ตอนที่ 791 หมอฟางโกรธ

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 791 หมอ​ฟางโกรธ​

น้อง​สามีและ​พี่สะใภ้​ขับรถ​ไป​ยัง​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​สาขา​ที่​ใกล้​ที่สุด​

จากนั้น​ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​นำ​กล้อง​ที่​เขา​สร้าง​ขึ้น​ออกมา​ และ​ใช้เวลา​น้อยกว่า​หนึ่ง​ชั่วโมง​ใน​การ​ติดตั้ง​

แม้กล้อง​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​จะดู​เรียบง่าย​มาก​ แต่​ผลลัพธ์​หลัง​การ​ติดตั้ง​ก็​ดีมาก​

หาก​ยึด​ตามเวลา​การ​สร้าง​อัน​กระชั้นชิด​ ความ​คมชัด​ของ​ภาพ​ที่​ได้​ก็​จะไม่สูงนัก​

แต่​ใน​ยุค​นี้​ที่​แม้แต่​ภาพ​ใน​ทีวี​ยัง​ไม่ชัดเจน​ ภาพ​ที่​ได้รับ​จาก​กล้อง​วงจร​จึงปิด​ถือได้ว่า​ชัดเจน​แล้ว​

หลิน​ม่าย​มีความสุข​มาก​และ​ขอให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​ผลิต​กล้อง​อีก​สอง​สามตัว​ให้​เธอ​เพิ่มเติม​

เธอ​วางแผน​ที่จะ​ติดตั้ง​กล้อง​ใน​ห้องโถง​ของ​ร้านค้า​ในเครือ​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ห้า​แห่ง​ใน​กรุง​ปักกิ่ง​

ฟางจั๋วเยวี่ย​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​และ​ถาม “ติดตั้ง​เฉพาะ​กล้อง​ใน​ห้องโถง​เท่านั้น​หรือ​? ถ้ามีใคร​ทำ​อะไร​ไม่ดี​ใน​ห้อง​อื่น​แล้ว​ใส่ร้าย​พี่​ พี่​จะหา​หลักฐาน​ได้​เหรอ​? “

หลิน​ม่าย​ส่าย​ศีรษะ​พลาง​กล่าว​ “ผู้​ที่​ก่อ​อาชญากรรม​มักจะ​เลือก​ที่จะ​ก่อ​อาชญากรรม​ใน​ห้องโถง​ เพื่อ​ที่​พวกเขา​จะได้​ดู​น่าเชื่อถือ​มากขึ้น​เมื่อ​เกิด​ปัญหา​ ดังนั้น​เพียง​พอแล้ว​ที่จะ​ติดตั้ง​กล้อง​เฉพาะ​ใน​ห้องโถง​ ไม่จำเป็นต้อง​ติดตั้ง​ใน​ส่วน​อื่น​ เพราะ​การ​ติดตั้ง​กล้อง​ใน​ส่วน​อื่น​จะทำให้​ค่าใช้จ่าย​เพิ่มมากขึ้น​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​คิด​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​เช่นกัน​

ตอนนี้​เป็นเวลา​เกือบ​หนึ่ง​ทุ่ม​แล้ว​ น้อง​สามีและ​พี่สะใภ้​เดินทางออก​มาจาก​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​และ​พร้อม​ที่จะ​กลับบ้าน​ไป​รับประทาน​อาหารเย็น​

ขณะที่​เดินผ่าน​ห้องโถง​ หลิน​ม่าย​ก็​ได้ยิน​เสียง​คน​เรียก​เธอ​

เธอ​หัน​ศีรษะ​และ​เห็น​ว่า​เป็น​ผู้อำนวยการ​อิ่น​ของ​สถานีโทรทัศน์​ CCTV

หลิน​ม่าย​เดิน​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ ชำเลือง​มอง​ที่​โต๊ะ​ขนาดใหญ่​และ​ถาม “ผู้อำนวยการ​อิ่น​ พา​ทั้ง​ครอบครัว​มากิน​หม้อไฟ​สินะคะ​”

