บทที่ 756 ประจบสอพลอ

บทที่ 756 ประจบสอพลอ

หลิวเทียนฉือขัดจังหวะนางในขณะนี้ ราวกับว่ารู้สึกว่านางได้พบคนที่ใช่แล้ว “จากคำพูดของน้องซินเถา ดูเหมือนว่าปกติแล้วน้องซินเถาและกู้เสี่ยวหวานจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน?”

“ยังต้องพูดอีกหรือ ข้าเกลียดนางจนแทบจะอยากฆ่านางให้ตายทั้งเป็น” กู้ซินเถาพูดอย่างโหดเหี้ยม แววตาดุร้ายราวกับอาบยาพิษ

เสี่ยวเถาชำเลืองมอง จากนั้นค่อย ๆ เลื่อนสายตาไปที่อื่น

กู้ซินเถาคนนี้อายุไม่มาก แต่ความคิดของนางนั้นชั่วร้าย

หลิวเทียนฉือไม่คาดคิดว่ากู้ซินเถาและกู้เสี่ยวหวานจะมีความเกลียดชังกันมากขนาดนี้ มันจึงทำให้นางตกใจเล็กน้อย แต่ก็กลับมารู้สึกตัวทันที

ยิ่งความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างกู้ซินเถาและกู้เสี่ยวหวานมีมากเท่าไร มันก็ยิ่งดีเท่านั้น!

นางสามารถชมนกกระยางสู้กับหอยกาบ และชาวประมงอย่างนางก็จะได้ประโยชน์*[1]

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หลิวเทียนฉือก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าอยู่ในเมืองหลวง รอบกายมีแต่เรื่องสกปรกมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าข้าพูดออกไปเกรงว่าจะทำให้เจ้ากลัว เฮ้อ ก็แค่ทาสที่อยู่รอบตัวข้าเอาแต่คุยโวว่าตัวเองเก่งศิลปะการต่อสู้ แต่พอเอาเข้าจริงกลับสู้ไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียว!” หลิวเทียนฉือถอนหายใจและพูดอย่างเศร้าใจ

“ข้าบังเอิญพบว่าฉินเย่จือที่อยู่ข้างกายกู้เสี่ยวหวานมีความเชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้มาก ดังนั้นข้าจึงอยากพาเขาไปด้วย และทำให้เขาเป็นผู้คุ้มกันของข้า แต่กู้เสี่ยวหวานไม่เห็นด้วย ไม่ว่าข้าจะเสนออย่างใจกว้างเพียงใด นางก็ไม่เห็นด้วย ข้าเลยคิดว่าเจ้าที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของนางจะช่วยข้าเกลี้ยกล่อมนางสักหน่อยได้หรือไม่!”

“ว่าอย่างไรนะ?” เมื่อกู้ซินเถาได้ยินว่าหลิวเทียนฉือต้องการพาฉินเย่จือไป นางก็อ้าปากค้าง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

เมื่อเห็นท่าทางที่งุนงงของหลิวเทียนฉือ กู้ซินเถาก็ได้สติทันทีและแสดงท่าทางนิ่งสงบ “นี่… นั่น… เกรงว่า…”

กู้ซินเถารู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย

แม้แต่นางเองก็ยังไม่ได้เขามาเช่นกัน

ตอนนี้ดูเหมือนว่า ฉินเย่จือเป็นเหมือนขนมปังนึ่งที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวน ทำให้นางน้ำลายสอ และต้องการไขว่คว้ามันมา แต่เมื่อยื่นมือออกไปก็พบว่านางไม่อาจคว้าฉินเย่จือมาอยู่เคียงข้างนางได้!

ไม่คาดคิดว่าหลิวเทียนฉือก็จินตนาการถึงมันเช่นกัน

ยิ่งกู้ซินเถาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น และใบหน้าของนางก็บิดเบี้ยวมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

แต่หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้แล้ว นางก็คลายความสงสัย เพราะอย่างไรเสีย หลิวเทียนฉือก็ไม่ใช่คนที่นางจะทำให้ขุ่นเคืองได้!

