ลี่จุนถิงฟังข้างๆ ดูเหมือนบลัคก์จะไม่รู้ข่าวคราวอะไรเลย การมีฐานที่อยู่ของอาเธอร์ก็พอแล้ว ดังนั้นเขาเลยบอกให้หยุดก่อน
“ชิงโม่ ถามแค่นี้ก่อนเถอะ เขาน่าจะไม่รู้คำถามที่ลับเกินไป ปล่อยเขาเถอะ หาหมอสักคนมาตรวจว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่าสักหน่อยเถอะ”
“เลี้ยงให้เขาอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ หลังจากที่จัดการเรื่องของอาเธอร์เสร็จแล้วค่อยว่ากันว่าจะเอาอย่างไรกับอีกสองคน ดูสิว่าสามารถเอาข่าวอะไรออกมาได้หรือไม่”
“บลัคก์ คุณรู้จักสองคนนี้หรือเปล่า รู้จุดอ่อนของพวกเขาหรือเปล่า”
บลัคก์นวดมือที่เพิ่งถูกปล่อยออก พลางส่ายหัว “ไม่รู้ ฉันไม่รู้จักพวกเขาทั้งสอง คุณดูชุดที่เราใส่ก็รู้แล้ว เราไม่ใช่ทีมเดียวกัน ฉันไม่เคยเห็นพวกเขาเลย”
ลี่จุนถิงพยักหน้า “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ซู่จี้งยี้พาเขาไปที่ที่จัดเอาไว้เถอะ บลัคก์คุณจำเอาไว้นะว่าอย่าเล่นแง่!”
บลัคก์เพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว ก็ได้ยินเสียงเตือนของลี่จุนถิง ก่อนจะหันกลับไปโค้งให้ลี่จุนถิง “ฉันต้องขอบคุณคุณลี่ที่ไม่ฆ่าฉัน”
หลังจากที่พวกเขาสองคนไปแล้ว ลี่จุนถิงก็กำชับชิงโม่ให้เอาข่าวที่บลัคก์ถูกทำร้ายไปปล่อยให้สองคนนั้นฟัง
“ดูสิว่าหลังจากที่พวกเขารู้ข่าวแล้ว จะมีอะไรเปลี่ยนไปไหม ปกติก็ต้องเอาอะไรยัดปากของพวกเขาเอาไว้ เพื่อไม่ให้กัดลิ้นฆ่าตัวตาย”
“เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว เราก็เตรียมตัวหน่อย เดี๋ยวตอนบ่ายจะไปตรวจสอบฐานที่อยู่เหล่านั้นของอาเธอร์”
ก่อนจะออกจากฐานทัพ ลี่จุนถิงก็กำชับซู่จี้งยี้ให้จัดการเรื่องที่นี่ให้เสร็จแล้วรีบกลับไปที่บริษัท ไม่อย่างนั้นพวกเขาทั้งสองไม่อยู่ที่บริษัทมันจะไม่ได้
หลังจากที่ออกมาจากฐานทัพ ลี่จุนถิงกับชิงโม่ก็กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลลี่ หนึ่งเพราะตอนเช้าออกมาอย่างรีบร้อน เลยไม่ได้บอกเจียงหยุนเอ๋อก่อน
สองก็เพราะห้องหนังสือในบ้าน ออกแบบเอาไว้ครบครันมากกว่าเดิม เลยตรวจสอบที่อยู่ที่อื่นๆ ของอาเธอร์ตามที่บลัคก์บอกได้ด้วย
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีล้ำสมัยจะสามารถให้เขาเลือก แล้วสรุปออกมาตามเกณฑ์ จากนั้นก็คาดเดาออกมาได้ แต่ว่าอาเธอร์มีความระแวงมาก มีแผนมากมาย แถมยังติดกับลี่จุนถิงจนทรมานครั้งแล้วครั้งเล่า จะต้องมีความระวังมากกว่าเดิม ฐานที่อยู่จากนี้อาจจะไม่ได้เป็นไปตามเกณฑ์ก่อนหน้านี้ก็ได้
