ตอนที่ 713 ข่าวดี

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 713 ข่าวดี

สีหน้าของไป๋ฉีเหอเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ “หากผู้ใดยังทำเรื่องน่าไม่อายและกำเริบเสิบสานเช่นนี้อยู่ ข้าจะรอดูว่าเมื่อพวกเจ้าถูกขับไล่ออกจากตระกูลไป๋แล้ว พวกเจ้าจะเอาหน้าที่ใดไปทำเรื่องหน้าไม่อายอีก”

กล่าวจบไป๋ฉีเหอลุกขึ้นยืน จากนั้นสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปทันที

ไป๋ชิงผิงเดินตามหลังบิดาไปติดๆ

บรรดาทายาทตระกูลบรรพบุรุษไป๋ส่วนหนึ่งที่ติดตามไป๋ชิงผิงไปฝึกซ้อมที่ค่ายทหารต่างลุกตามหลังไป๋ชิงผิงไปเช่นเดียวกัน

บรรดาตระกูลบรรพบุรุษไป๋ที่เหลืออยู่ในหอบรรพชนต่างมองหน้ากันไปมา ทุกคนนึกถึงเรื่องที่อดีตประมุขไป๋ส่งคนมาบอกให้พวกเขาใช้ความกตัญญูบีบบังคับประมุขไป๋ ตอนนี้ผู้ใดกล้าทำเช่นนั้นกัน

ไป๋ฉีเหอกล้ากักบริเวณบิดาแท้ๆ ของตัวเอง ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงพวกเขาเลย หากไป๋ฉีเหอต้องการขับไล่พวกเขาออกจากตระกูลจริงๆ เขามีสิทธิ์ทำได้ในฐานะประมุขของตระกูล

วันที่สิบหก เดือนหนึ่ง สมัยรัชศกเซวียนเจียปีที่สิบเจ็ดเกิดโรคระบาดขึ้นที่เมืองฉินไหวของแคว้นต้าจิ้น ชาวบ้านพากันอพยพหนีออกจากเมือง ส่วนใหญ่ต่างหนีไปยังเมืองซั่วหยาง

วันที่ยี่สิบ เดือนหนึ่ง สมัยรัชศกเซวียนเจียปีที่สิบเจ็ด แม่ทัพหลิวหง เกาอี้จวิ้นจู่นำทัพบุกโจมตีเมืองเย่าหยางของต้าเหลียงอยู่นาน ทว่า โจมตีไม่แตกเสียที กองทัพใหญ่ของต้าจิ้นหยุดชะงักอยู่ที่เมืองเย่าหยาง ในขณะเดียวกันต้าเยี่ยนบุกยึดเมืองในแคว้นเว่ยติดต่อกันสามเมือง กองทัพแห่งต้าเยี่ยนทรงพลังอย่างมาก

วันที่ยี่สิบห้า เดือนหนึ่ง สมัยรัชศกเซวียนเจียปีที่สิบเจ็ด หนานหรงถือโอกาสตอนที่ต้าจิ้นกำลังทำสงครามอยู่กับต้าเหลียงบุกโจมตีเป่ยหรง เป่ยหรงขอความช่วยเหลือไปยังต้าเยี่ยน ทว่า ต้าเยี่ยนกำลังมุ่งทำสงครามทำลายล้างแคว้นเว่ย ไม่อาจปลีกตัวมาช่วยเหลือเป่ยหรงได้ เป่ยหรงจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากต้าจิ้นและต้าเหลียง ทว่า ได้คำตอบเช่นเดียวกัน สุดท้ายพวกเขาจึงได้แต่ขอความช่วยเหลือไปยังซีเหลียง

วันที่ยี่สิบเก้า เดือนหนึ่ง สมัยรัชศกเซวียนเจียปีที่สิบเจ็ด ซีเหลียงบุกโจมตีหนานหรง

