บทที่ 817 ข้าไม่อยากกินของอร่อย
บทที่ 817 ข้าไม่อยากกินของอร่อย
“ทำไม! เจ้ามีปัญหาอะไรกับรูปร่างหน้าตาของข้าหรืออย่างไร?” เพ่ยเหมียนหมานเอ่ยขึ้นอย่างขุ่นเคือง
แน่นอนว่าหญิงสาวสนใจสิ่งที่ซูอันคิดเกี่ยวกับนางในทุกอย่าง นางลูบแก้มตัวเองอย่างไม่รู้ตัวและถามต่ออีก “เจ้าคิดว่าข้าดูน่าเกลียดอย่างนั้นเหรอ?”
ซูอันหัวเราะออกมา เขาเอื้อมมือไปโอบนาง ร่างกายของนางค่อนข้างนุ่มและกอดได้สบายมาก “ถ้าเจ้าในตอนนี้เรียกว่าน่าเกลียด โลกนี้ก็คงไม่มีคนสวยแล้ว”
เพ่ยเหมียนหมานกัดริมฝีปาก “แล้วชูเหยียนล่ะ?” นางพูดด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ
การทดสอบที่แล้วนั้นกินเวลาคล้ายกับทั้งชีวิตไปรอบหนึ่ง ดังนั้นมันเป็นการยากที่จะแยกแยะระหว่างว่าที่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงหรือเป็นโลกมายา
ชื่อ ‘ชูเหยียน’ ช่วยเตือนซูอันว่าทั้งหมดนี้ที่เขาประสบอยู่ตอนนี้เป็นเพียงการทดสอบ
ซูอันหัวเราะคิกคักขณะที่มองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเพ่ยเหมียนหมาน “ข้าไม่รู้ว่าชูเหยียนหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อตอนที่นางยังเป็นเด็ก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เจ้าก็เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ข้ารู้จักในช่วงอายุตอนนี้”
เพ่ยเหมียนหมานพ่นลมหายใจ ดวงตาของนางเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่เข้ากับอายุปัจจุบัน “เจ้านี่มันฉลาดพูดเสมอเลยนะ!”
หัวใจของซูอันสั่นไหวเมื่อเห็นรอยยิ้มที่งดงามของนาง เขาไม่สามารถระงับความรู้สึกที่ถูกกักขังมานานหลายทศวรรษได้อีกต่อไป และค่อย ๆ ขยับเข้าไปจูบนาง
เพ่ยเหมียนหมานกัดริมฝีปาก นางพูดอย่างรู้สึกผิด “หยุดเลย ตอนนี้เจ้าเป็นพี่ชายของข้า”
ซูอันเกือบพูดไม่ออก “เจ้าจริงจังกับเรื่องทั้งหมดนี้จริง ๆ เหรอ? เราไม่ใช่พี่น้องกันจริง ๆ สักหน่อย!”