แต่ว่า คนคนเดียวจำอยากออกจากเกณฑ์ของตัวเองขนาดไหน แต่ว่าการหาที่หลบซ่อนของเขาก็ยังมีข้อแม้ของตัวเองอยู่ แบบนี้ ยังพอจะเดาออกมาได้
ลี่จุนถิงกลับมาถึงที่บ้านก็เพิ่งจะแปดเก้าโมง เจียงหยุนเอ๋อกำลังพากุ่นกุ่นเจ้าน้อยมาเล่นของเล่น เด็กน้อยพิงเจียงหยุนเอ๋อพลางนั่งอยู่บนโซฟาของห้องรับแขก เมื่อเห็นลี่จุนถิงเข้ามา ก็เริ่มส่งเสียง และยื่นมือน้อยๆ ไปหาลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงเปลี่ยนรองเท้า ก่อนจะยิ้มพลางเดินไปหากุ่นกุ่นเจ้าน้อย เมื่อเดินไปอยู่ตรงหน้าเธอ ก็อุ้มเธอขึ้นสูง กุ่นกุ่นเจ้าน้อยชอบให้ลี่จุนถิงอุ้มเธอให้สูงอยู่แล้ว
ลี่จุนถิงทำแบบนี้ เธอก็หัวเราะ “โฮะๆ” เจียงหยุนเอ๋อคงพูดหลายครั้งแล้ว ว่าเด็กน้อยคนนี้จะต้องกล้าหาญมากในอนาคต
ลี่จุนถิงกำลังเล่นกับกุ่นกุ่นเจ้าน้อย เจียงหยุนเอ๋อก็นั่งลงข้างๆ พลางยิ้มแล้วมองท่าทีของพ่อลูก ชิงโม่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะมองฉากที่มีความสุข ก็อิจฉาเป็นอย่างมาก
“พี่สะใภ้ ภรรยาที่เคยคุยกันเอาไว้ล่ะ?จนถึงตอนนี้คุณยังไม่หาให้ฉันเลยนะ”
ชิงโม่ทำหน้าอิจฉาตาร้อน ก่อนจะพูดกับเจียงหยุนเอ๋ออย่างเหน็บแนม
“หลังจากที่เรื่องนี้ผ่านไปแล้ว ฉันจะเริ่มค่อยเริ่มดูแลให้คุณ และจะหาคนที่ดีที่สุดให้”
“ได้ งั้นฉันขอบคุณพี่สะใภ้ก่อนเลยนะ เพื่อรีบหาภรรยา ฉันจะช่วยประธานลี่ให้ดีที่สุด ประธานลี่ เลิกเล่นกันก่อน เราไปทำงานกันเถอะ”
หลังจากที่ชิงโม่เห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อรับรองแล้ว ก็ตื่นเต้นขึ้นมา
“ตอนนี้คุณกลับเริ่มร้อนใจแล้ว” ถึงลี่จุนถิงจะอยากตำหนิชิงโม่ แต่ว่าก็ยังหยุดแกล้งกุ่นกุ่นเจ้าน้อย หลังจากที่เอาเธอส่งให้เจียงหยุนเอ๋อแล้ว ก็กลับไปที่ห้องหนังสือกับชิงโม่แล้ว
หลังจากที่อาเธอร์หนีออกไปเมื่อวาน ก็ไปที่ที่ขังลี่หุยเอาไว้
เมื่อลงจากรถ อาเธอร์ก็ไปเก็บจัดการตัวเอง จากนั้นก็ไปห้องที่ขังลี่หุยเอาไว้ ในตอนนี้ลี่หุยยังไม่ได้สติเท่าไหร่
“ไป พาลี่เจี้ยนหวามาหาฉันที่นี่ด้วย”
เมื่อลี่เจี้ยนหวาเข้ามาก็เห็นลี่หุยที่กำลังไม่ได้สติ เขาอยากจะเข้าไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ว่าเขาเพิ่งขยับ ก็ถูกคนของอาเธอร์ขวางเอาไว้
“คุณอาเธอร์ ลี่หุยเขาเป็นอะไรเหรอ?ขอให้คุณอนุญาตให้ไปดูเขาหน่อยเถอะ”
ลี่เจี้ยนหวาขอร้องกับอาเธอร์อย่างขมขื่น จนเกือบจะคุกเข่าลงอยู่แล้ว