แต่…

นางไม่โต้เถียงกับหลิวเทียนฉือ อย่างน้อยนางก็สามารถเจรจาเงื่อนไขกับหลิวเทียนฉือได้!

หัวใจของกู้ซินเถาสับสนปนเป และหลังจากมองดูหลิวเทียนฉือแล้ว นางก็ค่อย ๆ เอ่ยปากขึ้นด้วยความลำบากใจ “คุณหนูหลิว ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการช่วยท่าน เป็นเพียงว่าท่านแม่ของข้ายังถูกจองขำอยู่ในคุก ถ้าข้าไม่มีเวลาไปเยี่ยมนาง เกรงว่านางจะทุกข์ทรมานอยู่ในคุกคนเดียว!”

กู้ซินเถาดูเป็นลูกสาวที่รักใคร่แม่ของตนยิ่งนัก ราวกับว่านางกำลังพูดว่าข้าอยากช่วยเจ้าจริง ๆ แต่ถ้าข้าช่วย แม่ของข้าจะต้องอยู่คนเดียวในคุกโดยไม่มีใครดูแล นางรู้สึกอึดอัดมากอยากจะช่วยแต่กลัวว่าจะทำไม่ได้

เมื่อหลิวเทียนฉือได้ยิน ถ้ากู้ซินเถาตกลงที่จะช่วยนางให้ได้ฉินเย่จือมาจริง ๆ ก็จะไม่เป็นปัญหาเลย นอกจากนี้แม่ของกู้ซินเถาก็ยังถูกใส่ร้ายโดยฮูหยินเจียง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลิวเทียนฉือก็ให้คำมั่นสัญญา “น้องซินเถา เจ้าไม่ต้องกังวลไป เรื่องแม่ของเจ้าปล่อยให้ข้าจัดการเถอะ พรุ่งนี้เจ้าสามารถไปที่ศาลาว่าการเพื่อไปรับแม่ของเจ้าออกจากคุก!”

หลิวเทียนฉือไม่ได้ถามความเห็นของฮูหยินเจียงเลยแม้แต่น้อย แต่กลับอ้างแบบนี้ ซึ่งเห็นได้ว่าหลิวเทียนฉือไม่ได้เห็นฮูหยินเจียงในสายตาเลยสักนิด

เมื่อได้ยินสิ่งที่หลิวเทียนฉือพูด กู้ซินเถาก็ตื่นเต้น ดูเหมือนว่าสถานะของหลิวเทียนฉือในตระกูลเจียงนั้นสูงมาก

ถ้านางสามารถประจบหลิวเทียนฉือได้จริง ๆ ในอนาคตเรื่องของนางจะจัดการได้ง่ายขึ้นมาก

ดังนั้นกู้ซินเถาจึงเข้าไปขอบคุณหลิวเทียนฉืออย่างซาบซึ้ง แต่หลิวเทียนฉือคว้านางไว้และพูดอย่างประหม่า “น้องซินเถาไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้น! เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เจ้าจะรักแม่ของตัวเอง แม้ว่าแม่ของเจ้าจะกระทำสิ่งใดผิด การอยู่ในห้องขังนานขนาดนี้ก็เกินพอแล้ว!”

แต่ใครจะรู้ว่าทันทีที่นางพูดแบบนี้ กู้ซินเถาก็น้ำตาไหลพราก “แม่ของข้าไม่ได้ขโมยของของฮูหยินเจียงเลย ของทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งของที่เจียงหย่วนมอบให้ข้า”

“โอ้?” เมื่อกู้ซินเถานำเรื่องของเจียงหย่วนมาพูด หลิวเทียนฉือก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำพูดของกู้ซินเถา “เจ้าและเจียงหย่วนรู้จักกันหรือ? ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อวานเจ้าอยู่ที่ประตูบ้านตระกูลเจียง!”