เพ่ยเหมียนหมานหน้าแดง “เรื่องทั้งหมดนี้เหมือนจริงเกินไป! ข้ารู้สึกไม่ต่างจากโลกภายนอกเลย ใครก็ตามที่สร้างการทดสอบที่เหลือเชื่อเช่นนี้ได้ย่อมต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างที่เราไม่อาจจินตนาการ…”
“มันสมจริงจนเกินไป” ซูอันพยักหน้าเห็นด้วย “ข้าเกือบจะติดอยู่ในการทดสอบครั้งที่แล้ว ถ้าข้าไม่ได้บังเอิญไปสะดุดตาเข้ากับจี้ของเจ้า ข้าคงไม่อาจมายังโลกการทดสอบนี้ได้”
เขาบอกนางทุกอย่างที่เกิดขึ้นในการทดสอบครั้งก่อน เพ่ยเหมียนหมานฟังทั้งหมดพลางถอนหายใจอย่างต่อเนื่อง
“เหมียนหมาน เจ้ารู้หรือเปล่าว่าข้าสิ้นหวังแค่ไหน? เจ้าตายขณะคลอดลูก และข้าไม่สามารถหาวิธีที่จะเสร็จสิ้นการทดสอบด้วยตัวเองได้ ข้าทำได้เพียงร่ำสุราเพื่อหนีจากอดีต…ข้าต้องทำให้ตัวเองเชื่อว่าข้าคืออู่ติง ปฏิบัติต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเสมือนเป็นเพียงความฝันที่สักวันข้าจะต้องตื่น ความคิดนี้เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ข้าทนได้…” น้ำเสียงของซูอันมืดมน
เพ่ยเหมียนหมานลูบไล้แก้มของเขาเบา ๆ และโอบกอดเขา “อาซู ข้าคิดว่าการตายก่อนนั้นเจ็บปวดที่สุดแล้ว แต่จากสิ่งที่เจ้าพูดดูเหมือนว่าคนที่มีชีวิตอยู่คือคนที่ทนทุกข์อย่างแท้จริง ถ้าเปลี่ยนบทบาทกัน ข้าคงรับไม่ได้…โชคดีที่เรื่องทั้งหมดนั้นผ่านไปแล้วและตอนนี้เราสองคนกลับมาเจอกันได้สำเร็จ เราจะเอาชนะการทดสอบนี้ร่วมกัน!”
พวกเขารู้สึกยินดีที่ผ่านการทดสอบแรกแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าการทดสอบปัจจุบันจะให้คนทั้งคู่ทำอะไรกันแน่ อย่างน้อยพวกเขาก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นใหม่ที่น่ายินดี
“เหมียนหมาน ข้ารู้สึกมีแรงบันดาลใจและสบายใจขึ้นเมื่ออยู่เคียงข้างเจ้า” ซูอันตัวสั่นเมื่อเขานึกถึงความตายครั้งก่อนของเพ่ยเหมียนหมาน
ใบหน้าของเพ่ยเหมียนหมานแดงก่ำ “ข้าก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”
การแสดงออกที่บริสุทธิ์และสวยงามของนางทำลายกำแพงของความหักห้ามใจของซูอัน เขาจูบนางทันที
การที่ทั้งสองคนถูกพรากจากกันด้วยความตาย ทำให้เพ่ยเหมียนหมานไม่สามารถระงับอารมณ์ที่สะสมอยู่ภายในตัวนางได้เช่นกัน
นางจูบตอบอย่างดุเดือด พวกเขากอดรัดกันราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายอาจหายตัวไปเมื่อใดก็ได้
“อี๋! พวกท่านสองคนกินน้ำลายกันเหรอ?” เสียงที่ไร้เดียงสาดังขึ้น
ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานแยกออกจากกันทันทีด้วยความตกใจ ซานไฉ่ได้ตื่นขึ้นแล้วและกำลังจ้องมองพร้อมกับชี้มาที่ปากของพวกเขา
เพ่ยเหมียนหมานหยิกซูอัน “ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า!”
นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว!
ซูอันไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี นี่เป็นความผิดของข้าได้อย่างไร? มันเป็นความผิดของเจ้าเด็กนี่ต่างหากที่ทำเอาความสนุกของพวกเรากร่อย!
“ซานไฉ่ ข้าคิดว่าเจ้ามองผิด เราแค่กอดกัน” ซูอันพูดอย่างเร่งรีบ พยายามอธิบาย “ข้าก็กอดเจ้าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ท่านคิดว่าหลอกข้าง่าย ๆ เพราะข้าเป็นเด็กเหรอ?” ซานไฉ่กล่าวพลางกะพริบตาปริบ ๆ “ข้าเห็นว่าพวกท่านกำลังทำอะไร?!”
