War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2091
ตอนที่ 2,091 : พี่ใหญ่ต้วนคือผู้สืบทอดหมอกพิรุณ!?

7 ทวาราเที่ยงแท้นั้น มีผู้สืบทอดทั้งสิ้น 7 ลำดับ

ในบรรดาผู้สืบทอดของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ หมอกพิรุณคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด ยังเป็นผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้อีกด้วย

ยกเว้นหมอกพิรุณแล้ว อีก 6 ทวาราเที่ยงแท้ไม่ใช่ว่าจะเก่งเรื่องต่อสู้ทุกคน

อย่างเช่นผู้สืบทอดนามความลับสวรรค์นั้น บทบาทก็แทบไม่ต่างอะไรจากกุนซือผู้ที่คอยวางกลยุทธ์ และหายุทธิวิธีที่เหมาะสมจากความสามารถทำนายเป็นหลัก

เช่นนั้นจากวาจาของผู้เฒ่าพยากรณ์ย่อมเผยให้เห็นชัดเจน

ว่ามันมองเฟิ่งเทียนหวู่ในแง่ดีไม่น้อย ยังคาดหวังไว้สูงนัก!

ทว่าเฟิ่งเทียนหวู่ที่ได้ยินวาจาของผู้เฒ่าพยากรณ์กลับไม่ได้ตื่นเต้นยินดีอะไรไม่คล้ายจะสนใจเสียด้วยซ้ำ เพียงกล่าวถามออกมาตรงๆอย่างไม่คิดจะอ้อมค้อม

“อาจารย์ลุงพยากรณ์เรื่องอื่นใดช่างมันเถอะข้าไม่สน…ข้าเพียงอยากรู้ว่าเมื่อไหร่ข้าจะได้พบกับพี่ใหญ่ต้วนเสียที”

ตั้งแต่ต้นจนจบเฟิ่งเทียนหวู่ไม่เคยลืมเลือนจุดประสงค์ในการขึ้นมาภูมิภาคเบื้องบนแม้แต่น้อย

นางขึ้นมาที่นี่เพื่อตามหาพี่ใหญ่ต้วนของนาง!

สำหรับเรื่องอื่นๆที่ชายชราบอกให้นางทำนั้น นางเพียงแค่กระทำตามคำของอีกฝ่ายไปเท่านั้น เพราะอีกฝ่ายเป็นคนบอกว่านางจะได้พบพี่ใหญ่ต้วนหลังจากเชื่อฟัง

และในเมื่อนางก็ได้กระทำตามเงื่อนไขของชายชราอย่างไม่ขัดข้องแล้ว

ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ชายชราจะกล่าวบอกนางเรื่องพี่ใหญ่ต้วนเสียที

“นังหนูเทียนหวู่เอย เจ้ายังใจร้อนมิเปลี่ยน…เรื่องบางเรื่องก็ยังมิสมควรแก่เวลา ตอนนี้ข้าเพียงจะบอกให้เจ้ารู้ไว้เรื่องหนึ่ง…”

ได้ยินน้ำเสียงกล่าวถามออกมาด้วยความขึงขังดุดันของเฟิ่งเทียนหวู่ ผู้เฒ่าพยากรณ์ก็ตระหนักได้ทันทีว่านางยากตอแยด้วยได้จริงๆ หากมันบอกปัดปฏิเสธไปเหมือนคนอื่นๆน่ากลัวว่านางมีแต่จะต่อต้านอย่างดื้อรั้นเท่านั้น

“ทว่าเรื่องที่ข้ากำลังจะบอกเจ้านั้น…เจ้าต้องเก็บมันไว้เป็นความลับอย่างมิดชิด หากมิได้รับอนุญาตจากข้าเจ้าห้ามเอามันไปบอกผู้อื่นเด็ดขาด ไม่เว้นแม้แต่สหายคนสนิทของเจ้า เข้าใจหรือไม่?”

ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวออกด้วยท่าทีขึงขังจริงจัง

“ได้”

เฟิ่งเทียนหวู่พยักหน้า นางเองก็ไม่ใช่คนช่างพูดแต่แรก

“ข้ามารับเจ้าไปจากตระกูลเฟิ่งครานี้ ก็กำลังจะพาเจ้าไปรวมตัวกับผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้อีก 5 ลำดับ นอกเหนือจากหมอกพิรุณ…เมื่อผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้มารวมตัวกันครบทั้ง 6 ข้าก็จักสามารถเปิดใช้ มหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวาราที่ท่านผู้อาวุโสฟงชิงหยางตระเตรียมไว้…เพื่อเปลี่ยนชะตาพลิกฟ้าให้พวกเจ้า!”

ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวออกเสียงขรึม

“ทวาราเที่ยงแท้ทั้ง 6 รวมตัว? เปิดใช้มหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวารา?”

เฟิ่งเทียนหวู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำของผู้เฒ่าพยากรณ์

6 ทวารารวมตัว?

ในฐานะทายาทผู้สืบทือดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 5 หงส์ฟ้าจรัสแสง เฟิ่งเทียนหวู่ย่อมรู้ดีว่า 6 ทวารารวมตัวคืออะไร…นั่นหมายความว่านางจะได้พบผู้สืบทอดทวาราอีก 5 ลำดับ ไม่รวมถึงหมอกพิรุณ ผู้สืบทอดลำดับ 1

ถึงแม้นางจะไม่ได้ต้องการพบหน้าหรือรวมตัวอะไรนี่สักเท่าไหร่ แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจอยู่บ้าง

เพราะนางเองก็คิดไม่ถึง

ว่าชายชราเบื้องหน้าจะรวบรวมผู้สืบทอดทวาราเที่ยยงแท้ลำดับอื่นๆจนครบ 6 ลำดับยกเว้นหมอกพิรุณได้แล้ว

“ว่าแต่ มหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวารานั่นมันคืออะไร?”

“มหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวารา เป็นมหาค่ายกลที่จักทำการยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ทั้ง 6 ลำดับนอกเหนือจากผู้สืบทอดหมอกพิรุณ และมหาค่ายกลนี้ยังเป็นสิ่งที่ท่านบรรพชนอย่างอาวุโสฟงชิงหยางทิ้งไว้ให้…”

ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวถึงตรงนี้ใบหน้าก็ฉายความเคารพนับถืออันสูงสุด ค่อยกล่าวสืบต่อ “หลังจากที่ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ทั้ง 6 ลำดับเข้าใช้มหาค่ายกล พรสวรรค์รากวิญญาณ พรสวรรค์ในเชิงยุทธ์จักถูกยกระดับขึ้นไปอย่างสูง”

“กล่าวคือหลังจากเจ้ากับผู้สืบทอดคนอื่นๆเข้าไป พรสวรรค์รากวิญญาณแต่กำเนิดของเจ้าจะยกระดับพัฒนา ด่านพลังฝึกปรือเองก็จะก้าวหน้าขึ้นเช่นกัน”

ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวออกมารวดเดียวจบ

“พรสวรรค์รากวิญญาณแต่กำเนิดจะยกระดับขึ้นอย่างมาก?”

เฟิ่งเทียนหวู่เผยสีหน้าตกใจ “มีผลเช่นเดียวกับการกำเนิดใหม่ในดินแดนแห่งนิพพานของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าหรือ?”

ในดินแดนแห่งนิพพานของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า นอกจากพลังฝึกปรือของเฟิ่งเทียนหวู่จะก้าวหน้าไปไม่น้อย พรสวรรค์รากวิญญาณของนางก็ยกระดับพัฒนาเช่นกัน

และพรสวรรค์รากวิญญาณก็ส่งผลต่อศักยภาพและพรสวรรค์ในการบ่มเพาะฝึกฝนโดยตรง

กล่าวได้ว่าไม่เพียงแต่ดินแดนแห่งนิพพานจะทำให้พลังฝึกปรือของนางเพิ่มพูน หลังจากนี้พลังฝึกปรือของนางจะก้าวหน้าด้วยความเร็วที่เหนือล้ำกว่าเดิม

“คล้ายกับผลของดินแดนแห่งนิพพาน…ทว่าผลลัพธ์ที่ได้นับว่าเหนือกว่าที่เจ้าได้รับจากดินแดนแห่งนิพพานมากนัก”

ในขณะที่กล่าวเรื่องนี้ออกมา ผู้เฒ่าพยากรณ์ก็เชิดหน้ากล่าวออกด้วยความภาคภูมิใจ เห็นชัดว่ามันภาคภูมิใจใน มหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวารามากขนาดไหน…

“ดีกว่าผลที่ได้จากดินแดนแห่งนิพพานอีกหรือ?”