ผู้อำนวยการ​อิ่น​ชี้ไป​ยัง​อาหาร​บน​โต๊ะ​พลาง​กล่าว​ “ไม่ใช่แค่​หม้อไฟ​ แต่​ยังมี​ขน​มอบ​ต่าง ๆ​ ด้วย​ อาหาร​ของ​คุณ​อร่อย​ทุกอย่าง​เลย​นะ​ครับ​ มากิน​ทีไร​ก็​ไม่เคน​รู้สึก​อิ่ม​ ราวกับ​กระเพาะ​ของ​ผม​ขยาย​ขนาด​จน​จุอาหาร​ได้​มากมาย​”

“ผู้อำนวยการ​อิ่นชม​เกินไป​แล้ว​ค่ะ​” หลิน​ม่าย​หัวเราะ​สอง​ครั้ง​เพื่อ​ตอบสนอง​ต่อ​สถานการณ์​

เธอ​โทร​หา​ผู้จัดการ​ร้าน​และ​ขอให้​เขา​มอบ​ส่วนลด​ยี่สิบ​เปอร์เซ็นต์​แก่​ผู้อำนวยการ​อิ่น​

ผู้อำนวยการ​อิ่น​มีความสุข​มาก​และ​จับมือ​ลูกสาว​ตัว​น้อย​พลาง​เขย่า​หลิน​ม่าย​ “เร็ว​เข้า​ ขอบคุณ​น้า​หลิน​สิ”

เด็กหญิง​ตัวเล็ก​ ๆ มีอายุ​ประมาณ​หก​หรือ​เจ็ด​ขวบ​เท่านั้น​ ผิวขาว​อม​ชมพูด​อย่าง​มาก​

หล่อน​กล่าว​ขอบคุณ​และ​หยิบ​ลูกอม​สอง​สามเม็ด​ออก​มาจาก​กระเป๋า​พร้อม​ยัด​ใส่มือ​ของ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​ปฏิเสธ​ แต่​เด็กหญิง​ตัวเล็ก​ ๆ ยืนยัน​ที่จะ​มอบให้​เธอ​

หลิน​ม่าย​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​รับ​ลูกอม​ไว้​

ทันทีที่​น้อง​สามีและ​พี่สะใภ้​เดิน​ออกจาก​ร้าน​ พวกเขา​เห็น​ฟางจั๋ว​หรา​น​ยืน​อยู่​ข้าง​รถ​เมอร์เซเดส​-เบนซ์​ของ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​รีบ​วิ่ง​ไปหา​เขา​ด้วย​ความดีใจ​และ​ถามด้วย​ความประหลาดใจ​ “คุณ​มาที่นี่​ทำไม​?”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ห่ม​ผ้าคลุมไหล่​แคชเมียร์​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​

เขา​กล่าว​ด้วย​ท่าทาง​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความอ่อนโยน​และ​ความรัก​ “เมื่อ​ตะวัน​ลับ​ฟ้า ความ​หนาวเย็น​จะมาเยือน​ ผม​เกรง​ว่า​คุณ​จะหนาว​เลย​นำ​ผ้าคลุมไหล่​มาให้​”

หลิน​ม่าย​กระชับ​ผ้าคลุมไหล่​แน่น​และ​ร่างกาย​ของ​เธอ​อุ่น​ขึ้น​มาก​

เมื่อ​ครั้ง​เดิน​ออก​มาจาก​ร้าน​และ​ถูกลม​พัดผ่าน​ เธอ​รู้สึก​หนาวเหน็บ​อย่าง​มาก​

ฟางจั๋ว​หรา​น​เปิด​ประตู​ที่นั่ง​ผู้โดยสาร​ และ​หลิน​ม่าย​ก็​เข้ามา​เหมือน​ปลา​ตัวเล็ก​

ฟางจั๋ว​หรา​น​นั่ง​ที่​เบาะ​คนขับ​ ส่วน​ฟางจั๋วเยวี่ย​นั่ง​ที่​เบาะหลัง​

หลิน​ม่าย​จำลูกอม​สอง​สามเม็ด​ที่​ลูกสาว​คน​สุดท้อง​ของ​ผู้อำนวยการ​อิ่น​มอบ​ให้ได้​

เธอ​หยิบ​มัน​ออก​มาจาก​กระเป๋า​ ชำเลือง​มอง​และ​ส่งให้​ฟางจั๋ว​หรา​น​แล้ว​เอ่ย​ถาม “คุณ​มาทำ​อะไร​ที่นี่​?”

