“โอ้!” คุณหญิงทารีนาตอบกลับอย่างรวดเร็ว
จากนั้น ทารีนาก็กลั้นอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ต่อไป ร้องไห้แล้ววิ่งพุ่งเข้าไปหาคุณหญิงทารีนา จับคุณหญิงทารีนาเข้ามาก่อน แล้วพูดขอโทษ
เขารู้จริงๆ แล้วว่าตัวเองผิด ไม่ควรที่จะเชื่อคนสุ่มสี่สุ่มห้า จนต้องรับโทษแทนคนอื่น
แล้วเธอได้รับอะไร?
เธอไม่ได้แหละ ไม่เพียงแต่นั่งคุกเปล่าๆไปครึ่งปี คุณคนนั้นก็ไม่ได้ชดใช้หนี้ให้กับที่บ้านอย่างที่พูดไว้
ดังนั้น เธอจึงนั่งคุกไปเปล่าๆครึ่งปี ไม่เพียงเท่านี้ ยังทำให้แม่ตัวเองเสียใจ จนต้องเข็นรถไปทั่วสารทิศเพื่อหาคนช่วยตัวเอง
แม้กระทั่งน้องชายของตัวเอง ก็เพราะว่าเธอติดคุก จนโดนเพื่อนในโรงเรียนแกล้ง
เธอผิดไปแล้วจริงๆ ผิดอย่างมหาศาล!
“ขอโทษค่ะแม่ ขอโทษ” ทารีนาหมอบลงบนตักของคุณหญิงทารีนา ร้องอย่างเสียใจ ร้องอย่างโทษตัวเอง ร้องอย่ารู้สึกผิด
คุณหญิงทารีนาโกรธแล้วโมโหเธอมาก แต่ที่ลูกสาวเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าต้องการใช้หนี้ให้ครอบครัว
เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณหญิงทารีนาจะโกรธและโมโหมาก ก็จะไม่ผลักไสลูกสาว แล้วไม่ทิ้งลูกสาว
ไม่อย่างนั้น เธอจะลำบากหาทางช่วยลูกสาวออกมาทำไม?
วารุณียืนอยู่ข้างรถ มองสองแม่ลูกกอดกันอย่างนั้นเงียบๆ เราเรื่องความคิดถึงตลอดครึ่งปี ไม่ได้เข้าไปรบกวน
จนผ่านไปนานสักพัก คุณหญิงทารีนาก็นึกถึงวารุณี จึงตกลงเบาๆที่บ่าของทารีนา บอกไว้ให้เธอหยุดร้อง เดี๋ยวรีบลุกขึ้น
ทารีนาสูดจมูก เช็ดน้ำตา แล้วลุกขึ้นจาก
คุณหญิงทารีนาจูงมือของเธอ “ทารีนา ไปกันเถอะ ไปเจอคุณหญิงอัณณ์กับแม่หน่อย”
ทารีนาตอบตกลง
สองแม่ลูกเดินมาตรงหน้าวารุณี คุณหญิงทารีนาผลักทารีนาไปตรงหน้าวารุณี “ทารีนา รีบขอบคุณคุณหญิงอัณณ์”
ทารีนามองวารุณี โค้งตัวคำนับวารุณีอย่างสุดตัว “ขอโทษค่ะคุณหญิงอัณณ์ ฉันไม่ควรรับโทษแทนตั้งแต่แรก ขอโทษจริงๆ ค่ะ แล้วก็ขอบคุณที่คุณไม่ทิ้งฉัน จนจับนวิยาได้แล้วช่วยฉันออกมา ขอบคุณจริงๆ ค่ะ!”
