บทที่ 766 ไม่อยากทำให้เครื่องนอนสกปรก

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 766 ไม่อยากทำให้เครื่องนอนสกปรก

บทที่ 766 ไม่อยากทำให้เครื่องนอนสกปรก

ที่มุมหนึ่งของซากวัด มีคนผู้​​หนึ่งนอนอยู่ในผ้านวมสกปรกซึ่งไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์เดิมของเขาได้อีกต่อไป เมื่อเขาได้ยินว่ามีคนมาก็พยายามลุกขึ้นนั่งตัวตรง

ผ้านวมสกปรกมากจนแม้แต่ฝ้ายข้างในก็ยังดำสนิท ดูเหมือนว่าเมื่อลุงจางและคนอื่น ๆ ถูกขับออกจากหมู่บ้านอู๋ซี พวกเขาไม่มีเวลานำอะไรออกมาด้วย และไม่รู้ว่าพวกเขาไปหยิบผ้านวมที่ใช้เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นจากความหนาวเย็นมาจากไหน

“สาวน้อยเสี่ยวหวานมาแล้ว…” เสียงของลุงจางแผ่วเบา แต่ก็ยังเหมือนเดิม น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเมตตา

กู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทางของลุงจางที่พยายามจะลุกขึ้น และใบหน้าซูบตอบของเขา นางไม่สามารถกลั้นน้ำตาอีกต่อไป

“ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า!” หัวใจของกู้เสี่ยวหวานรู้สึกราวกับว่าถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ นางเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก และนางกำลังจะล้มลง

ฉินเย่จือที่อยู่ด้านข้างมองนางอย่างเป็นทุกข์ เมื่อเห็นท่าทางนั้นของนาง เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและกอดกู้เสี่ยวหวานไว้ในอ้อมแขนของเขาแน่น

เมื่อป้าจางและฉือโถวได้ยินเสียงร้องไห้ของกู้เสี่ยวหวาน พวกเขาก็เริ่มร้องไห้ออกมาเช่นกัน

มันคงเป็นการโกหกที่จะบอกว่าป้าจางและฉือโถวไม่เป็นทุกข์!

ในช่วงสองถึงสามเดือนที่ผ่านมา ลุงจางนอนอยู่บนเตียงตลอดทั้งวัน แม้จะลงจากเตียงก็ยังทำไม่ได้เลย ไม่กี่เดือนผ่านไปน้ำหนักของเขาก็ลดลงไปมาก

ป้าจางมองอย่างทุกข์ใจ!

แต่ลุงจางกลับไออย่างหนักและพูดอย่างตำหนิ “เด็กโง่ ร้องไห้ทำไม เจ้ามองลุงจางของเจ้าสิ ตอนนี้ข้าก็สบายดีไม่ใช่หรือ!”

คำพูดของลุงจางเตือนสติกู้เสี่ยวหวาน

นางผละออกจากอ้อมแขนของฉินเย่จือทันที ปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้า เดินอย่างรวดเร็วไปหาลุงจาง พลางสะอื้นไห้ “ท่านลุงจาง ไปกันเถอะ ไปในเมืองกัน ข้าต้องการให้ท่านไปพบหมอที่ดีที่สุด เขาจะรักษาท่านลุงได้แน่นอน!”

หลังจากพูดจบ นางก็เรียกฉือโถว “พี่ฉือโถว ท่านรีบมาช่วยหน่อย”

ฉือโถวตอบรับและเข้าไปช่วยประคองพ่อของตนกับฉินเย่จือ ฉือโถวแบกลุงจางไว้บนหลังของเขาและเดินออกจากซากวัด โดยมีกู้เสี่ยวหวานพยุงป้าจางเดินตามออกไป

วัดเล็ก ๆ ที่ทรุดโทรมแห่งนี้ เมื่อรถม้าแล่นออกไป พวกเขาก็ไม่มีวันหันย้อนกลับมามองอีก

รถม้าแล่นออกไปจนกระทั่งมาถึงเมืองหลิวเจีย และหยุดที่ประตูของโรงหมอหุยซุน

ตอนนี้นางคุ้นเคยกับหมอพานแล้ว เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานเข้ามา และพาใครบางคนที่ถูกแบกอยู่บนหลังของเด็กหนุ่มเข้ามาด้วย เขาจึงรีบเข้าไปตรวจอาการทันที

จากนั้นออกใบสั่งยาและบอกให้เขาพักฟื้นชั่วระยะหนึ่ง จากนั้นหัวใจที่บีบรัดของกู้เสี่ยวหวานก็ผ่อนคลายลง

นางยังขอให้ท่านหมอพานไปหาที่สวนหลี่เพื่อตรวจสอบอาการของลุงจางในอีกสองสามวันข้างหน้า แน่นอนว่า หมอพานย่อมตกลงอย่างง่ายดาย

เมื่อรู้ว่าอาการป่วยของลุงจางสามารถรักษาให้หายได้ อารมณ์ของทุกคนก็ดีขึ้นมาก ใบหน้าของทุกคนจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

รถม้าแล่นไปตลอดทาง บรรยากาศรอบด้านเต็มไปด้วยต้นไม้ และไม่นานก็มาถึงชานเมือง

รถม้าวิ่งกลับไปที่สวนหลี่ และเมื่อมาถึงด้านนอก อาโม่เป็นคนมาเปิดประตู เมื่อเห็นครอบครัวจาง อาโม่ก็สงสัยเล็กน้อยว่าทำไมพวกเขาถึงได้ผอมลงมากเช่นนี้ และร่างกายก็สกปรกมอมแมมจนเหมือนไม่เคยทำความสะอาดตัวเองมาก่อน

