บทที่ 719 เป็นพี่แล้วยังแข่งอีกหรือ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 719 เป็นพี่แล้วยังแข่งอีกหรือ?

บทที่ 719 เป็นพี่แล้วยังแข่งอีกหรือ?

“อี้หย่วน พวกเรานั่งด้วยได้ไหม?” ชายที่ไม่คิดอะไรมากอีกคนเอ่ย

หาได้ยากที่ข้าง ๆ ฉืออี้หย่วนจะมีผู้หญิงด้วย เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องซุบซิบอย่างแน่นอน และโอกาสดี ๆ แบบนี้จะพลาดไปไม่ได้เลย วิธีที่ดีที่สุดคือนั่งด้วยกันแล้วก็คุยแบบนี้ไง

“มาสิ!” ฉืออี้หย่วนขบคิดก่อนตอบตกลง

ถึงจะไม่อยากให้คนกลุ่มนี้รบกวนเวลาที่เขาอยู่ตามลำพังกับเสี่ยวเถียน แต่ยังไงพวกเขาก็เป็นรูมเมทกัน เขาและเสี่ยวเถียนควรเข้าสังคมบ่อย ๆ เพื่อจะได้มีเพื่อนเยอะ ๆ อนาคตอาจปรองดองกันได้มากขึ้น

เมื่อวานเขาก็กินข้าวกับเพื่อนเสี่ยวเถียนแล้ว วันนี้เขาจะแนะนำน้องให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักบ้าง ไม่ใช่เรื่องน่าอึดอัดใจเสียหน่อย

เสี่ยวเถียนมีท่าทีขัดเขินในตอนแรกเพราะไม่รู้จักใครเลย แต่ในเมื่อพี่อี้หย่วนเห็นด้วยแล้ว ยังไงเธอก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย

เด็กสาวยิ้มบาง อาการเขินค่อย ๆ หายไป

“เสี่ยวเถียน นี่คือรูมเมทพี่เอง รวมถึงไอ้หมาด้วย พี่จะแนะนำให้รู้จักนะ” ฉืออี้หย่วนยิ้มแนะ

“ฉันบอกแล้วไงว่าให้เรียกจ้าวเจี้ยนจวิน จ้าวเจี้ยนจวิน ฉันมีชื่อนะ!” จ้าวเจี้ยนจวินตีหน้าซื่อว่า

แต่อี้หย่วนไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะชายตามองด้วย

นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวเถียนพบว่าพี่อี้หย่วนก็มีมุมที่ร้ายกาจกับเขาบ้างเหมือนกัน แสดงว่าเธอยังไม่รู้จักเขาดีสินะ!

“เสี่ยวเถียน คนนี้ชื่อต้วนจื่อหนานพี่ใหญ่ของห้องเราเอง เป็นคนฉงชิ่ง พี่รู้จักร้านนี้ก็เพราะได้เขาพามากินนี่ล่ะ แต่เป็นคนฉงชิ่งเปล่าประโยชน์เหลือเกิน อธิบายอาหารได้ไม่เก่งเท่าเธอสักนิด”

ต้วนจื่อหนานที่ตั้งใจจะทักทายเสี่ยวเถียน หน้าแห้งทันที

ไอ้หนุ่มนี่ พูดจาแบบนี้หมายความว่ายังไง? ไม่ปากร้ายสักวันจะตายหรือไง? แล้วทำไมเขาถึงกลายเป็นคนฉงชิ่งเปล่าประโยชน์ล่ะเนี่ย?

“ฉืออี้หย่วน แกอธิบายให้มันชัด ๆ ซิ!”

“เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละครับ!” เจ้าของชื่อชำเลืองมองอีกฝ่าย

เหอะ ไม่ยอมรับเรอะ?

ก็ไม่ได้คิดเอาไว้สักหน่อย เขาแค่มากินข้าวเฉย ๆ เท่านั้นเองจะรู้ประวัติความเป็นมาได้ยังไงเล่า เรื่องนี้มันมีอะไรให้ภาคภูมิใจเนี่ย?

ฉืออี้หย่วนแนะนำต่อ

หลังจากฟังเสร็จเสี่ยวเถียนก็รู้สึกว่าพี่อี้หย่วนร้ายกาจจริง ๆ ที่ผ่านมาใช้ชีวิตยังไงให้ไม่โดนเพื่อนต่อยเนี่ย

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อซูเสี่ยวเถียน เป็นน้องสาวข้างบ้านที่โตมากับพี่อี้หย่วนค่ะ”

“เสี่ยวเถียนเป็นเด็กปีหนึ่งสาขาภาษาจีนน่ะ! เด็กใหม่ปีนี้เลยนะ” ฝ่ายคนเป็นพี่ยิ้ม แล้วเอ่ยเสริม

ประโยคนี้เหมือนระเบิดออกดังตู้ม

หนุ่มตะลึงงัน จริงหรือหลอกเนี่ย?

เด็กใหม่?

“เสี่ยวเถียน เธอหน้าเด็กหรือ?” ไอ้หมาหรือจ้าวเจี้ยนจวินถามทันที

เด็กสาวจับหน้าตัวเองโดยไม่รู้ตัว ไม่น่าใช่หรือเปล่า? บอกตามตรง รูปร่างหน้าตาเธอก็นับได้ว่าเป็นผู้ใหญ่อยู่นะ แต่คงไม่ถึงกับหน้าเด็กหรือเปล่า?

ฉืออี้หย่วนมองเพื่อนที่กำลังตกใจด้วยสายตาคาดโทษ จากนั้นก็อธิบายให้ฟัง

“ปีนี้เสี่ยวเถียนของเราอายุ 13 ปี!”

