บทที่ 804 งานใหญ่หรือความสุขส่วนตน
บทที่ 804 งานใหญ่หรือความสุขส่วนตน
เหลียนจับมือนาง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและเศร้าสร้อยในเวลาเดียวกัน “ข้าเป็นคนผิดที่ทำตัวไร้ประโยชน์จนข้าต้องเสียสละผู้หญิงของตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย…”
สีหน้าของนางกำนัลเบ่งบานด้วยความสุขเมื่อได้ยินคำว่า ‘ผู้หญิงของข้า’
พี่ใหญ่เหลียนของนางไม่เคยพูดคำนี้มาก่อนเลย ดังนั้น เมื่อนางได้ยินเขาพูดเช่นนี้ นางจึงรู้สึกว่าการเสียสละใด ๆ ก็ย่อมคุ้มค่า
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน เป็นบิดาของอู่ติงที่เพิกเฉยต่อขนบธรรมเนียมและส่งต่อบัลลังก์ให้ลูกชายอย่างเห็นแก่ตัว!”
“เสี่ยวถู่ว…” แม้ว่าเหลียนจะมีแรงจูงใจซ่อนเร้น แต่เขาก็ยังรู้สึกกระวนกระวายใจที่ต้องอุทิศคนรักในวัยเด็กของเขาคนนี้ไป
ในทันทีนั้น เขาเกือบจะรู้สึกไม่เต็มใจและอยากล้มเลิก
ท้ายที่สุด เจ้ากรมพิธีการเป็นตำแหน่งที่น่านับถืออยู่แล้ว เหตุใดจึงต้องดิ้นรนเพื่อบัลลังก์? อีกทั้งเขายังมีผู้หญิงที่แสนดีคนนี้อยู่เคียงข้าง…
หัวใจของนางกำนัลเต้นแรง ขณะที่นางถูกจับมือโดยคนที่นางรัก ใบหน้าของนางค่อย ๆ แดงขึ้นและอารมณ์เริ่มพุ่งพล่าน
ทั้งสองค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้กันมากเรื่อย ๆ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ ๆ ภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ปรากฏขึ้นในหัวของนาง และร่างกายของนางก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที
ปฏิกิริยาเล็กน้อยนี้ทำให้เหลียนหลุดจากภวังค์ เขาปล่อยมือนางอย่างรวดเร็ว หลังของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เหลียน เจ้าแบกรับภาระหนักของครอบครัวไว้บนบ่า!
เจ้าจะปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวมาขวางเรื่องสำคัญได้อย่างไร? เจ้าจะทิ้งงานสำคัญที่ทุกคนทุ่มเทลงไปอย่างหนักได้อย่างไร?
อู่ติงจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ถ้าความบริสุทธิ์ของเสี่ยวถู่วถูกพรากไป ทุกอย่างจะพังทลาย!
“เสี่ยวถู่วเจ้าออกจากวังมาระยะหนึ่งแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าต้องกลับแล้ว” ตาของเหลียนสว่างขึ้นอีกครั้งและน้ำเสียงของเขาสงบลงอย่างสมบูรณ์
ความขมขื่นผุดขึ้นในดวงตาของนางกำนัล แต่จิตใจของนางยุ่งเหยิงเช่นกัน นางไม่พูดอะไรอีกเพียงบอกลาเขาก่อนจากไป
สีหน้าของเหลียนเจ็บปวด เมื่อเห็นร่างที่สวยงามของคนรักในวัยเด็กค่อย ๆ หายไปในระยะไกล ทั้งสองคนมีความรักร่วมกันอย่างลึกซึ้งตั้งแต่พวกเขายังเด็ก และไม่มีทางที่ตัวเองจะแข็งใจได้
เขากำหมัดแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “อู่ติง ข้าจะสับศพของเจ้าให้เป็นหมื่นชิ้นอย่างแน่นอน!”
นางกำนัลรู้สึกประหม่าอย่างยิ่งเมื่อนางกลับไปถึงวัง ข้าควรจะยั่วยวนจักรพรรดิไร้ยางอายผู้นั้นอย่างไรดี?