ไป๋ชิงเหยียนได้รับข่าวนี้ในคืนของวันที่สิบสาม เดือนสอง

เมื่อคนที่ต่งซื่อสั่งให้นำของขวัญไปมอบให้ตระกูลต่งที่เติงโจวรู้เรื่องที่ซีเหลียงบุกโจมตีหนานหรงจึงรีบขี่ม้ากลับมาซั่งหยางอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุดพัก ผู้ดูแลไม่สะดวกให้เขาเข้าไปยังเรือนหลัง โชคดีที่เขาสนิทกับหลูผิง หลูผิงจึงเป็นคนนำข่าวนี้ไปรายงานที่เรือนปัวอวิ๋น

หลูผิงรู้ว่าแม่ทัพหน้ากากผีแห่งหนานหรงคือไป๋ชิงอวี๋ดังนั้นเขาจึงร้อนใจมาก กลัวว่าไป๋ชิงอวี๋จะมีอันตรายจากทั้งสองทาง

ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ชุนเถาจุดไฟให้สว่างเพื่ออ่านจดหมายในมือ เมื่ออ่านเสร็จจึงเผาทิ้งทันที หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสั่งให้ชุนเถาไปหยิบอุปกรณ์เขียนจดหมายมาพลางกล่าวขึ้น “ตามลุงผิงเข้ามาที”

ชุนเถารับคำ เมื่อเตรียมอุปกรณ์เขียนจดหมายเสร็จ นางจึงเดินออกไปเชิญหลูผิงเข้ามาด้านใน หลูผิงได้ยินเสียงนิ่งขรึมของไป๋ชิงเหยียนดังมาจากฉากกั้นด้านใน “ลุงผิงจงไปพบองค์รัชทายาทที่เมืองหลวงด้วยตัวเอง จากนั้นทูลองค์รัชทายาทว่าซีเหลียงยกทัพประชิดชายแดนหนานหรง ทว่า ยังไม่ได้บุกเข้าไปในหนานหรง ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการสอดแนมแคว้นต้าจิ้น บอกให้องค์รัชทายาททรงอย่าประมาทเด็ดขาด พระองค์สามารถส่งทหารค่ายผิงอันและกองทัพเติงโจวไปเตรียมป้องกันไว้ก่อน จากนั้นสั่งให้กองทัพไป๋ที่รักษาชายแดนของซีเหลียงรอเพื่อรอคำสั่ง”

ขอเพียงมีคำสั่งจากองค์รัชทายาท ถึงเวลานั้นหากเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ ท่านน้าชายของนางที่อยู่เติงโจวจะมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่

“ขอรับ!” หลูผิงรับคำ เตรียมหมุนตัวเดินไปด้านนอก ทว่า ถูกไป๋ชิงเหยียนเรียกไว้เสียก่อน

“ลุงผิงโปรดรอก่อน” ไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่ใต้แสงไฟวางพู่กันลง พับจดหมายสองฉบับให้เรียบร้อย จากนั้นส่งให้ชุนเถา “ลุงผิงจงส่งคนที่ไว้ใจได้นำจดหมายสองฉบับนี้ไปมอบให้ถึงมือท่านน้าชายและแม่ทัพเสิ่นคุนหยางด้วย”

เนื้อหาในจดหมายทั้งสองฉบับมีเพียง…ยับยั้งไม่ให้ซีเหลียงบุกโจมตีหนานหรง

“คุณหนูใหญ่วางใจได้ ข้าจะจัดการให้เรียบร้อยขอรับ” หลูผิงทำความเคารพจากนั้นเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

