ตอนที่ 1515 รวมตัว (2) / ตอนที่ 1516 รวมตัว (3)
ตอนที่ 1515 รวมตัว (2)
“ดูเหมือนข้าจะมาเป็นคนแรกสินะ” ฮวาเหยาเดินเข้าไปในห้องและมองไปรอบๆ
“ก็เจ้าอยู่ใกล้ที่สุด” จวินอู๋เสียพูดอย่างตรงไปตรงมา
ฮวาเหยานั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้าง ใบหน้าของเขาไม่ยิ้ม แต่ดวงตาแฝงแววอ่อนโยน
เพียงชั่วครู่ก็มีอีกหลายคนปรากฏตัวที่หน้าประตูห้องของจวินอู๋เสีย เฉียวฉู่ ฟ่านจัว เฟยเยียน และหรงรั่ว ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงอย่างรวดเร็ว
สหายทั้งหกคน หลังแยกจากกันพักหนึ่งก็ได้มารวมตัวกันอีกครั้ง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“พวกเจ้าไปแข่งที่สนามไหนกัน ข้าไม่เจอพวกเจ้าเลยสักคน” ทันทีที่นั่งลง เฉียวฉู่ก็รีบถามคนอื่นๆ เขาเข้าร่วมการแข่งพลังวิญญาณ ตอนแรกเขาคิดว่าเมื่อมีสนามแข่งอยู่แค่สี่ประเภท และพวกเขามีกันหกคน นอกจากฮวาเหยาที่จะเข้าร่วมการแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดแล้ว คนอื่นๆ ก็คงไม่มีใครไปเข้าร่วมการแข่งความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษที่เป็นความเชี่ยวชาญของจวินอู๋เสีย
นั่นจะทำให้เขา เฟยเยียน ฟ่านจัว และหรงรั่ว จะต้องแยกกันไประหว่างการแข่งพลังวิญญาณและภูติวิญญาณ เขาคิดว่าจะได้เจอกับพวกเขาอย่างน้อยคนหนึ่งแน่ๆ ใช่หรือไม่เล่า
แต่สุดท้าย เขาก็ไม่เจอใครสักคน
“ข้าไปที่การแข่งภูติวิญญาณ” เฟยเยียนพูดพลางยักไหล่
“ของข้า…พลังวิญญาณ” หรงรั่วกล่าว
“ข้าด้วย” ฮวาเหยาพูดตาม
“ข้าไปที่การแข่งภูติวิญญาณ” ฟ่านจัวพูด
เฉียวฉู่ตะลึงไปชั่วขณะ
“พี่ฮวากับเสี่ยวรั่วไปที่การแข่งพลังวิญญาณหรือ แต่…ทำไมข้าไม่เจอพวกเจ้าสองคนเลยเล่า”
มันเป็นไปไม่ได้!
“ข้าไปเร็วกว่าเจ้าไง” ฮวาเหยาพูด
“ข้าก็ไปเร็วกว่าเจ้าเหมือนกัน” หรงรั่วยักไหล่
“เจ้าสองคนรู้ได้อย่างไรว่าไปเร็วที่นั่นเร็วกว่าข้า!” เฉียวฉู่ถามอย่างขุ่นเคือง
“เพราะตอนที่เราเข้าไปที่สนามแข่ง ข้าเห็นเจ้ากำลังเคี้ยวเจียนปิ่งวิ่งไปที่สนามแข่ง” หรงรั่วคลายข้อสงสัยให้เฉียวฉู่
เฉียวฉู่อ้าปากแล้วหุบปาก และเงียบไปทันที
เขาตื่นสายไปหน่อย ก็เลยไปที่สนามแข่งช้าเล็กน้อย
ฟ่านจัวมองหน้าเฉียวฉู่แล้วหัวเราะ ก่อนจะหันไปถามจวินอู๋เสียว่า “น้องเสียไปแข่งความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษใช่หรือไม่”
จวินอู๋เสียส่ายหน้า
“แล้วเจ้าไปที่ไหน” ฟ่านจัวถาม
“พรสวรรค์แต่กำเนิด” จวินอู๋เสียตอบเสียงเรียบ
สายตาของสหายทุกคนหันมาทางจวินอู๋เสียทันที
“น้องเสีย เจ้าไปแข่ง…พรสวรรค์แต่กำเนิดหรือ ทำไมเล่า” เฉียวฉู่มองจวินอู๋เสียอย่างไม่เข้าใจ สำหรับจวินอู๋เสีย การไปที่สนามแข่งอีกสามแห่งจะเป็นเรื่องง่ายกับนางมากกว่า ทำไมนางถึงเลือกสนามที่ไม่เหมาะกับนางมากที่สุด
