War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2090
ตอนที่ 2,090 : นิพพาน

“ตั้งแต่วันนี้ไป…หรือข้าจะมิมีโอกาสได้พบกับแม่หมออีกแล้วจริงๆ?”

เฟิ่งเทียนหวู่รู้สึกเสียใจไม่น้อย เมื่อคิดว่าต่อไปจะไม่ได้เจอสตรีเบื้องหน้า ‘แม่หมอ’ แห่งเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าคนนี้อีกแล้ว

ถึงแม้นางจะใช้เวลาอยู่ร่วมกับแม่หมอแห่งเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าได้ไม่นาน แต่อีกฝ่ายก็ดูแลนางอย่างดีราวกับนางเป็นลูกหลาน

ทำให้นางที่สูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเล็ก รู้สึกเสมือนได้รับความรักจากมารดา

“ข้าเกรงว่าจักมิมีโอกาสแล้วจริงๆ…เว้นเสียแต่ว่า…”

แม่หมอของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ากล่าวถึงตรงนี้ก็หยุดลง

“เว้นเสียแต่อันใดหรือท่านแม่หมอ?”

เฟิ่งเทียนหวู่รู้สึกสงสัยไม่น้อย

“เว้นเสียแต่…ยุคมนุษย์ปีศาจจะหวนกลับมาอีกครั้ง! อย่างไรก็ตามมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น…อย่างน้อยๆสำหรับเจ้ากับข้า ยุคสมัยมนุษย์ปีศาจย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้!”

แม่หมอกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ

“ยุคมนุษย์ปีศาจ?”

เฟิ่งเทียนหวู่รู้สึกสงสัยเรื่องนี้ไม่น้อย

แม่หมอนับว่าดีต่อเฟิ่งเทียนหวู่นัก เมื่อนางสงสัยก็คอยอธิบายออกมาอย่างอดทนไม่เผยทีท่าเหนื่อยหน่ายรำคาญ

เฟิ่งเทียนหวู่ที่ได้ฟังก็ค่อยๆเข้าใจเรื่องราวในอดีตสมัยยุคมนุษย์ปีศาจ…ยังรู้อีกว่ายุคมนุษย์ปีศาจนั้นเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว สมัยนั้นดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ายังไม่ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ภูมิภาคด้วยซ้ำ

และในสมัยนั้นเผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนเนรเทศก็ได้รุกรานเข้ามาในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า

กล่าวให้ชัดรุกรานเข้ามาในระนาบโลกียะ อันเป็นที่ตั้งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า

“ในช่วงยุคมนุษย์ปีศาจ บรรพบุรุษของตระกูลหงส์ฟ้าเราได้ออกไปกรำศึกและสละชีวิตเพื่อใต้หล้าไม่น้อย เข่นฆ่ายอดฝีมือเผ่าพันธุ์ปีศาจไปมากมาย ทว่านั่นก็ทำให้รากฐานของเผ่าพันธุ์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะวีรชนมากมายในชนเผ่าตายตก…”

“ทำให้ตั้งแต่จบเรื่องราวครานั้น ท่านบรรพชนได้ตรากฏเอาไว้อย่างเข้มงวดเพื่อมิให้เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าถึงกาลสิ้นสูญ พวกเราทำได้แค่อาศัยอยู่ในเขตเผ่าพันธุ์และฟื้นฟูขุมกำลังเท่านั้น ไม่อาจออกไปที่ใดได้ตามใจเพื่อมิให้เกิดอุบัติเหตุอันใด ยังเป็นการป้องกันมิให้ชักนำเภทภัยเข้ามาในเผ่าพันธุ์…”

แม่หมอกล่าวสืบต่อ “เช่นนั้นแล้ว ในปัจจุบันผู้ที่จะสามารถออกจากเขตเผ่าพันธุ์ได้โดยไม่ผิดกฏ ก็คืออาวุโสคุมกฏเท่านั้น! แต่แน่นอนว่าอาวุโสคุมกฏจะออกไปได้ก็มีเงื่อนไขเช่นกัน นั่นคือต้องมีคนของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าฝ่าฝืนกฏออกไปด้านนอกเสียก่อน…!”

