ตอนที่ฟ้ายังไม่สว่างลี่จุนถิงก็ได้รับข่าวจากซู่จี้งยี้ เป็นที่อยู่ของลี่เจี้ยนหวา
“โอเค ฉันรู้แล้วล่ะ!” ลี่จุนถิงวางสายไป ก่อนจะเตรียมใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป
“เช้าขนาดนี้ คุณจะไปไหน” เมื่อได้ยินเสียงใส่เสื้อผ้าข้างๆ เจียงหยุนเอ๋อก็พลิกตัวมา ก่อนจะโอบเอวของลี่จุนถิง แล้วพึมพำด้านหลังเขา
ลี่จุนถิงหยุดมือที่ใส่เสื้อผ้าอยู่ สีหน้าก็อ่อนโยนลงมาก “มีข่าวคราวจากพ่อแล้ว ฉันเตรียมจะพาคนไปด้วยน่ะ”
เมื่อได้ยินว่าลี่จุนถิงจะไปช่วยลี่เจี้ยนหวา เจียงหยุนเอ๋อก็ตาสว่างขึ้นมาก พลางพูดด้วยความเป็นกังวล “จะอันตรายไหม?”
ลี่จุนถิงยังไม่ทันตอบอะไร เจียงหยุนเอ๋อก็พลิกตัวมานั่งบนขาของเขา “ไม่ได้ๆ ฉันไม่วางใจหรอก ครั้งก่อนที่คุณออกไปเจ็บมาหนักขนาดนั้น”
เจียงหยุนเอ๋อกลัวขึ้นมาจริงๆ เมื่อเห็นใบหน้าเล็กๆ ของเธอที่มีความกังวล ลี่จุนถิงก็ยื่นมือมากอดแล้วบอกกับเธอ “หยุนเอ๋อ ฉันก็ไม่อยากสนใจความเป็นความตายของลี่หุย แต่ว่าพ่อฉัน ถึงอย่างไรก็มีสายเลือดเดียวกับพ่อฉัน”
“คุณพูดมีเหตุผล ฉันเข้าใจ แต่ว่าฉัน……”
เจียงหยุนเอ๋อยังไม่ทันพูดจบก็ถูกลี่จุนถิงจูบ “หยุนเอ๋อ เชื่อฉัน ฉันจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย”
“งั้นคุณจะต้องเป็นคำพูดนะ” เจียงหยุนเอ๋อยังพูดอย่างตึงเครียด
“ฉันจะทำอย่างนั้น” ลี่จุนถิงพูดพลางปล่อยเธอ ก่อนจะยืนขึ้นมาใส่เสื้อผ้าให้ดี พวกซู่จี้งยี้กำลังรอเขาอยู่
ตอนที่เพิ่งจะออกมา เจียงหยุนเอ๋อก็พึมพำเล็กน้อย
ลี่จุนถิงหยุดเดิน ก่อนจะเห็นเธอใส่รองเท้าแตะพลางเดินเข้ามา แล้วจัดคอเสื้อให้เขา ก่อนจะพูดด้วยความรัก “รีบกลับมานะ ฉันกับลูกรอคุณอยู่ที่บ้าน”
“โอเค!” ลี่จุนถิงกอดเธอเต็มแรง ก่อนจะหันตัวเดินออกไป
คนขับรถรออยู่ที่ทางออกด้านนอกแล้ว เมื่อลี่จุนถิงขึ้นรถก็ได้รับสาย ของชิงโม่ทันที
“ประธานลี่ คนของเราเตรียมทุกอย่างจากการตรวจสอบเอาไว้แล้ว ยาเซ็นน่าจะอยู่ที่ภูเขาสันโดษที่หนึ่งในเขตชายแดน แต่สถานที่แน่ชัดนั้นยังหาไม่เจอ”
รถขับไปอย่างรวดเร็วบนถนน ลี่จุนถิงตอบรับเล็กน้อย “จับตาต่อไป!ฉันกำลังจะไปถึงแล้ว!”
เมื่อวางสายไป ลี่จุนถิงก็ไม่ได้ทำอย่างไม่คิด ก่อนจะโทรไปหาอาเธอร์โดยตรง
เสียงทางฝั่งนั้นออกจะวุ่นวาย และได้ยินเสียงคนที่อาเธอร์เอามาด้วยไม่น้อยเลย
ลี่จุนถิงใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเตรียมตัวมาดี
“ฮัลโหล?เพื่อนเก่าของฉัน ทำไมถึงโทรมาหาฉันได้ล่ะ?”