แม้ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​แห่ง​นี้​จะเป็น​ร้าน​สาขา​ที่​ใกล้​ที่สุด​กับ​บ้าน​ของ​เธอ​ แต่​ต้อง​ใช้เวลา​เดินทาง​กว่า​ครึ่ง​ชั่วโมง​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ชำเลือง​มอง​ขนม​ที่​เธอ​ยื่น​ให้​และ​ส่าย​ศีรษะ​ “ผม​ยัง​ไม่อยาก​กิน​ตอนนี้​”

หลิน​ม่าย​เก็บ​ขนม​กลับ​เข้า​กระเป๋า​ “ทำไม​คุณ​ไม่ขับรถ​มาที่นี่​? ผ่าตัด​มาทั้งวัน​ไม่เหนื่อย​เหรอ​? แถมยัง​ต้อง​เอา​ผ้าคลุม​มาให้​ฉัน​อีก​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ติด​เครื่องยนต์​ “ไม่เป็นไร​ ผม​ไม่เหนื่อย​”

แต่​ไม่ว่า​จะเหนื่อย​แค่​ไหน​เขา​ก็​ยัง​จะเดิน​มาที่นี่​ เพราะ​เขา​อยาก​กลับ​พร้อมกับ​ภรรยา​ผู้​เป็น​ที่รัก​

ตลอด​หนึ่ง​สัปดาห์​ ทั้งสอง​มีโอกาส​ได้​อยู่​ร่วมกัน​เพียง​วัน​เสาร์​และ​วันอาทิตย์​เท่านั้น​

เวลา​ช่างแสน​สั้น​และ​มีค่า​เหลือเกิน​ เขา​ปรารถนา​ให้​ทั้งสอง​ได้​อยู่​ด้วยกัน​ทุก​วินาที​ ดังนั้น​จะใฟ้เขา​ขับรถ​อีก​คัน​กลับ​และ​แยก​กับ​เธอ​ได้​อย่างไร​?

เมื่อ​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ เขา​ไม่ได้​คำนึงถึง​น้องชาย​ของ​ตัวเอง​เลย​ ไม่เคย​คิด​ว่า​ฟางจั๋วเยวี่ย​จะติด​รถ​กลับ​ด้วย​

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​ไป​ยัง​น้องชาย​ซึ่งนั่ง​อยู่​เบาะหลัง​ ฟางจั๋วเยวี่ย​ผู้​ไม่รู้ตัว​ว่า​เขา​กลาย​เป็นก้างขวางคอ​ของ​พวกเขา​ไป​แล้ว​

หาก​รู้​เช่นนี้​ เขา​จะขับรถ​ของ​ตัวเอง​มาและ​ให้​น้องชาย​ขับ​กลับ​ ส่วนตัว​เขา​เอง​จะกลับ​ไป​พร้อมกับ​ภรรยา​

หลิน​ม่าย​แสดงท่าทาง​เมินเฉย​ และ​หยิบ​ขนม​อีก​ชิ้น​จาก​กระเป๋า​ของ​เธอ​ออกมา​ดู​

เธอ​หัน​ศีรษะ​และ​ยื่น​ให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​ซึ่งนั่ง​อยู่​ที่​เบาะหลัง​ “นาย​คงจะ​หิว​มาก​ กิน​ขนม​รองท้อง​ไป​ก่อน​นะ​ แล้ว​ค่อย​กลับบ้าน​ไป​กิน​อาหารเย็น​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​หยิบ​ลูกอม​ ลอก​กระดาษ​ห่อ​ออก​ โยน​ลูกอม​เข้า​ปาก​ และ​เคี้ยว​ก่อน​จะกลืน​ลง​ไป​ทันที​