“โดยทั่วไปแล้วก็มิค่อยมีคนเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าละเมิดกฏเท่าไหร่…และแม้จะออกไป ทั้งหมดก็ถูกอาวุโสคุมกฏจับกลับมาได้ในเวลาอันสั้นเท่านั้น เพราะด้วยสายเลือดย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่อาวุโสคุมกฏจะตามรอยไปได้”

“เมื่อรู้ว่าต้องตกตายหากคิดจะออกไปชมดูสีสันในโลกภายนอก…เผาพันธุ์หงส์ฟ้าเราก็ยังมิเคยมีผู้ใดโง่งมเช่นนั้น

กล่าวถึงจุดนี้แม่หมอก็หยุดครู่หนึ่งค่อยกล่าวสืบต่อ

“แน่นอนว่าหากยุคมนุษย์ปีศาจหวนกลับมาอีกครั้ง พวกเราเผ่าพันธพุ์หงส์ฟ้าก็มิต้องกระทำตามกฏอีกต่อไป…เพราะพวกเราต้องออกจากที่นี่ไปฆ่าพวกปีศาจจากแดนเนรเทศ!”

“และนี่คือภารกิจสำคัญที่ท่านบรรพบุรุษฝากฝังเอาไว้!”

แม่หมอของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ากล่าวออก ยังเปิดเผยเรื่องราวออกมาอีกด้วย

เว้นเสียแต่ยุคมนุษย์ปีศาจจะหวนกลับมาอีกครั้ง

หาไม่แล้วคนของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปด้านนอกเด็ดขาด

“ยุคมนุษย์ปีศาจอาจไม่มีแล้วหรือ?”

เฟิ่งเทียนหวู่เผยความผิดหวังออกกมา

เพราะจากที่แม่หมอกล่าว

ยุคมนุษย์ปีศาจนั้นพึ่งผ่านพ้นไปไม่กี่แสนปีเท่านั้น

ทว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจจะทำลายม่านพลังกั้นแดนและเปิดรอยแยกมิติบุกรุกเข้ามาที่ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าได้อีกครั้ง ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยล้านปีนับจากตอนนั้น

ด้วยเหตุนี้แม่หมอจึงกล่าวออกมาว่า

ในยุคนี้ของนางกับเฟิ่งเทียนหวู่ คงยากที่จะได้เจอกันแล้ว

ทว่าบางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกนัก

บางครั้งสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้อยู่ๆก็อุบัติขึ้นอย่างกะทันหัน

เป็นไปไม่ได้ที่ชีวิตนี้จะพบพานยุคมนุษย์ปีศาจ?

เห็นได้ชัดว่าวาจาของแม่หมอนั้นไม่อาจใช้กับดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องล่างในเวลานี้ได้เลย

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เผยให้รู้ถึงสิ่งหนึ่ง

อนาคตนั้นนับเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนอย่างแท้จริง แม้จะเป็นแม่หมอของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า ก็มิอาจทำนายทายทักได้แม่นยำทุกครั้ง ดั่งคำกล่าวโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน!

“ตอนนี้ผายลมเฒ่านั่นมารอให้ข้าพาเจ้าไปส่งอยู่ด้านนอกแล้ว…มาเถอะ”

แม่หมอเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ากล่าวออกอีกครั้ง สะบัดมือใช้พลังไร้สภาพขุมหนึ่งคลุมร่างเฟิ่งเทียนหวู่เอาไว้ ค่อยพากันออกจากดินแดนแห่งนิพพานไปยังแท่นบูชาของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า