คราวนี้เฟิ่งเทียนหวู่ถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง กว่าจะฟื้นคืนสติ

ในฐานะผู้ที่ได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าอย่างดินแดนแห่งนิพพานมาด้วยตัวเอง เฟิ่งเทียนหวู่ย่อมรู้ดีว่าดินแดนแห่งนิพพานมันยอดเยี่ยมเพียงใด

ทว่ามาตอนนี้ผู้เฒ่าพยากรณ์กลับบอกว่า…

ผลของมหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวารา กลับยอดเยี่ยมเหนือล้ำกว่าผลของดินแดนแห่งนิพพานมาก!

“แน่นอน…ที่ข้ากล่าวไปทั้งหมดยังมิใช่ประเด็น…”

ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวสืบต่อ

และวาจาของมันก็ดึงสติเฟิ่งเทียนหวู่ให้กลับมาจดจ่อตั้งใจฟังอีกครั้ง

“ตอนนี้ 6 ทวารากำลังจักกลับมารวมตัวกัน…หลังจากนั้นทั้ง 7 ทวาราก็จักได้พร้อมหน้า! ทว่ายังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจึงวันที่ 7 ทวาราจะได้มาพร้อมหน้าพร้อมตากัน”

ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวสืบต่อ

7 ทวาราพร้อมหน้าพร้อมตา!

ได้ยินคำของผู้เฒ่าพยากรณ์เฟิ่งเทียนหวู่ก็บังเกิดความสนใจเล็กน้อย

เพราะในบรรดาเรื่องทั้งหมดของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ที่นางอยากรู้ที่สุดก็คือเรื่องของผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณ!

ย้อนกลับไปตอนที่นางยังอยู่ในขุมพลังชั้น 7 อย่างนิกายอัคคีล่องลอยของประเทศฝูเฟิง นางก็ได้ยินอาจารย์อย่างซืออวิ๋นกล่าวออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าในบรรดาผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ทั้ง 7 ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณนั้นร้ายกาจที่สุด!

เมื่อ 7 มาพร้อมหน้าพร้อมตากันจริงๆ นั่นหมายความว่านางจะได้เจอทายาทหมอกพิรุณที่ว่าเสียที

“และวันที่ 7 ทวาราได้มาพร้อมหน้าพร้อมตากันนั้น….”

ขณะเดียวกันผู้เฒ่าพยากรณ์ก็เริ่มกล่าวออกมาอีกครั้ง “ก็เป็นวันที่เจ้าจะได้เจอพี่ใหญ่ต้วนของเจ้า!”

เปรี๊ยง!

วาจานี้ของผู้เฒ่าพยากรณ์ยามดังเข้าหูเฟิ่งเทียนหวู่ เสมือนอัสนียามแล้งที่ฟาดผ่าลงมาโดยไร้ซึ่งการตั้งเค้าใดๆมาก่อน พาลให้เฟิ่งเทียนหวู่ถึงกับอื้ออึงตะลึงงันไปพักใหญ่ยากจะฟื้นความรู้สึกอยู่นาน

วันที่ 7 ทวารามาพร้อมหน้าพร้อมตา คือวันที่นางจะได้เจอหน้าพี่ใหญ่ต้วนหรือ!?

“อะ…อาจารย์ลุงพยากรณ์…ท่านหมายความว่าอะไร?”

