บทที่ 651 กำลังรบของข้าราชการพลเรือนแห่งศาลสวรรค์ (4)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 651 กำลังรบของข้าราชการพลเรือนแห่งศาลสวรรค์? (4)

“แน่นอนเจ้าค่ะ”

ขณะกล่าว เหล่าบุรุษรูปงามและสตรีโฉมสะคราญกว่าสิบคนก็เข้าร่วมการต่อสู้ และพวกเขาก็ขับไล่พวกปีศาจให้ถอยร่นไป แต่ละคนล้วนปล่อยการโจมตีรุกไล่อย่างดุเดือด

หลี่ฉางโซ่วไม่ได้กลัวเลย เขาอาศัยความแกร่งกล้าของเจดีย์เสวียนหวงในขณะที่ถือกระบี่ตีโต้กลับผู้คนมากกว่าสิบคนเหล่านั้น

ทว่าความแข็งแกร่งที่เขาสำแดงออกมาในขณะนี้ อยู่ที่ขอบเขตเซียนจินเท่านั้น เขาจึงไม่อาจเป็นภัยคุกคามสัตว์ร้ายบรรพกาลทั้งหมดเหล่านี้ได้เลย

เหล่าสัตว์ร้ายสบายใจยิ่ง!

เมื่อปีศาจเฒ่าสองสามตนเห็นเช่นนั้น พวกมันก็หยิบสมบัติเวท ไข่มุกปีศาจ และพลังเวทจากด้านข้าง และปล่อยพวกมันเข้าระดมโจมตีใส่หลี่ฉางโซ่วตามแต่ใจปรารถนาในทันที

จากนั้น ปู่ใหญ่เจดีย์ก็หาวและแสดงทีท่าว่าสิ่งต่างๆ เริ่มน่าสนใจขึ้นมาแล้ว

ในขณะนั้น เงาร่างต่างๆ ก็พุ่งผ่านตัดสลับกันไปมา และสถานการณ์การต่อสู้ก็ยิ่งเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดดำเนินไปได้สักพัก ก็ดูเหมือนว่า หลี่ฉางโซ่วจะไม่อาจทำอะไรได้…

บัดนี้ พลังเซียนของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ใกล้จะหมดลงแล้ว

สัตว์ดุร้ายสองสามตัวเข้าสกัดกั้นหลี่ฉางโซ่วและเจดีย์เสวียนหวงอย่างรุนแรงในขณะที่มีลำแสงสีดำพุ่งมาจากด้านข้าง มันเป็นเขาสีดำที่ทำจากหยก และพุ่งเข้าปะทะกับเจดีย์เสวียนหวง

ทันใดนั้นเจดีย์เสวียนหวงก็โซเซไปมาและถูกกระแทกตีต้อนให้ถอยร่นห่างออกไปครึ่งก้าวฉื่อ และบัดนั้นร่างกายครึ่งหนึ่งของหลี่ฉางโซ่วก็หลุดออกจากรัศมีลมปราณเสวียนหวง

ในพริบตานั้น ธารแสงหลายสายก็พุ่งเข้าหาร่างเปล่าที่ปราศจากลมปราณเสวียนหวงคุ้มกายของหลี่ฉางโซ่ว

ทว่าประกายแสงสีโลหิตก็แวบผ่านพุ่งไปทั่วอย่างรวดเร็ว แล้วร่างที่งดงามก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลี่ฉางโซ่วอย่างแปลกประหลาด ฉับพลันนั้น นางก็ชี้นิ้วเรียวและสะกิดไหล่ของหลี่ฉางโซ่วทันที

จากนั้นดวงตาของสัตว์ร้ายทั้งหมดเปล่งแสงสว่างวาบออกมา แล้วร่างของหลี่ฉางโซ่วก็เหี่ยวแห้งลงอย่างรวดเร็ว!

ในขณะนั้น ผู้บำเพ็ญเหวินจิงได้เปิดเผยร่างที่แท้จริงของนางออกมา มุมปากของนางหยักโค้งเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์ และนางก็ส่งเสียงฮึมฮัมเบาๆ อย่างสบายใจ

แต่จู่ๆ สีหน้าท่าทางของผู้บำเพ็ญเหวินจิงก็เปลี่ยนไปกะทันหัน นางรีบก้าวถอยหลบกลับไปข้างหลังและเห็น ‘น้ำ’ สีฟ้าหยดหนึ่งกระทบผิวที่หน้าอกของนาง

ทันใดนั้น หยดน้ำก็ขยายตัวออกไปและกลายเป็นมังกรวารีขนาดยาวสิบจั้ง มันมีพลังศักดิ์สิทธิ์มากมาย และฟาดกระแทกตรงๆ ส่งผู้บำเพ็ญเหวินจิงปลิวกระเด็นออกไปกะทันหัน!

ดวงตาของผู้บำเพ็ญเหวินจิงฉายแววไม่พอใจออกมาทันที จากนั้น ร่างของนางก็เคลื่อนไหวแวบวาบขึ้นกลางอากาศอย่างรวดเร็ว และซ่อนตัวหนีหายไปอีกครั้ง

มองลงไปที่เจดีย์เสวียนหวงซึ่งอยู่ด้านล่าง!

“หลี่ฉางโซ่ว” ที่เหี่ยวแห้งได้กลายเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ยับย่น และทันใดนั้นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นั้นก็ถูกไฟลุกท่วม แล้ว “จินตาน” ภายในนั้น ก็บินกลับไปที่เจดีย์เสวียนหวง

จากนั้นก็มีร่างเล็กๆ เดินออกมาจากเจดีย์เสวียนหวง แล้วร่างนั้นก็กลายเป็นขนาดเท่าคนปกติในพริบตา ซึ่งยังคงเป็นร่างที่มีหนวดเคราสีขาว เส้นผมสีขาว และมีรูปร่างหน้าตาเฉกเช่นเดิม

ทว่าบัดนี้ พลังสะกดข่มบนร่างของเขาก็แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าก่อนถึงสิบเท่า!

เมื่อได้ยินเสียงน้ำคำราม บัดนั้น ภาพแผนที่น้ำก็ค่อยๆ กางออกต่อหน้าเขา และมีมังกรครามบินออกมาจากภาพแผนที่นั้น แล้วมันก็กรีดร้องคำรามออกไปรอบๆ

ธงสีฟ้าอีกผืนก็ปลิวไสวอยู่ข้างหลังเขา และพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อุดมมั่งคั่งก็ได้เพิ่มพรพลังแห่งสวรรค์และปฐพีให้เขา

เขาใช้มือซ้ายถือแกนตั้งของแผนที่น้ำ และใช้มือขวา ชูกระบี่สังหารปีศาจแห่งบุญขึ้น ในยามนั้น เขาก็ร้องตะโกนเสียงดังขณะที่ทั้งเคราและเส้นผมของเขาปลิวไสว

“เหล่าทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์อยู่ที่ใด!

จงปิดล้อมสถานที่แห่งนี้! อย่าปล่อยให้พวกปีศาจหนีไปได้แม้แต่ตนเดียว!”

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหวอยู่เหนือศีรษะ และไม่รู้ว่ามีเมฆดำทะมึนหนาทึบได้เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมไปทั่วตั้งแต่เมื่อใดแล้ว

จากนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องของมนุษย์มากมายนับไม่ถ้วนดังมาจากก้อนเมฆมืดดำนั้น

“รับบัญชา!”

บัดนั้น ลำแสงสีทองเจาะทะลุทะลวงผ่านเมฆดำในขณะที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยร่างของเหล่าทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ที่พุ่งลงมา

ทันใดนั้น เสียงร้องคำรามของเหล่ามังกรก็ดังขึ้นมาจากทางทิศตะวันออกและทิศใต้ ในยามนั้น มังกรครามหลายร้อยตัวก็บินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

พวกมันล้วนมีเหล่าเผ่าเวทสงครามโบราณที่เต็มไปด้วยพลังโลหิตอยู่บนหลังของพวกมัน!

ปีศาจเฒ่าร้องคำรามว่า “เจ้าสารเลว สถานการณ์ในวันนี้ ได้ถูกตี้จั้งและเทพวารีวางแผนเอาไว้! พวกเขากำลังใช้เผ่าพันธุ์ของพวกเราเพื่อเติมบุญให้แก่พวกเขา!”