หลังจากนั้นนางก็พาเฟิ่งเทียนหวู่ไปส่งที่ชายขอบม่านพลัง

แน่นอนว่าแม้นางจะเป็นแม่หมอของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า แต่นางก็ไม่อาจละเมิดกฏของบรรพชน ก้าวออกไปจากเขตแดนของเผ่าพันุ์หงส์ฟ้าได้

นางทำได้แค่มาส่งเฟิ่งเทียนหวู่ที่ชายขอบเท่านั้น

ในระหว่างที่เฟิ่งเทียนหวู่ถูกแม่หมอพาตัวไปพบเฒ่าพยากรณ์ที่รออยู่ด้านนอกนั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวเอง กระทั่งตัวนางเองยังรู้สึกว่าเสมือนฝันไปก็ไม่ปาน…

เรื่องราวดั่งความฝันนั้นบังเกิดขึ้นหลังจากที่นางออกจากคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน อันเป็นขุมพลังชั้น 5 เพื่อไปตามหาชายในฝันของนางอย่างต้วนหลิงเทียน…

ตอนนั้น ในขณี่นางเดินทางไปอย่างไร้ทิศทาง

อยู่ๆพลันมีชายชราที่อ้างตัวว่าเป็นอาจารย์ลุงพยากรณ์ของนางมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า อีกฝ่ายยังรู้อีกด้วยว่านางคือผู้สืบทอดของหงส์ฟ้าจรัสแสง แถมกล่าวถึงเรื่อง 7 ทวาราเที่ยงแท้ที่อาจารย์ของนางเคยพร่ำบอกมาก่อน

ดังนั้นนางจึงเชื่อถือคำพูดของชายชรา

แน่นอนว่าต่อให้นางไม่เชื่อ แต่หากชายชราต้องการพาตัวนางไปนางก็ไม่อาจไม่ไป!

ตอนแรกเพราะคิดถึงต้วนหลิงเทียน นางจึงคิดจะยืนกรานปฏิเสธชายชราถึงที่สุด

ทว่าชายชรากลับบอกว่าหากนางอยากพบต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง มีแต่ต้องไปภูมิภาคเบื้องบนขอดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเท่านั้น และชายชรายังสัญญากับนางว่านางจะได้พบกับต้วนหลิงเทียนอีกครั้งที่ภูมิภาคเบื้องบน

เพื่อที่จะได้พบเจอต้วนหลิงเทียน เช่นนั้นนางจึงยอมตามชายชรามาภูมิภาคเบื้องบนแต่โดยดี ยังเชื่อคำของชายชราเดินทางมายังเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าแห่งนี้

‘ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าท่านย่าของข้าที่แท้จะมีสายเลือดของแม่หมอแห่งเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าได้…แต่สายเลือดของท่านย่าน่าจะเข้มข้นกว่าข้ามาก’

เมื่อมาถึงเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าเฟิ่งเทียนหวู่ก็ได้รับทราบ

นางมีสายเลือดของแม่หมอเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าไหลเวียนอยู่!

เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าแต่ละรุ่นนั้นจะมีแม่หมอเพียงคนเดียวเท่านั้น และสายเลือดของแม่หมอก็เป็นอะไรที่ถือว่าสูงส่งนัก เพราะแม่หมอคือผู้พยากรณ์ มีความสามารถในการทำนายทายทักของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า จึงเป็นที่นับถือของผู้คนในเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า

แม่หมอแห่งเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าคือผู้ที่หยั่งรู้อนาคตได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นดั่งบัญญัติของโลกหล้า!