เหอะ เจ้าของพวกนี้คิดว่าตัวเองสอบเข้ามหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงได้แล้วภาคภูมิใจนักหรือ แต่วันนี้แหละจะให้พวกเขาได้รู้เองว่าอะไรคือความฉลาด!

ตัวฉืออี้หย่วนไม่คิดปกปิดสีหน้าสักนิด และเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจเหลือเกิน

ต้วนจื่อหนานมองเพื่อนด้วยความแขยง คนไม่รู้ก็คิดว่าเด็กสาวอายุ 13 ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็นสะใภ้มันเสียอีก!

แค่พี่น้องข้างบ้านไม่ใช่หรือไง? ทำตัวโอเวอร์เชียว!

“สอบเข้าได้ตอนอายุ 13 หรือ เสี่ยวเถียน เธอไม่ได้เรียนมัธยมหรือ? ไม่สิ มัธยมต้นปลายมันรวมสี่ปีนี่นา งั้นเธอไม่ได้เรียนประถมน่ะสิ?”

เสี่ยวเถียนไม่รู้จะตอบยังไงดี ว่ากันตรง ๆ คือเธอไม่ได้เรียนประถมดี ๆ ด้วยซ้ำ แล้วก็สอบตรงเข้ามัธยมต้นเลย

แต่มันอธิบายยากน่ะสิ!

“เสี่ยวเถียนฉลาดน่ะ สอบเข้าห้องพิเศษของโรงเรียนมัธยมอันดับ 7 ได้ด้วยนะ!”

ในกลุ่มคนพวกนี้มีคนในเมืองอยู่ด้วย จึงรู้เรื่องห้องพิเศษนี้ได้ทันที

ได้ยินว่าคนสอบเข้าได้คืออัจฉริยะที่แท้จริง

ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับเจ้าตัววันนี้

“สวัสดียัยหนูอัจฉริยะ โอ๊ะไม่สิ เสี่ยวเถียน พวกเรามาทำความรู้จักอีกครั้งนะ พี่ชื่อจ้าวเจี้ยนจวิน จากนี้ไปเรียกพี่เจี้ยนจวินได้นะ!”

เสี่ยวเถียนพูดไม่ออก และไม่รู้จะตอบอีกฝ่ายยังไง

ฉืออี้หย่วนตบมือเพื่อน

“ไอ้หมาที่เหลือ รบกวนหาที่นั่งด้วย!”

ที่จริงเขาก็อยากให้เสี่ยวเถียนเรียกพี่เหมือนกันนะ แต่ไม่รู้ว่าเสี่ยวเถียนอยากได้เพิ่มหรือเปล่า?

ไอ้หมาจ้าวเจี้ยนจวิน “ก็มีที่แล้วไม่ใช่หรือไง?”

เราเริ่มกินข้าวแล้วนะ แล้วตัวเองไม่หาที่นั่งเองหรือไง?

ฉืออี้หย่วนกลอกตา เจ้านี่ไร้ประโยชน์สมชื่อไอ้หมาจริง ๆ!

“มันนั่งได้สี่ห้าคนเองนะ จะยืนกินข้าวหรือไง?”

จากนั้นจ้าวเจี้ยนจวินและเจ้าพวกที่เหลือถึงเพิ่งตระหนักได้ว่าโต๊ะที่อีกฝ่ายนั่งคือโต๊ะเล็ก แต่ตอนนี้เรามีกันหลายคน จะให้อัดในโต๊ะเดียวกันคงไม่ได้!

เขากุลีกุจอไปหาเถ้าแก่เพื่อแก้ปัญหา

คนอื่น ๆ มองจ้าวเจี้ยนจวินที่ฉืออี้หย่วนส่งออกไปแล้วยกยิ้ม

“อย่าคิดจะเป็นพี่ชายเสี่ยวเถียนเชียวล่ะ ฉันเองก็ด้วย เสี่ยวเถียนมีพี่ชายสิบคนเลยนะ!”

เพื่อไม่ให้คนอื่นเหยียบกับระเบิด ฉืออี้หย่วนจึงเอ่ยออกไป

คนอื่นเมื่อรู้อย่างนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก

ถึงเราจะมีพี่น้องในครอบครัว แต่นี่มีสิบคนเลยหรือ ใช่พี่น้องแท้ ๆ หรือเปล่าน่า?

ไม่สิ อี้หย่วนเหมือนไม่มีน้องสาวแท้ ๆ นี่ แล้วยังมีพี่ชายอีกหรือ

อาจจะไม่ใช่พี่แท้ ๆ ก็ได้

“แต่เสี่ยวเถียนอายุน้อยมากเลยนะ เรียกชื่อพวกเราเฉย ๆ คงไม่ดีมั้ง เรียกพี่ดีกว่านะ!” ต้วนจื่อหนานจงใจเอ่ย

เหอะ ไอ้ฉืออี้หย่วนแทบปิดบังความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไม่มิดเลยนะ

ได้ยินแบบนั้นคนโดนนึกถึงทำหน้าเหม็นเบื่อใส่

“ไม่ได้หรอก พวกนายต้องเก่งด้วย!”

ต้วนจื่อหนานตกใจ!

คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน!

ทุกคนมองด้วยสายตาเหลือเชื่อ! จากนั้นก็มองเสี่ยวเถียนอีกครั้ง เป็นพี่ต้องเก่งด้วยหรือ? พวกเราไม่ได้ลงแข่งขันเสียหน่อย

ไอ้ฉืออี้หย่วน เลวเหลือเกินจริง ๆ!

ถึงมันจะฉลาด แต่พวกเราเองก็ไม่ต่างกันหรอกนะ!

เหอะ ๆ อยากฟังสิ่งที่มันพ่นออกมาต่อจัง!