หลิน​ม่าย​ไม่ทัน​ได้​สังเกตว่า​ใบหน้า​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​แปร​เปลี่ยนไป​เลย​แม้แต่น้อย​

เธอ​ร่าเริง​มาก​ ทั้ง​ยัง​ชื่นชม​ฟางจั๋วเยวี่ย​ที่​เก่ง​และ​มีฝีมือ​จน​สร้าง​กล้อง​ให้​เธอ​ได้​

ในอนาคต​ เธอ​จะไม่ต้อง​กลัว​อีกต่อไป​ว่า​จะมีใคร​มาทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​เหมือน​เหตุการณ์​หนู​ใน​หม้อไฟ​ และ​จะไม่มีใคร​ทำลาย​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ของ​เธอ​ได้​อีก​

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​มีความสุข​จนกระทั่ง​ฟางจั๋ว​หรา​น​ขับรถ​เข้าไป​ใน​สวน​หลังบ้าน​ของ​เธอ​ ทันใดนั้น​เธอ​พลัน​ตระหนัก​ได้​ว่า​ฟางจั๋ว​หรา​น​ไม่ได้​พูด​อะไร​สัก​คำ​ตลอดทาง​

แม้เขา​จะพูดน้อย​มาก​ แต่​การ​ที่​เขา​ไม่เอ่ย​คำ​ใด​ต่อ​เธอ​สัก​คำ​เช่นนี้​ก็​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​

หลิน​ม่าย​เป็นกังวล​เล็กน้อย​ว่า​ฟางจั๋ว​หรา​น​จะป่วย​จาก​ลมหนาว​ขณะ​รอ​เธอ​อยู่​นอ​กร้าน​ ดังนั้น​เขา​จึงไม่ต้องการ​พูด​

ทันทีที่​รถ​หยุด​ เธอ​วาง​มือบน​หน้าผาก​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เพื่อ​ตรวจ​วัดอุณหภูมิ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​หลีกเลี่ยง​มือ​เล็ก​ ๆ ของ​เธอ​อย่าง​ไร้อารมณ์​และ​ออกจาก​รถ​

ทั้ง​สามคน​เข้า​ห้องน้ำ​เพื่อ​ล้างมือ​ก่อน​แล้วจึง​มายัง​ห้องอาหาร​

เมื่อ​แม่บ้าน​ได้ยิน​เสียง​เคลื่อนไหว​ใน​สวน​หลังบ้าน​ หล่อน​ก็​รู้​ว่า​นั่น​คือ​หลิน​ม่าย​และ​คนอื่น​ ๆ ที่​กลับมา​แล้ว​

ก่อนที่​พวกเขา​จะเข้าไป​ใน​ห้องอาหาร​ อาหาร​ก็​ถูก​จัด​ไว้​ให้​เรียบร้อย​แล้ว​

ทั้ง​ครอบครัว​นั่ง​รับประทาน​อาหารเย็น​ด้วยกัน​

ฟางจั๋วเยวี่ย​เห็น​จาน​หลู่​ไช่แสน​อร่อย​หลาย​จาน​บน​โต๊ะอาหาร​ มุมปาก​ของ​เขา​พลัน​คลี่​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​จน​เขา​หัวเราะ​ออกมา​

“พี่สะใภ้​ใจดี​กับ​ฉัน​มาก​ พี่​รู้​ว่า​ฉัน​ชอบ​หลู่​ไช่ก็​เลย​ทำ​มาให้​ฉัน​โดยเฉพาะ​สินะ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​สูญเสีย​ความอยาก​อาหาร​ทันที​ วาง​ตะเกียบ​ลง​และ​เตรียม​ที่จะ​ลุก​จากไป​

หลิน​ม่าย​ส่าย​ศีรษะ​พลาง​กล่าว​ “ฉัน​ไม่ได้​ทำ​หลู่​ไช่พวก​นี้​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ ใบหน้า​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​ และ​หยิบ​ตะเกียบ​ที่​วาง​ลง​ก่อนหน้านี้​ขึ้น​