หนานหรงเกี่ยวข้องกับชีวิตของคุณชาย หลูผิงจึงไม่กล้ารอช้า

เมื่อชุนเถาส่งหลูผิงจากไปเสร็จจึงเดินกลับเข้าไปเติมถ่านในเตาผิง จากนั้นแหวกม่านเข้าไปด้านใน ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่หน้าโต๊ะเล็กท่ามกลางแสงไฟ ชุนเถาเก็บอุปกรณ์เขียนจดหมายพลางกล่าวขึ้น “คุณหนูใหญ่รีบพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนถูกปลุกขึ้นมากลางดึก ตอนนี้จึงไม่รู้สึกง่วงแล้ว “ยามใดแล้ว”

“ยามอิ๋น[1]แล้วเจ้าค่ะ” ชุนเถากอดกระดาษ น้ำหมึกและพู่กันไว้แนบอกพลางขมวดคิ้วแน่น นับตั้งแต่ที่บาดแผลของคุณหนูใหญ่ของนางเริ่มดีขึ้น คุณหนูใหญ่จะตื่นขึ้นมาฝึกฝนร่างกายในยามเหม่า[2]ทุกวัน ไม่หยุดพักแม้แต่วันเดียว แม้ชุนเถาจะรู้ดีว่าตอนนี้คือช่วงปลายของยามอิ๋นแล้ว ทว่า นางสงสารที่คุณหนูใหญ่ถูกปลุกให้ตื่นจึงไม่ได้บอกออกไป “คุณหนูใหญ่พักผ่อนต่ออีกสักนิดเถิดเจ้าค่ะ เมื่อถึงยามเหม่าบ่าวจะปลุกคุณหนูใหญ่เองเจ้าค่ะ”

“ช่างเถิด ข้าไม่ง่วงแล้ว หยิบถุงทรายมาให้ข้าที ข้าจะออกไปฝึกแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืน

ชุนเถาอึกอัก ทว่า นางทำได้เพียงไปหยิบถุงทรายมาให้ไป๋ชิงเหยียน ช่วยผูกถุงทรายไว้กับร่างของหญิงสาว จากนั้นอยู่เป็นเพื่อนหญิงสาวฝึกฝนร่างกายในห้องฝึกซ้อม

บ่าวรับใช้ในเรือนปัวอวิ๋นล้วนเป็นบ่าวรับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่ต่งซื่อหามาให้ ข่าวของไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางแพร่งพรายออกไปอย่างเด็ดขาด

ชาวบ้านเมืองซั่วหยางต่างเข้าใจว่าไป๋ชิงเหยียนได้รับบาดเจ็บหนักจากการช่วยชีวิตองค์รัชทายาท ตั้งแต่เข้าช่วงฤดูหนาวหญิงสาวเกือบไม่รอดถึงสองครั้ง

เมื่อชุนเถาเห็นว่าร่างของไป๋ชิงเหยียนชุ่มไปด้วยเหงื่อ นางจึงค่อยๆ แหวกม่านออกไปสั่งให้โรงครัวเล็กนำน้ำร้อนเข้ามาในห้องได้เลย

เมื่อถงหมัวมัวทดสอบอุณหภูมิของน้ำเสร็จแล้วจึงเดินเข้ามาตามไป๋ชิงเหยียนในห้องฝึกซ้อม ไป๋ชิงเหยียนวางหอกเงินในมือลง รับผ้าเช็ดหน้าจากชุนเถามาซับเหงื่อ

ถงหมัวมัวถือชาร้อนเข้าไปด้านใน จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “คุณหนูใหญ่ น้ำร้อนพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนหายใจเหนื่อยหอบ หยิบถ้วยน้ำชาจากถาดอาหารสี่เหลี่ยมสีดำที่ถงหมัวมัวถืออยู่ขึ้นมาจิบ จากนั้นกล่าวขึ้น “หมัวมัว วันนี้ไม่ต้องเผาไฟในหลุมใต้ดินและจุดไฟในเตาผิงแรงมากนัก อาการของข้าเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ตอนนี้เริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาแล้ว”

