ตอนที่ 1517 ดึงดูดความสนใจ (1) / ตอนที่ 1518 ดึงดูดความสนใจ (2)
ตอนที่ 1517 ดึงดูดความสนใจ (1)
ไม่นานหลังจากที่เหล่าสหายได้มารวมตัวกัน พวกเขาก็กลับที่พักของตัวเองเพื่อเตรียมการแก้แค้นต่อไป
ขณะที่จวินอู๋เสียกำลังปรึกษาแผนการกับพวกเฉียวฉู่อยู่นั้น ในหลายๆ ที่ทั่วภูเขาฝูเหยาก็เกิดถกเถียงกันอย่างร้อนแรง
ในสำนักธาราเมฆ ชายชราหลังค่อมตัวเล็กนั่งอยู่ที่โต๊ะและกำลังรู้สึกเบื่ออย่างมาก เขาทำตาปรือพลางคลี่หนังสือจากกองหนังสือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะของเขา
“นายท่าน” บุรุษคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องหนังสืออย่างเงียบๆ และมองไปที่ชายชราร่างเล็กด้วยความเคารพ
ดวงตาของชายชราร่างเล็กยังคงปรืออยู่ เขาเงยหน้าขึ้น “มีอะไร”
“เรียนนายท่าน คนที่ท่านสั่งให้ตามหา พบแล้วขอรับ” บุรุษคนนั้นพูด
ดวงตาของชายชราเป็นประกายทันที “เจอเจ้าหนูนั่นแล้วหรือ เขาอยู่ที่ไหน” นี่เป็นข่าวดีข่าวเดียวที่เขาได้ยินในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
“ที่สนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดขอรับ” บุรุษคนนั้นตอบ หลังจากวันที่ชายชราร่างเล็กกลับมาที่นี่ เขาก็ยื่นรูปเหมือนมาให้เขาทันที บอกเขาว่าพวกเขาต้องหาผู้เยาว์ในรูปนั้น แต่โชคร้ายที่แม้ว่าพวกเขาจะค้นหาทั่วทั้งภูเขาฝูเหยาตั้งแต่ยอดเขาจนถึงตีนเขาเป็นเวลาครึ่งเดือน พวกเขาก็ยังหาคนที่ชายชราต้องการไม่พบ
และในวันนี้เองที่คนที่พวกเขาให้ประจำอยู่ที่สนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดจู่ๆ ก็วิ่งกลับมาบอกเขาว่า พวกเขาเจอคนคนนั้นแล้ว!
“สนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด” ชายชราตัวเล็กงงอย่างเห็นได้ชัด “ทั้งๆ ที่เก่งเรื่องยามากขนาดนั้น ทำไมเจ้าหนูนั่นถึงไม่ไปแข่งความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษเล่า จะไปแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดเพื่อ”
ชายชราตัวเล็กบ่นพึมพำเล็กน้อย แล้วถามว่า “แล้วเขาทำได้แค่ไหนในการแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด ตกรอบทันทีเลยหรือเปล่า” ชายชราตัวเล็กพูดประโยคพวกนั้นด้วยสีหน้ารื่นเริง
ไม่ใช่เพราะเขามีความแค้นกับเจ้าหนูนั่นหรอก แต่เป็นเพราะเขาได้เห็นความสามารถทางโอสถวิเศษของจวินอู๋เสียกับตาตัวเอง เขาจึงรู้ว่าเด็กคนนั้นไม่ได้มาจากเผ่าเคลื่อนกระดูก และไม่ได้มาจากเผ่าพิเศษอย่างแม่มดหมอผีหรือเผ่าไหนๆ เลย การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดเป็นที่ของคนจากเผ่าพิเศษต่างๆ ดังนั้นเจ้าหนูนั่นจะไปทำอะไรได้ดีในที่แบบนั้น
ชายชราตัวเล็กยังคงหัวเราะขณะที่พูดว่า “ข้าคิดว่าเจ้าหนูนั่นดูฉลาดไม่เบาทีเดียว ทำไมจู่ๆ ถึงทำเรื่องที่ไร้หัวคิดแบบนั้น ด้วยความรู้ด้านโอสถวิเศษที่เขามี ถ้าไปแข่งความเชี่ยวชาญโอสถวิเศษ เขาอาจจะติดสิบอันดับแรกได้เลย! แต่เขากลับไปแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดเสียนี่ เฮ้อ…ตอนถูกเตะตกรอบ เขาต้องร้องไห้จมูกแดงออกมาแน่ๆ”
ชายชราตัวเล็กยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ แต่สีหน้าของบุรุษในห้องหนังสือกลับบิดเบี้ยว
“นายท่าน…เด็กคนนั้นไม่ได้ตกรอบ”
“อ้าว” ชายชราตัวเล็กเงยหน้าขึ้น “ไม่ตกรอบหรือ โชคดีขนาดนั้นเลย”
“ไม่เพียงไม่ตกรอบ แต่แค่รอบแรกก็สามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนจากเก้าวังและสิบสองตำหนักได้เลยขอรับ” บุรุษคนนั้นกล่าวต่อ
“อะไรนะ!” รอยยิ้มบนใบหน้าของชายชราหายวับไปทันที เขาดีใจที่จวินอู๋เสียเลือกสนามแข่งที่เหมาะกับตัวเองและจะถูกคัดออกจากการแข่งขัน เขาจะได้ไปเก็บเจ้าหนูมาได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินข่าวเช่นนี้!