ฟางจั๋วเยวี่ย​รู้สึก​เหลือเชื่อ​

เขา​คีบ​ผ้าขี้ริ้ว​วัว​ตุ๋น​ใส่ปาก​แล้ว​ชิมอย่าง​ระมัดระวัง​ “นี่​มัน​รสชาติ​ฝีมือ​พี่สะใภ้​ชัด​ ๆ”

คุณย่า​ฟางกล่าว​ “หลู่​ไช่นี้​แม่บ้าน​ซื้อ​มาจาก​ร้าน​หลู่​ไช่”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ “ไม่น่าแปลกใจ​ที่​จั๋วเยวี่ย​รู้สึก​เหมือน​ฉัน​ทำ​ ร้าน​ขาย​หลู่​ไช่เป็น​ของ​ฉัน​ แน่นอน​ว่า​หลู่​ไช่สูตร​ลับ​ของ​ฉัน​ก็​มีรสชาติ​แบบนี้​”

คุณย่า​ฟางถามด้วย​ความสงสัย​ “หลาน​เปิดร้าน​หลู่​ไช่ใน​เมืองหลวง​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ ทำไม​เรา​ไม่รู้​?”

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “หลังจาก​ภัยพิบัติ​พายุ​หิมะ​น่ะ​ค่ะ​ ฉัน​ขอให้​ผู้จัดการ​ซุน​ทดลอง​การตลาด​โดย​เปิดร้าน​หม้อไฟ​ ร้าน​ปิ้ง​ย่าง​ และ​ร้าน​หลู่​ไช่ เขา​ใช้เวลา​ไม่นาน​และ​เปิด​ขาย​อย่าง​ลับ​ ๆ ซึ่งทำให้​รู้สึก​ประหลาดใจ​อย่าง​มาก​”

เธอ​เห็น​ซุป​หัวไชเท้า​ใส่ปลา​บน​โต๊ะอาหาร​

เธอ​ได้ยิน​มาว่า​ซุป​หัวไชเท้า​ใส่ปลา​สามารถ​ป้องกัน​โรคหวัด​ได้​

หลิน​ม่าย​มอบ​ชามใบ​ใหญ่​ให้​ฟางจั๋ว​หรา​น​และ​วาง​ไว้​ข้างหน้า​เขา​ “รีบ​ซด​ในขณะที่​ยัง​ร้อน​อยู่​นะคะ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ผลัก​ชามซุป​สีน้ำนม​ออก​ไป​และ​พูด​เบา​ “ผม​ยัง​ไม่อยาก​กิน​ตอนนี้​”

สีหน้า​เขา​นิ่ง​เสีย​จน​ไม่อาจ​บอก​ได้​ว่า​ดีใจ​หรือ​โกรธ​

แต่​หลิน​ม่าย​กับ​เขา​เป็น​สามีภรรยา​กัน​ และ​พวกเขา​ก็​รู้จัก​กัน​ดี​ ดังนั้น​เธอ​จึงรู้​ว่า​เขา​โกรธ​

แต่​ทำไม​จู่ ๆ เขา​ถึงโกรธ​?

ขณะ​เขา​สวม​ผ้าคลุมไหล่​ให้​เธอ​ เขา​ยังคง​เป็น​สามีที่​อ่อนโยน​และ​มีน้ำใจ​

การเปลี่ยนแปลง​ของ​ใบหน้า​นี้​ยาก​เกิน​กว่า​จะเข้าใจ​จริงๆ​

“ถ้าคุณ​ไม่อยาก​กิน​ตอนนี้​ก็​ให้​จั๋วเยวี่ย​กิน​ซะ” หลิน​ม่าย​วาง​ชามซุป​ไว้​ข้างหน้า​ฟางจั๋วเยวี่ย​