อาโม่ได้พบกับป้าจางและคนอื่น ๆ แต่เขาไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก เมื่อเห็นฉือโถวกำลังแบกลุงจางไว้บนหลังอย่างทุกลักทุเล เขาก็ช่วยนำทางไปทันที

กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ก็ออกมาเช่นกัน เมื่อเห็นพวกป้าจาง พวกเขาตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดขึ้น

ท่านป้า ท่านลุง พี่ชาย เรียกกันไม่หยุดราวกับงานรวมญาติ

โชคดีที่ในสวนหลี่มีหลายห้อง ในวันปกติกู้หนิงผิงและกู้หนิงอันจะแบ่งห้องกัน ฉินเย่จืออยู่คนเดียว กู้เสี่ยวหวานและกู้เสี่ยวอี้อยู่ด้วยกัน และยังเหลือห้องว่างอีกหลายห้อง ในเวลานั้นหลี่ฝานได้ส่งคนมาทำความสะอาด และเครื่องนอนก็ใหม่เอี่ยม

กู้เสี่ยวหวานเลือกห้องใหญ่และพาพวกเขาเข้าไป

“ท่านป้าจาง ท่านนอนห้องนี้”

ห้องเรียบร้อยและสะอาด เครื่องนอนบนเตียงก็เป็นของใหม่ทั้งหมด คงเป็นเพราะเพิ่งทำความสะอาด

ฉือโถวไม่ได้คิดมากและกำลังจะวางลุงจางที่อยู่บนหลังของเขาลงบนเตียง

แต่ป้าจางหยุดเขาอย่างรวดเร็ว “ฉือโถว เดี๋ยวก่อน…”

กู้เสี่ยวหวานคิดว่าป้าจางไม่ชอบห้องนี้ ดังนั้นนางกำลังจะเอ่ยปากถามว่านางต้องการเปลี่ยนห้องหรือไม่ แต่ก็ได้ยินป้าจางพูดอย่างเกรงใจ “ฉือโถว วางพ่อของเจ้าลงบนพื้นก่อน ร่างกายของเราสกปรก เดี๋ยวเราจะทำให้เครื่องนอนพวกนี้สกปรกเปล่า ๆ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉือโถวก็พยักหน้า

แท้จริงแล้วพวกเขาอาศัยอยู่ในซากวัดและนอนบนฟางซึ่งไม่รู้ว่านานแค่ไหน บนฟางเต็มไปด้วยหมัดและบางที่พวกมันอาจจะอาศัยอยู่บนร่างกายของพวกเขาแล้ว

“ใช่แล้ว ฉือโถว พวกเราถอยออกมาหน่อย!” ลุงจางบนหลังของฉือโถวก็พูดเช่นกัน

ฉือโถวที่แบกลุงจางอยู่ตลอดก็ถอยหลังไปสองก้าว

เมื่อเห็นท่าทางระมัดระวังของลุงจางและป้าจาง กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกไม่สบายใจ “ท่านลุงจาง ท่านป้าจาง…”

หลังจากพูดจบ นางก็ไม่ได้มีท่าทางรังเกียจแม้แต่น้อย และเข้าไปพิงกายใกล้ป้าจาง

ป้าจางรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานไม่รังเกียจพวกเขา

“เด็กโง่ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่รังเกียจพวกเรา แต่เราต้องทำความสะอาดร่างกายนี้ก่อน ไม่เช่นนั้นเครื่องนอนจะสกปรก และเราก็จะต้องทำความสะอาดอีกครั้ง!” ป้าจางพูดด้วยรอยยิ้ม

นอกจากนี้ยังเป็นการหลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่จำเป็น

“ถูกต้อง สาวน้อยเสี่ยวหวาน เราขอไปอาบน้ำก่อน ร่างกายเช่นนี้ทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจ” ลุงจางก็พูดขึ้นเช่นกัน

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกเป็นทุกข์และหมดหนทาง นางจึงทำได้เพียงบอกอาโม่ว่า “ไปเตรียมน้ำร้อน รีบต้มให้เร็ว แล้วให้พวกเขาอาบน้ำด้วยกัน”

ร่างกายสกปรกเช่นนี้มันน่าอึดอัดเสียจริง ในอดีตป้าจางเป็นสตรีที่รักษาความสะอาด แม้ว่านางจะทำงานเกษตร และเสื้อผ้าของนางก็ย่อมจะสกปรก บางคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเพียงครั้งเดียวทุก ๆ สิบวันหรือเดือน แต่ป้าจางแตกต่างออกไป ในฤดูร้อนนางต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน ในฤดูหนาวนางต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างน้อยครึ่งเดือนครั้ง

นางมักจะดูแลบ้านให้สะอาดและเป็นระเบียบอยู่เสมอ

ครั้งนี้เมื่อพวกเขาถูกไล่ออกออกมา อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนและคาดไม่ถึง นอกจากเงิน พวกเขาก็ไม่มีเวลาที่จะเก็บของอย่างอื่นออกมาด้วยเลย

ลุงจางและฉือโถวยังดี อาโม่และฉินเย่จือมีเสื้อผ้าและสามารถให้พวกเขาใช้ได้ แต่ป้าจางต่างออกไป ที่นี่มีเพียงเสื้อผ้าสำหรับเด็กของนางและกู้เสี่ยวอี้

โชคดีที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง