บทที่ 803 คนรักในวัยเด็ก

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 803 คนรักในวัยเด็ก

บทที่ 803 คนรักในวัยเด็ก

คนในเงามืดสวมมงกุฏที่เต็มไปด้วยขนนก ทว่าใบหน้าของเขาถูกแต้มด้วยสีหลายสีคล้ายกับลายพราง ในมือถือตราหยกที่มีลวดลายงดงาม ถ้าซูอันอยู่ที่นี่เขาจะเดาได้ทันทีว่ามันจะต้องเป็นตราหยกที่เจียงเจียงต้องการ

นี่คือ ‘เหลียน’ เจ้ากรมพิธีการแห่งราชวงศ์ซาง เขายังเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระเจ้าอู่ติงซึ่งเป็นลูกชายของจักรพรรดิซางองค์ก่อนหน้า

“ตามที่สายในวังบอก อู่ติงพาเจ้าเข้าห้องบรรทม” เป็นการยากที่จะสังเกตความรู้สึกผ่านลวดลายลึกลับที่วาดบนใบหน้าของเขา

“เราไม่ได้ทำอะไรกัน เขาแค่กอดข้า…แล้วจากนั้นพวกเราก็ผล็อยหลับไป…” นางกำนัลรีบอธิบาย

“นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าส่งเจ้าเข้าไปตั้งแต่แรก ไม่ว่าเจ้าและเขาจะมีอะไรกันหรือไม่มี ไม่ว่าทางไหนมันคือสิ่งที่ไม่ได้อยู่เหนือการคาดคะเน” เห็นได้ชัดว่าเหลียนไม่เชื่อนาง ชายและหญิงนอนด้วยกันทั้งคืนบนเตียงเดียวกัน ใครจะไปเชื่อว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น?

นางกำนัลเริ่มตื่นตระหนกอย่างแท้จริง “จักรพรรดิไร้ยางอายผู้นั้นและจักรพรรดินีประกอบกิจกันอยู่เนิ่นนานก่อนที่จะเรียกข้าเข้าไป ดังนั้น เขาจึงเหนื่อยมากจนผล็อยหลับไปขณะกอดข้าไว้”

“จักรพรรดินี…” เปลือกตาของเหลียนกระตุก แววของความหึงหวงเป็นประกายแวบวาบไปทั่วดวงตาของเขาเมื่อคิดว่าชายอีกคนหนึ่งใกล้ชิดกับหญิงสาวที่เขาชื่นชม

อู่ติง! ทุกสิ่งที่เจ้ามีควรเป็นของข้า! วันหนึ่งข้าจะยึดคืนทุกอย่าง บัลลังก์ของเจ้า ภรรยาของเจ้า และทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าเป็นเจ้าของจะเป็นของข้า!

ท่านยั่วยุเหลียนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999…999…999…

ซูอันยิ้มเมื่อเขาสังเกตเห็นคะแนนความโกรธแค้นที่หลั่งไหลเข้ามา ก่อนหน้านี้เขาปะติดปะต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย แต่ตอนนี้ข้อสงสัยของเขาได้รับการยืนยันแล้วว่าเหลียนเป็นตัวปัญหาใหญ่ในการทดสอบนี้

ชายหนุ่มทึ่งกับระบบคีย์บอร์ด มันสามารถติดตามเขาเข้าสู่การทดสอบนี้ที่แม้แต่หมี่ลี่ก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้!

นางถูกบังคับให้อยู่ข้างนอกภายในกระบี่ไท่เอ๋อร์พร้อมกับร่างกายของเขา

แต่อันที่จริงทุกสิ่งทุกอย่างมันก็สมเหตุสมผลดี เนื่องจากวิญญาณเป็นสิ่งที่ถูกดึงเข้าสู่การทดสอบนี้ และระบบคีย์บอร์ดผูกมัดกับจิตวิญญาณของเขาอย่างแน่นหนา ดังนั้น มันจึงย่อมตามมาเป็นธรรมดา