ฟางจั๋วเยวี่ย​หยิบ​ซุป​และ​ดื่ม​ไป​สามอึก​

ฟางจั๋ว​หรา​น​รู้สึก​โมโห​จน​ควัน​พวยพุ่ง​ออกจาก​หู​

เพียง​เพราะ​ฟางจั๋วเยวี่ย​ช่วย​เธอ​ประดิษฐ์​และ​ติดตั้ง​กล้อง​ จึงทำให้​สามีของ​เธอ​ไม่มีความสุข​

เธอ​มีเวลา​อยู่​กับ​สามีเพียง​สอง​วัน​ต่อ​สัปดาห์​เท่านั้น​

ฟางจั๋วเยวี่ย​ดื่ม​ซุป​ปลา​และ​เอื้อมมือ​จะไป​คีบ​กุ้งทอด​เกลือ​

เขา​กิน​กุ้ง​ทอด​เกลือ​อย่าง​มีความสุข​ แต่​ฟางจั๋ว​หรา​นก​ลับ​หยิบ​จาน​กุ้ง​ทอด​เกลือ​ออก​ไป​

จากนั้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​แกะ​เปลือก​กุ้ง​ให้​หลิน​ม่าย​แล้ว​ป้อน​เข้าไป​ใน​ปาก​ของ​เธอ​

หลิน​ม่าย​กล่าว​ขณะ​กิน​กุ้ง​ที่​เขาแกะ​ให้​ “กุ้ง​จาน​ใหญ่​ขนาด​นี้​ฉัน​กิน​คนเดียว​ไม่หมด​หรอก​ค่ะ​ วาง​ไว้​ที่​เดิม​ก่อน​เถอะ​ ทุกคน​จะได้​กิน​ด้วย​”

คุณปู่​ฟาง คุณย่า​ฟาง และ​โต้​ว​โต้​ว​ไม่ชอบ​กิน​กุ้ง​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงวาง​มัน​กลับ​ที่​เดิม​ และ​เสนอ​ให้​ฟางจั๋วเยวี่ย​กิน​

แต่​ฟางจั๋ว​หรา​น​ปฏิเสธ​อย่าง​หนักแน่น​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​หลิน​ม่าย​ได้​เห็น​หมอ​ฟางผู้​สุขุม​เป็นผู้ใหญ่​แสดง​กิริยา​เหมือน​เด็ก​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ป้อน​กุ้ง​ทอด​เกลือ​จาน​ใหญ่​เข้าไป​ใน​ปาก​ของ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​กิน​กุ้ง​ไป​เต็มๆ​ จน​ไม่อยาก​กิน​กุ้ง​ไป​อีก​สามเดือน​

หลังจาก​แกะ​กุ้ง​ให้​หลิน​ม่าย​แล้ว​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​จดจ่อ​กับ​ปีกไก่​พะโล้​

เขา​นำ​ปีกไก่​พะโล้​ที่​ฟางจั๋วเยวี่ย​กำลังกิน​มาให้​หลิน​ม่าย​และ​พูด​เบา​ ๆ “ที่รัก​ กิน​สิ ช่วงนี้​คุณ​ทำงานหนัก​และ​ดู​ซูบ​ลง​นะ​”

หลิน​ม่าย​หยิบ​ปีกไก่​พะโล้​ที่​เขา​มอบให้​ด้วย​สีหน้า​งุนงง​

เธอ​ไม่สามารถ​บอก​ได้​ว่า​เขา​โกรธ​หรือไม่​

หาก​เขา​ไม่โกรธ​ ทำไม​หน้า​สีหน้า​เขา​ถึงดู​เศร้าหมอง​?

แต่​หาก​เขา​โกรธ​ ทำไม​ถึงจ้อง​แย่ง​อาหาร​จาน​โปรด​ของ​เธอ​จาก​ฟางจั๋ว​เย​วี่ย?​

…………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

คุณหมอ​ออก​อาการ​งอน​แล้ว​ มายืน​ตาก​ลมหนาว​รอ​ตั้ง​นาน​ แต่​ภรรยา​กลับ​เอ็นดู​น้องชาย​มากกว่า​

ไหหม่า​(海馬)