เธอได้ยินจากควบคุมพูดว่า นวิยาถูกจับแล้ว และยอมรับสารภาพทั้งหมด
ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่ออกมาเร็วแบบนี้
วารุณีมองที่ทารีนา ไม่ได้เอื้อมมือออกไป พยุงเธอขึ้นมา ริมฝีปากสีแดงพูดขึ้นเบาๆ “ในเมื่อออกมาได้แล้ว จากนี้ไปก็ดูแลคุณหญิงทารีนาดีๆ นะ อย่าเพราะคำยั่วยวนของคนอื่น เลยทำเรื่องประเภทนั้นออกมา โดยเฉพาะถ้าเธอไม่เห็นใครเลยซักคน เรียกฝั่งตรงข้ามก็ไม่ได้ให้เงินเธอเลย เดี๋ยวได้ตอบตกลงรับโทษแทนคนอื่นอย่างโง่ๆ เชียว สุดท้ายแล้ว ก็จะไม่ได้อะไรเลย แล้วยังติดคุกไปอีกครึ่งปีแบบฟรีๆ ”
ทารีนาถูกสิ่งที่วารุณีพูดทำให้หน้าแดงไปถึงหู ไม่เพียงแต่รู้สึกใจฝ่อ แล้วก็ยังเป็นฝ่ายผิดมากด้วย
เธอมองไปที่แม่ของตัวเองที่มีผมหงอก แล้วพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงค่ะคุณหญิงอัณณ์ ฉันรู้แล้วค่ะว่าควรทำยังไงบ้าง บทเรียนครั้งนี้ ฉันไม่ใสซื่อเหมือนเมื่อก่อน ที่เชื่อคนอย่างโง่เขลา ต่อไปนี้ฉันจะดูแลแม่อย่างดี หาธุรกิจทำกับแม่ และก็เลี้ยงดูน้องชาย”
“งั้นก็ดี” วารุณีพยักหน้าด้วยความโล่งใจ
หลังจากนั้นเธอก็ยกแขนดูนาฬิกา “สายแล้ว ฉันไปส่งพวกคุณกลับบ้านก่อนดีกว่า เดี๋ยวฉันมีธุระอย่างอื่นต่อค่ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณหญิงอัณณ์” คุณหญิงทารีนาสองแม่ลูกรีบขอบคุณทันที
วารุณีเปิดประตูรถ แล้วกับทารีนา พากันช่วยพยุงคุณหญิงทารีนาขึ้นรถ หลังจากนั้นก็ขับรถออกไปจากเรือนจำ
ระหว่างทาง วารุณีพูดคุยกับทารีนาไปมากมาย
ในนั้น ทารีนาก็ถามถึงเหตุการณ์ปัจจุบันของนวิยา
วารุณีเองก็ไม่ได้ปิดบังเธอ เลือกเรื่องที่พูดได้ บอกเธอไป
หลังจากที่ทารีนาได้ฟัง ก็รู้สึกพอใจหลังจากการได้แก้แค้น
“เยี่ยมไปเลยค่ะ เธอทำเรื่องเลวร้ายมาขนาดนั้น มันก็เป็นราคาที่เธอควรจะต้องจ่าย!” ทารีนากำหมัดแน่น พูดด้วยความโกรธเคือง
วารุณีที่ขับรถอยู่ “เธอพูดถูก”
ไม่นาน ทารีนาสองไม่ลูกมาถึงบ้าน
วารุณีปฏิเสธคำเชิญของสองแม่ลูก แล้วขับรถออกไปคนเดียว ตรงไปที่คฤหาสน์ตระกูลแก้วสุทธิ
นัทธีได้นำไปที่นั่นก่อนแล้ว
ตอนนี้ทารีนาออกมาแล้ว นวิยาเองก็ถึงเวลาที่จะต้องจ่ายคืน
เธออยากเข้าไปดู ว่านัทธีจะจัดการยังไง
ตอนนี้ คฤหาสน์ตระกูลแก้วสุทธิ
นัทธีได้ให้บอดี้การ์ดทั้งสองที่เฝ้าประตูเปิดห้อง หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปข้างในพร้อมกับมารุต
ภายในห้อง นวิยาไม่ได้นอนอยู่อย่างปกติ แต่นั่งอยู่บนหัวเตียง
เมื่อเห็นทั้งสองคนเข้ามา เธอก็ยกเปลือกตาขึ้น แล้วพูดอย่าง “นัทธี คุณมาแล้วหรอ?”
“ทารีนาออกมาแล้ว” นัทธีหยุดอยู่ตรงหน้าเตียงไม่ไกล เห็นได้ชัดว่าไม่อยากอยู่ใกล้นวิยามากเกินไปมากเกินไป
เขารังเกียจ
นวิยาเองก็มองออก แล้วยิ้มหัวเราะเยาะตัวเอง
เธอคนนี้ ที่คนอื่นไม่อยากเข้าใกล้ปกติมาก ร่างกายของเธอทั้งสกปรก แถมยังมีกินเหม็น ใครจะอยากเข้าใกล้กัน?