เขารู้สึกขอบคุณระบบคีย์บอร์ดอย่างยิ่งยวด การทดสอบแปลกประหลาดนี้ไม่ได้ให้คำใบ้แก่เขาแม้แต่น้อย เขาต้องพึ่งพาความสามารถในการสืบสวนของตัวเอง ผู้เข้าทดสอบคนอื่น ๆ อาจใช้เวลานานกว่าจะรู้ว่าใครคือศัตรูที่แท้จริง ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นมันก็สายเกินไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน ในกระท่อมที่ห่างไกล เมื่อนางกำนัลเล่าถึงค่ำคืนของนางที่ใช้เวลากับจักรพรรดิเสร็จ นางรีบเปลี่ยนหัวข้อโดยพูดถึงสิ่งที่ซูอัน ฟู่ซัว และเพ่ยเหมียนหมานพูดคุยกัน

เหลียนก็สงบลงหลังจากฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ฟู่ซัวคนนี้น่าหวั่นเกรงจริง ๆ ที่สามารถคิดแผนการเช่นนี้ได้ น่าเสียดายที่เจ้ามาหาข้าสายเกินไป พวกเขาได้กระจายข่าวไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนต่างรู้ว่าจักรพรรดิได้รับพรจากสวรรค์ด้วยนิมิตศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะเรื่องโต๊ะทรายนั้นเยี่ยมยอดจนทำให้ทุกคนต่างเชื่อถืออย่างหมดใจ แม้ว่าข้าจะเป็นเจ้ากรมพิธีการก็ยากเกินกว่าที่ข้าจะหยุดยั้งพวกเขาได้”

“ข้าเดาว่าจักรพรรดิไร้ยางอายผู้นี้ยังมีดีอยู่บ้างไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถสร้างสถานการณ์เช่นนี้ได้” นางกำนัลกล่าว

เหลียนพ่นลมหายใจและกล่าวว่า “ฟู่ซัวน่าจะเป็นคนคิดเรื่องโต๊ะทราย ก่อนที่ฟู่ซัวจะมาเป็นขุนนางเขาทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้างซึ่งทำให้เขามีความรู้เกี่ยวกับอะไรแบบนี้อยู่ไม่มากก็น้อย อู่ติงคงสมอ้างว่าเป็นคนคิดค้นเรื่องโต๊ะทรายเพื่อเพิ่มอิทธิพลให้แก่ตนเอง”

จากสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อวาน นางกำนัลไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นอย่างที่เหลียนพูด แต่ก็รู้สึกไม่อยากขัดแย้งกับเขา “พี่ใหญ่เหลียน เป็นความผิดของข้าเองที่ข้าไม่สามารถบอกท่านได้ทันเวลาและทำให้แผนของท่านยุ่งเหยิง” นางกล่าวในตอนท้าย

“ไม่ได้ยุ่งเหยิงอะไร!” เหลียนโบกมือ “ถ้าพวกเขาต้องการส่งจักรพรรดินีออกไปสู้รบก็ปล่อยไป! สตรีอย่างนางจะเป็นผู้นำกองทัพได้อย่างไร? เมื่อนางผิดพลาดจนสูญเสียทั้งกองทัพ ตำแหน่งจักรพรรดิยิ่งไม่มีทางหลุดพ้นมือข้าไป!”

นางกำนัลยิ้ม นางชอบเห็นด้านที่มั่นใจของเขา

“ทว่า…” เหลียนเปลี่ยนเรื่อง “ข้าเชื่อว่าอู่ติงกำลังสงสัยเจ้า”

“หา!?” นางกำนัลไม่สามารถระงับความตกใจของนางได้

เสียงของเหลียนแข็งขึ้น “ข้าเชื่อว่าเขาจงใจรั้งเจ้าไว้ในวังเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าส่งข่าวถึงข้า”

“ไม่มีทางเป็นไปได้!” นางกำนัลไม่อยากเชื่อว่าคนโรคจิตคนนั้นเป็นนักคิดที่เฉียบแหลม

“ข้าหวังว่าเจ้าจะคิดถูก” เหลียนมองนางด้วยสายตาขัดแย้งและความลังเล “แต่ข้าสามารถบอกได้ว่าอู่ติงค่อนข้างชอบเจ้า บางทีเจ้าสามารถใช้โอกาสนี้เป็นผู้หญิงของเขาและได้รับความไว้วางใจจากเขา”

“อะไรนะ!?” นางกำนัลรู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าฟาด นางไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน “พี่ใหญ่เหลียน ท่านก็รู้ว่าข้ารู้สึกอย่างไรกับท่าน แต่ท่านอยากให้ข้า…”

“แน่นอนเสี่ยวถู่ว เราสองคนรักกันตั้งแต่วัยเด็ก จนบัดนี้ความรักของเรายังไม่เสื่อมคลาย ดังนั้น ต่อให้เจ้าจะสูญเสียความบริสุทธิ์ไป ข้าก็ไม่มีวันดูแคลนเจ้า เมื่อใดที่ข้าขึ้นสู่บัลลังก์ เจ้าจะได้รับแต่งตั้งเป็นจักรพรรดินี!”

