากกว่านี้ ลี่จุนซินตื่นขึ้นซะก่อน “เวียร์ สายของแม่ฉันเหรอ? ”

“อืม ใช่แล้ว” เวียร์ยื่นโทรศัพท์ให้กับลี่จุนซิน

“ฮัลโหล คุณแม่ เกิดอะไรขึ้นคะ?” ลี่จุนซินรับสายอย่างงัวเงีย

“ไม่มีอะไร เมื่อวันคุณบอกว่าจะกลับไปเอาของแล้วจะกลับมา แต่นี่เที่ยงของอีกวันแล้ว ฉันเห็นว่าคุณยังไม่กลับมา ก็เลยโทรมาถามสักหน่อย”

“ใช่สิ เมื่อคืนเวียร์กลับมา ฉันลืมบอกแม่ไปน่ะ” เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ลี่จุนซินหน้าแดงขึ้นมาอย่างหักห้ามไม่ได้ ทำให้ตื่นเต็มตัวด้วยเช่นกัน

“ฉันก็ไม่มีอะไรมาก คุณนอนต่อเถอะ พักผ่อนเยอะๆ”

หลังวางสาย เวียร์จึงถามไถ่เรื่องของซูม่านลีอย่างละเอียด ลี่จุนวินเล่าให้เขาฟังอย่างละเอียดเช่นเดียวกัน

เมื่อเวียร์ฟังจนจบ เวียร์รู้สึกเสียใจ แต่เขาเองก็ไม่ได้มีอำนาจอะไรมากมาย ไม่สามารถช่วยลี่จุนถิงได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือการดูแลลี่จุนซินให้ดี

ไม่ให้ลี่จุนซินต้องเหนื่อยจนเกินไป ให้เธอช่วยลี่จุนถิงจัดการกับเรื่องที่บริษัทได้อย่างเต็มที่

ลี่จุนซินลุกขึ้นจากเตียง หลังชำระล้างเรียบร้อยเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้า เวียร์กลับนึกอะไรขึ้นได้กะทันหัน พลันคลานลุกขึ้นจากเตียง เอวของเขาพันด้วยผ้าขนหนูก่อนที่จะไล่ตามไป

ห้องแต่งตัว แขนของลี่จุนซินกำลังยื่นออกไปที่โซนเสื้อผ้าที่เป็นทางการ แต่เขารั้งเอาไว้เสียก่อน “อุตส่าห์ได้พักผ่อนสักวัน ที่รัก คุณแม่ก็บอกแล้ว ว่าให้คุณพักผ่อนวันหนึ่ง มาดูของขวัญที่ผมให้คุณสิ ชอบไหม”

เขาลากลี่จุนซินออกมา กระเป๋าเดินทางที่นำกลับมาด้วยเมื่อคืนนี้ยังคงวางอยู่ที่ระเบียง เขาลากเข้ามาเปิดออก นำกล่องที่ประหลาดแต่สวยงามออกมายื่นให้กับลี่จุนซิน

“ฉันพบที่ร้านทำกี่เพ้าในลอนดอน เห็นว่ามีประวัติศาสตร์ร้อยกว่าปี คนดังมากมายต่างก็เคยสั่งตัดกี่เพ้าจากร้านนี้ ผมเห็นว่าน่าสนใจดี ก็เลยสั่งตัดให้เธอสองชุด”

“ชุดนี้อาจารย์เร่งทำทั้งวันทั้งคืนเลย ส่วนอีกชุด อีกไม่กี่วันทำเสร็จแล้ว จะส่งมาที่นี่”

ขณะที่เขากล่าว ลี่จุนซินได้ใช้เวลานี้แกะกล่องออก เป็นชุดกี่เพ้าที่ถูกดัดแปลง เนื้อผ้าเป็นผ้าไหมทอมือของแท้สินะ เนื้อสัมผัสรู้สึกนุ่มกว่าปกติมาก

ชุดสีเขียวกับลายกิ่งก้านสีเงิน แม้แต่บริเวณปกคอเสื้อเองก็ประณีตงดงามอย่างมาก ที่ยาวเท่าเข่าพอดี คนที่มีนิสัยเลือกมากเรื่องเสื้อผ้าอย่างลี่จุนซิน ก็ยังชอบชุดนี้ทันทีที่เห็น