ถงหมัวมัวพยักหน้ายิ้มๆ “คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าทราบแล้ว ข้าเห็นว่าคุณหนูใหญ่กำลังจะอาบน้ำจึงสั่งให้สาวใช้จุดไฟแรงหน่อยเท่านั้นเจ้าค่ะ”

ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนทานยาลับที่เซียวหรงเหยี่ยนหมั่นส่งมาให้และยาแก้หนาวที่ท่านหมอหงเก็บมาจากต้าเยี่ยนเป็นประจำ อาการทนหนาวไม่ได้ของหญิงสาวจึงดีขึ้นมากแล้ว

ประกอบกับช่วงนี้ไป๋ชิงเหยียนฝึกฝนร่างกายทุกวันไม่มีหยุดพัก สีหน้าของหญิงสาวจึงดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ถงหมัวมัวจะไม่ดีใจได้อย่างไรกัน

เมื่อไป๋ชิงเหยียนอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวนั่งพิจารณาแผนที่และพงศาวดารของของต้าเหลียงอย่างละเอียด จากนั้นขีดเขียนลงบนแผนที่ ทำสัญลักษณ์ขนาดเล็กระบุสภาพอากาศของแต่ละเดือนไว้ในแผนที่ อีกทั้งระบุว่าเดือนใดอาจเกิดอัคคีภัยขึ้นได้บ้าง

ชุนเถายืนเช็ดผมให้ไป๋ชิงเหยียนอยู่ทางด้านหลัง นางกวาดสายตามองไปยังแผนที่ จากนั้นเอ่ยถาม “คุณหนูใหญ่จะส่งแผนที่นี้ไปให้คุณหนูสี่หรือเจ้าคะ”

“เสี่ยวซื่ออาจได้ใช้มัน” ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองแผนที่นิ่ง

ก่อนที่ไป๋จิ่นจื้อจะออกเดินทาง ไป๋ชิงเหยียนมอบแผนที่และพงศาวดารของต้าเหลียงให้น้องสาวไปด้วย ทว่า หากไป๋ชิงเหยียนเดาไม่ผิด เด็กนั่นไม่มีทางเปิดอ่านแน่นอน ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงต้องลำบากมากหน่อย

อีกแค่วันเดียวแผนที่ฉบับนี้ก็จะสมบูรณ์แล้ว

ไป๋ชิงเหยียนวางพู่กันในมือลง มองแผนที่อย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นกล่าวกับชุนเถา “ให้ชุนจือไปตามลุงผิงมาที ข้าต้องให้เขาหาคนส่งแผนที่ฉบับนี้ไปให้เสี่ยวซื่อ”

“เจ้าค่ะ!” ชุนเถารับคำยิ้มๆ แล้วเดินออกไปบอกให้ชุนจือไปตามหลูผิงมา

ไป๋ชิงเหยียนเพิ่งเก็บแผนที่เสร็จก็ได้ยินเสียงดีใจของถงหมัวมัวดังมาจากด้านนอก “คุณหนูใหญ่ ข่าวดีเจ้าค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองไปนอกฉากกั้นไม้หนานมู่ฝังหยก นางเห็นถงหมัวมัวถลกชายกระโปรงแหวกม่านเข้ามาด้านใน จากนั้นเดินอ้อมฉากกั้นเข้ามาทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “ข่าวดีเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่ ท่านหมอหงคิดยารักษาโรคระบาดได้แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้เขากลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายอยู่ เขาสั่งให้อิ๋นซวงมาเรียนให้คุณหนูใหญ่ทราบเจ้าค่ะ!”

คือข่าวดีจริงๆ ด้วย ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เช่นนี้แสดงว่าวิธีของท่านหมอหงใช้ได้ผลแล้วใช่หรือไม่ คนป่วยที่ใช้ยาตัวนี้หายดีแล้วหรือไม่”

[1] ยามอิ๋น เวลาระหว่าง 03.00-05.00 นาฬิกา

[2] ยามเหม่า เวลาระหว่าง 05.00-07.00 นาฬิกา