เหลียนกล่าวอย่างอ่อนโยน แต่ในขณะที่เขาพูด ใบหน้าอันงดงามของฟู่ห่าวกลับปรากฏขึ้นในใจของเขาแทน

“ไม่มีทางอื่นแล้วเหรอ?” นางกำนัลกัดริมฝีปาก “ข้าใช้วิธีอื่นให้ได้รับความไว้วางใจจากเขาก็ได้! นอกจากนี้ แคว้นเชียงได้เริ่มบุกแล้ว ใครจะไปรู้ เขาอาจจะถูกปลดในเร็ว ๆ นี้ ทำไมข้าต้อง…”

เหลียนตัดบทนาง “ข้าขอให้เจ้าแทรกซึมเข้าไปในห้องนอนของเขา ไม่ใช่แค่เพื่อให้เจ้าได้รับความไว้วางใจจากเขา มันเป็นส่วนสำคัญของแผนอันยิ่งใหญ่ของข้าในภายหลัง!”

“แผนอะไร?” นางกำนัลถึงกับน้ำตาซึม

เหลียนส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดเผย เจ้าจะรู้เมื่อถึงเวลา เจ้าเพียงแค่ต้องจำสิ่งหนึ่งไว้ ใช้เสน่ห์ทั้งหมดเพื่อทำให้เขาหลงใหลในตัวเจ้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น แค่นั้น!”

เสี่ยวถู่วไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่นางได้ยิน

แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดเสียงดัง แต่ทุกคำก็ดังก้องสะท้อนอยู่ในหัวของนาง

นางไม่เคยคิดเลยว่าคู่รักในวัยเด็กจะผลักนางเข้าไปสู่อ้อมแขนของชายอื่นและบอกให้นางทำทุกวิถีทางเพื่อยั่วยวนชายอื่น!

ทันใดนั้น นางก็สงสัยว่านางเลือกถูกหรือไม่

ราวกับสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของนาง น้ำเสียงของเหลียนจึงอ่อนลง “เสี่ยวถู่ว ข้ารู้ว่าคำขอของข้าไม่เป็นธรรมต่อเจ้า ดังนั้น ถ้าเจ้าไม่อยากทำข้าก็จะไม่ห้าม เจ้าเพียงแค่ออกจากวังเท่านั้นพอและตัวข้าเองจะไม่ทำหน้าที่เป็นเจ้ากรมพิธีการอีกต่อไป เราสองคนจะออกเดินทางไปให้ไกลที่สุด ข้าไม่เชื่อว่าอู่ติงจะจับพวกเราได้ง่าย ๆ”

ตอนแรกนางกำนัลค่อนข้างจะวุ่นวายใจ แต่นางก็สงบลงเมื่อได้ยินท่อนสุดท้าย “พี่ใหญ่เหลียน ข้าจะเห็นแก่ตัวและปล่อยให้ความพยายามของท่านสูญเปล่าได้อย่างไร? ท่านเป็นเจ้ากรมพิธีการที่ผู้คนเคารพนับถือ ข้าจะให้ท่านตามข้าไปใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ ได้อย่างไร? นอกจากนี้ ท่านเป็นผู้ที่ควรเป็นจักรพรรดิ แล้วทำไมต้องเป็นฝ่ายเดินจากไปด้วย? พี่ใหญ่เหลียน ข้าชอบท่าน แน่นอนว่าข้าจะช่วยท่าน!”

ความสุขเบ่งบานในหัวใจของเหลียน แต่เขายังคงแสร้งแสดงสีหน้าเศร้าโศก “แต่ข้ากำลังขอให้เจ้าทำเรื่องยากเกินตัว! ไม่ เรามาลองหาวิธีอื่นกันดีกว่า”

นางกำนัลใช้นิ้วแตะริมฝีปากของเขา “มันสายเกินไปแล้วที่จะเปลี่ยนแผนในตอนนี้ ไม่ต้องห่วง ข้ายอมทำทุกอย่างเพื่อท่าน”