อาเธอร์อยู่บนโซฟา พลางเล่นแหวนที่อยู่ในมืออย่างขาดสติ ผ่านไปสักพัก เขาถึงได้ปรายตามองลี่เจี้ยนหวา
เขาเชิดคางขึ้นเล็กน้อย เพื่อบอกให้พวกเขาปล่อยลี่เจี้ยนหวา เมื่อพวกเขาปล่อยลี่เจี้ยนหวา ลี่เจี้ยนหวาก็รีบเดินเข้าไปอยู่ข้างๆ ลี่หุยทันที
เขาเปิดผ้าปิดตาของลี่หุยออกอย่างช้าๆ “ลี่หุยๆ คุณฟื้นสิ”
ลี่เจี้ยนหวาเอานิ้วมาจับที่ลำคอของลี่หุย เมื่อตรวจดูว่ายังมีชีพจรเต้นอยู่ เขาถึงจะวางใจลง แต่ไม่ว่าเขาจะเรียกลี่หุยอย่างไร ลี่หุยก็ไม่มีการตอบกลับอะไรเลย ลี่เจี้ยนหวาเลยร้อนใจ พลางเงยหน้าขึ้นมา มองอาเธอร์อย่างอ้อนวอน
“คุณอาเธอร์ ลี่หุยเขาเป็นอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไร แค่ฉีดยานอนหลับให้เขาเท่านั้นเอง แต่อาจจะฉีดมากเกินไปหน่อย คุณไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเขาก็ฟื้น”
“โอเคๆ ขอบคุณคุณอาเธอร์มาก คุณอาเธอร์ ปลดเชือกออกจากตัวของลี่หุยได้ไหม ตอนนี้เขาขยับอะไรไม่ได้แล้ว คุณวางใจได้แล้วล่ะ”
ลี่เจี้ยนหวานั่งยองใกล้ๆ ลี่หุย ก่อนจะจับหัวของเขา ด้วยความเป็นห่วงท่าทีของเขา
“ยังไม่ต้องร้อนใจไป เรามาคุยเรื่องของคุณกันดีกว่า”
อาเธอร์ลุกขึ้นจากโซฟา ก่อนจะเดินมาอยู่ตรงหน้าลี่เจี้ยนหวา พลางเตะเขาจนล้มลงกับพื้น
หลังจากที่ลี่เจี้ยนหวาถูกเตะจนล้มลงกับพื้น ก็งงเป็นไก่ตาแตก “คุณ…คุณอาเธอร์ เรื่องอะไรของฉัน”
“คุณพูดกับฉันอย่างมั่นใจ ว่าลี่จุนถิงจะต้องมาช่วยคุณ แล้วใช้เขาในการแลกกับคุณ แล้วผลเป็นอย่างไรล่ะ?คุณก็เห็นสถานการณ์ในวันนี้แล้ว ถ้าเกิดกำลังเสริมของฉันไม่มีถึง ศพฉันคงจะอยู่ตรงนั้นแหละ”
“แต่ว่า คุณไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าเกิดศพของฉันอยู่ที่นั่น ก็แปลว่าศพของคุณก็ต้องอยู่ข้างๆ ฉันนี่แหละ ไมว่าอย่างไร คุณหนีไม่พ้นหรอก”
อาเธอร์จ้องตาเขา ในตามีความโกรธจนแทบลุกเป็นไฟ
“แต่ว่าคุณอาเธอร์ ฉันก็เดาไม่ออกว่ามันจะกลายมาเป็นแบบนี้เหมือนกัน ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เหมือนกัน ใครจะไปรู้ว่าลูกทรพีอย่างลี่จุนถิงจะเลวร้ายขนาดนี้ล่ะ”
“รู้ทั้งรู้ว่าฉันอยู่ข้างคุณ ยังเอาแต่จับจ้องจะทำร้าย คุณอาเธอร์คุณวางใจเถอะ เดี๋ยวฉันเจอเขาเมื่อไหร่ ฉันจะช่วยคุณจัดการเขาแน่ๆ”
ลี่เจี้ยนหวามีชีวิตมานานขนาดนี้ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าอาเธอร์ต้องการอะไรกันแน่ แต่ว่าตอนนี้เขาทำได้เพียงใช้วิธีโง่ๆ ในการรักษาชีวิตของตัวเอง