แต่เมื่อนึกถึงพฤติกรรมที่ไร้ยางอายและวิปริตของอีกฝ่าย นางก็เข้าใจได้ชัดเจนว่านางคงไม่ต้องทำอะไรเลย เขาคงจะเข้าหานางด้วยตัวเอง
นางนึกถึงกิจกรรมอันหนักหน่วงของจักรพรรดิและจักรพรรดินีในห้องนอนก่อนหน้านี้รวมกับเรื่องเมื่อคืน ทั้งหมดนั้นทำให้นางก็เริ่มเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองมากขึ้น
…
ในขณะนี้ ซูอันไม่มีอารมณ์จะคิดถึงนางกำนัลคนไหน เขาออกจากห้องบรรทมไปเข้าร่วมพิธีถวายเครื่องบูชาเพื่อขอพรจากสวรรค์ในการเดินทัพ
อาณาจักรแว่นแคว้นมักสร้างขึ้นจากการเสียสละและการสู้รบ
สำหรับราชวงศ์ซาง สองสิ่งนี้นับว่าเป็นการเสียสละและการสู้รบมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด
บุคคลระดับสูงเกือบทั้งหมดในอาณาจักรซางต่างมารวมตัวกันที่ลานบวงสรวงแล้ว ด้านนอกลานนั้นมีแถวของทหารนับหมื่นตั้งแถวรายล้อม
ในบรรดาทหารที่เข้าร่วมพิธี มีทหารชั้นยอดสามพันนายซึ่งคัดมาจากแคว้นอื่น ๆ ที่อยู่ในการปกครอง และอีกหนึ่งหมื่นนายเป็นส่วนหนึ่งของกองราชองค์รักษ์ส่วนพระองค์ของพระเจ้าอู่ติง แต่ละคนมีรูปร่างที่แข็งแรงและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
กองทัพจำนวนขนาดนี้ถือว่าใหญ่โตมากในสมัยโบราณ การส่งทหารออกไปเป็นพัน ๆ นั้นนับได้ว่าไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ทว่าคราวนี้ส่งทหารออกไปมากกว่าหมื่นคนซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เบื้องหลังสีหน้าที่จริงจังของทุกคนมีความประหม่าซ่อนอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าการสู้รบครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร
ทั้งเหลียนและเสี่ยวถู่วต่างไม่มองหน้ากันระหว่างพิธีเพื่อความแนบเนียน ข้อมูลของเสี่ยวถู่วมาช้าเกินไปจนเหลียนไม่อาจคิดหาแผนการขัดขวางหรือสร้างความวุ่นวายได้
เขาทำได้แค่ต้องยอมทำตามที่อู่ติงและฟู่ซัวต้องการเท่านั้น
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาโล่งใจนั่นก็คือฟู่ห่าวเป็นผู้นำทัพไปด้วยตัวเอง ซึ่งมันมันทำให้เขาคิดว่าแผนการของตัวเองจะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก
ฟู่ห่าวเป็นเพียงสตรี ดังนั้น การนำทัพออกไปรบจึงมีโอกาสชนะอันน้อยนิดในความคิดของเขา และเมื่อไรที่กองทัพนี้ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น อู่ติงย่อมสูญเสียความน่าเชื่อถือทั้งหมดไป และเมื่อถึงเวลานั้นมันจะกลายเป็นเขาที่จะเป็นคนปิดฉากอู่ติง!