‘ย้อนกลับไปในอดีตท่านย่าเองก็เป็นผู้พยากรณ์เช่นกัน อีกทั้งยังได้ทำนายชะตาของข้ากับพี่ใหญ่ต้วนเอาไว้…หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ข้าคงไม่มีวันได้เจอกับพี่ใหญ่ต้วน’

นึกถึงเรื่องนี้ หน้างามของเฟิ่งเทียนหวู่พลันปรากฏรอยยิ้มมากความสุข ใจหวนนึกย้อนไปในอดีต

เป็นเพราะท่านย่าของนางมอบคำทำนายเอาไว้

บิดาของนางจึงพานางไปยังเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในอาณาเขตจักรวรรดิศิลาทมิฬ สุดท้ายยังเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองหงส์ฟ้า

และเป็นเพราะคำทำนายของท่านย่า บิดาของนางจึงจัดการประลองหาคู่ขึ้นที่หน้าจวนเจ้าเมืองโดยมีของรางวัลเป็นผลไม้วิญญาณ สุดท้ายจึงได้พบพานเข้ากับต้วนหลิงเทียน และก็เป็นเพราะต้วนหลิงเทียนถึงทำให้นางรอดพ้นชะตาแตกดับของผู้ถือครองร่างจิตวิญญาณแห่งธาตุไฟมาได้

‘โชคดีนักที่ท่านย่าสืบสายเลือดของแม่หมอเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ามา…หาไม่แล้วชั่วชีวิตของ้ขาคงไม่มีวันได้พบพี่ใหญ่ต้วน และคงตกตายไปตั้งแต่อายุ 30 แล้ว…’

นึกถึงเรื่องนี้เฟิ่งเทียนหวู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ

แต่ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่สุดท้ายการได้รู้จักกับพี่ใหญ่ต้วน นับเป็นเรื่องที่ทำให้นางมีความสุขที่สุดในชีวิต

อีกทั้งท่านย่าก็ได้ทำนายไว้แล้วว่าพี่ใหญ่ต้วนคือคู่ชีวิตของนาง!

‘อย่างไรเสียอาจารย์ลุงผู้เฒ่าพยากรณ์คนนั้นช่างยอดเยี่ยมนัก…ยังสามารถทำนายได้ว่าข้ามีสายเลือดเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าทั้งที่ไม่เคยพกันมาก่อน! ในแง่ของการทำนายแล้วดูเหมือนว่าจะเหนือกว่าท่านแม่หมอเสียอีก’

เฟิ่งเทียนหวู่เผลอหันไปมองแม่หมออย่างไม่รู้ตัวขณะลอบกล่าวคำพึมพำในใจ

แน่นอนว่านางย่อมไม่กล้ากล่าวเรื่องนี้ออกมา

“ถึงแล้ว”

ไม่นานแม่หมอก็กล่าวขึ้นอีกครั้ง และตอนนี้ทั้งคู่ก็มาถึงชายขอบเขตแดนเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าแล้ว

“ท่านแม่หมอ”

เมื่อต้องจากไปจริงๆ เฟิ่งเทียนหวู่ก็รู้สึกใจหายอยู่บ้าง ยังรู้สึกไม่เต็มใจนักเพราะนางเองก็รู้สึกเคารพแม่หมอผู้นี้ประหนึ่งมารดาไปแล้ว

“ไปเถอะ”

เมื่อเห็นทีท่าละล้าละลังของเฟิ่งเทียนหวู่ แม่หมอเองก็ใจหายเช่นกัน กระทั่งยังเผลอตัวถึงขั้นคิดจะกล่าวโน้มน้าวออกไป

แต่เพื่อไม่ให้ตัดสินใจทำอะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบ นางเลือกสะบัดมือใช้พลังหอบหิ้วร่างเฟิ่งเทียนหวู่ให้ออกไปจากเขตของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าทันที

หลังจากร่างเฟิ่งเทียนหวู่หายไปจากสายตาของนางแล้ว นางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สองตาหลับลงเปลือกตาสั่นระริก ร่างยังสะท้านไปวูบหนึ่ง ยากระงับอาการสั่นไหวในใจ

หลังอยู่ด้วยกันพักใหญ่เฟิ่งเทียนหวู่ได้เห็นนางเป็นดั่งมารดา แล้วไฉนนางจะไม่เห็นเฟิ่งเทียนหวู่เป็นลูกสาว?