“ใช่หรอ?ทารีนาออกมาแล้ว พวกเธออยากรู้อะไรก็จะได้รู้ทั้งหมด งั้นฉันก็คงหมดประโยชน์แล้วสินะ ได้เลยนัทธี เธอจะจัดการฉันแล้วใช่มั้ย?” นวิยา หยิบของที่อยู่ใต้เตียงแน่นแล้วพูด
นัทธีเม้มปาก ไม่พูดอะไร
นวิยามองไปที่เขา “เธอไม่พูด แสดงว่าฉันทายถูก ให้ฉันคิด เมื่อไหร่จะจัดการฉันยังไง?จับฉันเข้าคุก?หรือว่า……ไม่ ไม่สิ นายเกลียดฉันขนาดนั้น การส่งฉันเข้าคุก ก็เท่ากับปล่อยฉันไป ยังไงการส่งไปคุกมันก็ไม่ได้ทรมานฉัน จะให้ฉันทำไป ศาลก็จะตัดสินมาชีวิตฉันด้วย แต่ก่อนตาย ฉันจะได้ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นผลลัพธ์แบบนี้ นัทธีเธอไม่อยากเห็นแบบนั้นแน่ ยังไงซะฉันก็ฆ่าพ่อกับแม่นายไปแล้ว นายอยากทรมานฉันให้ตายนี่ จะจับฉันส่งคุกได้ยังไงกัน ก็ตายง่ายขนาดนั้นนี่”
นัทธีหรี่ตา “เธอฉลาดเหมือนเดิม ทายถูกทั้งหมด”
นวิยาขำเยาะเย้ย “ช่วยไม่ได้ ฉันรู้จักไหนดีเกินไป นายรักใครสักคน ก็จะยกยอเธอไว้ที่สูง เธออยากได้อะไร นายก็ให้ได้ทั้งนั้น กลับกัน นายเกลียดใครสักคน ก็จะเหยียบเธอให้ตาย พูดได้ว่า นายจะเอาฉันให้ตาย ให้ฉันรับผิดและขอโทษพ่อกับแม่นาย แต่นายจะไม่ปล่อยให้ฉันตายง่ายขนาดนั้นหรอก นายจะทรมานฉัน ปล่อยให้ฉันเจ็บปวดจนตาย ถูกไหม?”
นัทธีพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อเธอรู้แล้ว แล้วเธอพร้อมแล้วหรือยัง?”
“ถ้าฉันบอกว่าไม่พร้อม ฉันจะพูดใจเย็นกับนายแบบนี้เหรอ?” นวิยากางมือแล้วยักไหล่
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ มารุต ให้คนเอาเธอออกไป ย้ายไปที่……”
“รอก่อน!” นัทธียังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกนวิยาตัดบท
เธอกำมือใต้ผ้าห่มแน่ โดยเฉพาะของที่อยู่ในมือ เธอกำไว้อย่างแน่น ฝ่ามือถูกบาด จนเลือดสดไหลออกมาไม่หยุด
แต่เธอไม่สนใจ เธอได้แต่จ้องนัทธี “ฉันรู้ นายอยากให้พวกเขาพาฉันไปที่อื่น แล้วทรมานให้ฉันค่อยๆ ตายไปทีละนิด แต่ฉันจะบอกให้นะนัทธี ฉันไม่ให้นายทำกับฉันแบบนั้นหรอก ฉันนวิยาคนนี้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย มองข้ามคนนับล้าน พูดได้ว่า นวิยาคนนี้อยู่เหนือมาตลอด มีเพียงฉันเท่านั้นที่จะประหารคนอื่น ไม่มีใครมาประหารฉันได้ทั้งนั้น ถ้านายอยากจะประหารฉัน ฉันไม่ให้นายสมหวังหรอก ฉันเคารพในศักดิ์ศรีของฉัน และจะไม่อนุญาตให้ใครมาประหารชีวิตฉันทั้งนั้น”
“เหรอ?แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ?” ริมฝีปากบางของนัทธียกขึ้น
มือของนวิยาที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ในที่สุดก็ดึงออกมา
มารุตมือเลือดที่ไหลออกมาจากมือเธอ ก็อุทานออกมาอย่างอดไม่ได้ “นั่นมันเศษกระจกนี่!”
คมขนาดนั้น บางขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าแผ่นนั้น ถูกเลือกมาอย่างดี