เนิ่นนานกว่าเฟิ่งเทียนหวู่จะคืนสติ แต่นางยังตกใจไม่น้อย หลังสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ก็กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงสับสน

“ยาโถวน้อยที่โง่งมนัก ข้ากล่าวถึงขนาดนี้แล้วเจ้ายังมิรู้อีกหรือ…”

ผู้เฒ่าพยากรณ์ส่ายหัวไปมาด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่ต้วนของเจ้าก็คือผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 ของพวกเรา หมอกพิรุณ!”

อันที่จริงตั้งแต่ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวออกมาก่อนหน้า เฟิ่งเทียนหวู่ก็ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้แต่แรกแล้ว ทว่านางยังรู้สึกอื้ออึงเหลือเชื่อและอยากยืนยันให้แน่ชัด

พอมาได้ฟังคำยืนยันของชายชรา นางจึงมั่นใจได้เต็มที่

พี่ใหญ่ต้วนของนางเป็นผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณที่ร้ายกาจที่สุดจริงๆ!

“ไม่คิดเลยจริงๆ…พี่ใหญ่ต้วน…กลับเป็นผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ทว่าราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 และแข็งแกร่งที่สุดใน 7 ทวาราเที่ยงแท้”

ใจเฟิ่งเทียนหวู่เต้นระรัวขึ้นมา อารมณ์ของนางพุ่งพล่านยากสงบลงได้อยู่นาน

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าไฉนวันนั้นท่านอาจารย์ถึงได้กล่าวถามพี่ใหญ่ต้วนว่ารู้จัก 7 ทวาราเที่ยงแท้หรือไม่…ฟังจากที่ท่านอาจารย์กล่าว ‘เขตแดนหมื่นกระบี่’ ที่พี่ใหญ่ต้วนใช้ออก ล้วนเป็นเขตแดนพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณ ผู้ที่มีพลังฝีมือไร้คู่เปรียบคนนั้น!”

ไม่นานเฟิ่งเทียนหวู่ก็จดจำเรื่องราวในนิกายอัคคีล่องลอยวันนั้นได้

วันนั้นหลังอาจารย์ของนางเห็นพี่ใหญ่ต้วนควบแน่นพลังก่อเกิดเขตแดนหมื่นกระบี่ขึ้นมา ก็ตกใจนัก ถึงกับกล่าวถามพี่ใหญ่ต้วนออกมาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ 7 ทวาราเที่ยงแท้หรือไม่

ทว่าพี่ใหญ่ต้วนของนางกลับบอกว่าไม่รู้จัก

ทำให้ตอนนั้นอาจารย์ของนางจึงติดสินไปว่าพี่ใหญ่ต้วนของนางไม่ควรเกี่ยวข้องกับ 7 ทวาราเที่ยงแท้ และเป็นผู้สืบทอดลำดับที่ 1 คนนั้น

“อาจารย์ลุงพยากรณ์…ข้าจำได้ว่าท่านอาจารย์เคยถามพี่ใหญ่ต้วนว่ารู้จัก 7 ทวาราเที่ยงแท้หรือไม่ แต่พี่ใหญ่กลับบอกว่าไม่รู้จัก…ที่แท้เรื่องราวมันอย่างไรกันแน่?”

เฟิ่งเทียนหวู่สงสัยในเรื่องนี้ไม่น้อย

“เจ้าหนุ่มนั่นจะมิรู้จัก 7 ทวาราเที่ยงแท้ก็ไม่แปลก…เท่าที่ข้ารู้ มรดกของผู้สืบทอดหมอกพิรุณนั้นไม่ได้กล่าวถึงเรื่อง 7 ทวาราเที่ยงแท้เอาไว้เลย เพียงกล่าวบอกว่าเป็นผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณเท่านั้น…”

ผู้เฒ่าพยากรณ์อธิบายออกมาอย่างมั่นใจ

เฟิ่งเทียนหวู่ก็เข้าใจได้ทันที

“อาจารย์ลุงพยากรณ์”

ทันใดนั้นคล้ายเฟิ่งเทียนหวู่จะนึกอะไรออก นางเร่งมองถามผู้เฒ่าพยากรณ์ทันทีด้วยสีหน้าจริงจัง “เมื่อครู่ท่านพูดว่ามหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตาที่ท่านอาวุโสฟงชิงหยางทิ้งไว้ มีไว้สำหรับทวาราทั้ง 6 นอกเหนือจากหมอกพิรุณ…เช่นนั้นหมายความว่า มีเพียงผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้เพียง 6 ลำดับ ที่มีสิทธิ์เข้าใช้มหาค่ายกลเพื่อยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณใช่หรือไม่?”

