บทที่ 816 จำไม่ได้
บทที่ 816 จำไม่ได้
“พี่ใหญ่ใจร้าย! ท่านกำลังไม่สนใจข้า!” เด็กหญิงในอ้อมแขนของเขาพองแก้มและหน้ามุ่ย
“พี่ใหญ่?” ในที่สุดซูอันก็ตั้งสติได้ มองดูสาวน้อยน่ารักในอ้อมแขน เขาชะงักครู่หนึ่งแล้วถามกลับ “เหมียนหมาน?”
เขาเคยประสบกับเพ่ยเหมียนหมานที่กำลังจะตายในชีวิตก่อนหน้านี้ เนื่องจากฉากนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งของการทดสอบอย่างชัดเจน เขาจึงสงสัยว่าเพ่ยเหมียนหมานได้ติดตามเขามาที่นี่หรือไม่?
“เหมียนหมานอะไร? คนใจร้าย! พี่ใหญ่จำชื่อข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ! ข้าชื่อซานไฉ่!”
สาวน้อยบีบแก้มของเขา แม้นางจะโกรธ แต่นางยังเด็กมากซึ่งซูอันไม่รู้สึกเจ็บเลย อันที่จริงเขารู้สึกค่อนข้างดีด้วยซ้ำ
“ซานไฉ่…?” ซูอันตกตะลึงชั่วขณะ
แต่ในทันใดนั้นความทรงจำมากมายผุดขึ้นในหัวสมองของเขา ตัวเขาเองชื่อว่า ‘เซียน’ เป็นโอรสของพระเจ้าเหวินติงแห่งอาณาจักรซาง ส่วนเหวินติงนั้นหากนับลำดับอาวุโสแล้ว หลังจากซูอันทบทวนความทรงจำของตัวเองอย่างละเอียดเขาพบว่าตัวเองคือทวดของทวดของพระเจ้าเหวินติง!
ซูอันเริ่มสบถมากมายในใจ สรุปแล้วข้ามาสวมบทบาทเป็นรุ่นหลานของหลานของหลานของตัวเอง! นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?
ความทรงจำของเขายังบอกอีกว่าเขามีน้องสาวสองคน คนเล็กคือสาวน้อยน่ารักในอ้อมแขนของเขาซานไฉ่ และน้องสาวอีกคนซึ่งอายุมากกว่าเล็กน้อยชื่อมู
ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ตัวว่ามีหญิงสาวอีกคนหนึ่งยืนอยู่ที่ราวบันได แม้ว่านางจะอายุน้อยกว่าเขาในตอนนี้ แต่เขาสามารถบอกได้ว่านางกำลังเติบโตเป็นสาวงาม นางมีคิ้วที่โค้งมน ผิวขาวราวกับหิมะ และมีผมสีดำสนิทยาวถึงหลังที่เงางามราวกับน้ำตก
ดวงตาของนางเป็นส่วนที่น่าดึงดูดใจที่สุด ดวงตาคู่นั้นมีเสน่ห์อย่างลึกล้ำ เปล่งประกายราวกับอัญมณีล้ำค่าแฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนเล็กน้อย
บ้าไปแล้ว นางอายุแค่สิบขวบก็สวยขนาดนี้แล้ว นางจะเป็นอย่างไรเมื่อโตขึ้น?
หญิงสาวคนนั้นมองมาที่เขา และท่าทางของนางก็แปลกขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม นางยังคงโค้งคำนับและยิ้มทักทาย “พี่ชาย…”
ซูอันรู้สึกหัวใจสั่น เสียงของหญิงสาวช่างนุ่มนวลและไพเราะ แม้แต่เขาที่ซึ่งเคยเป็นจักรพรรดิที่ได้เห็นสาวงามมาแล้วทุกรูปแบบก็อดไม่ได้ที่จะหลงรักนาง!