“อืม…” ซูอันรู้สึกปวดหัวขึ้นมา มันค่อนข้างอันตรายถ้าเจ้าเด็กเหลือขอคนนี้ไปบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันอาจจะกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ก็ได้
เขาไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองและการถูกรังเกียจจากสังคมก็ไม่สำคัญสำหรับเขาเช่นกัน
เขาแค่กลัวว่ามันจะส่งผลต่อผลการทดสอบและทำให้มันล้มเหลว
นี่เป็นเหตุผลที่เขานั่งลงข้าง ๆ เด็กหญิงและพูดว่า “ซานไฉ่ เจ้าคิดว่าพี่ใหญ่และพี่สาวของเจ้า ดูแลเจ้าอย่างดีหรือไม่?”
ซานไฉ่พยักหน้า “พี่ใหญ่และพี่สาวดีกับข้ามาก!”
ซูอันถอนหายใจ ขอบคุณสวรรค์ที่ความสัมพันธ์ของตัวละครที่เขาสวมบทบาทในการทดสอบนี้แน่นแฟ้นกับเด็กสาว นี่ทำให้สิ่งต่าง ๆ ง่ายขึ้น “เช่นนั้นแล้วเจ้าช่วยคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คือความลับเล็ก ๆ ระหว่างพวกเราและห้ามเอาไปบอกใครจะได้หรือไม่? ถ้าเจ้าตกลง ข้าจะเล่นกับเจ้าทุกวันและซื้อของอร่อย ๆ ให้เจ้ากิน!”
“เย้!” ดวงตาของซานไฉ่เป็นประกาย “แต่ข้าไม่อยากกินของอร่อย ๆ พวกนี้ ข้าอยากกินอย่างอื่น”
ซูอันยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของนาง “เจ้าอยากกินอะไร? ข้าจะเอามาให้เจ้า!”
ซานไฉ่กะพริบตา นางชี้ไปที่ปากของเขาและพูดว่า “ข้าอยากกินน้ำลายของพี่ใหญ่เหมือนกัน! มันต้องดีมากแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นพี่สาวคงไม่แอบกินเช่นนี้!”
ทั้งซูอันและเพ่ยเหมียนหมานต่างงุนงง
ซูอันเหงื่อแตก เขาพูดอย่างรวดเร็วว่า “ข้าไม่คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี! นั่นเป็นสิ่งที่มีเพียงผู้ชายและผู้หญิงที่สนิทสนมกันเท่านั้นที่จะสามารถทำกันได้ และยิ่งไปกว่านั้นเราเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นเราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้!”
“เราก็สนิทกันไม่ใช่เหรอพี่ใหญ่?” ซานไฉ่เอียงศีรษะนางไม่เข้าใจเลย “แล้วถ้าพี่ใหญ่กับพี่สาวทำได้ ทำไมข้าจะทำไม่ได้บ้าง? หรือว่าท่านพี่เห็นข้าไม่สำคัญ? หรือว่าท่านเกลียดข้า….”
ยิ่งพูด น้ำเสียงของนางยิ่งคล้ายกับจะร้องไห้มากขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดนางก็เริ่มร้องไห้
ซูอันมองเพ่ยเหมียนหมานด้วยสายตาวิงวอน เขาควรจะทำอะไรต่อไปดี?
เพ่ยเหมียนหมานกลอกตา “เจ้าสร้างปัญหานี้ขึ้นมาก็จัดการกับมันเองสิ!”
แม้ว่านางจะพูดเช่นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่อยากที่จะให้ข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ดังนั้นนางจึงพยายามเกลี้ยกล่อมซานไฉ่เช่นกัน น่าเสียดายที่เด็กหญิงยังคงร้องไห้และปฏิเสธทุกเหตุผลของพวกเขา
ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานขมวดคิ้ว แม้ว่าทั้งสองคนจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน และเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงการทดสอบ แต่พวกเขายังคงเป็นพี่น้องกันในโลกแห่งการทดสอบนี้!
ถ้า ‘พ่อ’ ของพวกเขาในโลกแห่งการทดสอบนี้รู้เข้า พวกเขาอาจถูกลงโทษอย่างหนักถึงขั้นหักแขนหักขาเลยก็ได้