เสียงของอาเธอร์ดังขึ้น เหมือนจะอารมณ์ไม่เลวเลย
“บอกมา ว่าเอาคนไปไว้ที่ไหน?คุณจะให้ทำอย่างไรถึงจะปล่อยได้?”
“เป็นอย่างไร?เอาตามเดิม คือการที่คุณเอาตัวเจียงหยุนเอ๋อมาแลก ฉันไม่ได้จะคืนแค่พ่อคุณ แต่จะคืนน้องชายของคุณด้วย ว่าอย่างไรล่ะ?”
เมื่อได้ยินชื่อของเจียงหยุนเอ๋อ สีหน้าของลี่จุนถิงก็เปลี่ยนไปในทันที “คุณอย่าได้คืบจะเอาศอกนะ!”
“ประธานลี่?แค่นี้ก็โกรธแล้วเหรอ?ดูเหมือนคุณจะไม่อยากช่วยพ่อของคุณนะ”
อาเธอร์พูดพลางส่งสายตาให้คนข้างๆ จากนั้นก็มีสองคนจับมือของพ่อลูกก่อนจะพาออกไป
ทั้งสองบาดเจ็บหนักอย่างเห็นได้ชัด
ถึงลี่หุยจะฟื้นแล้ว แต่ลมหายใจก็ค่อนข้างเบาบาง
แต่ลี่เจี้ยนหวากลับมีเพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น
อาเธอร์กระดิกนิ้ว จากนั้นก็มีคนลากลี่เจี้ยนหวามาอยู่ตรงหน้าเขาทันที
“คุณอาเธอร์……”
เสียงของลี่เจี้ยนหวายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกอาเธอร์เตะเข้าที่หน้าอก เลยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ลี่จุนถิงขมวดคิ้วแน่น
พอได้ยิงเสียงปังๆ ลี่จุนถิงก็เส้นเลือดบนหน้าผากปูด “อาเธอร์คุณอย่าทำอะไรมากเกินไปนะ!เปลี่ยนข้อแลกเปลี่ยนเถอะ ฉันจะแลกกับคุณเอง!”
“แลกงั้นเหรอ?ฉันต้องการเจียงหยุนเอ๋อ!” เขาพูดไปพลางจิกผมของลี่เจี้ยนหวาที่ถูกลูกน้องกดเอาไว้มา “บอกกับลูกชายคุณหน่อย ให้เขาเอาคนมาให้ฉันไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าคุณ!”
เอาเจียงหยุนเอ๋อมาแลกกับชีวิตของพวกเขาพ่อลูก ลี่เจี้ยนหวาไม่มีทางลังเลเลย
จนแทบจะกระโจนเข้าไปแย่งโทรศัพท์จากอาเธอร์ “จุนถิง คุณช่วยพ่อกับน้องชายของคุณหน่อยนะ พวกคุณเป็นพี่น้องต้องช่วยกัน ไม่มีเจียงหยุนเอ๋อ คุณค่อยแต่งงานใหม่ พ่อสัญญาว่าจะหาคนที่ดีกว่าให้คุณ คุณก็ตกลงกับคุณอาเธอร์เถอะ!”
เขาพูดเร็วอย่างไม่หยุด เกรงว่าจะทำให้อาเธอร์โกรธ
ลี่หุยที่อยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น ดวงตาที่ไม่มีแววเองก็ค่อยๆ มีแววขึ้นมา
“ฉันไม่มีทางเอาหยุนเอ๋อให้หรอก!”