นางแสร้งทำเป็นอยากรู้อยากเห็น

กู้ซินเถาร้องไห้อย่างเศร้าโศก หลังจากนั้นก็หยุดร้องไห้และบอกหลิวเทียนฉือเรื่องระหว่างเจียงหย่วนและตนเองด้วยน้ำเสียงสะอึนสะอื้น

เสี่ยวเถาที่อยู่ด้านข้างเบิกตากว้างมองกู้ซินเถาด้วยความรังเกียจ

กู้ซินเถาต้องไร้ยางอายขนาดไหนถึงกล้าบอกคุณหนูเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของนางกับผู้ชายคนอื่น? หรือนางคงเป็นคนหนังหนาจนเอาไม้บรรทัดวัดไม่ได้!

เสี่ยวเถารู้สึกขยะแขยง แต่นางกลับยังคงพูดต่อไป

นางบอกหลิวเทียนฉือเกี่ยวกับเรื่องระหว่างนางกับเจียงหย่วน และบรรยายให้เห็นอย่างชัดเจนอีกฝ่ายหลงใหลตนเองขนาดไหน

หลิวเทียนฉือฟังอย่างละเอียด และไม่ได้เอ่ยสิ่งใดหักล้างคำพูดของกู้ซินเถา

การแสดงออกบนใบหน้าของนางเปลี่ยนไปเป็นครั้งคราวตามคำพูดของกู้ซินเถา บางครั้งก็เศร้า บางครั้งก็ว้าวุ่นใจ ดูเหมือนว่านางจะเห็นอกเห็นใจกู้ซินเถามาก

กู้ซินเถาไม่คาดคิดว่าคุณหนูผู้สูงส่งคนนี้จะเข้าถึงได้ง่ายขนาดนี้ และนางยังมีบางอย่างที่จะขอความช่วยเหลือจากคุณหนูตรงหน้า ดังนั้นนางจึงเล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองและเจียงหย่วนให้อีกฝ่ายฟัง

ในตอนท้ายนางยังคงสะอื้นไห้ “ข้ารอเขามานานแล้ว แต่เขากลับไม่ได้มาหาข้าเลยตั้งแต่เขากลับมา แต่อย่างน้อยก็น่าจะมาบอกันสักคำก็ยังดี!”

กู้ซินเถาร้องไห้อย่างโศกเศร้า หลิวเทียนฉือราวเปรียบดังพี่สาวคนโต นางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาและเช็ดน้ำตาของกู้ซินเถาด้วยความทุกข์ใจ

นอกจากนี้นางยังพูดอย่างเศร้าใจ “น้องสาวที่โง่เขลา ไม่ต้องกังวลไป บางทีเจียงหย่วนอาจมีบางอย่างที่ต้องทำในตอนนี้ก็ได้! ไม่ต้องกังวล หลังจากที่เขาทำธุระเสร็จแล้ว เขาจะไปหาเจ้าเองโดยธรรมชาติ”

แต่ในใจกลับดูถูกเหยียดหยามกู้ซินเถา

เมื่อคิดว่าสิ่งที่พ่อของนางพูดก่อนจากมานั้นเกี่ยวข้องกับเจียงหย่วน หลิวเทียนฉือก็รู้สึกขยะแขยงเมื่อนึกถึงรูปร่างที่เตี้ยสั้นอ้วน และใบหน้าแสนธรรมดาของเจียงหย่วน

แม้ว่าตนเองจะไม่ชอบ แต่ก็มีคนชอบ ก่อนนางกลับไป หากทำให้กู้ซินเถาที่อยู่ต่อหน้าคนนี้…

ดวงตาของหลิวเทียนฉือเปลี่ยนเป็นเย็นชา มองไปที่กู้ซินเถาอย่างเฉียบคมและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

*[1] นกกระยางสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์ หมายความว่า สองฝ่ายที่ต่อสู้กันต่างไม่ได้รับผลประโยชน์ แต่กลับให้ฝ่ายที่สามกอบโกยผลประโยชน์ไป