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีส่วนแรกอย่างเป็นทางการ เมื่อเผากระดองเต่าแล้ว เขาตีความรอยแตกที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของมัน โดยประกาศว่าเทพได้กำหนดชัยชนะแล้ว ทุกคนต่างส่งเสียงโห่ร้อง
แน่นอนว่าเขาจงใจเล่นคำ แม้ว่าการต่อสู้ของกองทัพซางจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ เขาก็ยังสามารถโยนความผิดให้จักรพรรดิแทนได้
คนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมในพิธีไม่ได้สังเกตว่ามีอะไรผิดปกติ แต่ซูอันสงสัยอีกฝ่ายตั้งแต่แรกแล้ว และเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ชายหนุ่มก็เก็บความสงสัยไว้กับตัวเอง เขาไว้วางใจเพ่ยเหมียนหมานและประวัติศาสตร์ที่เคยอ่าน เพ่ยเหมียนหมานจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน และแผนการของเจ้ากรมพิธีการจะไม่มีค่าอะไรให้คำนึงถึง
เมื่อถึงเวลาถวายเครื่องบูชา ซูอันก็ขมวดคิ้ว
เนื่องจากพิธีนี้มีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา จึงเลือกเฉพาะชีวิตมนุษย์ซึ่งนับได้ว่าเป็นเครื่องบูชาที่ดีที่สุดเท่านั้นสำหรับใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ เชลยแคว้นเชียงสิบคนหรือมากกว่านั้นถูกนำตัวออกมา
เมื่อเขาเห็นว่าเชลยเหล่านี้กำลังจะถูกตัดหัวและควักอวัยวะภายในออกมา ซูอันก็รีบประกาศให้ยุติแล้วสั่งให้ใช้ปศุสัตว์แทน
ไม่ใช่เพราะเขาเป็นแม่ชีเทเรซากลับชาติมาเกิด เขาแค่ไม่ต้องการให้เครื่องบูชามนุษย์เหล่านี้จบลงที่โต๊ะอาหารค่ำของเขาหลังจากปรุงเสร็จ
ซูอันได้เรียนรู้จากหยาจางว่าเครื่องบูชาเหล่านี้ถูกปรุงเป็นอาหารอันโอชะหลังจากที่ได้รับการเสนอให้กับเทพเจ้า
อย่างไรก็ตาม เขารู้ดีว่าเชลยเหล่านี้มีค่ามากกว่าจะถูกใช้เป็นเครื่องบูชา
กองกำลังของแคว้นเชียงส่วนใหญ่ตั้งอยู่รอบมณฑลซานซีและกานซู่ เขาวาดแผนที่ให้เพ่ยเหมียนหมานเจ้าใจภาพรวมคร่าว ๆ ของพื้นที่แก่นาง มีเพียงชาวบ้านเท่านั้นที่จะทราบรายละเอียดของภูมิประเทศมากขึ้น
เขาจะฆ่าแผนที่ที่มีชีวิตเหล่านี้ได้อย่างไร?
เขาแบ่งปันความคิดของเขาผ่านกระแสพลังชี่กับเพ่ยเหมียนหมาน และนางก็เห็นด้วยกับเขาทันที ทั้งสองตัดสินใจจะปกป้องคนกลุ่มนี้
คนอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณลานบวงสรวงตกตะลึงทันที เหตุใดจักรพรรดิจึงไม่ใช้ชีวิตมนุษย์ที่มีค่าสูงสุดเป็นเครื่องบูชาเทพ? จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาได้รับการลงทัณฑ์จากสวรรค์?
เหลียนเกือบจะหัวเราะออกมาเสียงดัง หากมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับกองทัพในสนามรบ เขาก็มีวิธีการอย่างแยบยลที่จะกล่าวโทษอู่ติงอย่างสมบูรณ์แล้ว
สิ่งนี้ช่วยเขาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว! ดังนั้น เขาจึงสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเครื่องบูชาครั้งนี้ด้วย
…
หลังจากพิธีการทุกอย่างสิ้นสุดลง กองทัพแห่งอาณาจักรซางออกเดินทัพในทันทีและมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างไม่หยุดพัก โดยไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วชะตากรรมของพวกเขาทั้งหมดจะเป็นเช่นไร
หลายวันต่อมา ซูอันซึ่งอยู่แต่ในวังหลวงจัดการกับกิจการของราชสำนักทุกรูปแบบ เขากวาดล้างกองกำลังกบฏที่ซุ่มซ่อนอยู่ในเมืองอินซางออกไป ขณะที่รอข่าวจากสนามรบอย่างอดทน
ในคืนหนึ่งเสี่ยวถู่วเดินมาถึงหน้าห้องบรรทม นางสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำให้จิตในตัวเองมั่นคง นางรู้ว่าไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของพี่ใหญ่เหลียนกำลังได้รับความเดือดร้อนจากการโจมตีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ นางต้องได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดิและเสาะหาข้อมูลสำคัญบางอย่างโดยเร็วที่สุด