เธอถือชุดเอาไว้หมุนตัวเข้าไปที่ห้องแต่งตัว เวียร์ส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะอย่างห้ามไม่ได้ ในบางครั้งที่รักของเขาก็มักทำเป็นไม่รู้ความหลอกลวงตนเองแบบนี้ ร่างทั้งร่างของเธอ มีส่วนไหนบ้างที่เขายังไม่เห็น

แต่เมื่อลี่จุนซินเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เวียร์ก็ต้องตกอยู่ในความตะลึงอย่างแรง เธอคือที่รักของเขาอย่างนั้นเหรอ? แม้ว่าตอนสั่งตัดในทีแรก ก็ได้วาดภาพในหัวนับครั้งในถ้วนมาแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นกลับยังห่างไกลกับที่จินตนาการเอาไว้มาก

ดีไซเนอร์ได้พูดกับเขาเอาไว้แล้วเมื่อตอนงานหมั้น ว่าลี่จุนซินเหมาะกับชุดสไตล์ประจำชาติ สไตล์ที่เกี่ยวกับโบราณชุดประจำชาติ ช่างแตกต่างจากเธอมากนัก แต่เมื่อผสมผสานเข้าด้วยกัน กลับให้ความรู้สึกขัดแย้งที่กลมกล่อม สามารถสร้างสรรค์ความงดงามที่น่าทึ่งออกมาได้

ลำคอของลี่จุนซินเรียวยาว กระดุมเสื้อที่คออันขาวนวลถูกถักทอเป็นลายหรู ลายเส้นที่งดงามบริเวณบ่าถูกถักทอภายใต้ผ้าสีเขียว ช่วงอกสูง เส้นรอบเอวที่พิถีพิถันอย่างอ่อนโยน สร้างความสง่างามให้กับชุดกี่เพ้านี้ ภายใต้ความงามสง่าแฝงไปด้วยความเซ็กซี่

เส้นผมของเธอยาวขึ้นมาก ถูกเกล้ามวยอย่างเรียบง่ายเอาไว้ด้านหลัง ไร้สิ่งแต่งแต้มบนใบหน้าแต่อย่างใด แต่ทำให้เห็นหน้าตาของเธอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เธอดูเป็นธรรมชาติและเซ็กซี่อย่างประหลาด แต่กลับน่าดึงดูดมากกว่าเก่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตอนนี้ลี่จุนซินมีความเขินอาย ดวงตาสดใสคู่นั้นกะพริบถี่รัวจับจ้องเขา “สวยไหม?” อาจเพราะเห็นว่าเวียร์นิ่งไป น้ำเสียงของเธอหงุดหงิดเล็กน้อย

เวียร์ปริปากก้าวไปข้างหน้าโอบกอดเธอเอาไว้ ก้มหน้าลงกล่าว “สวย บนโลกใบนี้ที่รักของผมสวยที่สุดแล้ว”

เขาอุ้มลี่จุนซินวนอยู่สองรอบ เข้ามาที่ห้องแต่งตัว “ที่รัก ชุดนี้เราใส่ที่บ้านก็พอแล้ว ถึงแม้ว่าจะสวยแต่ก้าวขาไม่ได้ เดินลำบาก เธอต้องไม่ชอบแน่ ใช่ไหมล่ะ?”

ล้อเล่นอะไรกัน ที่รักของเขาออกไปในสภาพแบบนี้ คงได้เสร็จเจ้าพวกผู้ชายข้างนอกแย่

ลี่จุนซินจะไม่รู้เท่าความคิดของเวียร์ได้อย่างไร แต่เธอเองก็เห็นด้วยที่ว่าใส่แบบนี้ออกไปเดินเหินไม่สะดวกนัก จึงได้เออออตามประโยคของเวียร์ “ไม่ค่อยสะดวกจริงๆ นั่นแหละ”

ช่วงบ่ายทั้งคู่กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลลี่พร้อมกัน เวียร์เห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อและคนอื่นๆ สีหน้าไร้การเปลี่ยนแปลง จึงไม่ได้เอ่ยถามอะไรมากมาย หากที่ข่าวคราวอะไร พวกเขาก็จะพูดเอง