“จุนถิง……” ลี่เจี้ยนหวายังพูดไม่ทันจบ เสียงของปลายสายก็ตัดไปเสียแล้ว เลยทำให้เขาร้อนใจจนเหงื่อแตก
ลี่จุนถิงที่อยู่ตรงนี้ก็รวมตัวกับซู่จี้งยี้ ชิงโม่และคนอื่นๆ แล้ว
“ประธานลี่!” เมื่อเห็นเขาลงจากรถ ซู่จี้งยี้กับคนอื่นๆ ก็รีบเข้ามาล้อม
ครั้งนี้มีคนช่วยไม่น้อย
“ยังไม่แน่ใจที่อยู่ที่แน่ชัดอีกเหรอ?” ลี่จุนถิงชายตาขึ้นมามองทางภูเขา ก็เห็นเพียงหมอกปกคลุม ดูลึกจนเกินจะคาดเดา
“ในภูเขาสัญญาณไม่ค่อยดี ตอนนี้ยังหาที่อยู่ที่แน่ชัดไม่ได้ คุณดูสิ?” ซู่จี้งยี้ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง
ชิงโม่เองก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เพราะนี่กำลังจะเข้าไปด้านในภูเขาแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะตกหลุมพรางของฝ่ายตรงข้าม
ลี่จุนถิงเม้มปาก ก่อนจะพูดเสียงเย็นชา “ไม่รอแล้ว!ตามหาให้ทั่วภูเขา!”
ซู่จี้งยี้กับคนอื่นๆ ตกใจอึ้งไป แต่ว่าไม่มีใครเถียง
ชิงโม่กับคนอื่นๆ แบ่งเป็นทีมเล็กๆ อย่างรวดเร็ว ทุกคนมองไปทางทางทั้งสี่ที่ต้องผ่าน ก่อนจะแบ่งหน้าที่กันไปทำ
ลี่จุนถิงตามทีมเล็กๆ ทีมหนึ่งไป เมื่อเห็นเขาตามมา
ซู่จี้งยี้กับคนอื่นๆ เลยโน้มน้าว “ประธานลี่ เราไม่รู้ด้านในภูเขาเลย คุณรออยู่ที่นี่เถอะ!”
“พฤติกรรมของอาเธอร์ร้ายกาจมาก ฉันไปพร้อมกับพวกคุณดีกว่า!” ลี่จุนถิงพูดไปก็เตรียมอุปกรณ์รบที่จะเข้าไปในภูเขาอย่างเต็มที่
ดูท่าทีแล้ว ซู่จี้งยี้เองก็รู้ว่าพูดไปก็ไม่มีผล เลยตอบไป “งั้นคุณต้องระวังหน่อยนะ!”
คนที่เข้าไปลาดตระเวนในภูเขาไม่มีใครเข้าไปทั้งหมด สุดท้ายเลยเหลือชิงโม่อยู่ข้างนอกเพื่อตอบรับเท่านั้น
ให้ทีมเล็กๆ เข้าไปด้านในภูเขาก่อน จากนั้นก็ทีมที่สอง และทีมที่สาม
ลี่จุนถิงกับซู่จี้งยี้เข้าไปในเส้นที่ดูกันดารที่สุด ถนนไม่ค่อยดี แถมด้านในภูเขายังมีหมอกมากมายอีกด้วย
เดินทางมาได้ราวๆ ครึ่งชั่วโมง ถนนด้านหน้านั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นกว้างขึ้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ห่างออกไปไม่ไกล
“พวกคุณไปดูทางนั้นหน่อย อย่าให้ใครเข้ามายุ่งได้!”
“ได้เลย”
“ตื่นตัวกว่านี้หน่อย!ถ้าเกิดเรื่องใหญ่ที่เบื้องบนสั่งมาพังลง ระวังชีวิตไร้ค่าของพวกคุณเอาไว้!”
เสียงร้ายกาจนั้นมันมีเสียงขยับของฝีเท้าอย่างดังสนั่นตามมา และกลับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
ซู่จี้งยี้กับลี่จุนถิงสบตากัน จากนั้นลี่จุนถิงก็พยักหน้า
ซู่จี้งยี้ส่งสัญญาณมือให้ เพื่อบอกให้ทุกคนซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ข้างๆ อีกสักพักจะโจมตีพวกเขา
ใครจะไปรู้ว่ายังไม่ทันจะเข้าที่ ก็ไม่รู้ว่าใครเหยียบกิ่งก้าน
มีเสียงแกร๊กออกมา
“มีคน!”
เมื่อได้ยินเสียงวุ่นวายนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น
คนทางนั้นรวมตัวกันขึ้นมาทันที ลี่จุนถิงเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ปิดบังแล้ว เลยมีเสียงสาดกระสุนดังขึ้นมา มีเสียงปังๆ กับเสียงกรีดร้องเสียงดังปนกันขึ้นมาด้วย