“อย่าใส่ร้ายข้า!”

สัตว์ร้ายบรรพกาลอีกตัวหนึ่งตวาดลั่นด้วยความโกรธว่า “เราจะไปร่วมมือกับศาลสวรรค์ได้อย่างไร!?!”

“มีเพียงตี้จั้งเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้!

แล้วจะเป็นผู้ใดไปได้อีก นอกจากเขาที่หักหลังพวกเรา”

“เจ้าเผลอเปิดเผยตัวเองขณะกรีธาทัพ!”

“อา” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยเย็นชาของหลี่ฉางโซ่วแผ่กระจายไปทั่วหล้า

“ดูเหมือนว่า วันนี้ ข้าจะไม่อาจปล่อยให้วิญญาณที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งของพวกเจ้าหนีไปได้”

ขณะที่เขากล่าว ลูกมวลสายฟ้าสีน้ำเงินครามก็ได้รวมตัวกันใต้เท้าของเขา และลูกมวลสายฟ้าก็แตกระเบิดออกเป็นเสี่ยงเบาๆ และปล่อยสายฟ้าฟาดเต็มไปทั่วท้องฟ้าและส่องสว่างไปทั่วหล้า!

หนีสายฟ้า!

หลี่ฉางโซ่วพุ่งเข้าไปในสายฟ้า และไม่ว่าสายฟ้าจะพาดผ่านไปที่ใด แสงกระบี่ก็กะพริบแวบวาบแล้วมังกรวารีก็พุ่งออกมา

ดูเหมือนว่าเขาจะแปลงร่างเป็นคนนับพันคน และทันใดนั้นก็เปิดการโจมตีอย่างรุนแรง แต่ความจริงแล้ว เขาเพียงหนีอย่างรวดเร็วยิ่งขณะอาศัยสายฟ้าเพื่อเคลื่อนที่ไป!

ในชั่วพริบตานั้น ราชาปีศาจหลายสิบตนก็ถูกสังหาร และสัตว์ร้ายบรรพกาลทั้งสองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสในขณะที่ร่างของหลี่ฉางโซ่วเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระตามใจปรารถนาท่ามกลางแสงสายฟ้าโดยที่เหล่าสัตว์ร้ายและปีศาจเฒ่าทั้งหมด ล้วนไม่สามารถจับภาพร่างของเขาได้เลย!

นั่นคือ ข้าราชการพลเรือนของศาลสวรรค์…

มันเป็นไพ่ไม้เด็ดเล็กๆ แต่ทรงพลังแข็งแกร่งยิ่ง

ในเวลาเดียวกันนั้น ที่มุมหนึ่งของภูเขาวิญญาณ นักพรตเต๋าหนุ่มหลับตาและยิ้มในขณะที่เขาฟังตี้ทิงรายงานเรื่องสถานการณ์การต่อสู้ของสำนักตู้เซียน

ทุกอย่างเกิดขึ้นตามแผนของเขา ไม่สำคัญว่าจะมีเหล่าปีศาจบาดเจ็บล้มตายไปสักเท่าใด…

ในขณะนั้น ตี้ทิงเพิ่งกล่าวว่า เหวินจิงได้โจมตีและสังหารเทพวารีอย่างเด็ดขาด ทว่าเหวินจิงก็ได้รับบาดเจ็บจากทักษะเหนือชั้นของเทพวารี

เวลาต่อมา นักพรตเต๋าหนุ่มก็พยักหน้าช้าๆ เมื่อได้รับรู้เรื่องของเหวินจิง

“เหวินจิงผู้นี้กระตือรือร้นที่จะสร้างผลงานจริงๆ แต่นางฉลาดน้อยไปสักหน่อย นางไม่มีประโยชน์มากนัก”

ทันใดนั้นตี้ทิงก็หันไปฟังทันที

หลังจากที่ตี้ทิงฟังไปได้สักพักหนึ่ง มันก็พึมพำเบาๆ ว่า “นายท่าน คราวนี้ท่านกำลังมีปัญหาใหญ่แล้ว”

ตี้จั้งขมวดคิ้วเล็กน้อย

………………………………………………………………..