“น้องสาวของข้า” เขาพยักหน้าตอบกลับ ผลักความคิดที่เสียสมาธิเกี่ยวกับนางออกไป เขาพยายามหาว่าการทดสอบส่วนนี้เกี่ยวกับอะไร แล้วเหมียนหมานไปไหน? ไม่มีทางที่นางจะเสียชีวิตไปจริง ๆ ในส่วนแรกของการทดสอบใช่ไหม?
ดวงตาของเขาแดงก่ำเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวดมากราวกับว่ามันจะระเบิดออกมา ก่อนหน้านี้เขาพึ่งพาสุราและนารีเพื่อทำให้ตัวเองเลอะเลือน แต่ตอนนี้ความทรงจำมากมายกลับคืนมาหมดแล้ว
เมื่อเขาพบจี้ของเพ่ยเหมียนหมาน ความเจ็บปวดซึ่งถูกระงับไว้เป็นเวลาหลายทศวรรษปะทุขึ้นอย่างรุนแรงจนเขาไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป
“พี่ใหญ่ ร้องไห้ทำไม” ซานไฉ่สังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ และนางก็ทำท่าจะเช็ดน้ำตาให้ น่าเสียดายที่มือเล็ก ๆ ของนางไม่อาจทำได้ นางรีบเรียกหาหญิงสาวอีกคน “เกิดอะไรขึ้นกับพี่ใหญ่? เป็นข้าหรือพี่สาวที่ทำให้พี่ใหญ่โกรธ?”
เด็กสาวชื่อมูเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกลิ่นหอมอันละเอียดอ่อนและสง่างาม “พี่ชายท่านเป็นอะไร?” นางถามเบา ๆ
ซูอันตัวแข็งในทันที รู้สึกราวกับเป็นเพ่ยเหมียนหมานที่ถามคำถามนี้กับเขา แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นคนฝังนางไว้ในหลุศพด้วยมือทั้งสองของเขาในโลกก่อนหน้านี้ ดังนั้นเพ่ยเหมียนหมานไม่มีทางเป็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาไปได้
“พี่ใหญ่ พวกเราออกไปเล่นกัน!” ซานไฉ่พูดด้วยรอยยิ้ม พยายามให้กำลังใจเขาในแบบของนาง
เด็กสาวชื่อมูก็ดึงมือเขาเช่นกัน
หัวใจของซูอันกำลังแตกสลาย เขาจะมีอารมณ์ออกไปเล่นกับสาวน้อยทั้งสองคนได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถหนีจากการรบกวนของทั้งสองได้ และในที่สุดก็ตกลงที่จะเล่นกับพวกนาง
เมื่อมองดูเด็กสาวสองคนนี้และได้ยินเสียงหัวเราะที่ไร้เดียงสาของพวกนาง เงาที่ปกคลุมจิตใจของเขาค่อย ๆ หายไป และเขาก็ยิ้มจาง ๆ
อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็สามารถหันเหตัวเองจากความเจ็บปวดในใจได้บ้าง
ซานไฉ่ยังคงเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หลังจากเล่นไปซักพักนางก็ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของซูอัน การแสดงออกที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ของนางช่างน่ารักอย่างยิ่ง
เมื่อเขาเห็นน้ำลายไหลออกมาจากมุมปากของนาง ซูอันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
ข้าง ๆ เขา มีคนพ่นลมหายใจ “จริง ๆ แล้วเจ้าเป็นแค่คนเลวทรามไร้ยางอายอย่างแท้จริง ขนาดเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ยังไม่เว้นเลย!”
ซูอันตะลึงงันมองไปที่เด็กสาวข้าง ๆ คำพูดที่ตรงไปตรงมาเหล่านี้ฟังดูไม่น่าหลุดออกจากปากเด็กสาวที่มีอายุเท่านี้ได้
เมื่อนางเห็นสีหน้าของเขา เด็กสาวที่ชื่อมูก็ถอนหายใจ “อาซู ปกติเจ้าก็ฉลาดนี่นา? ทำไมตอนนี้เจ้าดูโง่แบบนี้?”