เจ้าหนูนั่นไม่เพียงจะเข้ารอบได้สำเร็จเท่านั้น แต่เขายังดึงดูดความสนใจจากทั้งเก้าวังและสิบสองตำหนักได้ในทันทีอีกด้วย!
“เกิดอะไรขึ้น! เจ้าอธิบายมาให้ชัดสิ เก้าวังไม่ได้เข้าร่วมงานชุมนุมไม่ใช่หรือ ทำไมพวกเขาถึงให้ความสนใจเด็กนั่นด้วยเล่า” ใบหน้าของชายชราไม่เหลือรอยยิ้มอีกต่อไป คิ้วที่ขมวดเล็กน้อยบอกถึงความไม่พอใจของเขา
บุรุษคนนั้นเล่าให้ชายชราตัวเล็กฟังว่าจวินอู๋เสียแสดงเป็นอย่างไรที่สนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดในวันแรก
“หลังจากคุณชายคนนั้นออกจากสนามแข่ง คนจากสิบสองตำหนักและเก้าวังก็ตามเขาออกไปทันที แต่ซูจิ่งเหยียนจากวังหมาป่าสวรรค์เข้าไปหาเป็นคนแรกและหยุดคุณชายคนนั้นไว้เพื่อถามคำถามกับเขา”
ตอนที่ 1518 ดึงดูดความสนใจ (2)
“คนจากวังหมาป่าสวรรค์พูดอะไรกับเขา” ชายชราตัวเล็กยิ่งขมวดคิ้วย่นเข้าไปอีก จากสิ่งที่บุรุษคนนั้นอธิบาย ทำให้เข้าใจได้ว่าสิ่งที่จวินอู๋เสียใช้กับภูติวิญญาณเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์และไม่เคยมีมาก่อน อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย
จากนั้นบุรุษคนนั้นก็เล่าบทสนทนาระหว่างซูจิ่งเหยียนกับจวินอู๋เสียให้ชายชราฟัง
ชายชราตัวเล็กนิ่งเงียบ เขาไม่คิดว่าเจ้าหนูที่เก่งกาจเรื่องโอสถวิเศษจะมีความสามารถที่เรียกว่า ‘การเสริมวิญญาณ’ อยู่ด้วย
“นายท่าน มีเผ่าที่เรียกว่าเผ่าจ้าววิญญาณอยู่ในสามโลกชั้นกลางจริงๆ หรือขอรับ ทำไม…เราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” บุรุษคนนั้นรู้สึกสงสัย เนื่องจากพวกเขาไม่เคยได้ยินคำว่าเผ่าจ้าววิญญาณมาก่อน
ชายชราตัวเล็กถอนหายใจยาวและตอบว่า “ภายในโลกที่กว้างใหญ่เช่นนี้ ทั้งเจ้าและข้าไม่อาจพูดได้หรอกว่ารู้ทุกอย่างจนหมดสิ้นแล้ว ไม่ว่าจะมีเผ่าจ้าววิญญาณอยู่จริงหรือไม่ แต่มีจุดหนึ่งที่เรามั่นใจได้ ตอนนี้ทักษะเสริมวิญญาณของเขาถูกเปิดเผยออกมาแล้ว เจ้าหนูนั่นดึงความสนใจของทั้งสิบสองตำหนักและเก้าวัง โชคดีที่เก้าวังไม่ได้คิดจะยื่นมือเข้ามายุ่งมากเกินไปในตอนนี้ แต่ทำแค่รั้งคนอื่นๆ เอาไว้ อย่างน้อยก็ทำให้เจ้าหนูนั่นมีพื้นที่หายใจได้บ้าง ไม่อย่างนั้น…ไอ้พวกสารเลวจากสิบสองตำหนักคงกำลังแย่งกันเขมือบเจ้าหนูนั่นแล้ว!” ชายชราตัวเล็กพูดต่อและรู้สึกปวดหัวขึ้นมา
เจ้าหนูนั่นมีความสามารถในการก่อปัญหาเสียจริงๆ ตอนแรกเขาคิดจะเก็บเจ้าหนูมาก่อนที่จะได้เข้าร่วมงานชุมนุมเทพยุทธ์ แต่สุดท้าย ตามหาอยู่ครึ่งเดือนก็ไม่เจอตัวเลย ตอนนี้เขาปรากฏตัวออกมาแล้ว…และก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากมายในทันที
“นายท่านอยากจะดึงคุณชายคนนั้นมาอยู่ฝ่ายเราหรือขอรับ” บุรุษคนนั้นเห็นได้ว่าชายชราตัวเล็กให้ความสนใจกับจวินอู๋เสียเป็นอย่างมาก
ชายชราตัวเล็กถอนหายใจอีกครั้ง
“สายไปแล้ว! ถ้าเป็นก่อนหน้าที่ทักษะเสริมวิญญาณของเขาจะถูกเปิดเผย ข้าย่อมดึงตัวเขามาได้ แต่ตอนนี้ความสามารถของเขาถูกแสดงออกมาต่อหน้าสิบสองตำหนักและเก้าวังแล้ว ถ้าข้าไปคว้าตัวเจ้าหนูนั่นมาตอนนี้ เรื่องจะยิ่งซับซ้อนและยากจะแก้ไข” ชายชราตัวเล็กยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย เขาเป็นคนแรกที่เจอเจ้าหนูนั่นแท้ๆ แต่กลับเป็นแบบนี้ไปเสียได้
บุรุษคนนั้นยังคงมองไปที่ชายชราตัวเล็ก แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ชายชราตัวเล็กโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ให้คนตามดูอย่างใกล้ชิด ถ้าสิบสองตำหนักยังคงทำตามกฎอย่างเคร่งครัด ข้าก็จะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ แต่ถ้าพวกเขาทำเรื่องเลวร้ายขึ้นมาละก็ ข้าก็จะ…อืม โทษฐานที่พวกเขาทำผิดกฎล่ะนะ”
“ขอรับ!” บุรุษคนนั้นรับคำและถอยออกจากห้องไป
ในห้องหนังสือ ชายชราตัวเล็กถอนหายใจด้วยความเสียดาย เขามองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง แต่ไม่รู้สึกดีเลยสักนิด
“เจ้าหนู เจ้าเจอเรื่องใหญ่แล้ว!”
การปรากฏของทักษะเสริมวิญญาณจะทำให้สมดุลที่ซ่อนอยู่แตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจวินอู๋เสียจะเลือกตำหนักไหนในตอนท้าย ตำหนักอื่นๆ ที่เหลือย่อมไม่อยากให้คู่ต่อสู้ของพวกเขาครอบครองพลังที่ไม่เหมือนใครและไม่สามารถเลียนแบบได้นี้แน่ ตอนแรกพวกเขาจะแย่งชิงกันชนิดที่ไม่ยอมพลาดเพื่อให้ได้พลังนั้นมา
รางวัลที่พิเศษเช่นนี้ การมีอยู่ของมันจะนำมาซึ่งอันตรายมากมาย และภัยคุกคามที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนจะนำความไม่สบายใจมาสู่สิบสองตำหนักที่เหลือ ตามวิสัยของสิบสองตำหนักแล้ว เกรงว่าสิ่งที่พวกเขาไม่อาจครอบครองได้…พวกเขาจะทำลายแทนที่จะปล่อยให้ตำหนักอื่นได้เปรียบ
ชายชราตัวเล็กยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหมดหนทาง เขาได้แต่แอบหวังอย่างแรงกล้าว่าจวินอู๋เสียจะสามารถพลิกความโชคร้ายนี้ได้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง คนจากสิบสองตำหนักที่สนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดก็ได้แจ้งข่าวเรื่องเผ่าจ้าววิญญาณและการเสริมวิญญาณให้กับผู้อาวุโสของพวกเขาแล้ว การแข่งขันดำเนินไปอย่างลับๆ ทันที เนื่องจากตำหนักทุกแห่งต่างไม่ยอมแพ้ในการแย่งชิงครั้งนี้