“ใช่”

ผู้เฒ่าพยากรณ์พยักหน้าตอบคำ สีหน้ายังงุนงงเล็กน้อยด้วยไม่เข้าใจว่าไฉนเฟิ่งเทียนหวู่ถึงกล่าวถามเรื่องนี้

“อาจารย์ลุงพยากรณ์…เช่นนั้นข้าสละสิทธิ์เข้ามหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวาราของข้าให้พี่ใหญ่ต้วนได้หรือไม่? พรสวรรค์รากวิญญาณทั้งศักยภาพของพี่ใหญ่จักได้สูงล้ำขึ้น!”

เฟิ่งเทียนหวู่มองกล่าวกับผู้เฒ่าพยากรณ์ด้วยท่าทางจริงจังนัก

วาจาที่กล่าวออกไร้ซึ่งความลังเล แววตาแน่วแน่ ไร้ซึ่งความเสียดายใดๆ…

ไม่เสียใจ!

ได้ยินคำของเฟิ่งเทียนหวู่ ผู้เฒ่าพยากรณ์ถึงกับสะดุ้งโหยง ด้วยเพราะทราบแล้วว่าเฟิ่งเทียนหวู่กำลังเข้าใจผิด

อย่างไรก็ตามมันยังไม่กล่าวอธิบายอะไรออกมา เพียงเลือกที่จะกล่าวถาม “เจ้าวางแผนจะให้สิทธิ์อันล้ำค่าในการเข้าใช้มหาค่ายกลเย้ยฟ้าเปลี่ยนชะตา 6 ทวารากับพี่ใหญ่ต้วนของเจ้าจริงๆ?”

หลังกลาวถามแล้ว ผู้เฒ่าพยากรณ์ยังไม่ลืมกระตุ้นเตือนนาง “เจ้าอย่าได้ลืมไป…หากเจ้าให้โอกาสพี่ใหญ่ต้วนของเจ้าไป เช่นนั้นในภายภาคหน้าเจ้าจักเป็นผู้ที่มีพลังฝีมืออ่อนด้อยที่สุดใน 7 ทวาราเที่ยงแท้ และนั่นจักมิเป็นผลดีอันใดกับเจ้าเลย!”

“ข้าเลือกแล้ว”

เผชิญหน้ากับคำถามทั้งวาจากระตุ้นของผู้เฒ่าพยากรณ์ เฟิ่งเทียนหวู่ยังคงกล่าวตอบออกมาอย่างแน่วแน่ ไร้ซึ่งอาการลังเลใดๆ

สำหรับนางแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าพี่ใหญ่ต้วนของนาง!

นางเคยเสียสละเพื่อพี่ใหญ่ต้วนของนางครั้งหนึ่ง…

ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม…

ความตั้งใจของนางมิเคยเปลี่ยนผัน!

“เจ้านี่มันช่างดีกับเจ้าหนูนั่นจริงๆ…”

เมื่อเห็นว่าเฟิ่งเทียนหวู่ยินดีเสียสละเพื่อต้วนหลิงเทียนขนาดไหน ผู้เฒ่าพยากรณ์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ใจทั้งบังเกิดความอิจฉาต้วนหลิงเทียนขึ้นมาอยู่บ้าง

ไฉนตอนมันยังวัยรุ่น ทั้งๆที่หน้าตามันก็หล่อเหลาแถมฝีมือร้ายกาจ แต่ไม่มีใครทำอะไรเช่นนี้เพื่อมันบ้าง?

หากมีสตรีคนใดทำเพื่อมันและเสียสละให้มันได้ขนาดนี้ล่ะก็…

มันคงไม่โสดอยู่ทั้งที่ชราขนาดนี้หรอก!