ซูอันรู้สึกว่าหัวใจจะระเบิดด้วยความปีติยินดีเมื่อได้ยินนางพูดในลักษณะท่าทางเช่นนี้
“เหมียนหมาน!”
เขาลุกขึ้นยืนกอดนางโดยไม่รู้ตัว โดยลืมเรื่องน้องสาวที่หลับอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ซานไฉ่หล่นลงกับพื้น นางร้องออกมาในทันทีเพราะความเจ็บ และน้ำตาก็เริ่มไหลลงมาบนใบหน้าของนางขณะที่นางคร่ำครวญอย่างน่าสังเวช
ทั้งมูและซูอันต่างก็พูดไม่ออก
มูมองซูอัน จากนั้นก็รีบช่วยซานไฉ่ให้ลุกขึ้นยืนและตบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบโยนนาง
ซานไฉ่ยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ และเพิ่งหลับไปเมื่อสักครู่นี้ หลังจากหน้ามุ่ยและร้องไห้สักพักนางก็นอนหลับต่อไป
ซูอันถอนหายใจ “นางเป็นหมูหรืออย่างไร? ทำไมยังนอนต่อได้อีก?”
มูสูดจมูก “ตอนเป็นเด็กเจ้าไม่เป็นอย่างนี้เหรอ? เป็นความผิดของเจ้าที่ทำให้นางหล่นพื้น ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาคงแย่ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าเป็นพ่อของลูกเป็นโขยงในชีวิตที่ผ่านมาได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่เจ้าไม่รู้แม้แต่วิธีจะอุ้มลูก!”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ‘ข้าเป็นพ่อของลูกเป็นโขยง’?” ซูอันแสดงสีหน้างุนงง ก่อนจะยิ้มออกในตอนท้าย “ข้าดีใจมากที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง”
“จริงเหรอ?” มูเยาะเย้ย “ข้าได้ดูบันทึกของราชวงศ์ซางแล้ว หลังจากฟู่ห่าวเสียชีวิต พระเจ้าอู่ติงก็รับภรรยาอีกหลายคนและให้กำเนิดลูกหลานยั้วเยี้ย
ซูอันตกตะลึงกับข้อกล่าวหาอย่างกะทันหันนี้และพยายามปกป้องตัวเอง “นั่นคือพระเจ้าอู่ติงจากประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ข้า! หลังจากที่เจ้าเสียชีวิตใจของข้าก็แตกสลาย ข้าต้องพึ่งพาการดื่มเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด ข้าไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าศพเดินได้ ข้าจะไปมีอารมณ์มีลูกกับหญิงอื่นได้อย่างไร!?”
“เฮอะ มันอาจจะไม่ใช่แค่สุราล่ะมั้งที่เจ้ามัวเมา เจ้าคงดื่มด่ำกับความสุขอื่น ๆ เพื่อกลบความเศร้าโศกของเจ้าด้วย”
มูกล่าวอย่างประชดประชัน แต่สีหน้าของนางกลับอ่อนลง “แต่ข้ายังคงไม่เข้าใจ แม้เวลาจะผ่านไปนานก็ตามแต่เหตุใดเจ้ากลับจำข้าไม่ได้?”
ซูอันรู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่ง “ในการทดสอบครั้งก่อนเจ้ายังหน้าตาเหมือนเดิม! แต่ตอนนี้เจ้าดูเปลี่ยนไปมาก และเจ้าก็ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ข้ามัวแต่สับสนจนตั้งตัวไม่ทัน”
เพ่ยเหมียนหมานหน้ามุ่ย “หมายความว่าอย่างไรข้าดูเปลี่ยนไป? นี่คือข้าตอนที่ยังเด็ก! คนที่รู้จักข้าจริง ๆ จะจำข้าได้แน่นอน แต่คนรักของข้ากลับจำไม่ได้ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย!”
“หน้าตาเจ้าตอนนี้เหมือนตอนเด็ก ๆ เลยเหรอ?” ซูอันถามด้วยความประหลาดใจ