มหาค่ายกลนั้นดั่งจะแบ่งแยกเขตของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ากับโลกภายนอกเอาไว้คนละโลกก็ปาน…ทั้งๆที่ยืนห่างกันแค่ก้าวเดียว ก็เหมือนว่าไกลแสนไกล…

วูบ!

เมื่อแม่หมอของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าลงมือ เฟิ่งเทียนหวู่ก็รู้สึกเพียงเบื้องหน้าอยู่ๆก็วูบดับไป…

พอกลับมามองเห็นเรื่องราวอีกครั้ง นางก็พบว่าตัวเองได้ออกจากเขตของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า และมาปรากฏตัวเหนือหุบเขาแล้ว

“อาจารย์ลุงพยากรณ์”

หลังรู้สึกตัว เฟิ่งเทียนหวู่ที่เห็นชายชราลอยร่างอยู่ไม่ไกล ก็เร่งคารวะทักทายทันที

ชายชราคนนี้ก็คือ ผู้เฒ่าพยากรณ์ที่เดินทางมาจากภาคเหนือเพื่อรับตัวเฟิ่งเทียนหวู่

เหตุผลที่ผู้เฒ่าพยากรณ์มารับตัวเฟิ่งเทียนหวู่ เพราะคิดนำนางกลับไปรวมตัวกับผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้คนอื่น จะได้เปิดใช้มหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวารา!

“แม่หนูเทียนหวู่เจ้าประสบความสำเร็จในการเกิดใหม่แล้วหรือ?”

เมื่อลอยร่างเข้ามาใกล้ๆเฟิ่งเทียนหวู่ ผู้เฒ่าพยากรณ์ย่อมสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างขอนางได้ชัดเจน ทำให้สีหน้าของมันเผยความประหลาดใจไม่น้อย

ต้องทราบด้วยว่าตอนที่มันพาเฟิ่งเทียนหวู่มาที่เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าแห่งนี้ เพียงคิดรักษาม้าตายดุจม้าเป็นเท่านั้น

เรื่องทั้งหมดเพราะบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าเคยติดค้าง 7 ทวาราเที่ยงแท้เอาไว้ และด้วยความที่เฟิ่งเทียนกลับมีเศษเสี้ยวสายเลือดแม่หมอของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า

ดังนั้นมันจึงลองพาเฟิ่งเทียนหวู่มาที่นี่ และขอให้เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าลองพาเฟิ่งเทียนหวู่เข้าไปในดินแดนแห่งนิพพานดู

หากผ่านกระบวนการเกิดใหม่ได้ ความแข็งแกร่งของเฟิ่งเทียนหวู่จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก

“ใช่แล้ว”

ได้ยินคำถามของผู้เฒ่าพยากรณ์ เฟิ่งเทียนหวู่พยักหน้าตอบกลับ ค่อยกล่าวเสริมด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ “หากไม่ใช่เพราะท่านแม่หมอทุ่มเทแรงกายใช้ออกด้วยพลังฝึกปรือทั้งหมดของตัวเองผลักดันกระบวนการ…เกรงว่าด้วยสายเลือดเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าแสนเจือจางที่ไหลเวียนอยู่ในร่างข้าเพียงเศษเสี้ยว ข้าคงมิอาจผ่านกระบวนการนิพานมาได้หรอก”

“เช่นนั้นแม่หมอผู้นั้นก็นับว่าดีกับเจ้ามากจริงๆ…”

ผู้เฒ่าพยากรณ์ได้ฟังก็เผยความตื่นเต้นยินดีออกมาอย่างออกหน้าออกตา “ในเมื่อเจ้าประสบความสำเร็จในการกำเนิดใหม่เช่นนี้ หลังเจ้าเข้าใช้มหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวารา ล่ะก็…”

“ในอนาคตเจ้าอาจจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดใน 7 ทวาราเที่ยงแท้ รองจากผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณ!”