พวกเขาทุกคนรู้ว่าจวินอู๋เสียมาจากสามโลกเบื้องล่าง และสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดเป็นสถานที่ที่เตรียมไว้ให้คนจากเผ่าต่างๆ การที่จวินอู๋เสีย คุณหนูใหญ่จากจวนอ๋องไปที่นั่น…ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็คาดไม่ถึงจริงๆ
“ข้าใช้ทักษะเสริมวิญญาณ” จวินอู๋เสียเข้าใจข้อสงสัยของสหายนางไม่ได้แกล้งอุบไว้ และบอกไปตามตรง
“เจ้าใช้ทักษะเสริมวิญญาณหรือ” สายตาของฟ่านจัวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ สหายทุกคนรู้เรื่องทักษะเสริมวิญญาณของจวินอู๋เสีย พวกเขาสนใจพลังที่น่าทึ่งและแปลกใหม่นี้มาก และได้พยายามเลียนแบบการเสริมวิญญาณที่จวินอู๋เสียวาดขึ้นมา แต่ไม่ว่าพวกเขาจะวาดตัวอักษรโบราณได้เหมือนไม่ผิดเพี้ยนขนาดไหน พวกเขาก็ไม่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์อย่างที่จวินอู๋เสียทำได้
“การเสริมวิญญาณจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แถมเจ้าก็เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถใช้มันได้ และพลังของมันก็แปลกมาก แต่ถ้าตกเป็นเป้าหมายของสิบสองตำหนัก มันจะไม่…” ฟ่านจัวมีสีหน้ากังวลเล็กน้อย วิธีการของสิบสองตำหนักไม่รู้จักคำว่าอ่อนโยน
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นและตอบว่า “นั่นแหละที่ข้าต้องการ เป็นเป้าหมายของพวกเขา”
ตอนที่ 1516 รวมตัว (3)
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นและตอบว่า “นั่นแหละที่ข้าต้องการ เป็นเป้าหมายของพวกเขา”
“ในหัวเจ้ามีความคิดอยู่เต็มไปหมด ข้าเชื่อว่าเจ้าตัดสินใจไม่ผิด” ฟ่านจัวเห็นว่าจวินอู๋เสียมั่นใจมาก เขาจึงวางใจขึ้น
เฉียวฉู่กะพริบตามองจวินอู๋เสีย เขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับทักษะเสริมวิญญาณของจวินอู๋เสีย และได้ทดลองอยู่หลายวันจนน้ำแห้งหมดถังเผื่อจะสำเร็จสักครั้ง และสุดท้ายก็ล้มเหลว
“น้องเสีย เปิดเผยทักษะเสริมวิญญาณให้คนข้างนอกเห็น มันจะก่อความวุ่นวายหรือ ทำไมเจ้าแสดงของดีแบบนั้นให้คนพวกนั้นเห็นเล่า” เฉียวฉู่ถาม
จวินอู๋เสียหันไปมองเฉียวฉู่ “เพราะข้าอยากเข้าสำนักธาราเมฆ”
“ฮะ” เฉียวฉู่ตกใจ “เจ้าจะรับคำเชิญของสิบสองตำหนักหรือ”
จวินอู๋เสียส่ายหัว “ข้าได้ติดต่อกับจ้าวตำหนักหยกวิญญาณเอาไว้แล้ว และข้าจะเข้าสำนักธาราเมฆในฐานะผู้ถูกเลือกจากตำหนักหยกวิญญาณ”
“ตำหนักหยกวิญญาณ…”
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้สหายทุกคนแปลกใจอย่างมาก คำว่าตำหนักหยกวิญญาณฟังดูห่างไกลจากพวกเขา
“ตำหนักหยกวิญญาณยังอยู่อย่างนั้นหรือ มีข่าวลือว่าตำหนักหยกวิญญาณได้หายไปนานมากแล้ว เจ้ายังสามารถหาพวกเขาเจออีก นั่นมันช่าง…” หรงรั่วรู้สึกนับถือจวินอู๋เสียจริงๆ นางทำได้อย่างไรกัน
“ตำหนักหยกวิญญาณถูกสิบสองตำหนักกดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรงมาตลอด ถ้าเจ้าไปที่นั่นในฐานะคนของตำหนักหยกวิญญาณ คนจากสิบสองตำหนักจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าอยู่อย่างสงบสุขแน่” ฮวาเหยาพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม
จวินอู๋เสียกลับตอบว่า “มีเก้าวังอยู่ สิบสองตำหนักไม่กล้าทำเกินไปนักหรอก”
“ที่ข้าให้พวกเจ้ามาที่นี่วันนี้ก็เพราะข้าอยากถามพวกเจ้าทุกคน พวกเจ้าเคยเจอคนจากเก้าวังบ้างหรือไม่” จวินอู๋เสียมองสหายของนาง แต่ทุกคนพากันส่ายหัว
พวกเฉียวฉู่เปิดเผยพลังที่แท้จริงของตัวเองในสนามแข่งต่างๆ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาได้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก แต่ไม่มีใครพยายามติดต่อกับพวกเขาเลย
แต่นั่นก็เข้าใจได้ไม่ยาก
สิ่งที่พวกเฉียวฉู่แสดงออกมา หากไม่ใช่พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งก็เป็นความแข็งแกร่งของภูติวิญญาณ แม้ว่าพวกเขาจะแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่หายากและสร้างความตื่นตะลึงให้ผู้คนมากมาย แต่มันก็มีความหมายที่แตกต่างจากการเสริมวิญญาณของจวินอู๋เสีย การเสริมวิญญาณเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏในสามโลกชั้นกลางมาก่อนและมีพลังที่ยิ่งใหญ่ ของแบบนี้ย่อมดึงดูดคนในสามโลกชั้นกลางอย่างไม่อาจต้านทานได้
กลับกัน แม้ว่าพวกเฉียวฉู่จะแข็งแกร่งอย่างมากเมื่อเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ทั้งภูติวิญญาณและพลังวิญญาณเป็นสิ่งที่ผู้คนเห็นกันจนชิน พวกเขาดึงดูดความสนใจของสิบสองตำหนักก็จริง แต่ด้วยกฎของการแข่งขันที่อยู่เหนือหัว มันจึงไม่เพียงพอที่จะทำให้สิบสองตำหนักลงมือทำอะไรต่อหน้าเก้าวัง
และมีเพียงการแสดงของจวินอู๋เสียเท่านั้นที่ดึงคนของสิบสองตำหนักและเก้าวังออกมาได้
จวินอู๋เสียเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วบอกการคาดเดาของนางเกี่ยวกับเก้าวังให้สหายของนางฟัง หลังจากพวกเฉียวฉู่ได้ฟัง พวกเขาก็เข้าใจได้คร่าวๆ
“ที่เก้าวังปล่อยให้สิบสองตำหนักทำตามใจชอบได้แบบนี้ พวกเขาต้องมีเหตุผลของตัวเองแน่ ข้ากลับคิดว่าการที่เก้าวังสามารถกดสิบสองตำหนักเอาไว้ได้ตลอดไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล สิบสองตำหนักจะพยายามเอาชนะเก้าวังได้ง่ายดายอย่างนั้นได้อย่างไร” เฟยเยียนประสานมือไว้หลังศีรษะ มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม
การแบ่งอำนาจในสามโลกชั้นกลางเป็นเช่นนี้มานาน ยกเว้นดินแดนเทพมารที่เก็บตัวโดดเดี่ยวอยู่นั้น ตำแหน่งและระดับชั้นของกลุ่มอำนาจอื่นๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
“ไม่ว่าเก้าวังจะมีเจตนาอะไร เป้าหมายของเราก็ยังเป็นสิบสองตำหนัก หลังจากที่เราออกจากสำนักธาราเมฆ มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของแผนเรา” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง แววตาส่องประกายมุ่งมั่นแรงกล้า